ณ สถานที่ที่ห่างจากปากปล่องูเาไฟประมาณสองร้อยลี้ เสิ่นเสวียนและเสิ่นล่างซ่อนตัวอยู่ในมิติ โดยที่เสิ่นล่างมีสีหน้าตื่นใ
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าการที่ตนเดินทางมายังปล่องูเาไฟครั้งนี้ จะดึงดูดคนของสำนักไท่อีเข้ามาด้วย
ไอพลังของอีกสองคนไม่ได้ด้อยไปกว่าคนจากสำนักไท่อีเท่าไรนัก กล่าวได้ว่าไม่ได้มีเพียงสำนักไท่อีเท่านั้น ยังมีอำนาจลึกลับอื่นๆ ในตำนานอีกด้วย
“สำนักไท่อีคืออะไรหรือ”
เสิ่นเสวียนถามเสิ่นล่างด้วยความสงสัย เขาไม่ได้หวาดกลัวเพราะคาดเดาเอาไว้แล้ว เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมาถึงที่นี่เร็วขนาดนี้
ตอนที่เสี่ยวเหยียนปรากฏตัวขึ้น เสาเพลิงต้นนั้นมีอานุภาพรุนแรงมาก แม้คนจากเผ่าอนธการจะซ่อนไอพลังของตนเอาไว้แล้ว แต่ก็ยังมีไอพลังแผ่กระจายออกไปอยู่ดี ทำให้พวกเขาสังเกตเห็น หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายเปิดศึก คลื่นพลังมิติสั่นะเื และยังมีไอพลังที่แผ่กระจายออกไปขณะเก็บรากจักรพรรดิอีก หากไม่ดึงดูดผู้อื่นเข้ามาต่างหากถึงจะเป็เื่แปลก
อีกอย่าง เขาไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะไม่มีผู้แข็งแกร่งอยู่เลย ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรที่มีไอพลังหลิงชี่เบาบาง ยังกำเนิดเขาที่สามารถฝ่าด่านเคราะห์ถึงเก้าครั้งขึ้นมาได้ กับโลกนี้ที่พลังหนาแน่นกว่าทำไมจะเป็ไปไม่ได้
“สำนักไท่อีคือสำนักซ่อนเร้นในทวีปหลิงโซ่ว อยู่นอกเหนือการควบคุมของแคว้นต่างๆ เผ่าอนธการเป็เพียงอำนาจเล็กๆ ในสายตาพวกเขา ไม่ควรค่าให้กล่าวถึง ทว่าพวกเขาไม่ค่อยเข้าแทรกแซงเื่ต่างๆ ในโลกมากนัก คิดไม่ถึงว่าจะดึงดูดคนประหลาดเ่าั้มาได้”
“สำนักซ่อนเร้น”
เสิ่นเสวียนกล่าวพึมพำ รู้สึกแปลกใจกับโลกแห่งนี้มาก สถานที่ที่มีผู้แข็งแกร่งจึงจะช่วยให้เขาเติบใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ฝึกฝนในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรมาหนึ่งพันปี นอกจากด่านเคราะห์อัสนีที่สามารถต่อกรกับเขาได้แล้วก็มีเพียงคนจากอาณาจักรเซียนเท่านั้น แต่เป็เื่ยากที่จะเข้าสู่อาณาจักรเซียนได้ ดังนั้นเขาจึงต้องเข้าสู่โลกแห่งการบำเพ็ญเพียร จนแข็งแกร่งถึงขั้นไม่มีมิตรสหาย
ที่ด้านนอกมิติของผังเมืองซานเหอ จุดที่โดนอัสนี์โจมตีกลายเป็หลุมใหญ่ ร่างเงาของสามคนนั้นกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
“น่าแปลก หรือพวกเขาจะยังหนีไปได้อีก”
บุรุษตุ้งติ้งขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ
พวกเขาสามคนตามหาจนทั่วรัศมีร้อยลี้แล้ว ไม่ปล่อยให้ร่องรอยเล็กๆ ผ่านตาไปได้ แต่ก็ยังไม่เจอพวกของเสิ่นเสวียนอยู่ดี
ก่อนหน้านี้ขณะที่ใช้อัสนี์โจมตี พวกเขาเห็นอยู่ว่าเล็งเป้าหมายไปที่อีกฝ่ายแล้ว
“หรือจะโดนอัสนี์สังหารไปแล้ว”
บุรุษจากวังดารากล่าวพึมพำ
“ไม่มีทาง แม้์ลงทัณฑ์จะสามารถสังหารคนได้ แต่ก็ไม่มีทางกำจัดพลังต่างๆ ไปได้ ทว่าที่นี่กลับไม่มีเลยแม้แต่พลัง”
แม่นางหยุนส่ายหัวปฏิเสธการคาดเดานี้ นางคว้ากระบี่ยาวออกมาอีกครั้งและวาดอักขระยันต์ขึ้นกลางอากาศเหมือนกับเหนือปากปล่องูเาไฟก่อนหน้านี้
ครั้งนี้่ระยะเวลาผ่านไปไม่นาน สามารถเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ได้อย่างชัดเจน
เมฆดำก่อตัวปกคลุมท้องฟ้า เสิ่นเสวียนและเสิ่นล่างเดินมาถึงที่นี่พลันหยุดเท้าลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
“หนีเร็ว ฝนจะตกลงมาแล้ว ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ฝนจะตกได้”
ทั้งสามคนมองเสิ่นล่างที่กำลังกล่าวอยู่ในภาพวาดนั้น พลางกระตุกมุมปากเล็กน้อย
“ผู้เฒ่าคนนี้สามารถเก็บหลินจือโมราได้ด้วย!”
บุรุษตุ้งติ้งถอนหายใจอย่างจนใจ แม้แต่์ลงทัณฑ์ยังไม่รู้จัก ปล่อยให้พวกเขาได้หลินจือโมราไปน่าจะเสียของไปเปล่าๆ
“ดูนั่น!”
แม่นางหยุนมองภาพนั้น ขณะที่อัสนี์ฟาดลงมา พวกของเสิ่นเสวียนพลันหายตัวไปอย่างน่าประหลาด
“นี่...”
บุรุษจากวังดาราก็สังเกตเห็นเช่นกัน
“ย้อนกลับไปหน่อย ดูว่าพวกเขาหายตัวไปได้อย่างไร” บุรุษตุ้งติ้งกล่าวพลางจ้องภาพนั้นเขม็ง
แม่นางหยุนทำให้ภาพนั้นเคลื่อนไหวั้แ่ต้น ขณะเดียวกันก็ทำให้มันเคลื่อนไหวช้าลงกว่าเดิมมาก
พวกเขาได้ยินเพียงเสียงสายฟ้าฟาดดังลั่น จากนั้นมิติรอบๆ ร่างของพวกเสิ่นเสวียนพลันบิดเบี้ยวไป ทำให้ทั้งสองคนและเสี่ยวเหยียนถูกดันเข้าไปภายใน และหลังจากนั้นอัสนี์ก็ฟาดลงไปที่พื้น
“ยังกล้าพูดอีกว่าไม่ใช่คนของพวกเ้า เพลงยุทธ์มิติมีเพียงพวกเ้าที่รู้มิใช่หรือ และคนผู้นั้นยังสวมเกราะอนธการไว้อีก หากไม่ใช่คนจากสำนักบุปผาของเ้าแล้วจะเป็ใครได้”
บุรุษจากวังดาราหันมองบุรุษตุ้งติ้ง ทำท่าทางพร้อมจะสู้
“แค่นี้น้องชายก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ ข้าบอกว่าไม่ใช่คนจากสำนักบุปผาของข้าก็คือไม่ใช่”
บุรุษตุ้งติ้งกล่าวเสียงเย็น เขาเคลื่อนตัวมายังตำแหน่งที่เสิ่นเสวียนและเสิ่นล่างหายตัวไป จากนั้นเขาลองใช้จิติญญาััเพื่อตามหาร่องรอย เพลงยุทธ์มิติสามารถสร้างแรงสั่นะเืได้ ไม่มีใครหลบหนีจากการตรวจสอบของเขาได้นอกจากคนที่แข็งแกร่งกว่าเขา
เสิ่นเสวียนและเสิ่นล่างกลั้นหายใจพร้อมกัน พวกเขาไม่กล้าหายใจแม้สักเฮือก กังวลว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็น
อีกฝ่ายยืนอยู่เบื้องหน้า หากมิติของผังเมืองซานเหอจางหายไป พวกเขาจะเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายในระยะประชิด
คนผู้นี้แข็งแกร่งมากทำให้เสิ่นเสวียนรู้สึกกดดัน หากต้องสู้กันจริงๆ เสิ่นเสวียนไม่มีทางสู้เขาได้เลย แม้จะร่วมมือกับเสี่ยวเหยียนก็ยังสู้เขาไม่ได้
บุรุษตุ้งติ้งยืนอยู่ตรงนั้น มองสังเกตซ้ายขวา ้าตามหาร่องรอยแม้เพียงเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็ส่ายหัว
“ไม่เจออะไรเลย”
“ข้ายังมีเื่อื่นต้องจัดการ ขอตัวก่อน”
แม่นางหยุนรู้ว่าที่นี่ไม่มีร่องรอยใดๆ อยู่ต่อไปรังแต่จะเสียเวลาเปล่า จึงกลายเป็ลำแสงสีขาวพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
“แม่นางหยุน รอข้าด้วย”
บุรุษจากวังดาราเห็นเช่นนั้นจึงเหาะตามขึ้นไปด้วย
“เฮ้อ น้องชาย รอข้าด้วย”
เมื่อเห็นสองคนนั้นเหาะไปแล้ว บุรุษตุ้งติ้งพลันะโเรียก ทว่าไม่มีใครสนใจเขาเลย
ทั่วทั้งบริเวณนี้ นอกจากหลุมที่โดนอัสนี์โจมตี ก็เหลือเพียงเขาคนเดียวแล้ว
“เฮ้อ! คนใจร้อนยากจะประสบความสำเร็จได้”
บุรุษตุ้งติ้งมองตามสองคนนั้นแล้วส่ายหัวเบาๆ
ภายในมิติของผังเมืองซานเหอ เสิ่นเสวียนและเสิ่นล่างยังคงซ่อนตัวอยู่ ไม่กล้าแม้แต่จะผ่อนลมหายใจออกมา
หลังจากทุกอย่างเงียบลงแล้ว บุรุษตุ้งติ้งพลันหมุนตัวกลับมากล่าวกับตำแหน่งที่พวกเสิ่นเสวียนซ่อนตัวอยู่
“เลิกซ่อนได้แล้ว พวกเขาไปกันหมดแล้ว คิดจริงๆ หรือว่าจะปิดบังข้าได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทั้งสองคนที่ซ่อนตัวอยู่ในมิติต่างมีสีหน้าต่างกันไป ที่แท้อีกฝ่ายก็เจอพวกเขาแล้ว เพียงแต่ไม่ได้เปิดโปงออกไปเท่านั้น
ทว่าเสิ่นเสวียนยังคงส่ายหัวบอกเสิ่นล่างไม่ให้ออกไป
แม้อีกฝ่ายจะสังเกตเห็นแต่ก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ ตราบใดที่ไม่ออกไปเอง อีกฝ่ายก็ยากที่จะบังคับพวกเขาให้ออกไปได้ เพราะนี่ไม่ใช่เพลงยุทธ์มิติ แต่เป็มิติของศาสตราเทพชิ้นหนึ่ง
ที่ด้านนอก บุรุษตุ้งติ้งกล่าวจบก็มองไปรอบๆ ด้วยแววตาโเี้ ทว่าทุกอย่างกลับว่างเปล่า ไม่มีใครปรากฏตัวออกมาเลย
“ยังไม่ออกมาอีกหรือ เช่นนั้นอย่าโทษที่ข้าโจมตีพวกเ้าแล้วกัน”
บุรุษตุ้งติ้งกวาดตามองไปยังตำแหน่งที่เสิ่นเสวียนซ่อนตัวพลางกล่าวออกมาอีก ขณะนั้นไอพลังบนร่างพลันแข็งแกร่งขึ้น
“เขาจะโจมตีแล้ว!”
เสิ่นล่างกล่าวกับเสิ่นเสวียนเบาๆ
“ไม่มีประโยชน์ ต่อให้โจมตีออกมาก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้ จำไว้ว่าอย่าออกไป”
เสิ่นเสวียนกล่าวอีกครั้ง
ส่วนที่ด้านนอก บุรุษตุ้งติ้งเพียงโคจรพลังเท่านั้น ไม่ได้โจมตีออกไป
“เอ๋! ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่จริงๆ ทำถึงขนาดนี้ยังไม่ออกมาอีก แล้วพวกเขาจะหนีไปไหนได้”
บุรุษตุ้งติ้งรออยู่ตรงนั้นประมาณครึ่งเค่อแล้วยังไม่เจอร่องรอยใดๆ ทำให้เขาส่ายหัวอย่างหมดหนทาง
ตามที่ภาพแสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ หากพวกเสิ่นเสวียนซ่อนตัวอยู่ที่นี่ เช่นนั้นพวกเขายังต้องอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน อีกทั้งเพลงยุทธ์มิติมีข้อจำกัดในเื่ของเวลา ไม่มีทางซ่อนตัวได้นานขนาดนี้
ระยะเวลาครึ่งเค่อ แม้แต่อาจารย์ของเขายังทำได้ยากเลย
“ดูเหมือนข้าต้องไปถามไถ่ที่เผ่าอนธการสักหน่อยแล้ว”
หลังจากบุรุษตุ้งติ้งกล่าวจบ เขาก็กลายเป็ลำแสงสีแดงเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมื่อเขาออกไปแล้ว แรงกดดันในมิติแห่งนี้จึงลดลงไปมาก
แต่เสิ่นเสวียนที่ซ่อนตัวอยู่ภายในมิติไม่ได้ปรากฏตัวออกมาในทันที เขารออยู่ในนั้นอีกประมาณครึ่งเค่อ เมื่อมั่นใจว่าปลอดภัยแล้วจึงออกมา
“เฮ้อ ที่แท้อีกฝ่ายก็แค่หลอกพวกเรา”
เสิ่นล่างและเสิ่นเสวียนออกมาจากมิติพลางถอนหายใจอย่างหนัก ยิ้มแห้งๆ ออกมา คนระดับนั้นช่างสรรหาวิธีการจริงๆ
“ผู้เฒ่าล่าง สถานที่แห่งนี้ไม่ปลอดภัย พวกเราต้องออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด”
“ได้”
เสิ่นล่างพยักหน้า แล้วจึงเดินทางออกจากที่นี่อย่างรวดเร็วพร้อมกับเสิ่นเสวียน
