เริ่มทำตอนนี้ก็ยังไม่สาย?
เขาคิดจะทำอะไร?
สมองูเี่อันเริ่มสับสนไปหมดใบหน้าของลู่เป๋าเหยียนก็เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ถึงหนึ่งวินาทีให้หลังเธอก็จับเสื้อเขาและหลับตาลงโดยอัตโนมัติ
ทว่า ริมฝีปากอุ่นกลับไม่ประทับลงบนเรียวปากตามที่คิดมีเพียงเสียงหัวเราะแ่เบาที่ดังขึ้น
เธอลืมตาขึ้นมาสายตาปะทะกับั์ตาที่เต็มไปด้วยความขบขันของลู่เป๋าเหยียน
เป็ครั้งแรกที่เธอเห็นลู่เป๋าเหยียนหัวเราะอย่างไร้มาดแต่มันกลับเกิดขึ้นหลังจากที่เขาแกล้งเธอนี่สิ!
“คนบ้า!”
เธอดันเผลอทำท่าเหมือนกำลังรอคอยให้เขาจูบซะอย่างนั้นูเี่อันหน้าแดงก่ำอย่างเขินอาย ว่าแล้วจึงดิ้นขืนตัวให้หลุดออกจากวงแขนเขาแต่ทำยังไงลู่เป๋าเหยียนก็ไม่ยอมปล่อยเธอ
“อยู่นิ่งๆ”ลู่เป๋าเหยียนเอนศีรษะซบลงไปบนไหล่ของเธอ น้ำเสียงดูอ่อนล้า “วันนี้ฉันเหนื่อยมาทั้งวัน”
ูเี่อันคิดถึงคำพูดของเสิ่นเยว่ชวนในทันที
‘หายากนะที่จะเห็นเขาขมวดคิ้วเคร่งเครียดกับเื่งานแบบนี้’
เพื่อชดเชยสัญญาที่ล้มเหลวในครั้งนั้นเขาคงเหนื่อยมากสินะ
ไม่ว่าจะคิดอย่างไรที่เขาทิ้งสัญญามาก็เพื่อกลับมาหาเธอ เพราะฉะนั้นให้เขายืมไหล่สักพักคงไม่เป็ไรแต่ว่า...เขากอดเธอไว้แบบนี้จะพักได้อย่างสบายจริงเหรอ?
ูเี่อันนึกสงสัยจนกระทั่งรถได้จอดลงตรงหน้าโรงแรม
พนักงานรีบเดินมาช่วยเปิดประตูรถลู่เป๋าเหยียนลงจากรถด้วยอย่างสง่าและสูงศักดิ์เขาจูงมือูเี่อันเดินเข้าโรงแรม ใครก็คงนึกไม่ถึงว่าเมื่อครู่เขาคือคนที่นอนกอดพลางซบพิงไหล่เธออยู่บนรถ
ขณะเตรียมตัวเข้านอนลู่เป๋าเหยียนก็บอกกับูเี่อันว่า
“พรุ่งนี้เธอช่วยบอกกับสวี่โยว่หนิงทีว่าให้ไปหาเ้าของร้านได้เลย”
“เอ๋? เพื่อนนายตอบตกลงให้เธอไปเริ่มงานแล้วงั้นเหรอ”ทำไมไม่เห็นได้ยินลู่เป๋าเหยียนคุยโทรศัพท์กับมู่ซือเจวี๋ยเื่นี้เลย
“อืม”ลู่เป๋าเหยียนยกมุมปากยิ้มมองเธอ “ควรจะขอบคุณฉันหรือเปล่า”
“คนที่ควรจะขอบคุณนายคือสวี่โยว่หนิงมากกว่าไม่ใช่เหรอ”
ูเี่อันย้อนลู่เป๋าเหยียนไม่ได้ช่วยหางานให้เธอสักหน่อย แล้วทำไมเธอต้องขอบคุณเขาด้วยล่ะ
“เพราะเธอฉันถึงลงมือจัดการเื่นี้ด้วยตัวเอง” ลู่เป๋าเหยียนกล่าว“เธออยากให้สวี่โยว่หนิงได้งานที่ร้านฉันก็เลยช่วยทำให้ความปรารถนาของเธอเป็จริง”
ูเี่อันเริ่มเห็นด้วยกับคำพูดเขาจึงพยักหน้า
“ก็ได้ ขอบคุณนะ”
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตาลงอย่างไม่พอใจ“ไม่จริงใจเลย”
“...”ลู่เป๋าเหยียนยังจะเื่มากกับเธออีกเหรอเนี่ย?
คนที่ทำเหมือนจะจูบเธอแต่ก็ทิ้งเธอไว้กลางคันแบบนั้นต่างหากที่เรียกว่าไม่จริงใจ!
ความคิดแผลงๆ เริ่มผุดขึ้นมาในสมองูเี่อันจึงตัดสินใจว่า จะให้ลู่เป๋าเหยียนรู้ซึ้งถึง “ความจริงใจ” ของเธออย่างเต็มที่ว่าแล้วก็เขย่งเท้าขึ้น และจุ๊บปากเขาไปหนึ่งที
“ขอบคุณนะ”
ขอบคุณที่เขาช่วยเธอในยามคับขันขอบคุณที่เขารีบกลับมาหาเธอหลังจากเกิดเื่
ขอบคุณที่เขาทำให้เธอใจเต้นรัวขอบคุณที่เขาทำให้เธอรู้ว่าการชอบใครสักคนนั้นรู้สึกอย่างไร
หายากที่ลู่เป๋าเหยียนจะนิ่งอึ้งไปแบบนี้
เขาแค่ตั้งใจจะพูดแหยู่เี่อันเฉยๆนึกไม่ถึงว่าเธอจะให้ความจริงใจกับเขาขนาดนี้
ที่จริงตอนอยู่บนรถไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจูบเธอ แต่เพราะคนขับก็อยู่ด้วยเขากลัวว่าตัวเองจะห้ามใจไม่ไหวจนเผลอทำอะไรเกินเลย
แต่ว่าในตอนนี้...ไม่มีคนอื่นอยู่อีกแล้วแถมปีศาจน้อยก็ยังเปิดเกมรุกหาเขาแบบนี้...
“อื้อ...”
คราวนี้เป็ูเี่อันบางที่ตั้งตัวไม่ทันเธอถูกลู่เป๋าเหยียนรั้งตัวเขาสู่อ้อมกอด และเริ่มจูบเธออย่างเร่าร้อน
ริมฝีปากของเขาเหมือนมีเวทมนตร์ยามที่ได้ัั มันทำให้เธอลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งการขัดขืน
เธอเหมือนเหยื่ออันโอชะที่นายพรานอย่างลู่เป๋าเหยียนจับเอาไว้ได้ และไม่มีทางดิ้นหลุด
แต่ในความเป็จริงคนที่สูญเสียการควบคุมไปอย่างสิ้นเชิงคือ ลู่เป๋าเหยียน
เรียวปากของปีศาจน้อยหวานล้ำและนุ่มนวลดุจสายไหมรสชาติเยี่ยมเขาอยากจะกอดเธอไว้ และค่อยๆ ชิมลิ้มรสความอ่อนหวานของเธอทีละนิดไปตลอดชีวิต
แต่ปีศาจน้อยตัวเกร็งเกินไปแล้วลู่เป๋าเหยียนพูดเสียงต่ำ
“เด็กดี ทำตัวสบายๆ”
ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาที่รดลงมาทำให้สติขาดผึง ร่างกายของเธอเริ่มผ่อนคลายลงพลางโถมเข้าสู่อ้อมกอดของเขา
ปฏิกิริยาของเธอทำให้ลู่เป๋าเหยียนพอใจจนยิ้มออกมาเล็กน้อยเขาให้รางวัลเธอเป็จูบอันดูดดื่มพลางกอดรัดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิมูเี่อันไม่อาจต้านทานเขาได้อีกต่อไป
น้อยครั้งที่เธอจะยอมเชื่อฟังเขาลู่เป๋าเหยียนเริ่มอยากได้อะไรมากขึ้นกว่าที่เคย
เขาผละออกจากเรียวปากของเธออย่างนึกเสียดายพลางมองเธอนิ่งด้วยสายตาเหมือนยังคงอยู่ในภวังค์
“เจี่ยนอัน จูบฉัน”
สายตาของเขาช่างเย้ายวนูเี่อันมองลงไปในั์ตาสีนิลคู่นั้น ทั้งที่รู้ดีว่าไม่ควรแต่เธอก็ควบคุมตัวเองไว้ไม่ได้
เธอประทับเรียวปากบางลงบนริมฝีปากหนาของเขาพลางถึงภาพเวลาเขาจูบเธอว่าทำเช่นไร จากนั้นก็ค่อยๆ เลียนแบบทุกสิ่งอย่างจึงได้รู้ว่า มันเป็เื่ยากขนาดไหน
สำหรับลุ่เป๋าเหยียนถึงท่าทางของูเี่อันจะดูอ่อนหัด แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับน่าหลงใหลชวนลิ้มลอง
เขาหลับตาลงและเรียวปากบางอย่างอดใจไม่ไหว จูบของเขาหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งร่างกายและหัวใจของเขาต่างร้องเป็เสียงเดียวกันว่า
ยังไม่พอแบบนี้ยังไม่พอ เขายังอยากได้มากกว่านี้!
ูเี่อันถูกเขาจูบจนสติกระเจิดกระเจิงเธอรู้สึกเหมือนตนเองกำลังล่องลอยอยู่ในหมู่เมฆ ตัวเธอนอนทับอยู่บนปุยฝ้ายอ่อนนุ่มแต่บนตัวกลับหนักอึ้งไปด้วยรสััลมหายใจร้อนรุ่มของเขารดอยู่บนพวงแก้มเธอไม่ห่าง
ผ่านไปนานกว่าเธอจะรู้ตัวว่าเมฆอะไรกัน นี่มันฉากเดิมกับเมื่อวันก่อนชัดๆเธอถูกลู่เป๋าเหยียนคร่อมทับอยู่บนเตียงอีกแล้ว
เขาไม่ได้ป่าเถื่อนเหมือนเมื่อวันก่อนอีกต่อไปทุกการกระทำช่างอ่อนโยนและทะนุถนอม จนเธออดหลงใหลไปกับการกระทำเ่าั้ไม่ได้
เธอพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักเขาออกไป
“ลู่เป๋าเหยียนไม่ได้นะ...”
การแต่งงานของพวกเธอเป็แค่เื่ธุรกิจเธอจะปล่อยให้เื่แบบนี้...เกิดขึ้นไม่ได้ แถมตอนนี้เธอเองก็...ไม่สะดวก
ลู่เป๋าเหยียนรู้ดีว่าเธอไม่สะดวกแต่เธอเหมือนดอกฝิ่นที่สวยงามที่สุดในโลกแค่เพียงได้ััก็เสพติดจนถอนตัวไม่ขึ้น เื่ง่ายๆ อย่างการปล่อยเธอให้เป็อิสระเขากลับรู้สึกราวกับต้องใช้พลังมหาศาล
เขายิ่งจูบยิ่งดุดัน เขาส่งลิ้นเกี่ยวกระหวัดแลกความหวานกับูเี่อันอย่างเร่าร้อนราวกับจะสูบพลังของเธอไปให้หมดสิ้น จนูเี่อันขมวดคิ้ว
“เจ็บ...”
ลู่เป๋าเหยียนเหมือนคนเพิ่งตื่นออกจากฝันเขาพยายามควบคุมตัวเองและผละริมฝีปากออก จากนั้นจึงประทับจูบอ่อนโยนลงบนหน้าผากมน
“ฉันจะไปอาบน้ำ”
เสียงประตูห้องน้ำปิดลงูเี่อันนอนมองเพดานพลางนึกว่านี่เื่จริงหรือความฝัน
เธอยกมือััริมฝีปากอิ่มที่เริ่มบวมแดงและเจ็บนิดๆลมหายใจอุ่นละััอันเร่าร้อนของเขาที่เห็นกับตาเมื่อครู่ ทำให้เธอเชื่อแล้วว่านี่ไม่ใช่ความฝัน
ครั้งนี้ เขาจูบเธอส่วนเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ...
นี่มันหมายความว่าอย่างไรูเี่อันเองไม่กล้าคิดหาคำตอบ ว่าแล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงพยายามข่มตาหลับภายใต้ความมืด เธออยากจะให้ตัวเองสามารถหลับได้ในหนึ่งวินาทีจริงๆ
แต่เมื่อประตูห้องน้ำเปิดขึ้นอีกครั้งเธอก็ยังข่มตาหลับไม่สำเร็จ และเมื่อััได้ว่ามีคนล้มลงนอนที่ข้างกายเธอก็ตัวแข็งเป็หิน แม้แต่หายใจยังไม่กล้า
ลู่เป๋าเหยียนถอนหายใจเขาตลบผ้าห่มที่เธอยกขึ้นมาคลุมจนมิดหัวออกมา
“ตอนนี้เธอเหมือนกุ้งฝอยเลย”
ูเี่อันยอมให้เขาว่าเสียที่ไหนเธอพลิกตัวหันกลับมามองหน้าลู่เป๋าเหยียน
“นายต่างหากที่เป็กุ้งฝอย!”
พูดจบภาพเหตุการณ์เมื่อกี้ก็เริ่มฉายซ้ำในความคิดอีกครั้งหน้าของเธอแดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ จนทนไม่ไหว ต้องมุดตัวกลับเข้าใต้ผ้าห่มอีกรอบ
ลู่เป๋าเหยียนดึงเธอเขาสู่อ้อมกอดในทันทีและเมื่อเธอเริ่มดิ้นก็พูดขึ้นว่า
“อย่าดิ้นไม่งั้นเื่ที่เธอกำลังกลัว ฉันอาจจะทำมันลงไปจริงๆ ก็ได้”
คำพูดและน้ำเสียงอันคลุมเครือของเขาทำเอาูเี่อันใเธอจึงไม่กล้าดิ้นอีกต่อไป และนอนซุกอยู่บนแผงอกแกร่งอย่างเชื่อฟัง
ลู่เป๋าเหยียนลูบผมเธอแ่เบาอย่างพอใจ“นอนซะนะ”
ที่จริงูเี่อันอยากจะขัดขืนเขาเพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่ยอมแพ้ง่ายๆแต่อาจเป็เพราะอ้อมกอดของเขาที่มักทำให้เธอสบายใจ เธอจึงหลับไปหลังจากนั้นไม่นาน
เธอชอบนอนขดตัว ขนตางอนยาวที่ปรกลงมาบนเปลือกตาและลมหายใจที่แ่เบาเป็จังหวะทำให้เธอเหมือนเด็กน้อยที่กำลังหลงทางไม่มีผิด
นิ้วเรียวของลู่เป๋าเหยียนลากผ่านพวงแก้มของเธอถ้าเธอยังตื่นอยู่ละก็ คงได้เห็นแววตารักใคร่ทะนุถนอมของลู่เป๋าเหยียนในตอนนี้
คืนนี้เป็คืนทีู่เี่อันไม่ฝันร้ายอีกแล้ว
เป็คืนแรกหลังเกิดเหตุที่เธอนอนได้อย่างสงบสุข หลังตื่นขึ้นจึงรู้สึกสดชื่นกว่าทุกที
คราวนี้แม้ตนเองจะตกอยู่ในอ้อมกอดของลู่เป๋าเหยียนแต่เธอก็ไม่ใอีกแล้ว เธอยกมือของเขาขึ้น และลุกออกจากเตียงอย่างเงียบเชียบจากนั้นจึงล้างหน้าล้างตาและเดินออกจากห้องไป
เมื่อลู่เป๋าเหยียนตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบูเี่อันเขาเดินหาทั่วห้องรับแขกและห้องหนังสือแต่ก็ไม่พบเธอแม้แต่เงาในขณะที่กำลังจะเรียกให้พนักงานโรงแรมช่วยกันตามหาประตูห้องก็ถูกใครบางคนเปิดเข้ามา
เธอกลับมาแล้ว
เขาวางโทรศัพท์ลงพลางเดินขมวดคิ้วเข้าไปหา “แอบหนีไปไหนแต่เช้า”
น้ำเสียงที่ดูเหมือนจะต่อว่าแต่เจือความโล่งใจดังขึ้นูเี่อันมองชายตรงหน้าที่ผมเผ้าและชุดคลุมดูยุ่งเหยิงไปบ้าง พลางแย้มยิ้ม
“นายกำลังตามหาฉันเหรอ”
เธอยังจะยิ้มอีก?
ลู่เป๋าเหยียนดึงูเี่อันเข้ามาและปิดประตูดังปัง เขาหรี่ตามองเธออย่างข่มขู่หวังให้เธอใกลัว
แตู่เี่อันไม่กลัวสักนิดเธอส่งยิ้มดีใจกว่าเดิม และยกมือลูบหน้าเขา
“ฉันก็แค่ลงไปขอยืมห้องครัวของโรงแรมเพื่อต้มโจ๊กนายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวพนักงานก็คงเอาอาหารมาเสิร์ฟแล้วล่ะ”
พูดจบเธอก็เดินยิ้มๆ เข้าห้องนอนไป
ลู่เป๋าเหยียนเพิ่งหายอึ้งูเี่อันไม่เพียงไม่กลัวเขา แถมยังกล้าััเขาก่อน
ปีศาจน้อยของเขาเริ่มใจกล้าขึ้นบ้างแล้ว?
หลังมื้อเช้าลู่เป๋าเหยียนก็จัดการให้คนขับรถไปส่งูเี่อันที่บ้านคุณย่าสวี่ระหว่างทางูเี่อันก็ได้รับโทรศัพท์จากลั่วเสี่ยวซี
“ผู้จัดการจากหัวซิงติดต่อฉันมา!”ลั่วเสี่ยวซีพูดอย่างตื่นเต้นราวกับตัวเองโด่งดังเป็พลุแตกเป็ที่เรียบร้อย“ขอแค่ฉันผ่านสัมภาษณ์ ต่อด้วยอบรมอีกนิดหน่อย ก็จะได้เข้าวงการเต็มตัวแล้วล่ะ!”
“คุณลุงลั่วยอมแล้วงั้นเหรอ”ูเี่อันถาม
“แน่นอนว่าไม่แถมยังบอกอีกว่าจะส่งบอดี้การ์ดมาจับฉันกลับบ้าน” ลั่วเสี่ยวซีพูดอย่างหงุดหงิด“แต่ฉันไม่ยอมหรอก ครั้งนี้ฉันเอาจริงนะ ไม่เชื่อฉันเหรอ?”
ูเี่อันี้เีจะบ่น“เื่นี้เธอคงต้องถามตัวเองแล้วล่ะ ใช่สิ แล้วพวกเขาจะสัมภาษณ์อะไรเธอล่ะ”
“ยังไม่รู้เหมือนกัน”ลั่วเสี่ยวซีตอบ “แต่ว่าหัวซิงก็นับว่าเป็โมเดลลิ่งระดับต้นๆ ของวงการคงไม่ใช้วิธีประหลาดๆ หรอกมั้ง วางใจเถอะ ฉันจะระวังตัว ว่าแต่เธอกับบอสใหญ่อยู่เมือง G เป็ยังไงบ้าง”
ภาพเมื่อคืนเริ่มผุดขึ้นมาในความคิดของูเี่อันอีกครั้งเธอหน้าแดงพลางตอบช้ากว่าทุกที
“จะให้เป็ยังไงล่ะ...”
“ฮ่าๆๆ!”ลั่วเสี่ยวซีหัวเราะแบบมีเลศนัย “ต้องมีอะไรแน่ๆ พวกเธอแบบนั้นกันแล้วใช่ไหม? อย่างว่าพักโรงแรมด้วยกันนี่ยิ่งเกิดขึ้นง่ายนะ...”
“ยุ่งกับการสัมภาษณ์ของตัวเองเถอะ!”
ูเี่อันตัดสายในทันที
