ชายผู้มีเสน่ห์โครงหน้าเหมือนดั่งภาพแกะสลัก ปรากฏตัวออกมาอย่างเท่และมีบรรยากาศเหมือนกับาามองเพียงแวบเดียวก็บอกได้ว่าเขาทั้งหล่อและประสบความสำเร็จั้แ่ยังหนุ่ม
ผู้ชายคนนี้ชื่อฟางจื้อิเขาเป็คนดังในโรงเรียนและเป็ชายหนุ่มที่หล่อที่สุดในมหาวิทยาลัยเมืองหยุนเฉิงไม่ใช่แค่หล่อและมีชาติตระกูลเท่านั้นเขาเป็คุณชายเ้าเสน่ห์ที่มีเด็กสาวมากมายหมายปอง
เพื่อนร่วมห้องจับคู่ว่าเขากับไป๋ชิงเป็คู่ในอุดมคติเป็การจับคู่โดย์
การรวมตัวครั้งนี้จัดขึ้นโดยคำแนะนำของฟางจื้อิเขาเป็คนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
“ฟางจื้อิ นายน้อยฟางมาถึงแล้ว”
“ว้าว...แม้ว่าจะไม่ได้เห็นคุณมาตั้งหลายปี นายน้อยฟางก็ยังหล่อเหมือนเดิมพนักงานบริษัทที่นั่งทำงานในออฟฟิศอย่างเราเทียบไม่ได้เลยจริงๆ”
“ยอมรับเสียเถอะ นายน้อยฟางออกเงินทั้งหมดคนเดียวเพื่อทริปบ้านพักตากอากาศและมันก็เป็ที่ที่พวกคนรวยในเมืองเว่ยเฉิงไปกัน นายน้อยฟางต้องมีบริษัทใหญ่โตหลายแห่งแน่เลยและบริษัทพวกนั้นอาจจะเข้าตลาดหุ้นแล้วด้วย”
ฟางจื้อิฝ่าเข้ากลางวงเขามีความสุขที่ได้รับคำชมจากคนเหล่านี้เขายังคงรอยยิ้มสงบเยือกเย็นไว้บนหน้าและทักทายผู้คนรอบตัวเขา
สายตาของฟางจื้อิจับจ้องไปที่ไป๋ชิงตลอดทางและตอนนี้เขาได้หยุดอยู่ข้างเธอทันที
“ไป๋ชิง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!”ฟางจื้อิยิ้มแบบสุภาพบุรุษและมองไป๋ชิงด้วยความอ่อนโยนเหมือนน้ำ
บรรยากาศเหมือนถูกหยุดเวลาไว้และเข้าสู่ความเงียบงัน
5 ปีก่อน สองคนนี้เหมาะสมกันมากเหมือนกับพรหมลิขิตตอนนี้พวกเขาเจอกันอีกครั้งหลังจากผ่านมา 5 ปีเมื่อคนหนึ่งสุดแสนจะหล่อเหลาและอีกคนสวยเหมือนนางฟ้า พวกเขายืนด้วยกันเงียบๆอย่างกับทิวทัศน์ที่งดงาม
หัวใจของไป๋ชิงเต้นระรัวอย่างช่วยไม่ได้ย้อนกลับไปตอนนั้นเธอไม่ได้ยอมรับความรักของฟางจื้อิเพราะการเรียนตอนนี้พวกเขาเจอกันอีกครั้งหลังจากเข้าสู่สังคมแล้วเธอหวั่นไหวเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้
“ฟางจื้อิ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!” ไป๋ชิงอายเล็กน้อยก่อนจะพูดเบาๆ
“คุณยิ่งโตก็ยิ่งสวยขึ้นนะครับเนี่ย” สายตาของฟางจื้อิร้อนรุ่มเขามีความกระหายอยากจะพุ่งเข้าไปจับกดไป๋ชิง แต่ก็ฝังความรู้สึกนี้ไว้ในส่วนลึกภายนอกนั้นเขาดูเหมือนผู้ดีและสุภาพบุรุษจุฑาเทพ “ผมคุณพันกันอยู่น่ะให้ผมแก้ให้นะ”
ฟางจื้อิยื่นนิ้วที่เรียวยาวออกมาเพื่อััใบหน้าของไป๋ชิงไป๋ชิงถอยไปสองก้าวทันทีเมื่อเห็นมือกำลังเข้าใกล้ใบหน้าของเธอแต่เธอไม่ได้ตั้งใจถอยกลับเธอโดนดึงกลับเข้าสู่อ้อมกอดของชายคนหนึ่ง
“เฮ้ นายกำลังทำอะไรน่ะ? ไป๋ชิงคือผู้หญิงของฉันอย่ามาทำตัวผาสุกกับเธอมากนัก ไม่งั้นฉันกระทืบนายแน่!”ฉินเฟิงปรากฏตัวได้ประจวบเหมาะพอดี เขาจ้องฟางจื้อิเขม็ง
มันใช้ท่าทีสุภาพบุรุษทำตัวเป็ผู้ชายเท่ๆ เหมือนกับที่เขาเคยใช้มาก่อนในสมัยมัธยมปลาย
“ฉินเฟิง คุณทำอะไรน่ะ? ปล่อยฉันนะ”ไป๋ชิงดิ้นออกจากอ้อมกอดของฉินเฟิงด้วยความโกรธนี่เป็ครั้งแรกที่ฉินเฟิงเห็นสายตาเย็นะเืพร้อมกับจิตสังหารในดวงตาของเธอ
เขาคิดเื่ระบบภารกิจเกี่ยวกับไป๋ชิงทันที“แก้ไขความเกลียดชังของไป๋ชิงที่มีต่อโฮสต์” อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมไป๋ชิงถึงเกลียดเขาเนื่องจากพวกเขาไม่ได้สนิทกันเลยแม้แต่น้อย
จริงๆแล้วเขาไม่มีความเข้าใจกับไป๋ชิงมากนักและไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอแม้ว่าเธอจะมีรูปร่างหน้าตาสวยสดงดงามก็ตามดังนั้นฉินเฟิงจึงไม่โกรธแม้ว่าเธอจะเขินฟางจื้อิ
อย่างไรก็ตามขณะที่ผู้หญิงมีลางสังหรณ์ของผู้หญิง ผู้ชายก็มีลางสังหรณ์ของผู้ชายโดยเฉพาะฉินเฟิงที่เป็นายน้อยจอมเ้าชู้ที่ผ่านประสบการณ์เื่รักๆ ใคร่ๆมามากมาย เขาบอกได้เลยว่าฟางจื้อิไม่ได้ชอบไป๋ชิงจริงๆเขาแค่อยากร่างกายของเธอเท่านั้น
ถ้ามีใครรักคุณและไม่ได้เห็นคุณมา5ปี อย่างแรกที่เขาต้องถามคือสารทุกข์สุกดิบเขาจะดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระหว่าง 5 ปีที่ผ่านมาด้วยสีหน้าหม่นหมองอย่างไรก็ตาม เมื่อฟางจื้อิมาหาเธอเขาแค่ชมความสวยของเธอและอยากจะััใบหน้าของเธอ ฉินเฟิงแช่งให้พวกมันทุกคนนกเขาไม่ขัน
แต่เมื่อฉินเฟิงคิดว่าตัวเองก็เคยเป็คนแบบนี้เขาจึงถอนคำพูดในใจอย่างเงียบๆ
“เฮ้ย แกมาจากไหนวะ? กล้าดีอย่างไรถึงไม่เคารพเทพธิดาไป๋ชิงของเรา?แกอยากโดนอัดใช่ไหม?”
“ไอ้โรคจิต กล้าทำเื่พรรค์นี้กลางวันแสกๆ ได้อย่างไร? รอก่อนเถอะ ฉันจะจับแกทันที”
ไป๋ชิงมีสถานะสูงส่งในใจของคนพวกนั้นพวกเขาฟุ้งซ่านเกี่ยวกับเธอมา 8 ปีแต่ไม่เคยได้กอดไป๋ชิงจริงๆ สักที พวกเขายังไม่แม้แต่จะได้จับมือตอนนี้ฉินเฟิงกอดไป๋ชิงแน่นต่อหน้าพวกเขา พวกเขาจึงโกรธจนอยากกระทืบฉินเฟิง
“ใจเย็นทุกคน...นี่ นี่คือแฟนฉันเอง ฉินเฟิง” ไป๋ชิงกัดฟันบอกคนอื่นให้รู้
หลังพูดจบเธอแอบชำเลืองมองฟางจื้อิ เมื่อเธอเห็นความเกลียดชังแวบเข้ามาในดวงตาของเขาเธอก็ผิดหวังเล็กน้อย
ฉินเฟิงไม่เคยกลัวปัญหาครั้งนี้เขากอดไป๋ชิงและแม้แต่โอบเอวของเธอแน่น เขามองดูผู้คนด้วยความพอใจ “อะไรอยากมีปัญหาแค่เพราะมีพวกมากกว่าเหรอ? นี่คือผู้หญิงของฉันกอดเธอแล้วผิดตรงไหน? ขนาดจูบยังได้เลย”
ในขณะที่พูดฉินเฟิงตั้งใจจับไป๋ชิงและหอมแก้มเธอโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว
“เห็นไหม ฉันจูบเธอ ฉันจะบอกให้ว่าฉันทำได้มากกว่านี้อีก”ฉินเฟิงพูดและเริ่มปลดชุดของไป๋ชิง
คนดูเริ่มน้ำลายสอครั้งนี้ไม่มีใครมาหยุดฉินเฟิงพวกเขาทุกคนเร่งเร้าฉินเฟิงในใจให้รีบแก้ผ้าไป๋ชิงให้หมด จะได้เอาไว้เป็อาหารตา
มือของฉินเฟิงเอื้อมไปเพื่อจะรูดซิปที่หลังของไป๋ชิงแต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดทันทีและแสยะยิ้มไปที่ผู้คน “หยุดฝันหวานซะนะทุกคนทำไมฉันต้องถอดชุดผู้หญิงของฉันต่อหน้าพวกนายทุกคนด้วย? เดี๋ยวฉันค่อยมี่เวลาดีๆ กับไป๋ชิงตอนกลางคืนเอง ตอนที่พวกนายไม่อยู่”
ไป๋ชิงใช้ทุกอย่างข่มความโกรธไว้เธอเห็นว่าขณะนี้ความเกลียดชังในสายตาของฟางจื้อิเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเธอรู้ว่าความเป็ไปได้ของความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามันจบลงแล้ว ดังนั้นเธอจึงยิ่งเกลียดฉินเฟิงมากขึ้นไปอีก
“ไอ้หมอนี่มันบ้าจริงๆ เราจะไปอยากเห็นเรือนร่างของเทพธิดาไป๋ชิงได้อย่างไร?เธอเป็เทพธิดาบริสุทธิ์ในใจของพวกเราเธอไม่ใช่คนที่เราจะทำอะไรหยาบคายได้”
“เทพธิดาไป๋ชิง ทำไมคุณถึงคบกับคนเน่าเหม็นอย่างมันด้วยล่ะ? มันเป็กุ๊ยชัดๆ เฮ้อ...ฉันทนดูไม่ไหวแล้ว”
“ไป๋ชิง รีบเลิกกับหมอนั่นเร็ว พวกเราจะสนับสนุนเธอเอง”
เหล่าคนดูที่ไม่สามารถเห็นเรือนร่างของไป๋ชิงก็เริ่มเกลียดฉินเฟิงมากขึ้นพวกเขาทุกคนรู้ตัวว่าถูกฉินเฟิงเล่นเหมือนลิง
“หยุดเถอะพวกนาย...เรามารวมตัวกันนะ เราไม่ได้เจอกันมานานแล้ว แต่วันนี้เราก็สามารถมารวมตัวกันได้มามีความสุขกันเถอะ” ไป๋ชิงดิ้นออกจากอ้อมกอดของฉินเฟิงเธอเดินไปด้านข้างจ้าวเชี่ยนและคล้องแขนของเธอขณะที่พูด
“ไป๋ชิงพูดถูกแล้ว เรามาที่นี่เพื่อมารวมตัวกันนะดูเหมือนว่าพวกเราส่วนใหญ่จะมาถึงกันแล้ว ดังนั้นไปกันเถอะ” ฟางจื้อิจ้องฉินเฟิงเขม็งเขาใส่บรรยากาศของผู้นำและพาทุกคนออกจากโรงแรม
หลังจากเดินออกจากโรงแรมสาวสวยแต่งตัวเด่นก็วิ่งมาหา ฉินเฟิงรู้จักเธอครั้งก่อนพวกเขาเจอกับเธอที่ร้านเครื่องประดับหวงเจียเธอเป็คนรักของเฉาหยางและเพื่อนร่วมชั้นอีกคนของไป๋ชิง จูต้านิว
โอ้...ไม่ใช่สิเธอชื่อ Angelที่แปลว่านางฟ้า
ย้อนกลับไปวันนั้นจูต้านิวก็เป็สาวสวยอีกคนในโรงเรียน ตอนนี้เธอแต่งหน้าซึ่งทำให้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขาทั้งหลายรู้ว่าไป๋ชิงมีแฟนแล้ว พวกเขาก็เบี่ยงความสนใจไปหาจูต้านิวเมื่อพวกเขาเห็นเธอกำลังเดินมาหา พวกเขาก็กระดิกหางเข้าไปทักทายเธอ
จูต้านิวยิ้มอย่างสุภาพขณะที่ทักทายทุกคนสายตาของเธอมีความกังวลนิดหน่อย เธอมองไปรอบๆ ขณะที่ทักทายทุกคนเมื่อสายตาของเธอพบกับฉินเฟิง เธอก็ตื่นเต้นมากจนเกือบจะร้องะโออกมา
เดิมทีจูต้านิวี้เีจะมางานเลี้ยงรุ่นแต่ั้แ่ที่เฉาหยางโดนจับและรู้ตัวจริงของฉินเฟิงเธอก็อยากจะจับนายน้อยล่ำซำคนนี้
จูต้านิวเดินอ้อยอิ่งอยู่นอกประตูโรงแรมหวงเจียและร้านเครื่องประดับหวงเจียมาครึ่งเดือนแล้วแต่เธอก็ไม่เห็นฉินเฟิง ดังนั้นเธอจึงอยากจะใช้งานเลี้ยงรุ่นนี้เพื่อมาเจอฉินเฟิง
เธอรู้ความสัมพันธ์ระหว่างฉินเฟิงกับไป๋ชิงดังนั้นเธอจึงเดาว่าฉินเฟิงคงจะมาแน่นอน และตอนนี้เมื่อเธอเห็นฉินเฟิงเธอก็มั่นใจว่าการเดาของเธอถูกต้อง
“ไป๋ชิง ไม่เจอกันตั้งนาน! ฉันคิดถึงเธอแทบตายแหนะ!”จูต้านิวปรี่เข้าไปหาไป๋ชิงทันที แต่ก็เหลือบตามองฉินเฟิงเป็พักๆและอ่อยเขาด้วยสายตา
ไป๋ชิงมองจูต้านิวแปลกๆทั้งสองเพิ่งทะเลาะกันเมื่อครึ่งเดือนก่อน และจูต้านิวก็ถูกเฉาหยางตบนางคนนี้เกลียดเธอแบบไม่จบไม่สิ้น แล้วทำไมเธอถึงเป็คนเริ่มมาทักทายได้ล่ะ?
“จูต้า...Angel สบายดีไหม?” ไป๋ชิงรักษาระยะห่างและถามแบบเรียบง่าย
“โอ้ ไป๋ชิง อย่าเรียกฉันว่า Angel ชื่อที่ไม่ถูกจริตนั่นสิฉันคือจูต้านิว ฉันอยากจะเป็ตัวของตัวเอง”จูต้านิวพูดด้วยเสียงหวานขณะที่ส่งสายตาอ่อยให้ฉินเฟิงอีกรอบ
แต่อย่างไรก็ตามั้แ่ต้นจนจบ ฉินเฟิงไม่แม้แต่จะชำเลืองมองเธอทำให้เขาไม่เห็นสายตาอ่อยชวนอ้วกนี่
“สาวๆ ยังคุยกันอยู่อีกเหรอ? ออกไปกันได้แล้วได้เวลาที่เราต้องไปแล้วนะ” ครั้งนี้ฟางจื้อิเดินมาหาและเรียกทั้งคู่ให้ออกไป
เขาตั้งใจเมินฉินเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นได้ว่าเขาไม่อยากพาฉินเฟิงไปด้วย
“ฉินเฟิง ไปกันเถอะ” ฟางจื้อิไม่ได้เรียกฉินเฟิง แต่ไป๋ชิงเดินไปหาฉินเฟิงและเริ่มคล้องแขนของเขา
ไป๋ชิงมีแผนของตัวเองถ้าฉินเฟิงไม่ได้อยู่ที่นั่น มันก็ไม่มีความจำเป็ต้องไปบ้านพักตากอากาศ
เมื่อเขาเห็นฉากนี้สีหน้าของฟางจื้อิก็คล้ำลงเล็กน้อย เขาท้าทายฉินเฟิง “คุณฉินครับใครจะคิดว่าสาวงามปานหยกบริสุทธิ์จะถูกคุณเอาไป ผมสงสัยจังว่าคุณทำได้อย่างไร?”
“จริงๆ ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก ฉันเป็แค่พนักงานฝ่ายขายในบริษัท”ฉินเฟิงกอดไป๋ชิงแน่นขึ้นต่อหน้าฟางจื้อิ เขาตั้งใจััตัวเธอ“สิ่งที่ชิงชิงกับฉันมีให้กันคือรักแท้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินหรืออิทธิพลทั้งนั้น”
เมื่อฟางจื้อิได้ยินคำว่า‘รักแท้’ เขาเกือบจะอ้วก “เฮ้อ ผมรู้สึกเสียใจกับไป๋ชิงจริงๆทุกวันนี้ถ้าคุณไม่มีเงินหรืออิทธิพล คุณจะอยู่รอดในสังคมไม่ได้เมื่อเวลานั้นมาถึง คุณคงจะไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อนมผงให้ลูก”