นั่นสินะ
เขามีหรือจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วหานซิงพูดถูก
“ท่านผู้บัญชาการ ต่อให้ไม่มีท่าน ท่านพ่อบุญธรรมก็จะจับตามองหลินหวั่นชิวอยู่ดี ขอแค่นางเป็บุตรสาวที่ถูกส่งตัวไปเลี้ยงที่อื่นของตระกูลหลิน นางก็ไม่มีวัน…หนีรอดจากชะตานี้” หานซิงพูดต่อ
เขามองตู้ซิวจู๋ ดวงตาที่เป็กังวลเต็มไปด้วยความเสียใจ
หากไม่มีหลินหวั่นชิว…พี่สิบเอ็ดของเขา ผู้บัญชาการของเขา จะกลายเป็คนยึดติดกับความสัมพันธ์ระหว่างบุรุษสตรีเช่นนี้หรือ
การที่ตู้ซิวจู๋เป็เช่นนี้…จะนำความตายมาสู่ตัว
คนของหน่วยเหยี่ยวทมิฬ ลูกบุญธรรมของพ่อบุญธรรม จะมีความรู้สึกได้เยี่ยงไร?
หากไม่ใช่เพราะกลัวทำแผนของท่านพ่อบุญธรรมเสียหายจนผู้บัญชาการเดือดร้อน เขาคงฆ่าสตรีนางนั้นเป็แน่ ช่วยผู้บัญชาการกำจัดหินขวางทางก้อนนี้
“ท่านพ่อบุญธรรมให้ข้าปกป้องนาง” ตู้ซิวจู๋กล่าวอย่างสิ้นหวัง
ปกป้องนางเพราะภารกิจกับปกป้องนางเพราะอยากทำเองเป็คนละเื่โดยสิ้นเชิง
ตู้ซิวจู๋ไม่เคยเกลียดชังตัวตนของตัวเองมากเท่านี้มาก่อน ตัวตนที่เขาเคยร้องขอเพื่อให้ได้มา
“ผู้บัญชาการ…” กระไรที่ควรพูด หานซิงก็พูดหมดแล้ว ไม่รู้ควรเกลี้ยกล่อมอย่างไรอีก
“หากเ้ายังเห็นข้าเป็พี่น้อง…” ตู้ซิวจู๋ชำเลืองตามองหานซิงเย็นๆ “ครั้งหน้าที่เ้ากล้าตัดสินใจโดยพลการเช่นนี้อีก…เ้ากับข้าจะเป็ศัตรูกัน!”
“ขอรับ…” หานซิงขานตอบ ทว่าในใจไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก
ตู้ซิวจู๋นั่งลง เขาปัดเสื้อคลุม “ท่านพ่อบุญธรรมคงจะส่งคนไปหย่าโจวแล้วใช่หรือไม่?”
หานซิงตอบ “ขอรับ ส่งเ้าเจ็ดไป”
ตู้ซิวจู๋ “ส่งคนไปจับตาดูเ้าเจ็ด จับตาดูคนบ้านใต้เท้าหลินเช่นกัน ข้าจะไม่ยอมเป็คนตาบอด”
หานซิง “ขอรับ!”
เหลียงหู่ออกจากบ่อนประจำอำเภอโดยสมบูรณ์ เจียงหงหย่วนรับ่เป็ผู้คุมบ่อนซิงหลงอย่างเป็ทางการ
นอกจากคนส่วนน้อยที่รู้เื่ คนอื่นๆ ต่างตื่นใกันหมด
โดยเฉพาะคนที่สนิทกับปาหลีว์จื่อ แต่ละคนแทบจะอ้าปากค้างจนกรามหลุด
มารดามันเถิด สมแล้วที่ปาหลีว์จื่อต้องตาย
งัดข้อกับผู้คุมบ่อนคนใหม่ ทั้งยังวางกับดักใส่ ผู้ใดจะตายหากไม่ใช่เขา
คนเหล่านี้พยายามนึกย้อนว่าเคยล่วงเกินเจียงหงหย่วนหรือไม่ ส่วนคนที่เมื่อก่อนเคยกอดไหล่เรียกเจียงหงหย่วนว่าสหายต่างพากันสำรวมตัว กลายเป็เจียงหงหย่วนเสียเองที่ทำตัวเหมือนเดิม ไม่ได้วางมาดใหญ่โต
ทำให้คนกลุ่มนี้เบาใจลงมาก
เลยวันที่สิบห้า บ่อนไพ่นกกระจอกก็เปิดทำการเช่นกัน
วิธีการเล่นแปลกใหม่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนไม่น้อย เนื่องจากจะเล่นมากหรือน้อยก็ได้ ควบคุมจำนวนการคูณเมื่อชนะหรือแพ้ อัตราการสูญเงินทั้งหมดในคืนเดียวจึงน้อยมาก
หลายคนที่ไม่มีสิ่งใดทำต่างเต็มใจเล่น ทางบ่อนจัดหาสุรามาให้ เล่นจบแล้วผู้ใดเป็ผู้ชนะต้องจ่ายค่าสุราเลี้ยงทั้งโต๊ะ ดังนั้นไม่ว่าผู้ใดแพ้ผู้ใดชนะ คนที่ได้เงินก็คือบ่อนไพ่นกกระจอกอยู่ดี
เสียงไพ่นกกระจอกกระทบกันดังขึ้นทั่วทุกมุม
ไพ่นกกระจอกกลายเป็ที่นิยมอย่างรวดเร็ว หลินหวั่นชิวสบโอกาสทำไพ่นกกระจอกจากหยกและหินหมาเหน่าไปขายที่ร้านเครื่องเงิน ไพ่ทุกชุดมีผ้าปูรองแถมให้
รอบนี้นางไม่ได้ไปร้านจวี้ฝู แต่ไปร้านเฟิ่งไหล
เถ้าแก่ร้านเฟิ่งไหลต้อนรับนางอย่างกระตือรือร้น ราคาที่ให้ก็สมเหตุสมผล หลินหวั่นชิวนำเงินที่ได้ไปแลกเป็เครื่องประดับที่ทำโดยช่างฝีมือาุโจากร้านเฟิ่งไหลก่อนที่จะนำไปขายต่อในเสียนอวี๋
นางยากจน คัมภีร์วิชาสองชุดทำเอาเงินเก็บนางหายเกลี้ยง
ไพ่นกกระจอกขายได้แค่่นี้ เพราะผ่านไปอีกสักพัก ร้านเครื่องประดับหรือร้านค้าต่างๆ ต้องออกไพ่นกกระจอกที่ทำจากวัสดุนานาชนิดมาขายเป็แน่ ถึงเวลานั้น นางคงขายไม่ได้ราคาอีก
ส่วนบ่อนไพ่นกกระจอก นางไม่เป็ห่วงว่าวันหน้าที่อื่นเปิดแล้วจะทำให้บ่อนซิงหลงทำเงินไม่ได้อีก ประการแรก บ่อนซิงหลงเป็ที่แรกที่เปิด ดังนั้นแม้ที่อื่นจะเปิดมากกี่แห่งย่อมไม่ส่งผลกระทบกับธุรกิจของพวกเขา
อีกประการคือ ไม่ใช่ผู้ใดอยากเปิดบ่อนไพ่นกกระจอกก็เปิดได้ บ่อนซิงหลงมีความเกี่ยวโยงลึกซึ้งกับหน่วยงานราชการ นอกเสียจากว่าคนเื้ัเ้าจะแข็งแกร่งพอให้งัดข้อกับคนเื้ับ่อนซิงหลงได้ มิเช่นนั้นการที่คนธรรมดาจะเปิดบ่อน แค่ด่านแรกที่เจอหน่วยงานราชการก็ผ่านไปไม่ได้แล้ว บวกกับมีอันธพาลท้องถิ่นมาก่อกวน เลิกล้มความคิดไปได้เลย
หุ้นหนึ่งส่วน หลินหวั่นชิวแค่นึกถึงก็มีความสุขแล้ว แต่ละท้องที่มีบ่อนไพ่นกกระจอกหลายแห่ง หักค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต่างๆ ออก หนึ่งปีน่าจะได้อย่างน้อยหมื่นตำลึงกระมัง
มีความสุข
หลินหวั่นชิววางแผนไว้แล้ว ขอเพียงเ้าของบ่อนซิงหลงพูดคำไหนคำนั้น นางก็ยินดีนำไพ่ป๊อกออกมา
หาเงิน หาเงิน
ก่อนหน้านี้นางลองเข้าไปดูตลาดซื้อขายของหมวดกำลังภายในบนเสียนอวี๋ พวกขี้ผึ้งหยกดำเชื่อมเส้นเอ็นกระดูก โอสถต้าหวน โอสถเสี่ยวหวน แต่ละอย่างล้วนราคาแพงหูฉี่
มีลูกที่ล้างผลาญพ่อแม่หลายคนนำตำรับโอสถออกมาขาย ระบบกำหนดราคาที่หนึ่งล้านเป็อย่างต่ำ
มารดามันเถิด หนึ่งล้านนะ ไม่ใช่หนึ่งร้อย!
หลินหวั่นชิวััได้ถึงเจตนาร้ายจากระบบเสียนอวี๋ ทุกครั้งที่นางได้ใจเพราะเริ่มมีเงิน เสียนอวี๋จะเยาะเย้ยความยากจนของนางด้วยวิธีเช่นนี้
นางทดไว้ในใจ จดชื่อโอสถรักษาแผล โอสถเม็ด รวมถึงสรรพคุณออกมาและส่งให้เจียงหงป๋อดู เขากำลังศึกษาวิชาแพทย์ ให้ดูว่าท่านอาจารย์รู้จักโอสถพวกนี้หรือมีเทียบโอสถนี้หรือไม่ หากมี นางจะได้ไม่ต้องซื้อ
หากไม่มี…เช่นนั้นต้องพยายามหาเงินมาซื้อ
จะทำกระไรได้เล่า?
ลำพังแค่งานที่สามีนางทำ การาเ็เป็เื่ที่เลี่ยงยาก หากมีโอสถดี นางย่อมต้องเตรียมไว้
หาเงินอีกแล้ว…
ช่างเป็เื่เร่งด่วนเสียจริง
“ไท่ไท่ คุณชายตู้ส่งคนมาพบเ้าค่ะ”
ป้าสวีพาทังหยวนกับคนท่าทางเหมือนผู้ดูแลมารออยู่ที่ลานบ้าน
หลินหวั่นชิวเดินออกจากห้อง ทังหยวนกับผู้ดูแลทำความเคารพให้นาง
ทังหยวนแนะนำตัว “เถ้าแก่หลิน ท่านนี้คือเถ้าแก่ซย่า ธุระทั้งหมดในชิงอี้จวีมอบให้เถ้าแก่ซย่าจัดการขอรับ”
เถ้าแก่ซย่าประสานมือทำความเคารพหลินหวั่นชิว “เถ้าแก่หลิน วันพรุ่งข้าจะเดินทางไปหัวเมือง ไม่ทราบว่าคนทางนี้เตรียมการพร้อมหรือยังขอรับ?”
หลินหวั่นชิวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เรียบร้อยแล้ว พวกเขารอท่านอยู่ที่ประตูเมือง…” นางมอบชื่อและภาพของสองพี่น้องบ้านหวางให้เถ้าแก่ซย่า เถ้าแก่ซย่าดูภาพแล้วชื่นชมหลินหวั่นชิวในใจ ภาพวาดนี้เยี่ยมยอดมาก เถ้าแก่หลินคิดได้รอบคอบ ไม่แปลกเลยที่นายน้อยพวกเขาอยากร่วมทำธุรกิจกับนาง
เขาเคยเห็นหนังสือภาพของอันอี้จวีเช่นกัน หนังสือภาพพวกนั้นไม่ใช่แค่มีฝีมือการวาดที่ดี แต่ยังแปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใด ไม่แปลกเลยที่บรรดาคุณหนูไท่ไท่จะอยากซื้อ
“ไว้เตรียมร้านใกล้เสร็จแล้วค่อยส่งคนมารับสินค้า ข้ามีสินค้าสำหรับร้านในเครือหลายแห่งเตรียมไว้อยู่” หลินหวั่นชิวเสริมเพิ่มอีกหนึ่งประโยค
เถ้าแก่ซย่ายิ้ม “เช่นนั้นคงต้องขอบคุณท่านมาก วันหน้าคงต้องรบกวนเถ้าแก่หลินแล้ว…ข้าขอตัวลา”
ส่งเถ้าแก่ซย่าจากไป ทังหยวนยังไม่กลับ หลินหวั่นชิวถามเขาว่า “่นี้คุณชายพวกเ้างานยุ่งหรือ? เขาไม่เป็กระไรใช่หรือไม่? ไม่ได้ป่วยใช่หรือไม่?”
ั้แ่ที่นางรู้จักตู้ซิวจู๋ หากนัดหมายกับนางก็ไม่เคยผิดนัดมาก่อน
วันนั้นเขาไม่มาตามนัด หลินหวั่นชิวค่อนข้างเป็ห่วง
ส่งคนไปถามที่คฤหาสน์ตู้ที่อำเภอแต่ไม่ได้คำตอบใด คนเฝ้าประตูบอกแค่ว่าคุณชายพวกเขาไม่อยู่
ทังหยวนเห็นหลินหวั่นชิวเป็ห่วงคุณชายตัวเองก็ยิ้มหน้าบาน “่นี้คุณชายยุ่งมากขอรับ คุณชายบอกว่าหากมีเวลาเมื่อไรจะมาไถ่โทษท่านเป็แน่”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้