ณ ผืนป่าพิสดารท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนมีหนึ่งถ้ำโบราณลึกลับซ่อนตัวอยู่ยากจะสังเกตุได้โดยง่าย แม้บริเวณทางเข้าจะเป็โพรงขนาดใหญ่ก็จริงทว่าเมื่อเข้ามาแล้วกลับไร้แสงสว่างใด ๆ ส่องผ่านได้ทั้งสิ้น ผนังถ้ำทั้งหมดล้วนเป็สีดำสนิทราวกับถูกย้อมด้วยน้ำหมึกที่ไหลลงมาพาดผ่านเกิดเป็ริ้วคลื่นแปลกตา บนพื้นถ้ำมีหินงอกหินย้อยคละเคล้าไปกับเสียงน้ำหยดเป็จังหวะ ให้ความรู้สึกราวกับเป็เสียงคร่ำครวญของิญญาชั่วร้ายที่ถูกจองจำอย่างทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส ความหนาวเย็นะเืที่แผ่ปกคลุมได้ก่อเกิดเป็ความรู้สึกประหลาดราวกับมีสายตาที่มองมาจากเงามืดคงไม่เกินจริงไปนัก
แสงไฟจากคบเพลิงได้เผยให้เห็นถึงภาพวาดโบราณที่ลบเลือนไปตามกาลเวลา ภาพเหล่านี้ปรากฏเป็รูปร่างที่หลากหลาย บ้างก็เป็ภาพของมนุษย์โบราณที่สวมเครื่องประดับแปลกประหลาดสัญลักษณ์ที่ไม่รู้จัก บางภาพก็แสดงให้เห็นพิธีกรรมลึกลับบางอย่างที่ชวนให้รู้สึกขนลุก ยิ่งลึกลงไปเท่าใดความมืดมิดยิ่งทวีเพิ่มขึ้นจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้าแม้จะมีแสงสว่างเล็กน้อยจากคบเพลิงตลอดเส้นทางเดินก็ตาม ใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงส่วนของห้องโถงใหญ่ที่มีแท่นหินขนาดใหญ่นับสิบต้นตั้งตระหง่านอยู่รอบราวกับสถานที่แห่งนี้เป็ลานพิธีบางอย่าง ตรงใจกลางมีรูปปั้นหินสีดำที่ส่วนดวงตาสีแดงก่ำเปล่งประกายแห่งความอาฆาตถึงขีดสุด โดยรอบล้วนเต็มไปด้วยเงาร่างจำนวนนับไม่ถ้วนต่างนั่งคุกเข่าอย่างนอบน้อมต่อนายท่านเหนือหัวที่นั่งอยู่ตรงแท่นหินเบื้องหน้า
ครืน!
ทั่วทั้งบริเวณโถงถ้ำแห่งนี้บังเกิดรอยปริร้าวสั่นะเืเลือนลั่นด้วยกระแสปราณมารอันลึกล้ำอหังการที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงโทสะอันท่วมท้น ส่งผลให้บรรดาเหล่ามารปีศาจที่อยู่โดยรอบถึงกับทรุดตัวลงกระอักโลหิตสีดำออกมาอย่างเสียไม่ได้ จอมมารผู้เป็นายเหนือหัวของพิภพนี้ถึงกับแสดงความเดือดดาลออกมาถึงขีดสุด ด้วยไม่คาดคิดว่าแผนการครั้งนี้ที่ลักลอบกระทำจะถูกทำลายลงด้วยฝีมือของรุ่นเยาว์ผู้หนึ่ง มากไปกว่านั้นสมบัติวิเศษประจำตัวยังเกือบถูกทำลายไปเสียด้วยซ้ำ นับว่าเป็การสูญเสียที่ส่งผลให้การหวนคืนกลับสู่มหาพิภพต้องล่าช้าลงไปอีกหลายสิบปีเลยทีเดียว
“โปรดสงบใจก่อนนะเ้าคะนายท่านแห่งข้า...” หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงด้านข้างปรากฏในรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับมนุษย์มากถึงสิบส่วนใบหน้านางงดงามเป็อย่างมาก แน่นอนว่าการที่นางสามารถยืนอยู่ด้านหลังของนายเหนือหัวย่อมหมายความว่าฐานะของนางในดินแดนพิภพมารแห่งนี้หาได้ธรรมดาสามัญ
“ให้ข้าสงบใจราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นอย่างนั้นรึ? ยามนี้พวกมันคงเริ่มรู้ตัวเสียแล้วกระมังว่าพวกเรามีแผนการลักลอบกระทำสิ่งใดอยู่บ้าง!” จอมมารผู้ที่เคยอยู่ในจุดสูงสุดที่ทุกชีวิตต้องยำเกรง ทว่ายามนี้กลับอยู่ในรูปลักษณ์เด็กหนุ่ม่อายุไม่เกินสิบปีเอ่ยขึ้นอย่างมีอารมณ์ ผลกระทบจากศึกาครั้งนั้นได้ส่งผลให้มันถึงกับถูกเวทย์มนต์ย้อนกลับเช่นนี้
“แม้ว่าแผนการเลื่อนระดับของสมบัติวิเศษหุ่นเชิดเทพมารโลกันต์จะถูกทำลายลงไป แต่นั่นหาใช่เป็สิ่งที่ต้องกังวลแผนการของนายท่านยังคงถูกดำเนินไปเช่นเดิม ทุกสิ่งอย่างที่ท่านประสงค์อีกไม่นานย่อมเสร็จสมดั่งใจ อีกทั้งสายข่าวของเรารายงานว่าตรงเขตรอยต่อทางทิศใต้ของดินแดนยามนี้ มหาค่ายกลสลักกำกับแบ่งอาณาเขตพิภพนับวันยิ่งอ่อนกำลังลง จริงอยู่ที่ว่ามหาค่ายกลดังกล่าวจะไม่สามารถทำลายลงได้จากฝั่งเขตแดนมารได้ ทว่าหากกระทำจากเขตแดนของพวกมันแล้วอาศัยแต่เพียงเวลาเท่านั้นอีกไม่นานเกินรอนายท่านผู้เป็ราชันย์พิภพมารย่อมสามารถบุกขยี้ดินแดนฝั่งนั้นได้อย่างแน่นอนเ้าค่ะ”
“หากเป็เช่นนั้นโดยเร็ววันยิ่งดี พวกเ้าจงรอบคอบและรัดกุมมากกว่านี้ อย่าให้พวกผู้ฝึกตนและราชันย์ปกครองดินแดนที่เหลือล่วงรู้ได้เป็อันขาด เข้าใจหรือไม่?”
“เ้าค่ะ / ขอรับ!”
“ส่วนเ้าแม่ทัพมารหลี่ ครั้งนี้ความผิดของเ้าโทษที่ได้รับคือสมควรตายด้วยซ้ำ แต่เพราะความชอบก่อนหน้ายังพอลบล้างได้อยู่บ้าง ข้าจะให้โอกาสเ้าอีกครั้งหลังจากนี้ไม่อาจทำผิดพลาดได้อีกแล้ว!!!” เด็กหนุ่มผู้ถูกเรียกขานว่าเป็จอมมารเอ่ยย้ำไปอีกครั้ง
“ข้าจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวังขอรับ” แม่ทัพมารหลี่ตอบรับด้วยความหนักแน่น ในใจมันยังคงเคียดแค้นเด็กสวะผู้นั้น แม้จะถูกสังหารตายตกไปแล้วก็ตามแต่ยังไม่สาแก่ใจเลยสักนิด…
มหาทวีปบูรพา แคว้นเต่าดำ
ข่าวคราวการเสียชีวิตของหวังหนิงอ้าย วีรบุรุษผู้เสียสละในเหตุการณ์เซ่นสังเวยสมบัติวิเศษระดับตำนานนามว่าหุ่นเชิดเทพมารโลกันต์ หนึ่งในสิบสมบัติวิเศษประจำตัวของจอมมารผู้นั้น ได้แพร่กระจายไปทั่วสารทิศ อีกทั้งการล่มสลายของตำหนักเทพมารทมิฬที่เป็ผู้ให้ความช่วยเหลือเื้ัได้ส่งผลให้คานอำนาจของอีกฝ่ายที่เคยได้เปรียบถึงกับเสียสมดุลไป่เวลาหนึ่ง ใคร่จะฟื้นฟูกลับคืนคงไม่ใช่เื่ยากอาศัยแต่เพียงเวลาเท่านั้น
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็แผนการของเหล่ามารปีศาจโดยที่มีสำนักเทพมารบนมหาทวีปประจิมคอยให้การสนับสนุนอยู่เื้ันับเป็การกระทำที่น่ารังเกียจยิ่ง ทันทีที่ได้รับข่าวสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านไท่หลุน หลายคนที่ได้สดับฟังก็ยังไม่อาจทำใจได้โดยง่ายถึงความสูญเสียสุดยอดรุ่นเยาว์ที่มากไปด้วยฝีมือเช่นนี้ มากไปกว่านั้นชาวบ้านธรรมดา ผู้ฝึกตนรวมไปถึงสัตว์อสูรนับร้อยนับพันชีวิตต่างถูกสังหารไปโดยไม่อาจหวนกลับ แม้ท้ายที่สุดแล้วแผนการชั่วช้าสามานย์ดังกล่าวจะถูกขัดขวางลงได้สำเร็จก็ตาม
การปรากฏตัวของแม่ทัพมารและบรรดาเหล่าสมุนปีศาจได้ย้ำเตือนให้เห็นถึงการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์มารปีศาจที่ไม่เคยเลือนหายไปจากมหาพิภพอย่างแท้จริง ในมหาศึกสมครามระหว่างผู้ฝึกตนและเหล่ามารปีศาจนั้นจะจบลงด้วยการแบ่งเขตดินแดนปกครองไม่ข้องเกี่ยว ยามนี้ดูเหมือนว่าเส้นแบ่งเขตแดนดังกล่าวคงเสื่อมสลายไปตามกาลเวลาเสียแล้วกระมัง ยิ่งเผ่าพันธ์มารปีศาจระดับสูงสามารถปลอมแปลงตัวตนและลบกลิ่นอายอันเป็เอกลักษณ์ของเผ่าพันธ์ได้อย่างแเี
ไม่ใช่ว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็เพียงจุดเล็ก ๆ บางทีทั่วทั้งมหาพิภพอาจมีเื่ราวเหล่านี้เกิดขึ้นมากมายเพียงแต่อาจถูกปกปิดไม่ให้รับรู้ก็เป็ไปได้เช่นกัน บรรดาสำนักศึกษาน้อยใหญ่ ราชวงศ์ประจำแคว้นนั่งปกครองหรือแม้กระทั่งตระกูลน้อยใหญ่ต่างเข้าร่วมมือเป็พันธมิตรกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่แน่ว่าอีกไม่นานหลังจากนี้เหตุการณ์อาจเกิดซ้ำรอยเมื่อหนึ่งพันปีก่อนก็อาจเป็ไปได้ ดังนั้นการเตรียมตัวฝึกฝนฝีมือจึงเป็สิ่งที่สมควรกระทำมากที่สุดแล้วในยามนี้
หลังจากเสร็จสิ้นงานพิธีไว้อาลัยแก่หนิงอ้าย บรรยากาศภายในจวนตระกูลหวังล้วนมืดหม่นเศร้าหมองเป็อย่างยิ่ง ยามนี้จวนตระกูลหวังได้ถูกปิดไว้อย่างแ่าไม่ให้ผู้ใดเข้ามารบกวนได้ทั้งสิ้น หวังเยว่ซินยังคงร้องไห้ออกมาอย่างแ่เบาโดยที่ซ่งเหมยฮวาผู้เป็มารดายังคงกอดปลอบประโลมอยู่ไม่ห่าง หวังจิ่งหลงมองภาพตรงหน้าด้วยใจที่เ็ปไปไม่แพ้กัน ภายในหัวนั้นยังคงครุ่นคิดถึงเื่ราวต่าง ๆ อย่างหลากหลายอารมณ์ความรู้สึก การสูญเสียครั้งนี้นับว่าไม่ทันได้ตั้งตัวอย่างแท้จริง
“ผู้าุโคุมกฎหลานหลิงกล่าวว่ากายเนื้อของนายน้อยหนิงอ้ายได้ถูกทำลายไปด้วยปราณมารอันเข้มข้นของแม่ทัพมารสวะ แม้กระทั่งจิติญญาก็สูญสลายไปไม่หลงเหลือแม้เพียงนิด...” หวังฮุ่ยเอ่ยรายงานที่ได้รับให้หวังจิ่งหลงได้รับรู้ การสูญเสียนายน้อยหวังหนิงอ้ายไปนั้นกล่าวว่าไม่อาจตั้งตัวได้อย่างแท้จริง
“หนิงอ้ายแม้จะมีอายุเพียงสิบห้าสิบหกปีก็จริง ทว่าร่างกายของเขาได้ถูกประสานเข้ากับกระดูกิญญาอายุล้านปีของอสรพิษเหมันต์าที่เป็เผ่าพันธ์ที่แข็งแกร่งอ่อนด้อยกว่าเผ่าพันธ์ัเพียงไม่กี่ขั้นเท่านั้น อีกทั้งเขายังสามารถปลุกพลังของสายเืของพญาหงส์แดงอัคคีสุริยะมหา์าได้สำเร็จ ข้าไม่เชื่อว่าด้วยความล้ำลึกพิศดารของสายเืนั้นผลลัพธ์จะลงเอยเช่นนี้ได้...”
“เช่นนั้นคงมีเพียงทางเดียวเสียแล้ว เหมยเอ๋อร์ เ้าคิดเห็นเป็อย่างไรหากสามีจะขอความช่วยเหลือจากท่านผู้นั้น?” หวังจิ่งหลงเอ่ยขึ้นอย่างแ่เบาหลังจากครุ่นคิดตัดสินใจบางอย่างได้ในที่สุด
“ท่านพี่หมายความว่าอย่างไรเ้าคะ หรือว่าท่าน...”
“เป็เช่นนั้น ยามนี้คงมีเพียงทางเดียวที่สามารถช่วยเหลือหนิงอ้ายได้ แม้ท้ายที่สุดอาจไม่สำเร็จก็ตาม” หวังจิ่งหลงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ปรากฎคลื่นอารมณ์ใด
“ท่านพ่อกับท่านแม่กำลังเอ่ยถึงสิ่งใดกันหรือเ้าคะ??” เยว่ซินถามด้วยความสงสัยท่านผู้นั้นที่บิดาเอ่ยถึงเป็ผู้ใดกัน
“เื่ราวความเป็มามีความซับซ้อนอยู่ไม่น้อยเกินกว่าที่เ้าจะเข้าใจได้ง่ายในยามนี้ เอาเป็ว่าบิดาจะเล่าให้เยว่เอ๋อร์ฟังหลังจากนี้ดีหรือไม่ อย่างไรบิดาต้องรบกวนเ้าส่งจดหมายเวทย์เรียกลู่ซีกลับมายังตระกูลด้วย คาดว่าไม่กี่วันหลังจากนี้คงต้องย้ายกลับไปยังที่ที่ควรอยู่เสียที...” หวังจิ่งหลงว่าพลางลูบศีรษะของบุตรสาวของตนเบา ๆ ก่อนจะแยกตัวไปยังพื้นที่ลับของตระกูลตรงด้านหลังก่อนจะหายลับไปในทันที
การแหวกมิติหาได้เป็สิ่งที่กระทำได้โดยง่ายหากปราศจากสื่อกลางดังเช่นป้ายหยกสีแดงประกายในมือที่ถูกหวังจิ่งหลงบีบแตกไปในก่อนหน้า เมื่อเข้าสู่ม่านพิภพพิสดารดังกล่าวแล้วสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางของม่านพิภพที่หากไม่ใช่บุคคลที่มีป้ายหยกหรือผู้ที่มีความสำคัญในตระกูลย่อมไม่อาจปรากฎตัว ณ สถานที่แห่งนี้ได้ การเคลื่อนไหวอย่างอุกอาจปานนี้ย่อมดึงดูดความสนใจของบรรดาสุดยอดฝีมือในตระกูล ทว่าหวังจิ่งหลงยังคงมุ่งตรงไปยังสถานที่แห่งนั้นอย่างมั่นคงไม่หวั่นไหว แต่ด้วยความร้อนรนใจที่ไม่อาจระงับได้ การเคลื่อนไหวการย่ำเท้าบนอากาศในแต่ละครั้งจึงทิ้งแรงะเืของพลังปราณที่แท้จริง
ครืน!!!
“มาได้แล้วอย่างนั้นรึเ้าตัวดี หายไปเกือบสี่สิบปีปานนี้ ข้าคิดว่าเ้าคงหลงลืมทางเข้าจวนไปเสียแล้ว!!” เสียงตวาดกร้าวดังขึ้น พร้อมกับพลังจิติญญาระดับอัครพรหมยุทธ์ิญญาได้แผ่ซ่านปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ ฉับพลันนั้นเงาร่างสองสายได้พุ่งปราดลงมาจากกลางฟ้าก่อนจะหยัดยืนอยู่ตรงเบื้องหน้า หนึ่งคือบุรุษวัยกลางคนที่มีหน้าตาหล่อเหลาเป็อย่างมาก สวมใส่อาภรณ์ลวดลายเฟิ่งหวงสีแดงทอง ส่วนอีกเงาร่างหนึ่งนั้นเป็ชายชราที่ดูแข็งแรงผู้หนึ่ง
“หวังจิ่งหลงคำนับท่านประมุขตระกูลขอรับ!!”
“ข้าให้เ้าเรียกว่าอย่างไรลืมไปแล้วอย่างนั้นรึ? หากมารดาของเ้าไม่ไปถือศีลนางคงดีใจที่ลูกชายตัวดีของตนกลับมาได้เสียที...”
“หวังจิ่งหลงคำนับท่านพ่อ เป็ข้าที่อกตัญญูเสียแล้ว!!” หวังจิ่งหลงกล่าวพร้อมกับยกมือประสานคำนับด้ว ทว่ายังไม่ทันที่ศีรษะจรดถึงพื้นกระแสพลังปราณบริสุทธิ์สายหนึ่งได้หยุดห้ามการกระทำดังกล่าว
“การกลับมายังตระกูลครั้งนี้เ้าเตรียมใจดีแล้วใช่หรือไม่ เ้าเป็ถึงลูกชายเพียงคนเดียวของข้าตำแหน่งว่าที่ประมุขคนต่อไปของตระกูลหวังแห่งดินแดนจูเชว่จะเป็ของเ้าโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เอาละ!! เื่ราวเป็มาอย่างไร จงเล่าให้บิดาของเ้าได้ฟังเสียจิ่งเอ๋อร์” ประมุขตระกูลหวังระบายยิ้มออกมาก่อนจะประคองหวังจิ่งหลงให้ยืนพูดคุยกัน
“แม่ทัพมารสวะผู้นั้นใช้ปราณมารบริสุทธิ์สังหารหนิงเอ๋อร์ แม้ว่ายามนี้กายเนื้อและจิติญญาจะสูญสลายไปสิ้น อย่างไรหลานของท่านผู้นี้มีสายโลหิตที่แข็งแกร่งเป็อย่างมาก เขาสามารถปลุกพลังสายเืพญาหงส์แดงอัคคีสุริยะมหา์าได้สำเร็จในรอบหลายร้อยปี ด้วยวัยเพียงสิบห้าสิบหกปีเช่นนี้เขากลับเข้าสู่เส้นทางของนักปรุงโอสถได้สำเร็จ ความสามารถคงทัดเทียมกับนักปรุงโอสถระดับสามขั้นสูงคงไม่เกินจริงไปนัก ความกล้าแกร่งของจิติญญาและสายเืต้นกำเนิดเช่นนี้สมควรที่จะหลงเหลือเศษเสี้ยวดวงจิตไม่มากก็น้อย...”
“เ้าสำนักศึกษาและผู้ที่เหลือรอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวล้วนยืนยันตรงกันว่า หลังจากหนิงเอ๋อร์ถูกปราณมารนั่นสังหาร ปราณธาตุทั้งสี่ของเขาได้ะเิแตกออกเป็เส้นสายก่อนจะหายลับไปทันทีราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น แม้กระทั่งกลิ่นอายเป็เป็เอกลักษณ์เฉพาะยังไม่อาจััได้ มากไปกว่านั้นยังมีเสาแสงสีทองประกายรุ้งนั่นที่ยังคงเป็ปริศนายิ่งนักขอรับ...” หวังจิ่งหลงเอ่ยเื่ราวที่เกิดขึ้นให้บิดาของตนได้ฟัง ในใจยังคงรู้สึกกล่าวโทษตนเองอยู่ไม่น้อย หากเขาสามารถสืบเสาะและรับรู้เื่ราวได้รวดเร็วมากกว่านี้ หลานชายของตนคงไม่จากไปอย่างไร้ซึ่งอยุติธรรมเช่นนี้
“ข้ารู้ว่าเ้า้าสิ่งใด แต่เ้าก็รู้ไม่ใช่รึว่าตะเกียงนั่นไม่ต่างไปจากเื่เล่าจากท่านบรรพชนเพียงเท่านั้น ในอดีตเองก็เคยมีการเปิดใช้งานสมบัติวิเศษดังกล่าวแล้วก็ไม่อาจฟื้นคืนชีพคนตายได้อย่างแท้จริง...”
“ตะเกียงสามขาผสานิญญาส่องพิภพ์เป็สมบัติระดับต้นกำเนิด เป็สมบัติวิเศษตกทอดมาั้แ่เริ่มก่อตั้งตระกูลเสียด้วยซ้ำ อักขระโบราณศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนล้วนถูกสลักกำกับหล่อเลี้ยงสมบัติวิเศษชิ้นนี้ เชื่อกันว่าขุมพลังลี้ลับบางประการที่ไหลเวียนอยู่จะสามารถชักนำกลิ่นอายและจิติญญาให้หวนคืนจากความตายได้แม้ว่ากายเนื้อหรือแก่นแท้แห่งจิติญญาจะแตกสลายไปแล้วก็ตาม...” ประมุขตระกูลหวังกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
แม้เขาจะทราบดีว่ายามนี้บุตรชายและหลานสาวของตนนั้นจะเ็ปทรมานเพียงใดกับการสูญเสียครั้งนี้ แต่ใช่ว่าเส้นของของผู้ฝึกตนหาใช่ราบเรียบไปเสียเมื่อไหร่ การสูญเสียบุคคลอันเป็ที่รักกล่าวได้ว่าเป็สิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้เขาอยากจะช่วยเหลือมากเพียงใดทว่าก็ไม่อาจให้อีกฝ่ายยึดติดโดยที่ไม่ไตร่ตรองเช่นนี้
“ต่อให้สิ่งนี้เป็เพียงความหวังเดียวที่ไม่รู้ว่าจะเป็ไปได้หรือไม่ อย่างไรข้าขอลองเสี่ยงดูสักครั้งขอรับ” หวังจิ่งหลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“เช่นนั้นจงพาภรรยาและบุตรสาวรวมไปถึงเหลนชายของข้ากลับตระกูลหวังเสียเถิด ยามนี้มหาพิภพมีเื่ราวมากมายที่ไม่อาจบอกได้ยามนี้ การหวนกลับคืนสู่ม่านพิภพของตระกูลเป็สิ่งที่พึงกระทำมากที่สุด เข้าใจหรือไม่??”
“เ้าจงอยู่เฝ้าตะเกียงผสานิญญาอยู่ที่นี่เสียเถอะ ส่วนที่เหลือจะให้ผู้าุโเฟิ่นจัดการให้เ้าเสียแล้วกัน”
“ที่สำคัญอีกสามเดือนหลังจากนี้พิธีส่งมอบตำแหน่งว่าที่ผู้นำตระกูลหวังคนต่อไปจะถูกจัดขึ้นเ้าเตรียมตัวไว้ให้ดีเล่า ส่วนนี่คือตะเกียงสามขาผสานิญญาส่องพิภพ์ชิ้นนี้ จำเป็ต้องสังเวยด้วยโลหิต เ้าอย่าลืมนำสิ่งของเครื่องใช้หรือป้ายหยกที่มีจิติญญาของหลานชายข้าด้วยเล่า ขอให้เ้าโชคดี” กล่าวจบประมุขตระกูลหวังได้ล้วงเอาสมบัติดังกล่าวออกมาจากแหวนมิติ เพียงปรากฎเท่านั้นกลิ่นอายความโบราณเก่าแก่ได้แผ่ซ่านอายล้อมไปยังพื้นที่บริเวณโดยรอบ
หวังจิ่งหลงถ่ายเทพลังลมปราณของจนออกมาอย่างมหาศาล พร้อมกับหยาดโลหิตที่ยามนี้ถูกชักนำเข้าสู่ตะเกียงิญญาดังกล่าว อีกมือหนึ่งตวัดเรียกสิ่งของรวมไปถึงโลหิตของหนิงอ้ายที่เคยแบ่งเก็บไว้ก่อนหน้าผสานเข้าไปอย่างไม่รีรอ
ครืน!!!
เมื่ออักขระกำกับที่เคยผนึกได้ถูกปลดออก ฉับพลันตะเกียงิญญาดังกล่าวได้เปล่งประกายแสงสีแดงทองออกมาสว่างไสว อักขระโบราณขั้นสูงต่างถูกชักนำหมุนวนเกิดเป็โครงข่ายของบทเวทย์โบราณลึกล้ำบทหนึ่ง หวังจิ่งหลงรีบสังเวยด้วยโลหิตของตนไปอีกครั้ง ไม่นานนักตะเกียงิญญาตรงหน้าได้ลอยหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ ถึงอย่างไรยังสังเกตเห็นได้ว่ากระแสพลังลมปราณบริสุทธิ์โดยรอบต่างถูกชักนำมายังบริเวณแห่งนี้อย่างเข้มข้นจนสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า
“บิดาจะสั่งปิดพื้นที่หวงห้ามแห่งนี้ไว้ให้ หวังว่า์จะอวยพรให้เ้าประสบความสำเร็จ ส่วนข้าก็มีเื่ราวบางอย่างที่ต้องจัดการเช่นกัน...” กล่าวจบลงหวังเสียนฮุ่ยผู้เป็ประมุขตระกูลหวังแห่งดินแดนจูเชว่จึงล่าถอยออกไปเพื่อตระเตรียมบางสิ่งอย่างในทันที...