ภาพเซียวเฉินทรมานซุนเซิ่งเสวียนทำให้ทุกคนใสุดขีด
ฟุ่บ!
ร่างของซุนเซิ่งเสวียนลอยออกจากมือของเซียวเฉิน ร่วงพื้นอย่างหนักหน่วง
ปึก!
เสียงดังสนั่น ร่างของซุนเซิ่งเสวียนฝังอยู่บนพื้น โลหิตท่วมตัว ไม่มีิัส่วนที่สมบูรณ์เลย ปากยังมีโลหิตไหลไม่หยุด กระจกตามืดมิดไร้ประกาย สีหน้าที่มองดูเซียวเฉินแฝงความหวาดกลัว
ราวกับเซียวเฉินที่อยู่ตรงเบื้องหน้าคือเทพสังหาร คือมารร้าย!
เซียวเฉินกวาดตามองเขา แล้วบอกกับเสิ่นเล่ยว่า “พวกเราไปกันเถอะ”
เอ่ยจบเขาก็กลับไปอยู่ข้างกายเสิ่นเล่ย นางพยักหน้า
โม่เส้าเยี่ยนล่วงเกินพวกเขา พวกเขาก็อัดองครักษ์ต่อหน้าโม่เส้าเยี่ยน
เสิ่นเล่ยและเซียวเฉินไม่มองประมุขน้อย หันกายจากไปทันที
“ทุบตีคนเสร็จก็คิดจากไป?”
น้ำเสียงเ็าค่อยๆ ดังมา รั้งตัวเซียวเฉินไว้
พวกเซียวเฉินชะงักฝีเท้า เซียวเฉินหันหน้ามามองโม่เส้าเยี่ยน ยิ้มกล่าว “เ้าไม่ขอโทษ ข้าทุบตีองครักษ์ของเ้า แล้วมีปัญหาอะไร?” เซียวเฉินพูดอย่างมีเหตุผลเต็มที่ มองโม่เส้าเยี่ยนด้วยสีหน้าจริงจัง ทำเอาเสิ่นเล่ยปิดปากหัวเราะเบาๆ เ้าหมอนี่บ้าจริงๆ
แต่ระบายโทสะดี
ท่าทางเขามีเหตุผลอย่างเต็มที่
“ดูท่า เ้ายังไม่รู้จักฐานะของตนเองดี?” น้ำเสียงของโม่เส้าเยี่ยนเ็าดุจหิมะตกกลางเดือนหก ทำให้คนรู้สึกสั่นสะท้าน ไม่สบายใจ เซียวเฉินมีสีหน้าหมดความอดทน
“ฐานะของข้าไม่ต้องให้เ้ายุ่งเกี่ยว นับจากนี้ความแค้นระหว่างเ้ากับข้าหายกัน เข้าใจไหม?” เซียวเฉินเอ่ยจบก็ยื่นมือคว้าความว่างเปล่า เบิกฟ้ากลายเป็ลำแสงเหินกลับมาอยู่ในมือของเขา ภาพนี้ทำให้คนที่อยู่ด้านข้างใ ดวงตาฉายแววกระตือรือร้น
นี่คือศิษย์ของกลุ่มอิทธิพลใด? จึงบ้าคลั่งถึงเพียงนี้!
ขวางทางและทุบตีองครักษ์ของโม่เส้าเยี่ยน ประมุขน้อยของสำนักเหยียนหยางอย่างเหิมเกริมต่อหน้าธารกำนัล!
นี่คือการตบหน้าสำนักเหยียนหยางอย่างเห็นได้ชัด!
แต่พวกเขานับเป็คนแรกที่สามารถตบหน้าสำนักเหยียนหยางได้อย่างเปิดเผย!
“พวกเ้าเป็คนของกลุ่มอิทธิพลใด?”
โม่เส้าเยี่ยนเงียบงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยช้าๆ สายตายิ่งเป็สีทองอย่างเด่นชัดภายใต้การสาดส่องของแสงตะวัน
“พวกเราเป็กลุ่มอิทธิพลใดแล้วเกี่ยวอะไรกับเ้าด้วย?”
เซียวเฉินสวนกลับโดยไม่ยอมลงให้และไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายสักนิด ถึงอย่างไรก็ฉีกหน้ากันแต่แรก แล้วเหตุใดต้องเสแสร้งด้วย เซียวเฉินคิดๆ แล้วก็รู้สึกขยะแขยง
โม่เส้าเยี่ยนยิ้ม แต่เป็รอยยิ้มกดลึก ให้ความรู้สึกว่าวางแผนการร้ายบางอย่าง
“ข้าเข้าใจว่าพวกเ้าไม่จัดอยู่ในกลุ่มอิทธิพลใด...”
ว่าแล้ว โม่เส้าเยี่ยนก็มองเซียวเฉินและเสิ่นเล่ยอย่างนึกสนุก กล่าวว่า “ตัวคนเดียวยังกล้ายั่วโทสะสำนักเหยียนหยางได้ขนาดนี้ ข้าจำต้องบอกว่าชื่นชมความกล้าของพวกเ้าสองคนมาก แต่ข้าก็จะฆ่าพวกเ้าเพราะพวกเ้าล่วงเกินความน่าเกรงขามของสำนักเหยียนหยาง ไม่มีใครล่วงเกินความน่าเกรงขามของสำนักเหยียนหยางแล้วยังมีชีวิตอยู่ได้ แน่นอนว่าพวกเ้าก็ไม่ยกเว้น!”
เสียงของโม่เส้าเยี่ยนดังสะท้อนทั้งถนน สะท้านใจคน
สายตาของทุกคนมองบนร่างของเซียวเฉิน เสิ่นเล่ย และโม่เส้าเยี่ยน
“ในที่สุด โม่เส้าเยี่ยนก็เกิดความคิดสังหารพวกเขาแล้ว?”
มีคนเอ่ยขึ้น สายตาที่มองเสิ่นเล่ยและเซียวเฉินฉายแววสงสาร
“สองคนนั้นก็มีความกล้าจริงๆ ไร้สำนักแล้วยังกล้าล่วงเกินประมุขน้อยของสำนักเหยียนหยางอีก ไม่รู้จักคำว่าตายเสียแล้ว”
“มีละครเด็ดให้ชมล่ะ”
“เหมือนข้าจะเห็นจุดจบของสองคนนั้น บุรุษต้องฆ่า ส่วนสตรี หึหึหึ...”
เซียวเฉินยิ้มดูแคลน มองโม่เส้าเยี่ยนเหมือนมองคนโง่ “ทำไม? เ้าก็คิดจะถูกทุบตี?”
สายตาของเสิ่นเล่ยหนักอึ้ง บอกเซียวเฉินว่า “อย่าประมาท เขาแข็งแกร่งมาก”
เซียวเฉินผงกศีรษะ
จากนั้นยิ้มสดใสให้เสิ่นเล่ย “ต่อให้แข็งแกร่งก็ไม่แข็งแกร่งเท่าข้า หึหึ”
เสิ่นเล่ยมองรอยยิ้มของเซียวเฉินแล้วอึ้งงัน ไม่รู้เพราะเหตุใด รอยยิ้มของเขาเหมือนมีเวทมนตร์ ในรอยยิ้มนั้นแฝงความเชื่อมั่นจางๆ ทำให้เสิ่นเล่ยที่รู้สึกหนักใจ จิตใจค่อยๆ สงบลง จากนั้นนางก็พยักหน้า
“อืม”
โม่เส้าเยี่ยนบอกเซียวเฉินว่า “กล่าวลาคนรักของเ้าเสีย ไม่เช่นนั้นเ้าจะไม่มีเวลาพูดแล้ว”
สายตาของเซียวเฉินเย็นเยียบ
“ควบคุมปากเน่าๆ ของเ้าให้ดี ไม่เช่นนั้นข้าจะทำแทน!”
สภาวะทั่วร่างของเซียวเฉินเปลี่ยนแปลง หากบอกว่าครู่ที่แล้วเซียวเฉินยังเป็หนุ่มน้อยสดใสกลางสายลมวสันต์ เช่นนั้นตอนนี้เขาคือราชันผู้เยือกเย็นและหยิ่งทะนง ทอดตาลงมองสรรพชีวิตและปรายตามองโลกหล้า กระทั่งรัศมีก็เปลี่ยนเป็แกร่งกร้าวทรงพลังอย่างประหลาด
“เช่นนั้น ข้าจะดูสิว่าเ้ามีความสามารถมากเพียงใด”
ตูม!
ชั่วพริบตา แววตาของโม่เส้าเยี่ยนสาดแสงสดใสเจิดจรัส
จากนั้น ร่างของโม่เส้าเยี่ยนมีเปลวอัคคีพลุ่งขึ้น เพลิงปรากฏสีแดงชาด แสงไฟลุกโชนสู่ฟ้า ร้อนระอุอย่างประหลาด
“ข้าจะให้เ้าได้เปิดหูเปิดตาวิชาตะวันกล้าเผาไหม้นภาของสำนักเหยียนหยางเรา เ้าสมควรตายตาหลับแล้ว”
โม่เส้าเยี่ยนเอ่ยอย่างหยิ่งผยอง ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
เซียวเฉินอึ้ง จากนั้นมองเสิ่นเล่ย ดวงตาฉายแววยิ้มแย้ม
“คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอสหายร่วมแนวที่นี่ เ้าคิดว่าระหว่างพวกเราใครร้ายกาจกว่ากัน?”
เสิ่นเล่ยกลอกตาใส่เซียวเฉิน นี่มันเวลาใดแล้ว เ้ายังมีอารมณ์มาล้อเล่นตรงนี้อีก จริงๆ เลย เสิ่นเล่ยเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย “เ้าจริงจังหน่อยได้หรือไม่” เอ่ยจบก็ไม่สนใจเซียวเฉินอีก เปลี่ยนไปมองร่างของโม่เส้าเยี่ยนที่อยู่ไม่ไกลนักแทน แววตาหนักใจปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“เป็เคล็ดวิชาระดับดินของสำนักเหยียนหยาง!”
“ท่าทางคนผู้นั้นต้องพ่ายแพ้แน่”
“...”
ในเวลาเดียวกับที่ทุกคนชี้มือชี้ไม้ไปที่การต่อสู้ของเซียวเฉินกับโม่เส้าเยี่ยน ก็มีเสียงหงสากังวานแหวกนภากว้าง จากนั้นทะเลเพลิงพวยพุ่งสู่ชั้นเมฆา ย้อมขอบฟ้าเป็สีแดงม่วงงดงาม เปลวเพลิงหงสาแฝงพลังเสวียน ก่อเกิดไม่สิ้นสุด มากมายไม่ดับสูญ
แค่ด้านสภาวะและรูปแบบการต่อสู้ก็กดทับโม่เส้าเยี่ยนแล้ว
เซียวเฉินทำเอาทุกคนใจนอ้าปากกว้างอีกครั้ง
“เป็ไปได้อย่างไร...”
ด้านหลังของเซียวเฉินมีหงสาสยายปีกขนห้าสีอาบเปลวเพลิงที่ลุกโชนอย่างต่อเนื่อง เซียวเฉินยิ้มกล่าว “เ้าเล่นอะไรไม่เล่น พานมาเล่นไฟกับข้า คงไม่รู้ว่าข้าเป็บุคคลระดับบรรพชนเื่เล่นไฟ” ว่าแล้วหงส์อัคคีก็โผบินสู่นภา เปลวเพลิงเผาไหม้อากาศจนมีเสียงปะทุ
“ประทับเทพหงสา!”
โม่เส้าเยี่ยนก็ใสุดขีดกับเปลวเพลิงอันน่าสะพรึงของเซียวเฉิน เพราะเขารู้สึกได้ว่าเปลวเพลิงด้านหลังของเซียวเฉินน่ากลัวอย่างยิ่ง แต่ใแค่ครู่เดียว ในไม่ช้าใบหน้าก็มีรอยยิ้มเหิมเกริมเข้ามาแทนที่
“เ้าโง่ นึกว่าเพลิงขนาดใหญ่แล้วจะชนะหรือ”
ว่าแล้วก็ใช้สองมือฟาดออก จากนั้นเปลวอัคคีก่อสายลมคลั่งกลายเป็ัตัวยาว
ัเพลิงว่ายเวียน เปลวเพลิงเผาไหม้ความว่างเปล่า ทรงพลานุภาพ
“ฝ่ามือัอัคคี”
ตูม!
ฟ้าว!
กี๊ซ!
เกิดเสียงดังสนั่น เสียงัคำรามและหงสาร่ำร้องดังปะปนกัน
เคล็ดวิชาของเซียวเฉินและโม่เส้าเยี่ยนพัวพันกันอย่างดุเดือด เกิดเสียงดังสนั่นไม่ขาดสาย อานุภาพแข็งแกร่งะเืคนรอบด้านจนพากันถอยหลัง แสงอันทรงพลังกลืนกินเซียวเฉินและโม่เส้าเยี่ยน ลำแสงเจิดจรัสทิ่มแทงั์ตาของทุกคน เสิ่นเล่ยที่อยู่ด้านข้างกลับปิดตามองไปยังสถานที่ซึ่งเซียวเฉินถูกลำแสงแข็งแกร่งกลืนกินตรงเบื้องหน้า
วิ้งวิ้ง!
“เซียวเฉิน...”
เสิ่นเล่ยมองข้างหน้าพลางพึมพำ ดวงตาฉายแววกังวล
สิบกว่าวินาทีต่อมา ลำแสงแข็งแกร่งเลือนหาย เผยให้เห็นคนทั้งสอง เซียวเฉินมีสีหน้าหนักใจ ส่วนโม่เส้าเยี่ยนเสียเปรียบเล็กน้อย แขนเสื้อมีร่องรอยถูกไฟไหม้ สีหน้าก็ไม่น่าดู คนนอกไม่รู้ มีเพียงตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้ว่ากระบวนท่าเมื่อครู่ของเซียวเฉินสร้างความเสียหายให้แก่เขา
น่าชังนัก อีกฝ่ายมีความเป็มาอย่างไรกันแน่ จึงแข็งแกร่งขนาดนี้!
เซียวเฉินยิ้ม “ตอนนี้รู้แล้วสินะว่าไฟของใครร้ายกาจกว่า”
โม่เส้าเยี่ยนมีสีหน้าปั้นยาก ถลึงตาใส่เซียวเฉินแล้วกล่าวว่า “เ้าสุนัขเหิมเกริม ข้าจะฆ่าเ้าเสีย!”