งานแข่งขันจัดอันดับเป็่เวลาที่ทั้งสำนักกระบี่์คึกคักที่สุดของปี
ใน่การแข่งขันศิษย์ชั้นสูงที่ยากจะพบสักครั้งในเวลาปกติ ลูกศิษย์ชั้นหัวแถวผู้ลึกลับดุจเทพัเห็นหัวไม่เห็นหางเ่าั้ต่างคนต่างก็ออกมาอวดโฉม
เพราะการแข่งขันจัดอันดับแต่เดิมก็เป็เวทีของศิษย์ชั้นสูงของสำนักนอกมีเพียงลูกศิษย์ที่พลังวัตรอยู่สูงกว่าชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดถึงจะสามารถเข้าร่วมได้ลูกศิษย์ธรรมดาเป็ได้เพียงผู้ชมเท่านั้น
ถึงแม้ว่าจะมีเพียงลูกศิษย์ชั้นสูงของสำนักนอกเข้าร่วมแต่จำนวนคนก็ไม่น้อยตามสถิติทั้งสำนักนอก ศิษย์ชั้นสูงที่พลังสูงกว่าชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดทั้งหมดมีทั้งสิ้นหนึ่งพันสิบหกคน
การแข่งขันจัดอันดับใช้ระบบแพ้คัดออกลูกศิษย์สองคนขึ้นเวทีต่อสู้ประลองกัน ผู้ชนะเข้ารอบ ผู้แพ้ตกรอบ
ศิษย์ชั้นสูงสำนักนอกแบ่งออกเป็ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดไปจนถึงชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบไม่เท่ากันในบรรดาพวกเขานั้น ยิ่งพลังวัตรสูงยิ่งมีจำนวนน้อย
พลังวัตรขั้นเจ็ดเกินกว่าครึ่งหนึ่ง มี 549 คน
พลังวัตรขั้นแปดอัตราส่วนประมาณสองในสาม มี 321 คน
พลังวัตรขั้นเก้ามีประมาณหนึ่งในสิบ มี 114 คน
พลังวัตรขั้นสิบจำนวนน้อยที่สุด มี 32 คน
เพื่อป้องกันไม่ให้ศิษย์ที่มีพลังวัตรสูงมาเผชิญหน้ากันเร็วเกินไปเกิดเป็กรณีคนเก่งสองคนขึ้นต่อสู้กันแล้วตกรอบเร็วกว่าที่ควรทำให้อันดับไม่ยุติธรรม การแข่งขันจัดอันดับจึงมีกฎการจับฉลากอยู่ชุดหนึ่ง
การจับฉลากทุกรอบจะเริ่มจากลูกศิษย์ผู้มีพลังวัตรสูงก่อนและรายชื่อที่ถูกจับจะเริ่มจากลูกศิษย์ที่มีพลังวัตรต่ำก่อน หรือพูดอีกอย่างก็คือ ถ้ามีศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดอยู่การจับฉลากจะเริ่มจากชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบจับรายชื่อที่เริ่มจากศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดก่อนจนกระทั่งชื่อลูกศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดโดนจับไปหมดแล้วถึงจะเริ่มจับฉลากรายชื่อลูกศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปด
ตามลำดับนี้หลังลูกศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดโดนจับไปหมดแล้วถึงจับฉลากรายชื่อลูกศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้า
ศิษย์ชั้นสูงมีทั้งสิ้นหนึ่งพันสิบหกคนเมื่อแต่ละรอบการแข่งขันสิ้นสุดลงก็จะมีลูกศิษย์ครึ่งหนึ่งตกรอบต้องดำเนินการแข่งทั้งหมดสิบรอบถึงจะตัดสินอันดับหนึ่งออกมาได้ระหว่างที่แข่งขันไปเรื่อยๆ ถ้าหากจำนวนศิษย์ที่เข้าแข่งอยู่กลายเป็เลขคี่ขึ้นมา เช่นนั้นก็ถือว่าโชคดีจะเกิดรอบเปล่าขึ้น ลูกศิษย์ที่รอบนั้นไม่มีคู่ต่อสู้ก็เข้ารอบต่อไปได้ทันที
วันนี้ลานศิษย์นอกของสำนักกระบี่์มีคนมากมายมหาศาลศิษย์นอกหลายพันคนทั้งหมดมารวมกันที่ลานกว้าง บนลานกว้าง จำนวนเวทีจากที่ปกติจะมีหนึ่งกลายเป็แปดเพิ่มขึ้นมาใหม่เจ็ดเวที แบ่งเป็สองฟากอยู่ตรงข้ามกันพอดี
ด้านตะวันออกของแต่ละเวทีสร้างที่นั่งชมไว้แห่งหนึ่งข้างบนมีที่นั่งสิบเอ็ดที่แต่ละเวทีประลองจะมีผู้าุโสำนักนอกหนึ่งท่านกับผู้ดูแลสำนักนอกสิบคนคอยดู
สำนักนอกมีลูกศิษย์ทั้งหมดห้าหกพันคน แบ่งออกเป็สิบตำหนักแต่ละตำหนักมีผู้าุโสำนักนอกเป็หัวหน้าผู้ดูแลหนึ่งคน ผู้าุโสำนักนอกสองคนเป็รองหัวหน้าผู้ดูแลนอกจากนั้นยังมีผู้ดูแลอีกสิบกว่าคนคอยรับผิดชอบสั่งสอนและดูแลลูกศิษย์แต่ละตำหนักแต่ละเวทีล้วนมีผู้าุโสำนักนอกหนึ่งท่านเป็กรรมการแต่ละตำหนักส่งผู้ดูแลมาหนึ่งคนเป็ผู้สังเกตการณ์เพื่อความยุติธรรมด้านหน้าของลานกว้างมีที่นั่งชมที่ใหญ่กว่ามากแห่งหนึ่ง บนนั้นสร้างเป็หอสูงเป็ที่สำหรับผู้าุโหัวหน้าผู้ดูแลทั้งสิบรวมถึงผู้าุโสำนักนอกอีกส่วนหนึ่งพวกเขานั่งบนหอแห่งนี้สามารถเห็นสถานการณ์ของทุกเวทีประลองได้
“เ้าว่าการแข่งขันจัดอันดับครั้งนี้ใครจะคว้าที่หนึ่งไปได้?”
“ยังต้องบอกอีกหรือต้องเป็ศิษย์พี่หยางแน่นอนอยู่แล้ว เขาฝึกปราณหยางบริสุทธิ์จนถึงขั้นสูงสุดเหลือเพียงก้าวเดียวพลังภายในในร่างกายก็จะเปลี่ยนกลายเป็ปราณแท้ของชั้นเบิกนภากลายเป็ยอดฝีมือชั้นเบิกนภาแล้ว”
“ศิษย์พี่ไป๋จั่นเฮ่อก็ร้ายกาจอยู่นาปีที่แล้วพลังวัตรก็เลื่อนขึ้นชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบได้ลำดับที่หกห้าลำดับแรกเข้าสำนักในไปแล้วครั้งนี้โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครเป็คู่มือของศิษย์พี่ไป่จั่นเฮ่อได้อีกแล้ว”
“ศิษย์พี่จางหลงเองก็แข็งแกร่งมากปีที่แล้วก็เข้าสิบอันดับแรกได้เป็ลำดับที่แปด นี่เวลาก็ผ่านไปอีกหนึ่งปีความสามารถไม่แน่ว่าอาจก้าวข้ามศิษย์พี่ไป๋จั่นเฮ่อแล้วก็ได้!”
“สามลำดับแรกคงจะเป็ศิษย์พี่หยางศิษย์พี่ไป๋ ศิษย์พี่จางสามคนแน่แล้ว นี่ไม่ต้องถกเถียงอันใดแต่ว่าสิบอันดับแรกยังเหลืออีกเจ็ดอันดับ ศิษย์พี่คนไหนมีหวังจะเข้าไปในสิบอันดับแรกบ้าง?”
“ศิษย์พี่หลินอู๋อิ่งต้องเข้าสิบอันดับแรกแน่นอนเขาได้ฉายาว่ากระบี่เร็วไร้เงา ความเร็วของกระบี่ไม่มีใครเทียบได้ทั้งสำนักนอกก็หาคนที่มีกระบี่เร็วเช่นนี้ไม่ได้อีกเป็คนที่สอง ต่อให้เจอเข้ากับศิษย์พี่หยางศิษย์พี่ไป๋ ศิษย์พี่จาง หนึ่งในสามคนนี้แพ้ชนะก็ยังยากจะเดาได้ หากศิษย์พี่หลินอู๋อิ่งเข้าไปสามอันดับแรกก็ไม่น่าแปลกใจสักนิด”
“พูดถึงความเร็วกระบี่นอกจากศิษย์พี่หลินอู๋อิ่งก็เป็ใครไปไม่ได้ แต่ถ้าพูดถึงความพิสดารของวิชากระบี่บอกว่าศิษย์พี่หลี่อี้ฉางเป็ที่สองก็ไม่มีใครกล้าเรียกตนเป็ที่หนึ่งแล้วศิษย์พี่หลี่อี้ฉางได้ฉายาว่า ‘กระบี่ปีศาจ’ เวลาต่อสู้วิถีกระบี่พิสดาร แปลกประหลาดไม่เหมือนใคร ทำให้คนป้องกันไม่ได้ความสามารถของศิษย์พี่หลี่อี้ฉางไม่เป็รองศิษย์พี่หลินอู๋อิ่งที่เป็ ‘กระบี่เร็วไร้เงา’ ห้าอันดับแรกมีลุ้นอยู่นา”
“ศิษย์พี่เหลียงจ้งหลังพบเหตุประหลาดฝึกฝนวิชาปราณฝึกร่างกายชุดหนึ่ง ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นมากมีพละกำลังมหาศาลเหนือใคร ทั้งยังมีพลังป้องกันน่ากลัวได้ยินว่าศิษย์พี่เหลียงเคยรับฝ่ามือของศิษย์พี่หยางสามฝ่ามือใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งต้านพลังภายในปราณหยางบริสุทธิ์ของศิษย์พี่หยางได้ ไม่ถอยเลยสักก้าวไม่ได้รับาเ็แม้แต่น้อย กระทั่งศิษย์พี่หยางยังชมเื่พละกำลังมหาศาลของเขาศิษย์พี่เหลียงเข้าสิบอันดับแรก ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือหรือกระทั่งเข้าห้าอันดับแรกก็ไม่ได้พูดเกินเลยไปแม้แต่น้อย”
“ศิษย์พี่หม่าเทาใช้เพลงกระบี่คลื่นทลายมือเดียวเอาชนะสิ้นสำนักนอกแม้กระทั่งศิษย์พี่ที่พลังวัตรขั้นสิบก็มีสองคนแพ้ให้แก่กระบี่ของศิษย์พี่หม่าเทาเท้าของศิษย์พี่หม่าเทาก็ก้าวเข้าสิบอันดับแรกอย่างมั่นคงแน่แล้วเหมือนกัน”
“มีศิษย์พี่ผู้เก่งกาจมีมากมายเหลือเกินแค่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบอย่างเดียวก็มีถึงสามสิบสองคนแล้วความสามารถของพวกเขาส่วนใหญ่ก็ร้ายกาจพอตัว อย่างศิษย์พี่หญิงจูตันศิษย์พี่หญิงกู้ซีหยวน ศิษย์พี่เจิ้งอวี้หง ศิษย์พี่ตู้เหวินเค่อศิษย์พี่วังฉวี่ซิ่ง พวกเขาต่างก็มีประวัติเคยสู้ชนะผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบด้วยกันความสามารถแข็งแกร่งมาก จะเข้าสิบอันดับแรกก็มีหวังอยู่มาก”
“นี่แค่คนที่ทุกคนรู้จักเท่านั้นยังมีศิษย์พี่ที่ไม่เปิดเผยตัวแต่ความจริงแล้วพลังวัตรแข็งแกร่งจนน่ากลัวอีกในการแข่งขันจัดอันดับจะมีม้ามืด มีศิษย์พี่ที่ปกติไม่ค่อยมีชื่อเสียงผ่านด่านสังหารแม่ทัพสุดท้ายทะลุเข้าสิบอันดับแรกก็เป็เื่ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน”
“อืม อย่างศิษย์พี่หยางปีที่แล้วเพิ่งจะมีพลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าก็เอาชนะศิษย์พี่ที่มีพลังวัตรขั้นสิบได้จำนวนมากเข้าเป็สิบอันดับแรก นึกแล้ว ปีที่แล้วแทบจะทำให้คนมากมายตาถลนออกมาใครก็ไม่คิดว่าศิษย์พี่หยางจะร้ายกาจขนาดนั้นข้ามชั้นเอาชนะคู่ต่อสู้ที่พลังวัตรสูงกว่าเขาขั้นหนึ่ง ไม่คาดคิดเลยจริงๆ”
“ศิษย์พี่หวงเทียนในโด่งดังขึ้นมาเร็วๆนี้ เขาปะทะกับศิษย์พี่หยางหนึ่งฝ่ามือ ถอยหลังเพียงสองก้าว ไม่ได้รับาเ็แม้แต่น้อยความสามารถของเขาก็เห็นชัดว่าสูงกว่าพลังวัตรเหมือนกันจะกลายเป็ม้ามืดเหนือความคาดหมายของคนได้หรือเปล่า? มีโอกาสเข้าเป็หนึ่งในสิบอันดับแรกไหม”
“จะเป็ไปได้อย่างไร? แค่ปะทะกันฝ่ามือเดียว ศิษย์พี่หยางต้องไม่ได้ใช้พลังเต็มที่แน่ ศิษย์พี่หวงเทียนในหมู่ศิษย์ระดับชั้นเดียวกันน่าจะเป็ผู้ที่อยู่สุดยอดต่อให้เป็ศิษย์พี่ขั้นเก้าก็ไม่แน่ว่าจะชนะเขาได้แต่เข้ามาในสิบอันดับแรกล้วนมีแต่ศิษย์ขั้นสิบผู้มีฝีมือโดดเด่นขนาดศิษย์พี่หยางฝึกปราณหยางบริสุทธิ์ยังทำได้เพียงต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่สูงกว่าหนึ่งขั้นศิษย์พี่หวงเทียนพลังวัตรขั้นแปดเท่านั้นกับศิษย์พี่พลังวัตรขั้นเก้าแพ้ชนะยากคาดเคาแต่กับศิษย์พี่พลังวัตรขั้นสิบนั่นย่อมต้องพ่ายแพ้แน่นอน”
“ใช่สิผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดกับขั้นสิบห่างชั้นกันเกินไป”
.....
.....
การแข่งขันจัดอันดับยังไม่เริ่มศิษย์นอกบนลานกว้างก็มารุมล้อมเวทีประลองทั้งแปดจนแน่นขนัดน้ำยังลอดไม่ได้พากันวิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็น
สิ่งที่วิจารณ์กันก็ไม่พ้นบรรดาคนดังผู้มีชื่อเสียงของศิษย์สำนักนอกเสวียนเทียนที่ไม่นานมานี้เป็ที่เลื่องลือในสำนักนอกก็เป็คนหนึ่งที่ถูกบรรดาศิษย์เ่าั้วิจารณ์ด้วยแต่จากความสามารถของเสวียนเทียนเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครสักคนวางเขาไว้ในระดับเดียวกับคนดังเ่าั้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงศิษย์ชั้นบนสุดของหัวแถวอย่างศิษย์พี่หยางหรืองจางหลง
ผลแพ้ชนะของนัดสามเดือนระหว่างเสวียนเทียนกับจางหลงเห็นได้ชัดว่าบรรดาลูกศิษย์ต่างก็คาดเดาเอนเอียงไปทางจางหลงอยู่ฝั่งเดียว
.....
.....
“ดูเร็ว ศิษย์พี่หยาง ศิษย์พี่ไป๋ศิษย์พี่จาง ศิษย์พี่หลิน ศิษย์พี่หลี่...ศิษย์ชั้นสูงมากันแล้ว”
ฉับพลันศิษย์นอกในลานกว้างก็วุ่นวายขึ้นมานั่นก็เพราะศิษย์ชั้นสูงที่เข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับครั้งนี้เดินเข้ามาในลานกว้างแล้วที่มาพร้อมกันยังมีผู้าุโและผู้ดูแลหลายท่านของสำนักกระบี่์สำนักนอกด้วย
ข้างใต้หอสูงด้านหน้าของลานกว้างระหว่างเวทีประลองมีพื้นที่โลงอยู่บริเวณหนึ่ง ไม่มีศิษย์ธรรมดาคนใดเข้าไปในเขตดังกล่าวศิษย์ชั้นสูงที่เข้ามาเดินตรงไปยังที่ว่างตรงนั้น
บนตัวของศิษย์ชั้นสูงต่างมีหมายเลขตัวหนึ่งติดอยู่ไล่ตามลำดับพลังวัตรสูงต่ำจากหมายเลข 1 จนถึงเลข 1016 เสวียนเทียนไม่นานมานี้เลื่อนชั้นพลังวัตรเป็ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดได้หมายเลขลำดับที่ 467 พวกที่อยู่ลำดับข้างหลังเป็ลูกศิษย์ชั้นพลังวัตรขั้นเจ็ดทั้งสิ้น
ผู้ดูแลและผู้าุโที่มาพร้อมกับศิษย์ชั้นสูงเดินตรงไปยังกลางลานกว้างแยกกันไปตามเวที ชมการประลองด้านทิศตะวันออกของเวทีประลองทั้งแปด
มีเพียงผู้าุโท่านหนึ่งนำผู้ดูแลสามคนเดินมาตรงหน้าของศิษย์ชั้นสูงตรงนี้มีโต๊ะยาวอยู่ตัวหนึ่ง บนโต๊ะมีหีบใบใหญ่อยู่ใบหนึ่ง
ผู้าุโสำนักนอกคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหีบกล่าวขึ้นว่า “เราผู้เฒ่าแซ่หานกฎกติกาการแข่ง เมื่อครู่ได้กล่าวแก่พวกเ้าแล้วในหีบใบนี้มีหมายเลขของศิษย์พลังวัตรขั้นเจ็ดทั้งหมดตอนนี้จะเริ่มจากหมายเลขหนึ่งจับหมายเลขของคู่ต่อสู้จากในหีบใบนี้แล้วดำเนินการประลองผู้ชนะเข้ารอบ ผู้แพ้ตกรอบ การแข่งจันจัดอันดับ เริ่มขึ้น ณ บัดนี้”
หลังสิ้นเสียงของผู้าุโท่านนี้ลูกศิษย์ที่เรียงลำดับอยู่หมายเลข 1 ก็ก้าวออกมา
เสวียนเทียนยืนอยู่ในกลุ่มศิษย์ชั้นสูงสายตามองไปทางหมายเลข 1 ที่ก้าวออกไปจากกลุ่มคน เขาเป็เด็กหนุ่มชุดขาวอายุสิบหกสิบเจ็ดปี
คนผู้นี้ดูแล้วคุ้นตายิ่งนัก ในสมองของเสวียนเทียนสว่างวาบขึ้นมาพลันนึกขึ้นมาได้ ตอนที่เลือกปราณเบิกนภาในหอวิชายุทธ์มีคนผู้หนึ่งเคยเตือนเขาว่าอย่าฝึกปราณเบิกนภา คนผู้นั้นก็คือเด็กหนุ่มชุดขาวคนนี้
สามารถครองลำดับที่หนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหยางติ่งจวินหรือจางหลงย่อมต้องเป็ไป๋จั่นเฮ่อผู้มีชื่อเสียงขจรขจายอย่างไม่ต้องสงสัย
ปีที่แล้วในการแข่งขันจัดอันดับของศิษย์สำนักนอกไป๋จั่นเฮ่อครองอันอับหกปีนี้ห้าอันอับแรกล้วนเลื่อนขึ้นชั้นเบิกนภากลายเป็ศิษย์สำนักในไปแล้วไป๋จั่นเฮ่อจะถูกวางเป็หมายเลข 1 ย่อมสมเหตุสมผล
ไป๋จั่นเฮ่อเดินมาถึงหน้าหีบ ล้วงมือเข้าไปหยิบแผ่นป้ายขึ้นมาหนึ่งแผ่นวางลงบนมือของผู้าุโหาน
ผู้าุโหานรับแผ่นป้ายไปมองทีหนึ่งประกาศเสียงดังว่า “รอบที่หนึ่งคู่ที่หนึ่ง หมายเลข 1 ไป๋จั่นเฮ่อกับหมายเลข 799 หวงหยวน เวทีประลองหมายเลขหนึ่ง”