ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ทันทีที่เย่เฟิงเข้าใกล้มากขึ้น เงาที่ซ่อนตัวอยู่ในโพรงหญ้าก็รับรู้ได้ทันที มีดบินทั้งสามเล่มพุ่งเข้าใส่เย่เฟิง
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
เย่เฟิงััได้ด้วยจิตหยั่งรู้ จึงแกว่งกระบี่สีทองปัดมีดบินทั้งสามเล่มกลางอากาศอย่างรวดเร็ว เขาเงยหน้ามองทว่าเงาร่างนั้นกลับพุ่งหนีไป
นักล่าิญญามีประสบการณ์หลายปี ทักษะหลักของเขาคือเคล็ดวิชาอาวุธลับ อีกทั้งท่าร่างสมบูรณ์แบบ แม้แต่ย่างก้าวไร้เงาของเย่เฟิงก็ยังไล่ตามไม่ทัน
เพียงชั่วพริบตา เงาร่างนั้นก็พุ่งไปไกลหลายสิบเมตร ตรงไปทางโรงงานร้างอย่างรวดเร็วราวกับสุนัขจิ้งจอกเ้าเล่ห์
“คิดจะหนีเหรอ?” เย่เฟิงไม่คิดให้มากความ เขาละมือจากหลินซือฉิงอีกครั้ง เพื่อใช้วิชากรงเล็บั!
ชายหนุ่มปล่อยพลังปราณไปทางนักล่าิญญา ทันใดนั้นกรงเล็บัของเขาก็คว้าไหล่และเอวของนักล่าิญญาเพื่อลากตัวอีกฝ่ายกลับมา น่าเสียดายที่ฝ่ายตรงข้ามเตรียมตัวมาอย่างดี เพราะเคยเห็นเย่เฟิงใช้เคล็ดวิชากรงเล็บัขวางการโจมตีของมีดบินที่พุ่งใส่หลินเต๋อเทียน
พลังปราณพุ่งออกมาจากเงาดำทะมึนเพื่อบิดร่างกายที่ถูกวิชากรงเล็บัจับ จนหลุดรอดจากเงื้อมมือของเย่เฟิงอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มััได้ว่าอีกฝ่ายมีระดับวรยุทธ์มากกว่ายี่สิบปี หรืออาจมากถึงสามสิบปี!
เมื่อห้าปีก่อน นักล่าิญญามีชื่อเสียงทั่วสารทิศ จากการกระทำรุนแรงและโเี้จนถูกระบุเป็อาชญากรที่รัฐบาล้าตัวมากที่สุด แสดงว่าวรยุทธ์ของเขาไม่ธรรมดาแน่นอน หากไม่ใช่เพราะเย่เฟิงมีวรยุทธ์ระดับสิบปี คงไม่กล้าบุ่มบ่ามตามมาอย่างนี้แน่นอน
“ระดับวรยุทธ์ยังต่ำเกินไป หากอาศัยเพียงวิชากรงเล็บัมันคงหนีไปได้...” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหนีไปได้ เย่เฟิงก็ไม่ลังเลที่จะพาตัวประกันอย่างหลินซือฉิงติดไปด้วย เขาโอบร่างบางไว้ในอ้อมแขน ก่อนใช้ทักษะล่องหนพร้อมย่างก้าวไร้เงาทันที!
หลินซือฉิงถูกเขาโยนไปโยนมาก็เริ่มโมโห แต่ไม่กล้าทำอะไร ใบหน้ารูปไข่ของเธอแดงระเรื่อ ทำไมชายหนุ่มถึงไร้ยางอายขนาดนี้ อยากตามจับศัตรูแต่ทำไมต้องพาเธอไปด้วย? ด้วยความเร่งรีบจากสถานการณ์ตรงหน้า หญิงสาวจึงััได้ว่าชายสวมหน้ากากจับไปทั่วร่างของเธอแล้ว บางจังหวะ ทั้งวัชพืช กิ่งไม้ ใบหญ้าตามพื้นต่างบาดใบหน้าและต้นขาขาวเนียนที่โผล่พ้นเสื้อผ้า จนเธอรู้สึกว่าคืนนี้เป็คืนที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต
เย่เฟิงพาเธอมาด้วยเพื่อรับประกันความปลอดภัยของตัวเอง เขาไม่มั่นใจว่าหลังจากได้ยินคำพูดของนักล่าิญญาแล้ว หลินเต๋อเทียนและเหลยิจะไม่โจมตีเขา คนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสามารถต่อกรกับผู้มีวรยุทธ์ได้ ชายหนุ่มจึงต้องใช้แผนนี้ป้องกันตัวเอง ทาง NSA จะได้ไม่ผลีผลามลงมือ
เมื่อใช้ทักษะนี้ เขากับหลินซือฉิงก็มุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วเพิ่มขึ้นจนเข้าใกล้โรงงานร้าง แต่ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งต้องระมัดระวัง เขาจึงพยายามไม่ให้ตัวเองััถูกดอกไม้ใบหญ้า เพื่อไม่ให้มีเสียงฝีเท้า
เงาร่างสีดำของนักล่าิญญาหนีไปตลอดทางจนถึงทางเข้าโรงงานร้าง แล้วะโขึ้นซ่อนตัวหลังกำแพงที่พังเสียหาย เขายังคงระมัดระวังแต่ก็งงงวยเช่นกัน
ไอ้เด็กที่ตามเขามาไปไหนแล้ว?
ยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ?
ผู้อยู่ในเงามืดลอบมองข้างนอกโรงงานร้าง ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ดอกไม้ใบหญ้าพลิ้วไหวตามสายลม เขาไม่เห็นเงาของใครแม้แต่คนเดียว และไม่ได้ยินเสียงน่าสงสัยอีกด้วย แต่ไม่รู้ทำไมกลับรู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองสั่นสะท้านไปทั้งตัวจนต้องตื่นตัวตลอดเวลา เขาเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองว่าตอนนี้ตนกำลังตกอยู่ในอันตราย!
“หึ ฉันมีวรยุทธ์ระดับสามสิบปีแล้ว จะกลัวไอ้เด็กเมื่อวานซืนทำไม?” นักล่าิญญารู้สึกว่ามันน่าขบขันเหลือเกิน แต่ก็เป็ความจริงว่าพร์ของชายสวมหน้ากากที่ชื่อโม่จิ่วเกอน่ากลัวเกินไป ได้ยินมาว่าอายุยังน้อยแต่กลับปล่อยพลังภายในออกมาจนใช้กรงเล็บัขั้นที่สองได้
หากต้องเผชิญหน้ากัน เขารู้สึกว่าโอกาสชนะของตนมีไม่มากนัก เขาถนัดการลอบสังหารในเงามืด หากไม่สามารถรักษาท่าร่างให้ได้เปรียบอีกฝ่าย คงต้องเสียท่าแน่
“ดูเหมือนเ้าเด็กนั่นจะไม่ตามมาแล้ว” นักล่าิญญารออยู่สักพักแต่ไม่พบการเคลื่อนไหวใดๆ นอกโรงงานร้าง จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
‘ด้วยท่าร่างตอนนี้ของเรา การหลบหนีเ้าเด็กนั่นไม่ใช่ปัญหา แต่การลอบสังหารหลินเต๋อเทียนล้มเหลว เราไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อ...’ เขายื่นมือเข้าไปในกำแพงที่พังเสียหายแล้วขุดดินแถวนั้นสักพัก ไม่นานก็หยิบรีโมตควบคุมที่มีความแม่นยำออกมา สุดท้ายก็ตัดสินใจหนีไปจากที่แห่งนี้
แต่ขณะที่จะหลบหนี น้ำเสียงแ่เบาพลันดังข้างหู “อยากจะหนีตอนนี้เนี่ยนะ? สายไปแล้วล่ะ”
ทันใดนั้นนักล่าิญญาก็รู้สึกเจ็บต้นขาราวกับถูกทิ่มแทง!
“อ๊าก—!” ชายลึกลับกรีดร้องด้วยความเ็ป ก่อนพบว่ากระบี่สีทองเล่มยาวลอบแทงต้นขาของตนจนเืสีแดงสดไหลออกมา
แน่นอนว่าเย่เฟิงลอบทำร้ายอีกฝ่าย เขาใช้ทักษะล่องหนมาตลอดทาง แล้วใช้กระบี่แทงฝ่ายตรงข้ามทันที
ตอนนี้นักล่าิญญาไม่สามารถหลบหนีได้อีกแล้ว ไม่ว่าจะใช้ท่าร่างไหน แต่ขาข้างเดียวจะใช้ทักษะที่ต้องใช้ขาทั้งสองข้างได้อย่างไร?
เย่เฟิงเข้ามาใกล้มากขึ้นและสำรวจอีกฝ่ายด้วยความระวัง นักล่าิญญาอยู่ในชุดสีดำรัดรูปทั้งตัว สวมหมวกคลุมสีดำปิดใบหน้า ดูเหมือนโจรปล้นธนาคาร ดวงตามืดมนราวสัตว์ป่าดุร้าย
“รีโมตนี่ใช้ควบคุมพวกตัวประหลาดนั่นสินะ?” เย่เฟิงมองรีโมตควบคุมในมืออีกฝ่าย มันทำจากโลหะสีเงิน ดูเหมือนของที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย แตกต่างจากของไช่เฉ่าหง
“ไม่ใช่ มันคือรีโมตควบคุมะเิ!” หลินซือฉิงที่ถูกเย่เฟิงจับเป็ตัวประกันตาลุกโพลงและตื่นตัวขึ้นทันที
“ะเิ?” สีหน้าของเย่เฟิงพลันเปลี่ยนไป
“คุณหนูหลินช่างฉลาดหลักแหลม” นักล่าิญญานั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น กล่าวด้วยน้ำเสียงน่ากลัว “น่าเสียดายที่ฉันถูกจับไดก่อน เพราะงั้นคงไม่จำเป็ต้องรักษาชีวิตบัดซบนี้แล้ว”
ทันทีที่สิ้นเสียง เย่เฟิงก็เห็นอีกฝ่ายกดปุ่มสีแดงบนรีโมตควบคุม
“แย่แล้ว!” ชายหนุ่มตื่นตัวทันที
เขารีบหยิบกระบี่สีทอง และอุ้มหลินซือฉิงเพื่อออกไปจากโรงงานแห่งนี้ทันที แต่อีกฝ่ายไม่เพียงะเิโรงงานร้างเท่านั้น แต่ยังะเิบริเวณโดยรอบของโรงงานแห่งนี้ด้วย เมื่อนักล่าิญญากดปุ่มสีแดง ะเิทั้งหมดหลายร้อยลูกก็ถูกเปิดใช้งานทันที
ทันใดนั้นเสียงะเิดังกึกก้อง เปลวไฟสีแดงพุ่งสูง!
แถบชานเมืองเยี่ยนจิงที่เงียบสงบไร้ผู้คน ค่ำคืนนี้ได้เปลี่ยนไปในพริบตา โรงงานร้างและบริเวณโดยรอบราวร้อยเมตรกลายเป็ทะเลเพลิงทันที
“แย่แล้วครับหัวหน้า!” เหลยิะโก่อนพาทีมมุ่งไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง เมื่อคนทั้งหมดเห็นเปลวเพลิงตรงหน้า สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
หลินเต๋อเทียนที่อยู่ข้างหลังหน้าซีดเผือด
ทีมสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติรุดเข้าพื้นที่เพื่อสืบค้น พวกเขารู้เพียงชายสวมหน้ากากพาหลินซือฉิงไปบริเวณโรงงานร้าง ใครจะคิดว่าโรงงานร้างแห่งนี้จะะเิกะทันหัน
เมื่อเห็นการะเิที่รุนแรงเช่นนี้ หลินเต๋อเทียนก็ไม่กล้าคิดอะไรต่อ เพราะโอกาสรอดชีวิตของลูกสาวของเขาแทบเป็ศูนย์!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้