หลงอวี้ได้ยินคำพูดของศิษย์น้องฉิน ก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
แย่งเน่ยตานไป?
ช่วยแย่งกลับให้นาง?
ศิษย์น้องฉินผู้นี้ช่างน่าขันเสียจริง หากเมื่อครู่นี้ไม่ได้หลงอวี้ช่วยไว้ นางคงถูกราชันอสรพิษเวหาฆ่าไปนานแล้ว จะมีโอกาสมาชี้นิ้วปรักปรำคนแบบนี้หรือ?
บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่คิดตอบแทนก็ช่าง แต่นี่กลับจะให้คนอื่นมาแย่งชิงของในมือหลงอวี้ไปอีก!
“ทำคุณบูชาโทษอย่างนั้นหรือ?”
หลงอวี้คิดในใจ สังเกตชายหนุ่มชุดดำและศิษย์น้องฉินอย่างละเอียด ถึงได้รู้สึกว่าสองคนนี้ดูคุ้นตา
พอรู้ว่าทั้งสองมีแซ่ฉินเหมือนกัน หลงอวี้ก็นึกออกทันที
เมืองอวี้กวน ตระกูลฉิน
ที่แท้ก็เป็ฉินหยงเอ๋อร์และฉินเทียนเชวี่ยนี่เอง สองพี่น้องนี่ก็เข้าร่วมลัทธิสยบฟ้าด้วย ฉินเทียนเชวี่ยปีนี้อายุประมาณยี่สิบต้นๆ เท่านั้น ทว่ากลับสามารถก้าวไปถึงวิถียุทธ์ขั้นเจ็ดได้แล้ว
วิถียุทธ์ขั้นเจ็ดนั้นสามารถปล่อยลมปราณออกมาสู่ภายนอกได้ ถ้าดูจากพลังต่อสู้ หลงอวี้ที่เพิ่งจะก้าวถึงวรยุทธ์ขั้นห้าย่อมไม่มีทางเป็คู่ต่อสู้ได้แน่
หากเพียงหลงอวี้มีเวลาดูดกลืนเน่ยตานของราชันอสรพิษเวหาในมือละก็ เขาจะก้าวสู่วิถียุทธ์ขั้นหกได้ เช่นนั้นเขายังพอมีโอกาส...
ชายหนุ่มชุดดำฉินเทียนเชวี่ยมีแววตาหยิ่งผยอง มองหลงอวี้ด้วยสายตาดูแคลน กล่าวขึ้นอย่างเฉยชา
. “ข้าเป็ลูกศิษย์ระดับสูงของลัทธิสยบฟ้า ฉินเทียนเชวี่ย หากเ้ารู้จักละก็ จงส่งเน่ยตานของราชันอสรพิษเวหามา จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว”
“ล้อเล่นอะไร ข้าเป็คนสังหารมัน อีกทั้งยังช่วยชีวิตน้องเ้าไว้ด้วย ทำไมข้าต้องส่งเน่ยตานให้เล่า”
หลงอวี้หัวเราะเบาๆ อย่างเย้ยหยัน
“ฮ่าๆๆ! ช่างน่าขันจริงๆ!”
ฉินเทียนเชวี่ยหัวเราะ
. “เ้ามันแค่ไอ้กระจอกที่มีวิถียุทธ์เพียงขั้นห้า จะมีปัญญาฆ่าราชันอสรพิษเวหาที่แข็งแกร่งเทียบเท่าขั้นเจ็ดได้อย่างไร? เ้าต้องใช้วิธีต่ำช้าแย่งไปจากน้องสาวของข้าเป็แน่!”
พอได้ยินคำพูดไร้ยางอายของอีกฝ่าย แววตาของหลงอวี้พลันกลายเป็เ็า
เขามองไปทางศิษย์น้องฉิน ซึ่งฉินหยงเอ๋อร์ก็ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย ดวงตาคู่งามของนางจับจ้องเน่ยตานเพียงอย่างเดียว
หากได้เน่ยตานมานางก็จะสามารถยกระดับขึ้นสู่วิถียุทธ์ขั้นหกได้ และจะได้เข้าป่าโสมโบราณของราชวงศ์ในอีกครึ่งเดือนหลังจากนี้!
โอกาสแบบนี้นางไม่มีวันปล่อยไปแน่ ต่อให้ต้องแทงหลังผู้มีพระคุณนางก็ยอม อีกทั้งบริเวณนี้ก็ไม่มีคนอื่นอยู่ ไม่มีใครรู้เื่ที่พวกนางทำแน่นอน!
ดังนั้นแววตาของนางจึงไม่มีความรู้สึกผิดแม้แต่น้อย มีแต่ความโลภและความคาดหวัง
“หยงเอ๋อร์ วางใจเถิด ข้าจะชิงเน่ยตานกลับมาให้เ้าเอง”
ฉินเทียนเชวี่ยมองฉินหยงเอ๋อร์อย่างเอ็นดู จากนั้นหันมามองหลงอวี้ด้วยแววตาเย้ยหยัน
“อย่างไร จะให้ข้าลงมือให้ได้ใช่ไหม?”
“ศิษย์พี่ไม่ต้องเสียเวลาลงมือหรอก เน่ยตานชิ้นนี้ ข้ายกให้ก็ได้”
หลงอวี้กล่าวขึ้นอย่างเ็า จากนั้นชูมือขึ้น ทำท่าจะโยนเน่ยตานไปให้ฉินเทียนเชวี่ย
“ฉลาดดีนี่”
ฉินหยงเอ๋อร์เชิดหน้าขึ้น เหมือนจะเห็นภาพที่หลงอวี้โยนเน่ยตานให้ จากนั้นก็ถูกพี่ชายของนางฆ่าตาย พวกนางไม่มีทางเปิดโอกาสให้หลงอวี้เอาเื่นี้ไปบอกผู้อื่นอยู่แล้ว!
แต่วินาทีต่อมา หลงอวี้ได้โยนของออกไป ทว่าสิ่งนั้นกลับไม่ใช่เน่ยตาน!
สิ่งที่เขาโยนออกไปนั้น เป็เถาวัลย์ที่เต็มไปด้วยหนามหลายเส้น โยนออกไปตรงจุดที่ฉินเทียนเชวี่ยอยู่ จากนั้นตัวเขาก็ได้ใช้ท่าวายุก้าวพริบตา กลายเป็สายลมแ่เบาสายหนึ่ง หันหลังวิ่งหนีไปทันที!
“เ้ารนหาที่เองนะ!”
ฉินเทียนเชวี่ยเห็นดังนั้น สีหน้าได้ใจก็พลันเ็าลง เพียงสะบัดมือออกไป ลมปราณสีเขียวหลายสายได้ถูกอัดแน่นเป็คมมีดวายุพุ่งออกไป ตัดเถาวัลย์ขาดสะบั้นกลางอากาศ
จากนั้นเขาก็ใช้วิชาท่าร่างไล่ตามหลงอวี้ไปอย่างรวดเร็ว!
“พี่ชาย ท่านต้องแย่งเน่ยตานกลับมาให้ได้นะ!”
ฉินหยงเอ๋อร์ะโอย่างอำมหิต
“หยงเอ๋อร์เ้าวางใจเถิด!”
ฉินเทียนเชวี่ยพูดพลาง โคจรลมปราณไปพลาง ใช้วิชาท่าร่างที่สำเร็จขั้นสูงสุดออกมา รวดเร็วกว่าหลงอวี้เสียอีก!
ท่าร่างที่เขาใช้ เป็วิทยายุทธ์ขั้นกลางของตระกูลฉิน ผลลัพธ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าวายุก้าวพริบตาเลย เพียงครึ่งก้านธูประยะห่างระหว่างทั้งสองก็ลดลงจนอยู่ใกล้กัน
หลงอวี้ที่ฉวยโอกาสหนีตอนที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวสามารถฉีกห่างออกมาได้ไกลถึงยี่สิบสามสิบจ้าง แต่ไม่นาน ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ลดลงเหลือไม่ถึงสิบจ้าง
สิบจ้างเป็ระยะที่ไกลที่สุดที่ฉินเทียนเชวี่ยสามารถซัดพลังลมปราณออกไปได้!
“วายุปราณทะลวง!”
ฉินเทียนเชวี่ยเข้าใกล้ได้แล้วก็สะบัดมือข้างหนึ่งออกไป คลื่นพลังลมปราณสีเขียวทรงพลังอัดแน่นเป็คมมีดวายุอีกครั้ง และพุ่งใส่หลงอวี้ที่กำลังหนีอยู่ทันที
“วายุก้าวพริบตา!”
เมื่อครู่หลงอวี้ได้ยื้อเวลาไว้ ในที่สุดก็สามารถออกวิชาวายุก้าวพริบตาได้อีกครั้ง
พอััถึงวิชาวายุปราณทะลวงของฉินเทียนเชวี่ยที่ใกล้เข้ามาได้ เขาก็รวบรวมลมปราณ เปลี่ยนร่างกายให้เบาบางดุจสายลม เพียงก้าวเดียวก็เคลื่อนตัวออกไปได้สามจ้าง!
“แค่วายุก้าวพริบตาที่สำเร็จเพียงขั้นสูงของเ้า คิดว่าจะหนีรอดได้อีกเป็ครั้งที่สองหรือ?”
ฉินเทียนเชวี่ยหัวเราะอย่างเ็า เคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูง เพียงครู่เดียวเขาได้ใช้วายุปราณทะลวงอีกครั้ง วาดผ่านท้องฟ้าพุ่งใส่หลงอวี้ราวกับอสรพิษท่ามกลางความมืดมิด!
“ขวางมันไว้!”
หลงอวี้ฉีกตัวหลบไปด้านหลังต้นไม้ั์ต้นหนึ่งทันที
แต่วายุปราณทะลวงเป็วิทยายุทธ์ขั้นสูงของลัทธิสยบฟ้า ยิ่งรวมกับพลังระดับวิถียุทธ์ขั้นเจ็ดของฉินเทียนเชวี่ยแล้ว คมมีดวายุเพียงหนึ่งเล่มก็สามารถตัดผ่านต้นไม้ั์จนหักโค่นได้!
ฉัวะ!
แขนของหลงอวี้ถูกกรีดเป็แผล เืไหลออกมา แต่เขากลับฝืนทนไม่ส่งเสียงสักแอะ พุ่งทะยานต่อโดยที่ความเร็วไม่ลดลง
“ข้าล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าเ้าจะหนีไปได้สักแค่ไหน”
ฉินเทียนเชวี่ยหัวเราะเย้ยหยัน หยอกล้อกับหลงอวี้ราวกับแมวจับหนูก็ไม่ปาน
ภายในหุบเขาแห่งอสรพิษเวหาที่มืดครึ้มเพราะถูกบดบังด้วยต้นไม้ใหญ่ ย่อมไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ฉินเทียนเชวี่ยคิดจะจัดการหลงอวี้ไม่ให้เหลือซากอยู่แล้ว
เพียงแต่วินาทีต่อมา รอยยิ้มของฉินเทียนเชวี่ยพลันมลายไป
“อย่าบอกนะว่า ไอ้เวรนั่นมันคิดจะ...”
ระหว่างที่เขากำลังวิ่งไล่อยู่นั้น ไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองได้วิ่งวนแล้วหนึ่งรอบ วิ่งกลับมายังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง!
ฉินหยงเอ๋อร์ได้รับาเ็ที่ขาสาหัส ยากจะเคลื่อนไหว ตอนนี้ยังคงยืนอยู่ที่เดิมและหันหลังให้กับทั้งสอง ไม่คิดว่าพวกเขาจะวิ่งวนกลับมาอีกรอบ
หลงอวี้ที่วิ่งนำอยู่พลันเผยสีหน้าเ็า
“หยงเอ๋อร์ ระวัง!”
ฉินเทียนเชวี่ยะโลั่น
ฉินหยงเอ๋อร์กำลังเพ้อฝันถึงภาพที่พี่ชายช่วยแย่งเน่ยตานคืนมาให้อยู่ จะไปรู้ทันแผนการของหลงอวี้ได้อย่างไร?
นางยังไม่ทันตั้งสติ หลงอวี้ที่แ่เบาดุจสายลมได้ทะยานมาอยู่ข้างๆ ฉินหยงเอ๋อร์ แล้วใช้มือข้างหนึ่งรัดคอนางไว้
“อ๊าย!”
ฉินหยงเอ๋อร์ใจนสะดุ้งโหยง ััได้ถึงพละกำลังอันมหาศาลที่ส่งผ่านลำคอ ทำให้นางหายใจไม่ออก แม้แต่จะส่งเสียงก็ทำไม่ได้
“หยุดฝีเท้าลงซะ”
หลงอวี้จับตัวฉินหยงเอ๋อร์ไว้ หันมาข่มขู่ฉินเทียนเชวี่ย
“เ้าปล่อยหยงเอ๋อร์ไปเสีย ไม่อย่างนั้นเ้าไม่ได้ตายดีแน่!”
ฉินเทียเชวี่ยสวมชุดสีดำ พออยู่ในป่าทึบอันมืดมิดแล้วยิ่งเห็นไม่ค่อยชัด แต่ก็ััได้ว่าอีกฝ่ายน่าจะกำลังกัดฟันกรอด
แต่เดิมคิดว่าจะจัดการเื่นี้ได้อย่างสบายใจ ตอนนี้กลับถูกหลงอวี้กุมสถานการณ์เอาไว้ ใช้ฉินหยงเอ๋อร์เป็ตัวประกัน นับว่าเสียท่าแล้วจริงๆ! ฉินเทียนเชวี่ยรู้สึกโกรธแค้นชิงชังเหลือเกิน
“หากเข้ามาอีกเพียงก้าวเดียว คนที่จะไม่ตายดีคงจะเป็น้องสาวเ้า”
หลงอวี้กล่าวอย่างเ็า ออกแรงที่แขนมากขึ้น ทำให้ฉินหยงเอ๋อร์หายใจไม่ออก ดวงตาคู่งามพลันเหลือกขึ้นกลายเป็ตาขาว
ต่อให้นางจะใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อดิ้นออกจากเงื้อมมือของหลงอวี้ แต่หลงอวี้นั้นได้ฝึกวิชากายาพิชิตมารมา พละกำลังย่อมมากกว่านางที่ระดับวิถียุทธ์เท่ากันไม่น้อยอยู่แล้ว ทำให้นางไม่อาจดิ้นหลุดได้เลย
“ฆ่าคนในลัทธิเดียวกัน เ้ารู้หรือไม่ว่าความผิดร้ายแรงเพียงใด?”
ฉินเทียนเชวี่ยส่งเสียงพูดอย่างชั่วร้าย แต่ก็หยุดฝีเท้าลงจริงๆ
เขาไม่กล้าเอาชีวิตน้องสาวมาล้อเล่น
“ข้าควรเป็ฝ่ายถามเ้ามากกว่ามั้ง?”
หลงอวี้หัวเราะเบาๆ
“เ้าจงถอยออกไปหนึ่งร้อยก้าว ไม่เช่นนั้น เ้าได้เห็นน้องสาวล้มลงต่อหน้าเ้าแน่!”
ฉินเทียนเชวี่ยลังเลครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมถอยไปช้าๆ
“ก้าวยาวๆ หน่อย!”
หลงอวี้หัวเราะอย่างเ็า “อืดอาดยืดยาดเสียจริง นี่เ้าเป็หญิงหรืออย่างไร?”
คำพูดนี้ยั่วโมโหฉินเทียนเชวี่ยจนเดือดดาล แต่เขากลับไม่สามารถขัดขืนอะไรได้ ทำได้แค่ถอยไปอย่างว่าง่าย
“ถ้าข้ามีโอกาสละก็ เ้าได้ตายอย่างไร้ที่กลบฝังแน่!”
ฉินเทียนเชวี่ยคิดในใจอย่างโเี้ ค่อยๆ เว้นระยะห่างจากหลงอวี้
“จะว่าไป ฉินเทียนเชวี่ย เ้าเป็ลูกศิษย์ระดับสูง เ้าต้องมียุทธภัณฑ์ติดตัวเป็แน่ ใช่หรือไม่? เ้าโยนยุทธภัณฑ์มาให้ข้าเสีย ไม่เช่นนั้น เ้าคงรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
หลงอวี้พูดต่ออย่างเ็า ใช้ชีวิตของฉินหยงเอ๋อร์มาข่มขู่อีกฝ่าย
“ไอ้เวรนี่ จะมากเกินไปแล้ว เ้าก็รู้ว่าข้าเป็ลูกศิษย์ระดับสูง ส่วนเ้าเป็เพียงลูกศิษย์ระดับล่าง หลังจากนี้เรายังต้องเจอกันอีกนานนะ!”
ฉินเทียนเชวี่ยกระแทกเสียงอย่างเ็า เห็นได้ชัดว่าเขาไม่้ายอมให้อีกฝ่ายแบบนี้ เขาจึงย้อนกลับมาข่มขู่หลงอวี้
“ยังได้เจอกันอีกนานหรือ? ข้ากลับไม่คิดเช่นนั้น ยุทธภัณฑ์ล่ะ ยังไม่รีบโยนมาอีก”
หลงอวี้หัวเราะอย่างเ็า พูดข่มขู่อีกครั้ง
แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้รับคำตอบ ฉินเทียนเชวี่ยไม่ได้ส่งเสียงออกมาอีก ราวกับหายตัวไปในป่าทึบอันมืดมิดแล้ว!
“ดูท่า ในสายตาของพี่ชายเ้า เ้ามีค่าน้อยกว่ายุทธภัณฑ์ชิ้นหนึ่งเสียอีก”
น้ำเสียงของหลงอวี้ที่พูดกับฉินหยงเอ๋อร์แฝงไปด้วยความผิดหวัง
คำพูดนี้ทำให้ฉินหยงเอ๋อร์เสียขวัญ พี่ชายของนางให้ความสำคัญกับยุทธภัณฑ์ชิ้นหนึ่งมากกว่าความเป็ความตายของนางอีกหรือ?
ไม่ ไม่ใช่แน่ๆ!
“เ้าไม่กล้าฆ่าข้า”
ฉินหยงเอ๋อร์สงบใจลง พูดขึ้นอย่างเ็า
พี่ชายต้องรู้แน่ว่าเ้านี่ไม่กล้าลงมือ ถึงไม่ยอมโยนยุทธภัณฑ์ให้ เพราะถ้าหลงอวี้ฆ่านางทิ้งที่นี่ละก็ เื่ต้องถึงหูผู้าุโแน่ และต้องโดนลงโทษอย่างรุนแรง หรืออาจถูกขับไล่ออกจากลัทธิเลยทีเดียว!
“เ้าก็พอมีสมองอยู่เหมือนกันนี่”
หลงอวี้หัวเราะเล็กน้อย
“แต่ พี่ชายเ้ากลัวจนหนีกลับไปฟ้องลัทธิแล้วอย่างนั้นหรือ?”
เขาพูดพลางสำรวจรอบๆ ไปพลาง ภายในป่าที่มืดทึบเช่นนี้ เขาต้องใช้ประสาทััของวิถีวรยุทธ์ขั้นห้าออกมาให้มากที่สุด และััได้ว่าฉินเทียนเชวี่ยกำลังใกล้เขาจากอีกทางอย่างเงียบงัน
“คิดจะลอบกัดข้าหรือ?”
หลงอวี้หัวเราะเ็าในใจ
เ้าฉินเทียนเชวี่ยคงคาดไม่ถึงว่าหลงอวี้จะสำรวจรอบๆ อย่างเยือกเย็นเช่นนี้! ถ้าเป็คนทั่วไปละก็ หากต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่มีระดับวิถียุทธ์สูงกว่าสองขั้น ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นนี้ คนส่วนใหญ่มักจะลนลานจนทำอะไรไม่ถูก
หลงอวี้ที่รัดคอฉินหยงเอ๋อร์ไว้ก้าวเท้าออกไปช้าๆ
ทิศทางที่เขามุ่งหน้าไป เป็จุดที่มีศพของราชันอสรพิษ อยู่ตรงกลางระหว่างเขากับฉินเทียนเชวี่ยพอดี เห็นได้ชัดว่าหลงอวี้คิดแผนรับมือไว้ก่อนแล้ว!