ฉินเฟิงกลับไปที่ห้อง666หลังจากพบปะกันแล้ว เขาก็ได้รับเบาะแสบางอย่างตอนนี้เขารู้แล้วว่าไป๋ชิงเกลียดเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง ตราบใดที่เขารู้เหตุผลนั้นเขาก็จะสามารถแก้ไขความเกลียดชังของเธอที่มีต่อเขาได้บางทีหลังจากได้รับความชื่นชอบจากเธอ เธออาจจะบอกเขาว่าใครอยู่เื้ัเื่ทั้งหมดนี้
กลางคืนภายใต้คำสั่งของฉินหวงฉินเฟิงต้องไปคฤหาสน์ตระกูลจ้าวกับเขาเพื่อขอโทษเื่ยกเลิกการหมั้น
พ่อของจ้าวหลิงเซียนชื่อจ้าวต้าไห่และเป็หนึ่งในนักธุรกิจที่อยู่ระดับบนๆของเมืองเว่ยเฉิงไห่เย่ากรุ๊ปของเขาเกือบจะผูกขาดอุตสาหกรรมเภสัชภัณฑ์ของเมืองเว่ยเฉิง
20 ปีก่อนตอนที่ฉินหวงมาถึงเมืองเว่ยเฉิง เขาสนิทกับจ้าวต้าไห่เขาได้รับการช่วยเหลือมากมายจากจ้าวต้าไห่และความคิดทางธุรกิจของเขาเขาก้าวทีละก้าวจนมาเป็เขาอย่างทุกวันนี้
ทั้งสองไม่ได้เกี่ยวพันทางสายเืแต่ก็สนิทกันดั่งพี่น้อง
“พี่หวง เฟิงเอ๋อ มากันแล้ว รีบเข้ามาสิ”เมื่อฉินเฟิงและพ่อของเขามาถึงด้านนอกของคฤหาสน์ จ้าวต้าไห่ ชายร่างอ้วนก็เดินมาหา
เขารู้ว่าฉินหวงจะมาคืนนี้เขาจึงออกมารออยู่ด้านนอก
“น้องไห่ น้องรอพวกเราอยู่ด้านนอกจริงๆ ด้วยน้องอยากให้พี่หวงรู้สึกผิดตลอดไปเลยเหรอ?” ฉินหวงรู้สึกผิดมากเกี่ยวกับเื่ยกเลิกการหมั้นแต่ฉินเฟิงก็เสเพลและเ้าชู้เกินไป
บางทีการยกเลิกการหมั้นนี้อาจจะดีสำหรับจ้าวหลิงเซียนก็ได้
ท่าทางเดินออกมาของจ้าวต้าไห่เหมือนได้รับการอวยพรจาก์เขายิ้มเหมือนพระพุทธรูปขณะที่กล่าวว่า “พี่หวงแก่กว่าผมดังนั้นผมก็ควรจะรอต้อนรับพี่สิ ส่วนเื่ของเฟิงเอ๋อกับหลิงเซียนมันผ่านไปแล้วพี่หวง พี่ไม่จำเป็ต้องรู้สึกแย่หรอก มันไม่มีผลระหว่างความสัมพันธ์ของเราใน 20 ปีนี้เลยแม้แต่น้อย”
“แน่นอน ไม่เลยๆ”
พวกเขาหัวเราะกันในขณะที่พูดคุยและเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ฉินหวงและจ้าวต้าไห่เริ่มพูดคุยกันเื่ธุรกิจ การเมือง และเศรษฐกิจทำให้ฉินเฟิงอยากจะหลับ
ฉินเฟิงรู้สึกเบื่อเขาจึงเดินเล่นไปรอบๆ คฤหาสน์หลังใหญ่เมื่อนึกถึงภารกิจสร้างความประทับใจของจ้าวหลิงเซียน เขาก็ตัดสินใจจะไปคุยกับเธอเพื่อฟื้นความสัมพันธ์
ประตูห้องของเธอไม่ได้ล็อกเขาจึงค่อยๆ เปิดและเดินเข้าไป เหมือนกับว่าเดินเข้าไปในตำหนักเล็กๆ
ห้องกว้างใหญ่ที่คลุมไปด้วยพื้นหลังสีชมพูและมีเครื่องประดับตกแต่งสไตล์ยุโรปห้อยอยู่บนเพดานมีเตียงนอนตัวใหญ่แบบเ้าหญิงดั้งเดิมพร้อมกับผ้ามัสลินสีขาวที่คลุมรอบๆและผ้าห่มลายสพันจ์บ็อบสีเหลืองคลุมไว้ ผ้าห่มถูกเลิกขึ้นเล็กน้อยบ่งบอกว่าเ้าของเพิ่งลุกออกจากเตียง
ไม่มีใครอยู่ในห้องฉินเฟิงจึงนั่งลงบนโต๊ะและเปิดไดอารี่ทักทายสายตา
วันที่1เดือนมิถุนายน อากาศแจ่มใส
วันนี้มีแดดออกแต่ความรู้สึกของฉันเหมือนกับมีลมและฝนไอ้เ้านั่นนายน้อยงี่เง่านั่นยกเลิกการหมั้นระหว่างเขากับฉันต่อหน้าทุกคนในห้องเรียนฉันรู้สึกอยากจะฆ่ามัน ณ ตรงนั้นเลย
แม้ว่าจริงๆแล้วฉันจะไม่อยากแต่งงานและดีใจมากที่โดนยกเลิกไปแต่ฉันก็เสียใจที่โดนทิ้งทั้งอย่างนั้นไอ้บ้านั่นมันไม่รู้หรือไงว่าเกียรติของผู้หญิงสำคัญมากแค่ไหน?
สุดท้ายแล้วฉันก็สาปแช่งฉินเฟิงให้มันโดนรถชนตายไปร้อยรอบ
วันที่7เดือนมิถุนายน มีเมฆมาก
วันนี้ไอ้นายน้อยบ้านั่นมันประกาศว่าจะจีบหลินเป้ยเป้ยใครจะรู้ว่ามันคิดอะไรอยู่? ฉันคิดว่าฉันจะไม่สนใจมันหลังจากเื่การหมั้นแต่ฉันก็ได้รับผลกระทบอย่างช่วยไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันนะ?
สุดท้ายแล้วฉันก็สาปแช่งฉินเฟิงให้มันสำลักน้ำตายไปร้อยรอบ
วันที่9เดือนมิถุนายน อากาศแจ่มใส
คืนนี้มีงานเลี้ยงค็อกเทลฉินเฟิงพยายามจะทำดีกับฉันและเล่นเปียโนได้เก่งมาก นี่เขาลืมกินยาหรือเปล่านะ? ก่อนหน้านี้เขาทำอะไรมา? ฉันเกลียดเขาแทบตาย
แต่ฉินเฟิงตอนนี้ดูไม่เหมือนเดิมและเปลี่ยนไปมาก
สุดท้ายแล้วฉันก็สาปแช่งฉินเฟิงให้มันโดนฟ้าผ่าตายไปร้อยรอบ
...
ฉินเฟิงไม่กล้าอ่านไดอารี่ของจ้าวหลิงเซียนต่อนี่แค่อ่านไม่กี่หน้าเขาก็ตายไป 300 ครั้งแล้วเขารีบปิดไดอารี่และกำลังจะหนีออกจากห้องแห่งความตายแต่ทันใดนั้นประตูห้องน้ำก็เปิดออก
สาวสวยพร้อมกับหุ่นแจ่มแมวเดินออกมาผมของเธอยังเปียกชื้นอยู่และยังมีหยดน้ำหยดลงบนผิวที่ขาวเนียนของเธอ
ที่สำคัญคือว่าเธอไม่ได้ใส่อะไรเลย
“กรี๊ด...นาย...ตาโรคจิต นายเข้ามาที่นี่ได้ยังไง? นายกำลังจะทำอะไรน่ะ?อ๊ะ ข...ขืนนายยังกล้ามองต่อไปอีกละก็แม่จะควักลูกตาออกมาเหยียบให้เละเลย”
จ้าวหลิงเซียนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จและกำลังเช็ดผมด้วยผ้าขนหนูเธอรอตัวของเธอให้แห้งก่อนที่จะใส่เสื้อทว่าเมื่อเธอทำได้ครึ่งหนึ่งเธอก็แข็งทื่อทันที
ผู้ชายคนที่เธอสาปแช่งให้ตายร้อยรอบทุกคืนตอนนี้ได้มายืนอยู่ต่อหน้าของเธอแล้วั์ตาของเขาวาววับในขณะที่มองเรือนร่างของเธอซึ่งทำให้เธออยากจะหั่นมันเป็พันชิ้น
ฉินเฟิงกลืนน้ำลายและรีบหันหลังแต่ภาพเรือนร่างที่โค้งเว้าของจ้าวหลิงเซียนยังคงติดอยู่ในหัว ผิวที่ขาวเนียนมีกลิ่นกุหลาบหลังอาบน้ำยิ่งทำให้ดูน่าหลงใหล
ขาที่เรียวยาวไร้ไขมันส่วนเกินหน้าอกของเธอก็ใหญ่จนน่าใ ซึ่งเขาเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
ทันใดนั้นฉินเฟิงก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ยกเลิกการหมั้นไป
นี่มันยิ่งกว่าที่คาดไว้อีกสาวสวยอันดับหนึ่งของคณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยเว่ยเฉิง เธอเหมาะกับฉายานี้จริงๆ!
“นายยังยืนหาพระแสงอะไรอีก? ไสหัวออกไปได้แล้ว!”จ้าวหลิงเซียนรีบใช้ผ้าขนหนูปิดร่างกายและกัดฟันอยู่ด้านหลังของฉินเฟิงนี่เป็ครั้งแรกที่มีผู้ชายเห็นเรือนร่างของเธอ แถมยังเป็ฉินเฟิงเ้าสัตว์ป่านั่น ในขณะที่เธอคิดเกี่ยวกับมัน ดวงตาเธอก็เริ่มเลือนราง
หลังจากข่มไฟในใจของเขาฉินเฟิงก็รีบวิ่งลงข้างล่างพ่อของเขาและอาจ้าวยังคงพูดคุยกันอยู่อย่างร่าเริงโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างบน
ฉินเฟิงอดไม่ได้นอกจากคิดว่าถ้าเขาข่มขืนจ้าวหลิงเซียนนี่พวกเขาก็คงยังไม่รู้ตัวกันเลย
หลังจากนั่งลงที่ชั้นล่างและรู้สึกเบื่อๆเขาก็ได้ยินเสียงเท้าก้าวลงบันได เมื่อมองขึ้นไปเขาเห็นจ้าวหลิงเซียนเปลี่ยนชุดเป็เดรสสีขาวและเดินลงมาอย่างสง่างามแถมยังมองเห็นน่องวับแวมยามก้าวเดินอีกด้วยทำให้ฉินเฟิงนึกถึงเหตุการณ์อันน่าตกตะลึงเมื่อครู่นี้
จ้าวหลิงเซียนมองฉินเฟิงขณะที่กัดฟันและจ้องเขาแล้วก็นั่งลงข้างๆ จ้าวต้าไห่ เธอถามอย่างหงุดหงิดว่า “พ่อทำไมพ่อถึงให้ฉินเฟิงเข้ามาในบ้านเราด้วย?”
ถ้าผู้ชายในมหาวิทยาลัยเว่ยเฉิงเห็นจ้าวหลิงเซียนทำตัวขี้อ้อนแบบนี้พวกเขาอาจจะควักลูกตาตัวเองก็เป็ได้ นี่คือเทพธิดาน้ำแข็งจริงๆ หรือ?
แม้ว่าเธอจะไม่ชอบฉินเฟิงแต่ลุงฉินหวงก็ดีกับเธอตลอดมาและดูแลเธอเหมือนกับลูกสาว เธอมองเขาและทักทายทันที“ลุงหวง ลุงมาแล้ว!”
ฉินหวงลูบหัวจ้าวหลิงเซียนและยิ้มขณะกล่าว“มีอะไรเหรอ หลิงเซียน? หลานดูหงุดหงิดนะเฟิงเอ๋อรังแกหลานอีกแล้วเหรอ? กลับไปเมื่อไรเดี๋ยวลุงจะโบยมันให้”
เมื่อฉินหวงพูดแบบนี้จ้าวหลิงเซียนก็บุ้ยปากอีกครั้ง ดูค่อนข้างไม่มีความสุข
จ้าวต้าไห่บีบจมูกเธอและกล่าว“ลูกรู้แต่วิธีโกรธหรือไง เมื่อครู่พ่อเห็นเฟิงเอ๋อขึ้นไปหาลูกข้างบนลูกยังจะทำตัวเป็คุณหนูอีกเหรอ?”
มันคงจะดีกว่าถ้าจ้าวต้าไห่ไม่กล่าวขึ้นมาเมื่อจ้าวหลิงเซียนนึกถึงเื่ที่ฉินเฟิงเห็นเรือนร่างของเธอตอนโป๊อีกครั้งความโกรธบนใบหน้าก็เพิ่มขึ้น จู่ๆ เธอก็ยืนขึ้นและบอก “ฮึ่ม หนูไม่สนหนูแค่ไม่อยากเห็นหน้าฉินเฟิง หนูยินดีต้อนรับลุงหวงมาบ้านเราแต่หนูจะไม่ทนกับฉินเฟิง!”
หลังจากพูดจบจ้าวหลิงเซียนก็วิ่งขึ้นบันไดอย่างหงุดหงิดอีกครั้ง
“ผมตามใจเด็กคนนี้เกินไปจริงๆ!”
ฉินหวงและจ้าวต้าไห่ต่างมองหน้ากันและหัวเราะทั้งคู่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“เฟิงเอ๋อ ไปปลอบหลิงเซียนที พวกเธอทั้งสองโตมาด้วยกันแม้ว่าจะไม่ได้หมั้นกัน แต่อย่างน้อยก็เป็เพื่อนกันใช่ไหม? ไม่จำเป็ต้องทำตัวเป็ปรปักษ์กันนักก็ได้”จ้าวต้าไห่มองฉินเฟิงและยิ้ม “ในฐานะลูกผู้ชายเธอต้องหัดเผื่อแผ่และรู้จักยอมแพ้บ้าง เด็กคนนั้นมีจิตใจดี แต่ที่เป็เ้าหญิงเอาแต่ใจเพราะอาตามใจเธอเกินไป”
ฉินเฟิงพยักหน้าและเดินขึ้นไปข้างบนอย่างลังเล
นี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ!
“น้องหลิงเซียน ใส่เสื้อหรือยัง? ฉันเข้าไปนะ”ครั้งนี้ฉินเฟิงไม่กล้าเข้าไปโดยพลการ
“ไปตายซะ! ไสหัวไป!” จ้าวหลิงเซียนกำลังนอนบนลงเตียงและรู้สึกขุ่นเคืองเมื่อฉินเฟิงเข้ามาหมอนก็บินไปหาโชคดีที่เขาขึ้นสู่ขั้นที่หนึ่งและดื่มยาเสริมความเร็วซึ่งทำให้ความเร็วและการตอบสนองเร็วพอที่จะสามารถจับหมอนไว้ได้
ในฐานะนายน้อยเ้าสำราญหนึ่งในกุญแจสำคัญความเก่งของเขาคือหน้าด้านดั่งกำแพง
ฉินเฟิงแกล้งทำเป็ไม่ได้ยินและมานั่งข้างๆเธอบนเตียงพร้อมรอยยิ้ม เขาต้องได้รับความประทับใจจากเธอดังนั้นถ้าเขาสามารถลดความโกรธของเธอที่มีต่อเื่ยกเลิกการหมั้นลงได้งานเขาก็อาจจะง่ายขึ้นมาก
“น้องหลิงเซียนอย่าโกรธไปเลย ฉันมาขอโทษเื่ยกเลิกการหมั้นโดยเฉพาะเลย”
ทันทีที่เขากล่าวถึงเื่ยกเลิกการหมั้นจ้าวหลิงเซียนก็โกรธมากขึ้นไปอีก เธอตอบอย่างเ็าว่า “ไม่จำเป็ รีบออกไปได้แล้วถ้านายว่างมากนักก็ไปจู๋จี๋กับน้องหลินของนายไป ฉันเกลียดท่าทางแบบนี้ของนาย”
ฉินเฟิงรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อยและได้กลิ่นอาการหึงหวงจางๆในอากาศ
หรือว่าจ้าวหลิงเซียนจะตกหลุมรักเขา? เนื่องจากเขาหล่อและฉลาดเกินไป
จ้าวหลิงเซียนบอกได้เลยว่าฉินเฟิงเข้าใจผิดและรีบอธิบาย“อย่าคิดโง่ๆ แม้ว่าฉันจะบวชเป็ชีฉันก็ไม่ชอบนาย ฉันแค่สงสารหลินเป้ยเป้ยทำไมเด็กดีแบบนั้นถึงตกหลุมรักไอ้โง่อย่างนายได้”
“องค์หญิงหลิงเซียน อย่าพูดแบบนั้นสิ ฉันจำได้ว่าตอนเด็กๆยังมีคนชอบเดินตามฉันต้อยๆ อยู่เลย” ฉินเฟิงตอบแบบภูมิใจ