ภีมพลเดินผิวปากเข้ามาภายในร้าน ระหว่างสั่งเครื่องเดิมนั้นหางตาไปสะกิดกับชายหนุ่มเสื้อขาวที่เจอเมื่อกลางวัน กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ภีมพลหรี่ตามองให้แน่ใจ ก่อนจะหันไปรับเครื่องดื่ม แล้วเดินไปนั่งด้านข้าง เพราะมีที่ว่างเหลืออยู่
“รูปที่ผมส่งให้ คุณน่าจะเห็นแล้วนะ” พายุพูดบางอย่างใส่โทรศัพท์ หากแต่ตวัดสายตามองภีมพลครั้งหนึ่งก่อนจะวางสายไป
“มาร้านนี้บ่อยหรือครับ” ภีมพลจัดท่านั่ง แล้วเริ่มชวนสนทนา หากปล่อยปะละเลยทำมองไม่เห็น จะเป็การเสียมารยาท
“ถ้าผ่านก็แวะมาบ้าง ไม่ได้บ่อยอะไร แต่พอย้ายมาทำงานที่โรงงานก็อาจะมาบ่อยขึ้น เพราะไม่ได้ไกลมาก คุณก็ชอบที่นี่เหมือนกันหรือ” พายุถามกลับไปยังชายหนุ่มร่างสูง แม้จะพูดคุยอย่างเป็กันเอง แต่ก็ยังคุมมาดผู้จัดการได้เป็อย่างดี
“ผมมาเกือบทุกวันแหละ ร้านนี้เป็ร้านของเพื่อนผมเอง” พายุพยักหน้าทำมาดนิ่งเช่นเคย
“วันนี้ผมขอโทษคุณด้วย ที่กล่าวหาว่าคุณแซงคิว งั้นผมไปก่อนละกัน” ภีมพลลุกจากเก้าอี้แล้วส่งยิ้มให้ชายใส่เสื้อขาวหนึ่งครั้ง รอยยิ้มนั้นทำให้พายุชะงักครู่หนึ่ง เหมือนมีอะไรมาหยุดทุกอย่างไว้ เขาขมวดคิ้วแปลกใจตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะหันไปจับมือถือแล้วจิบกาแฟต่อ
เสียงมือถือของธาวินดังขึ้นระหว่างการเดินทางกลับบ้าน เขาหันมองหน้าจอโทรศัพท์ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจกดรับ
“ครับพิมพ์” เสียงทุ้มอันอบอุ่นตอบรับปลายสายเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คุณอยู่ไหนคะ” น้ำเสียงของแฟนสาวที่พูดด้วยน้ำคำนิ่งเรียบ ไม่สดใส ทำให้ชายหนุ่มเอะใจเล็กน้อย แล้วชะลอความเร็วลง
“ผม กำลังจะกลับบ้าน” เขาตอบตามความเป็จริง
“ถ้างั้น มาแวะมาทานอาหารที่โรงแรมกับพิมพ์หน่อยสิคะ เดี๋ยวนี้คุณไม่มีเวลาทานข้าวกับพิมพ์เลย”
“เอ่อ..คือ..” ธาวินมีอาการลังเลอย่างเห็นได้ชัด ดวงตากลมกลอกกลิ้งอย่างใช้ความคิด หากแต่น้ำเสียงของพิมพ์พาดูผิดปกติไปจนทำให้เขารู้สึกเป็ห่วง ก่อนจะเบี่ยงหน้ามองพิชญาที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“คุณวินเลิกงานแล้วนี่คะ แค่เจียดเวลามาทานข้าวกับพิมพ์สักมื้อ คงไม่รบกวนเวลาคุณมากขนาดนั้น”
“ได้พิมพ์ ผมจะรีบไป” ธาวินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบรับปลายสายไป แล้วตัดสินใจเลี้ยวรถกลับ เขาเบี่ยงเส้นทางที่ไม่ใช่ทางกลับบ้าน คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ด้านข้าง ทำท่าทางแปลกใจเล็กน้อย มองสองข้างทางด้วยความงุนงง
“พี่วินจะไปไหนคะ” แม้เธอจะโกรธเขาอยู่มาก หากแต่น้ำเสียงที่เปล่งถามนั้นยังคงอ่อนหวานเช่นเคย
“ไปทานข้าว” เขาไม่อยากตอบคำถามอะไรมากมายนัก จึงตอบเพียงประโยคสั้นๆ เท่านั้น
เมื่อเดินมาถึงโรงแรมที่พิมพ์พาพักอยู่ ชายหนุ่มร่างสูงพาพิชญามุ่งหน้าตรงไปยังโต๊ะอาหารที่พิมพ์พานัดไว้ สองเท้าเดินเสมอกันจนถึงจุดหมาย เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งเด่นหรารออยู่จึงปล่อยยิ้มแล้วเดินเข้าไปสวมกอดแสดงความรักต่อกันโดยไม่สนว่าใครจะรู้สึกเช่นไร เพราะเขาทำแบบนี้เสมอจนเป็ความเคยชิน
“รอนานไหมครับ”
“ไม่นานค่ะ แค่คุณมาหาพิมพ์บ้าง พิมพ์ก็ชื่นใจแล้วค่ะ” หญิงสาวหอมแก้มเขาไปหนึ่งฟอดใหญ่ พิชญามองตรงไปยังทั้งสองด้วยสายตานิ่งเรียบ ต้องเก็บความรู้สึกหลายร้อยอารมณ์ไว้ ก่อนจะเบี่ยงหน้าหวานมองทางอื่น
“คุณพาใครมาด้วยหรือคะ” พิมพ์พาเลื่อนสายตามาเห็นหญิงสาวร่างเล็กอีกคนที่มาด้วยพลางหันไปถามคู่รักด้วยความใคร่รู้ หากแต่มองปราดเดียวก็พอดูออกว่า หญิงสาวที่ว่า คือคนในรูปที่พายุพึ่งส่งมาให้ ข่าวว่ากระชากลากถูกันมาจากชั้นบนของร้านกาแฟ
“เธอชื่อพิชญาอดีตแฟนของพี่วาน่ะ” คำตอบของธาวินทำให้พิชญาหันมองหน้าเขาอย่างอัตโนมัติ ไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าธาวินจะกล้าพูดได้ถึงเพียงนี้ เป็คำพูดที่เสมือนเข็มนับร้อยนับพันพุ่งเข้าเสียดแทงหัวใจ หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ แล้วพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้
พิมพ์พาฉายดวงตาวาววับด้วยความแปลกใจเช่นเดียวกัน พยายามจับต้นชนปลายให้ได้มากที่สุด เพราะทิวาคืออดีตแฟนหนุ่มของเธอ เป็ไปไม่ได้ที่เขาจะมีใครอีกคน
