สองวันผ่านไป...
ร่างกายหลงเหยียนผ่านการพักฟื้นมาแล้ว ฟื้นฟูโดยกายสุริยะ ถึงแม้จะช้าไปหน่อย าแก็ดีขึ้นบ้างแล้ว ทั้งยังกินสมุนไพรในตระกูล ทำให้ชีพจรไหลเวียนดี
“มารดาเช่นนี้ ไม่มีก็ช่าง ตอนแรกถ้ามีโอกาสข้ายังอยากตามหา แต่ตอนนี้ เ้าไม่คู่ควร!”
หลงเหยียนค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่ง จากนั้นก็หยิบตำราออกมาจากหน้าอกสองเล่มแล้วเริ่มอ่านอย่างตั้งใจ
“ยังมีเวลาอีกสามสิบวันจะถึงการแข่งขันล่าสัตว์ระหว่างตระกูล ข้าจะปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างสูญเปล่ามิได้”
ในเมื่อมันเป็ทักษะการต่อสู้ระดับทองคำขั้นกลาง วิชาในนั้นทำให้หลงเหยียนตื่นเต้นขึ้นมาไม่น้อย หมัดสายฟ้าแปดทิศ หมัดเดียวก็ทรงพลังอย่างเปรียบไม่ได้
เขาพลิกอ่านหลายรอบ จากนั้นก็อ่านวิชาหมัดมายา ไม่นานหลงเหยียนก็พบโดยบังเอิญ กระบวนท่าของหมัดนั้นมีหลายอย่างที่คล้ายกันมาก เพราะล้วนเป็วิชาที่ใช้หมัดเหมือนกัน ฉะนั้นทักษะที่ใช้จึงคล้ายคลึงกันไม่มากก็น้อย
“การแข่งขันล่าสัตว์ใกล้เข้ามาแล้ว ข้าต้องตั้งใจฝึกให้ดี...” หลงเหยียนวางมือไว้ที่จุดรวมปราณ พลังปราณไหลออกจากจุดรวมปราณไปยังส่วนต่างๆ ของเส้นพลัง ส่วนกระบวนท่าในตำราสองเล่ม หลงเหยียนเพียงหลับตาก็สามารถฝึกทุกกระบวนท่าได้แล้ว
หลงเหยียนรวบรวมพลังสายฟ้าไว้ในมือข้างหนึ่ง พลังมายาอยู่ในมืออีกข้างหนึ่ง เมื่อพลังทั้งสองผสานกัน เขาก็รู้สึกดีใจมาก
“ได้ผลจริงด้วย แหะๆๆ ข้ามันเป็อัจฉริยะตัวจริง ทั้งหมดนี้เป็เพราะิญญาัที่แข็งแกร่ง ทำให้ข้าสามารถควบคุมและบรรลุวิชาสองเล่มนี้ได้ หมัดมายาแปดทิศ แหะๆๆ อีกหน่อยก็เรียกชื่อนี้แล้วกัน”
เมื่อหลงเหยียนฝึกวิชาอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่ถึงรอยต่อสำคัญของสองวิชา พลังจากสองวิชากลับผสานกันในร่างกาย พลังปราณถูกส่งไปสี่ทิศ ทันใดนั้น หลงเหยียนกัดฟันแน่น ฝืนทนความเ็ปในร่างกาย
“ไม่ ข้าจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ในอดีตกาลจนปัจจุบันมีคนคิดค้นทักษะการต่อสู้จากการใช้กระบวนท่าที่ต่างกัน ข้าไม่เชื่อหรอกว่ามีิญญายุทธ์ที่แข็งแกร่งเพียงนี้แล้วจะคิดค้นทักษะการต่อสู้เป็ของตัวเองไม่ได้”
ทันใดนั้น เสียงคำรามดังไปทั่ว ร่างหลงเหยียนะเิรังสีพลัง ทว่าในใจกลับปรากฏเงาของมารดา
“อ๊าก... เพราะอะไร เพราะอะไรท่านถึงเป็คนแบบนี้ ท่านทำแบบนี้กับพวกเราได้อย่างไร เคยนึกถึงความรู้สึกข้าบ้างไหม เพราะอะไร...”
บางความรู้สึกคือสิ่งที่ไม่อาจลืมเลือนหายไป ความผูกพันบางอย่างคือสิ่งที่ไม่อาจตัดขาดกันได้ เมื่อนึกถึงความเอาใจใส่ที่มารดามีให้ในวัยเด็ก สุดท้ายน้ำตาเขาก็ร่วงเผาะ
“หลายปีมานี้ ท่านพ่อต้องทนทุกข์เพื่อท่านตั้งเท่าไร ตอนนี้ข้าเพิ่งเข้าใจว่าเพราะอะไรคนอื่นถึงชอบรังแกข้านัก ท่านพ่ออยากปกป้อง แต่เพราะความผิดที่ท่านก่อไว้ทำให้เขาไม่กล้าเผชิญหน้าคนในครอบครัว”
“แต่สุดท้ายท่านก็ยังเป็แม่ข้าอยู่ดี...” ในใจหลงเหยียนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ เขาอยากพบมารดาเสียตอนนี้ ถามนางให้ชัดเจนว่าเื่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร
หลงเหยียนคำราม ไม่สามารถกดทับความรู้สึกในใจ เพราะแบบนั้นจึงทำให้เขาไม่สามารถฝึกวิชาต่อไปได้ แต่เมื่อนึกถึงความหวังที่ผู้าุโแห่งตระกูล เขาจำต้องปล่อยวาง
ระดับชีพัขั้นที่ห้ารวมกับกายสุริยะ การต่อกรกับผู้ที่มีพลังระดับชีพัขั้นที่หกไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อนึกถึงเซียวปิงมั่วที่มีพลังขั้นที่เจ็ด หลงเหยียนก็รู้ดีว่า หากเจอเขาในการแข่งขันล่าสัตว์ ตนต้องจบเห่แน่
ระดับชีพัขั้นที่สามเป็่หนึ่งของการหลอมกาย ส่วนขั้นที่หกก็เป็่ที่สองของการหลอมกาย ได้ยินบิดาบอกว่าเซียวมั่วเหยียน น้องสามแห่งตระกูลเซียวมีบุตรนามว่าเซียวเชียนมั่ว เขาก็มีพลังขั้นที่เจ็ดเช่นกัน ซึ่งห่างจากหลงเหยียนสองขั้น
ไม่ว่าทางด้านพลังปราณหรือว่าพละกำลังทางกาย ล้วนเป็ความแตกต่างราวฟ้ากับดิน ความแตกต่างของขั้นที่หกและเจ็ดนั้นต่างกันเป็สิบเท่าตัว ถือเป็ความแตกต่างที่ใหญ่หลวง
และดูเหมือนสภาพจิตใจของหลงเหยียนในตอนนี้จะส่งผลกระทบต่อการฝึกวิชามาก เมื่อเป็เช่นนั้น สู้เปลี่ยนสภาพแวดล้อมเสียดีกว่า เป็การปรับอารมณ์ของตัวเอง
เมื่อนึกเช่นนั้น หลงเหยียนก็ปรับอารมณ์ของตัวเอง เดินมุ่งหน้าออกจากตระกูลหลงอู่ ครั้งนี้ องครักษ์ตระกูลหลงเห็นหลงเหยียนก็โค้งตัวเป็การทักทาย
เขาทำจมูกฟุดฟิด ทันใดนั้น ด้านหลังมีกลิ่นหอมลอยผ่านไป...
หลงเหยียนหันกลับไปมองหลงหยุนฉีที่ะโเข้ามา วันนี้นางสวมชุดกระโปรงสีขาว สวมเข็มขัดที่เอว ทำให้เห็นสัดส่วนร่างกายอย่างชัดเจน ส่วนเว้าส่วนโค้งแลดูงดงาม
“หยุนฉี?”
นางะโโลดเต้นเข้ามาอย่างมีความสุข ดูเหมือนวันนี้นางอารมณ์ดีมาก
“พี่เหยียน ข้าไปหาท่านแต่พบว่าท่านไม่อยู่ ได้ยินพวกบ่าวบอกว่าท่านออกไปแล้ว ข้าออกไปกับท่านได้หรือไม่ นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้ออกไปเดินเล่นข้างนอก”
เมื่อนึกถึงสาวน้อยตรงหน้า ่ก่อนนางช่วยตนมามาก อีกอย่างวันนี้นางแต่งตัวได้งดงามเป็พิเศษ ที่สำคัญ ตอนนี้นางไม่มีลุงสองอยู่ดูแลแล้ว
การอยู่กับตน คงทำให้นางรู้สึกดีขึ้นมาก เขาจึงพยักหน้าเบาๆ
“หยุนฉี แต่พวกเราจะออกห่างจากตระกูลไกลไม่ได้นะ ตอนนี้พี่เหยียนของเ้าเป็เหมือนตัวก่อเื่ในตระกูลเลยล่ะ เ้ารู้หรือไม่ว่าข้างนอกมีคนจ้องตระกูลหลงของเรามากเท่าไร?”
เมื่อนึกถึงสำนักบงกชมารและเซียวกงเป้า หลงเหยียนก็รู้สึกเป็ห่วงพวกเขามาก ตอนนี้พละกำลังยังมีไม่พอทำให้เขากังวลใจมาก
“พี่เหยียนวางใจเถอะ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ฟังท่านทั้งนั้น” หลงหยุนฉีพูดจบก็เดินเอามือไปคล้องแขนหลงเหยียนอย่างเกเร แล้วทั้งคู่ก็เดินออกไปด้านนอก
“จริงด้วย าแของท่านหายดีหรือยัง!”
หลงเหยียนลูบหัวนางอย่างสนิทสนม “เกือบหายดีหมดแล้ว”
นี่เป็ครั้งแรกที่นางอารมณ์ดีขนาดนี้ ะโโลดเต้นไปด้านหน้าแล้วหันกลับมาถาม “อีกสิบสามวันจะถึงการแข่งขันล่าสัตว์แล้ว พี่เหยียน ถึงตอนนั้นข้าจะอยู่ข้างท่านเอง”
หลงเหยียนครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ไม่ได้ ท่านปู่มีเื่ที่สำคัญยิ่งกว่ามอบหมายให้ข้า อีกอย่าง คนของตระกูลเซียวเคียดแค้นข้ามาก หากอยู่ข้างข้าเ้าอาจไม่ปลอดภัย ตามพวกพี่ใหญ่เขาเถิด ข้าจะลุยเดี่ยว”
“เพราะอะไรถึงเป็เช่นนี้เล่า” หยุนฉียู่ปาก นางไม่พอใจมาก
“หนึ่ง ผนึกจิต”
“สอง ทะลวงจิต”
“สาม ทำลายกาย”
“สี่ วิบากชะตา”
...
หลงเหยียนจมเข้าสู่การทำความเข้าใจกับวิชา จากนั้นก็สำเร็จสองขั้นแล้ว ทำให้หลงหยียนรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง เมื่อผสานสองวิชาเข้าด้วยกัน เกรงว่าแม้แต่ผู้าุโก็คงนึกไม่ถึงว่าเขาจะทำเช่นนี้สำเร็จ
“จริงด้วย หยุนฉี ข้าจะบอกความลับกับเ้า แต่เ้าจะบอกใครไม่ได้เด็ดขาด ข้าสามารถผสานหมัดสายฟ้าแปดทิศเข้ากับหมัดมายาได้แล้ว แต่รอยต่อของสองวิชานี้ยังมีสองขั้นที่ข้าไม่อาจบรรลุ เ้าดูนะ ข้าจะแสดงให้ดู”
ทันใดนั้น หลงเหยียนก็กระหน่ำชกออกไปตรงหน้า “หนึ่ง ผนึกจิต” หมัดนี้แรงและทรงพลังมาก ภายนอกดูเหมือนไม่มีอะไร แต่หลงหยุนฉีลองสังเกตอย่างละเอียด กลับพบว่ามันมาพร้อมพลังของหมัดมายา
“พี่เหยียน เหมือนอย่างที่ท่านบอกจริงๆ ด้วย ทักษะของหมัดทั้งสองนี้ผสานกันได้”
หลงเหยียนพยักหน้า “แต่มีหลายจุดที่ข้ายังไม่เข้าใจ ตามหลักแล้วข้าควรทลายจุดกั้นระหว่างกลางพวกนั้นได้ถึงจะถูก เมื่อลองใช้กลับกัน ข้าก็ทำไม่สำเร็จ”
หลงหยุนฉีก้มหน้าลงครุ่นคิดหาสาเหตุ ทันใดนั้นนางก็นึกอะไรได้ เงยหน้าขึ้นมองหลงเหยียน
“จริงด้วย พี่เหยียน พวกเราไปดูที่ตลาดอู่จี้ฟางกันดีกว่า ไม่แน่เราอาจพบพวกสมุนไพรบำรุงหรืออะไรที่ช่วยได้”
หลงเหยียนพูดด้วยความประหลาดใจ “ตลาดอู่จี้ฟางงั้นหรือ?”
--------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้