ที่แย่ที่สุดก็คือจิตใจที่สงบนิ่งของจ้าวิเจี้ยน พลังที่อุตส่าห์รวบรวมขึ้นมาได้ กลับถูกเซียวหลิงอวิ๋นทำลายด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ทังอีกฝ่ายก็ยังฉวยโอกาสเปิดฉากโจมตีก่อนตอนที่เขายังไม่ทันตั้งตัวเพราะกำลังโกรธอีกด้วย พลังเสียไปแล้ว ยังไม่ทันได้ตั้งตัวอีก ต่อให้เป็อัจฉริยะอย่างจ้าวิเจี้ยน แต่เมื่อเผชิญกับวิชาดาบที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ก็ยังถึงกับมีเหงื่อกาฬไหลซึมออกมาทางหน้าผาก!
ในเวลานี้ เซียวหลิงอวิ๋นได้ใช้กลยุทธ์เดียวกันกับที่จ้าวิเจี้ยนใช้กับจางอวิ๋น โจมตีใส่ตัวจ้าวิเจี้ยนเสียเอง!
ให้เ้าของได้ลิ้มรสชาติยาของตนเองเสียบ้าง!
จ้าวิเจี้ยนที่เหงื่อไหลไคลย้อยกัดฟันแน่น ยกดาบน้ำใสฝ่าสายรุ้งอันคมกริบในมือขึ้นมา ฟาดฟันออกไปอย่างรุนแรง โดยใช้กลยุทธ์เดียวกับที่หยางลู่ใช้ในวันนั้น ทำให้อีกฝ่ายออกไปพ้นจากวงป้องกันเสียก่อน ไม่แสวงหาการทำร้ายศัตรู แต่ปกป้องตัวเองเป็อันดับแรก
อย่างไรเสีย ตัวเขาแค่ต้องรับดาบของเ้าหมอนี่ให้ได้สามดาบก็พอแล้ว!
เมื่อเผชิญกับการโจมตีของจ้าวิเจี้ยน เซียวหลิงอวิ๋นยกยิ้มมุมปาก ดาบใหญ่เหล็กดำในมือเขากลายเป็ดั่งอุกกาบาตจากนอกโลก ปลายดาบกดลงมาอย่างรวดเร็ว ในเสี้ยววินาทีต่อมาก็ฟาดลงไปยังปลายดาบของดาบน้ำใสฝ่าสายรุ้งของจ้าวิเจี้ยนที่ฟันเสยขึ้นมาจากด้านล่างอย่างแม่นยำ!
เปรี้ยง!
เสียงดาบปะทะกันอย่างชัดเจนดังสนั่น จ้าวิเจี้ยนรู้สึกราวกับดาบน้ำใสฝ่าสายรุ้งอันคมกริบในมือของเขากำลังถูกค้อนขนาดั์ทุบใส่อย่างรุนแรง! มือถูกกดลงไป ดาบในมือก็กดตามลงไปด้วย!
จ้าวิเจี้ยนร้องว่าแย่แล้วในใจ!
เซียวหลิงอวิ๋นใช้ประโยชน์จากการโจมตีที่ดูเหมือนเบาบาง แต่แท้จริงแล้วรุนแรงราวกับอุกกาบาตตก ทำให้ดาบใหญ่เหล็กดำในมือของเขากระเด็นขึ้น พุ่งเข้าหาลำคอของจ้าวิเจี้ยนราวกับงู!
สีหน้าของจ้าวิเจี้ยนเปลี่ยนไป การโจมตีของอีกฝ่ายทั้งแปลกประหลาดและรวดเร็วอย่างยิ่ง จนทำให้เขาไม่มีเวลาใช้ดาบยาวในมือป้องกันได้ทันเลย จ้าวิเจี้ยนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถอยหนีกลับออกไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง!
แต่เมื่อเขาถอยออกมา เซียวหลิงอวิ๋นก็ไม่ได้หยุดการโจมตีแต่อย่างใด ราวร่างกายกลายเป็ปุยฝ้าย ไล่ตามติดมาอย่างกระชั้นชิด ปลายดาบใหญ่เป็เหมือนคันธนูที่ถูกง้างตลอดเวลา เล็งไปที่คอหอยของจ้าวิเจี้ยน โดยที่กระบวนท่าทั้งหมดคงความโค้งเอาไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ!
ยังคงอยู่ในดาบที่สอง! เพียงแต่ความยาวและเวลาของดาบที่สองนี้ถูกยืดขยายออกไปในแบบที่ผู้คนคาดไม่ถึง!
ราวกับถูกหนามจ่อคอหอย แสงที่เปล่งออกมาจากปลายดาบทำให้จ้าวิเจี้ยนรู้สึกหวาดกลัวมาก หากตัวเขาล่าถอยช้าลงไปแม้แต่น้อย ปลายดาบนี้ก็จะแทงทะลุลำคอของเขาอย่างไม่ลังเล!
จ้าวิเจี้ยนที่กำลังหวาดกลัวคำรามเสียงดัง ในขณะที่กำลังถอยหลังอย่างรวดเร็วอยู่นี้ พลังปราณในกายไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง ดาบยาวในมือฟันเสยขึ้นจากล่างอย่างรุนแรง ในเวลานี้เขาคิดได้แค่เพียงอย่างเดียว คือการทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อเบี่ยงปลายดาบที่เหมือนหนามจ่อคอหอยของเขาให้ออกไปอย่างรวดเร็วที่สุด!
รอยยิ้มเย็นะเืปรากฏขึ้นที่มุมปากของเซียวหลิงอวิ๋น!
อีกฝ่ายติดกับแล้ว ปฏิกิริยาของจ้าวิเจี้ยนตรงกับที่เขาคิดเอาไว้ทุกประการ!
ในเสี้ยววินาทีก่อนที่ดาบยาวของอีกฝ่ายจะฟันกับดาบใหญ่ในมือเขา เซียวหลิงอวิ๋นก็คลายนิ้วทั้งห้าที่กำดาบใหญ่ออกทันที!
“แกร๊ง!” เสียงของดาบที่ปะทะกันดังขึ้นอย่างชัดเจน ดาบใหญ่เหล็กดำก็กระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศ!
จ้าวิเจี้ยนรู้สึกได้เพียงว่าดาบที่เขาฟันออกไปเต็มแรงนั้นไร้ซึ่งสิ่งกีดขวางใดๆ เลย ฟันดาบใหญ่ของอีกฝ่ายจนกระเด็นออกไปทันที ด้วยการใช้พลังเต็มแรงนี้ ทำให้แขนทั้งสองข้างและดาบยาวของเขายกสูงขึ้นด้วยแรงเฉื่อย!
หน้าอกและหน้าท้องเปิดโล่ง!
แย่แล้ว เราติดกับแล้ว!
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของจ้าวิเจี้ยน เซียวหลิงอวิ๋นที่รวดเร็วเหมือนดั่งสายลมพุ่งเข้ามาปานสายฟ้าแลบ หมัดของเขาก็เหมือนดั่งฟ้าร้อง “เปรี้ยงๆๆ” หมัดอันหนักหน่วงสามหมัดผสานเข้ากับพลังปราณอันบริสุทธิ์ กระแทกเข้าที่หน้าอกและท้องของจ้าวิเจี้ยนที่เปิดโล่ง!
เสียงของหมัดกระแทกเข้ากับเนื้อหนังดังก้องไปทั่วทั้งสนามประลอง!
เสียงของกระดูกหน้าอกที่แตกหักจากการกระแทกอย่างรุนแรงทำให้ตัวของจ้าวิเจี้ยนราวกับผ้าขี้ริ้วที่ถูกจับโยนสะบัด ตัวของเขาลอยพุ่งขึ้นฟ้า ะเืที่พุ่งออกมาจากจมูกและปากก็ร่วงหล่นลงมาราวกับเกล็ดหิมะ!
สองร่างพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จ้าวิเจี้ยนจะลงถึงพื้น พวกเขาก็รับเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที พวกเขาคืออาจารย์พยาบาลสองคนที่รับหน้าที่คอยช่วยเหลือฉุกเฉินอยู่ที่ขอบสนาม!
ทันทีที่รับเอาไว้ได้ ใบหน้าของอาจารย์พยาบาลทั้งสองก็เปลี่ยนไป พลังปราณภายในกายของจ้าวิเจี้ยนเป็เหมือนกับเหมือนฝูงปลาที่กำลังแตกตื่นเมื่อเจอฉลามขนาดั์ พากันหนีกระจัดกระจายไปทั่ว! ใบหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ เืไหลออกมาจากทั้งทางจมูกและปาก เมื่อจับชีพจรที่ข้อมือของจ้าวิเจี้ยนแล้ว อาจารย์พยาบาลก็รู้สึกใจหายทันที เส้นลมปราณทั่วร่างกายของจ้าวิเจี้ยนถูกพลังปราณกระจัดกระจายนี้ทำให้เละเทะไปหมด ไม่มีเส้นใดที่เชื่อมติดกันเลย หากขาดสักสองสามท่อนยังพอว่า แต่นี่กลับแหลกละเอียดเสียเกือบครึ่งหนึ่ง!
เส้นเอ็นทั่วร่างกายก็ถูกทำลายทั้งหมด อาการาเ็ที่รุนแรงเช่นนี้ อย่าว่าแต่พวกเขาเลย ต่อให้เป็ชื่อถิงเทียนและจ้าวเหวินจัวที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ิญญา ก็ยังไม่สามารถสร้างเส้นเอ็นให้เขาขึ้นใหม่ได้!
เ้าหนุ่มคนนี้ช่างโเี้เสียจริง!
อาจารย์พยาบาลสองคนมองไปที่เซียวหลิงอวิ๋นซึ่งยืนอยู่บนเวทีพร้อมกัน ถอนหายใจเงียบๆ แล้วอุ้มจ้าวิเจี้ยนออกไปอย่างรวดเร็ว! อย่างไรก็รักษาชีวิตของเขาไว้ก่อน! สำหรับอาการาเ็ที่รุนแรงเช่นนี้ หาก้ารักษาให้หายขาด เว้นแต่จะมีเม็ดยาที่เป็สมบัติลับ์ หรือผู้ที่แข็งแกร่งในระดับปรมาจารย์ิญญาระดับสูงเป็คนลงมือเท่านั้น แต่ด้วยราคาที่สูงลิบลิ่ว ทำให้อาจารย์พยาบาลทั้งสองคนรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งหัวใจเพียงแค่คิดถึงมัน
...
อัจฉริยะเช่นจ้าวิเจี้ยนยังไม่สามารถผ่านสามกระบวนท่าของเซียวหลิงอวิ๋นไปได้ แม้ว่ากระบวนท่าที่สามของเซียวหลิงอวิ๋นจะไม่ใช้ดาบแต่เป็การใช้หมัดแทน ความจริงที่ว่าจ้าวิเจี้ยนได้พ่ายแพ้ไปในกระบวนท่าที่สามนั้นเป็เื่ที่เถียงไม่ได้ ไม่ใช่การพ่ายแพ้ธรรมดา แต่เป็การพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ดูจากการพ่นเืออกมา เหมือนกับถูกทำลายล้างก็มิปาน!
ภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนของเซียวหลิงอวิ๋นในหลายๆ รอบก่อนหน้านี้ถูกพลิกคว่ำลงอย่างสิ้นเชิง แต่เมื่อนึกถึงความแค้นระหว่างทั้งสองแล้ว คนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกโล่งใจ หากเปลี่ยนเป็ตนเองแล้ว หากเจออีกฝ่ายมาแย่งคู่หมั้นไปเช่นนี้ และบังเอิญว่าความแข็งแกร่งของตัวเองก็สูงกว่าอีกฝ่าย แน่นอนว่าจะต้องอยากทำให้อีกฝ่ายทั้งเ็ปและทรมานอย่างที่สุด! นี่ยังดีที่ทำให้อีกฝ่ายแค่กระอักเื หากเปลี่ยนเป็ตนเองแล้วอาจจะฆ่าอีกฝ่ายในทันทีเลยก็ได้ หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องตัดมือหรือขาของอีกฝ่ายออกเสียก่อนเพื่อระบายความแค้น!
...
“ผู้ชายคนนี้ช่างเหี้ยมโหดกับศัตรูของตัวเองจริงๆ จ้าวิเจี้ยนหมดสภาพแล้ว!” จ้าวหนีอิ่งถอนหายใจออกมาเงียบๆ! ดวงตาที่งดงามของนางเหลือบมองไปยังใบหน้าที่สงบเยือกเย็นของเซียวหลิงอวิ๋นที่เดินลงจากเวทีประลองไป “แม้เ้าจะรู้สึกดี แต่ตระกูลจ้าวไม่ยอมปล่อยเ้าไปแน่ จ้าวิเจี้ยนไม่ได้เป็เพียงลูกหลานสายตรงของตระกูลจ้าวเท่านั้น เขายังเป็หนึ่งในหลานชายคนโปรดของผู้นำตระกูลจ้าวอีกด้วย เป็อัจฉริยะที่แบกรับความหวังของตระกูลจ้าวเอาไว้ ผู้คนของตระกูลจ้าวอยู่ในสำนักมากมาย แต่ไม่ต้องห่วง ข้าและศิษย์พี่หรูเยียนจะช่วยเ้าจัดการเอง ใครใช้ให้พวกเราสองคนติดค้างหนี้บุญคุณเ้ามากมายขนาดนั้นล่ะ!”
สองรอบต่อมาไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นนัก ศิษย์ที่มีความแข็งแกร่งเหนือกว่าย่อมชนะไป และในรอบที่สี่นี้มีการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นและเป็ที่จับตามองอยู่!
ดาบโลหิตเยี่ยเฟิง พบกับเทพธิดาหยางลู่!
ทั้งสองคนนี้ คนหนึ่งเป็อัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับว่าเป็รองแค่เซียวหลิงอวิ๋นเท่านั้นในบรรดาลูกศิษย์ระดับกลางของเขตใต้ ส่วนอีกคนหนึ่งคือหญิงงามอันดับหนึ่ง ครองบัลลังก์เทพธิดาในหมู่ศิษย์หญิงระดับกลางของเขตใต้!
