ในห้องโถงลานทิงจู ต่งซินหลันร้องไห้พลางกล่าว “เหล่าไท่จวิน คุณชายจูช่างน่าสงสารยิ่งนัก ร่างกายของเขาซูบผอมเหลือเกิน หลังคุณชายจูฟื้น สามีของข้าและหมออู่ก็ผลัดเปลี่ยนเฝ้าดูอาการ ทั้งคู่บอกว่าโรคของเขามาจากสิ่งที่อยู่ใต้เตียง คุณชายจูอายุเพียงสามขวบ ไม่น่าต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ ไม่รู้ว่านานเพียงใดกว่าจะฟื้นตัว ข้าเ็ปยิ่งนัก เหล่าไท่ไท่ได้โปรดลงโทษผู้ที่เลี้ยงดูสิ่งเลวร้ายผู้นั้นขั้นเด็ดขาดเถิดเ้าค่ะ เพื่อคืนความยุติธรรมแก่ข้าและลูกจู…”
เหล่าไท่ไท่พยักหน้าทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เพียงหันไปทางหลัวไป๋เส่าก่อนขมวดคิ้วมุ่นพลางเอ่ยถาม “ดึกดื่นค่อนคืนเ้ามาทำอะไรที่นี่? หลายวันก่อนอาสามนำสมุดแบบฝึกเขียนอักษรของฮูหยินให้เ้าฝึกไม่ใช่หรือ คัดลอกเสร็จแล้วหรือ?”
“ท่านย่า” หลัวไป๋เส่าเขย่าแขนเหล่าไท่ไท่พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ตัวอักษรเล็กเกินไป ข้าดูแล้วเวียนหัวจึงตัดสินใจไม่คัดลอก ข้าไม่ได้พบหน้าท่านพี่สามเดือนหนึ่งแล้ว คิดถึงนางยิ่งนัก ระหว่างทางนางสบายดีหรือไม่เ้าคะ? ขณะพวกท่านไปรับท่านพี่สาม…ระหว่างทางราบรื่นดีหรือไม่?”
หยางมามาเดินมาคลุมผ้าให้เหล่าไท่ไท่ที่หัวเข่าพร้อมเอ่ย “คุณหนูสี่ช่างกตัญญูเสียจริง การเดินทางครั้งนี้ราบรื่นดีเ้าค่ะ ทั้งยังได้พาผู้มีพระคุณอันใหญ่หลวงกลับมาด้วย”
“ผู้มีพระคุณอันใหญ่หลวง?” ต่งซินหลันและหลัวไป๋เส่าเอ่ยถามพร้อมเพรียง “ใคร?”
“ท่านยายเ้าคะ ข้ามาแล้ว พี่สะใภ้ น้องสี่ ไม่เจอกันนานนะเ้าคะ” เสียงก้องกังวานราวกับกระดิ่งเงินของหญิงสาวดังขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ตอนอยู่ที่วัดสุ่ยซังข้าคิดถึงเ้ามากที่สุด ดีใจที่ยิ่งนักที่ได้พบเ้าอีกครั้ง”
ต่งซินหลันและหลัวไป๋เส่ามองสตรีเด็กใบหน้าเหลืองเดินมาจากหลังม่านด้วยรอยยิ้มสดใส สตรีผู้นั้นคือเหอตังกุย แต่…หลัวไป๋เส่าะโด้วยความประหลาดใจ “นี่ เหตุใดหน้าเ้ากลายเป็เช่นนี้? ตากแดดจนดำหรืออย่างไร? หรือเ้ากินยาผิด?” ต่งซินหลันจ้องสตรีเด็กก่อนหันมองเหล่าไท่ไท่พลางเอ่ย “เหอตังกุยมาแล้ว เหล่าจูจงต้องให้ความยุติธรรมกับคุณชายจูนะเ้าคะ!”
เหอตังกุยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก่อนหน้านี้ได้ยินว่ามีการจุดประทัดในจวนใหญ่ ดูเหมือนผู้คนกำลังเฉลิมฉลองอะไรบางอย่าง หลานจูฟื้นแล้วหรือเ้าคะ? น่ายินดียิ่งนัก ตังกุยมีความสุขมากเช่นกัน!”
ต่งซินหลันแค่นเสียงเ็าพร้อมเบนหน้าหนีทันที หลัวไป๋เส่ามองใบหน้ารูปไข่สีเหลืองของเหอตังกุยอย่างอารมณ์ดี แม่นางจีส่งถ้วยชาพุทราดำให้คุณหนูสาม ก่อนกลับไปยืนด้านหลังคุณหนูสามตามที่หยางมามาสั่งเพื่อคอยดูแลนางเงียบ ๆ
แม่นางจีมองดูสถานการณ์อยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาเ็า ในจวนตระกูลหลัว ต่งซินหลันและเอ้อร์ไท่ไท่มักขัดแย้งกันเสมอ บ่าวรับใช้ส่วนใหญ่สนับสนุนเอ้อร์ไท่ไท่ซึ่งมีฐานะเป็ผู้ดูแลจวน สิบวันก่อน น้องชายของเอ้อร์ไท่ไท่ตาย นางจึงกลับไปร่วมงานศพ ขณะเดียวกันวัดสุ่ยซังก็ส่งจดหมายมาแจ้งเื่การฟื้นคืนชีพของคุณหนูสาม หลังเอ้อร์ไท่ไท่เกลี้ยกล่อมเหล่าไท่ไท่ไม่ให้ไปรับคุณหนูสามไม่สำเร็จ ท่าทีของนางจึงเปลี่ยนไปขนานใหญ่ ทุกหนแห่งในจวนล้วนประดับประดาไฟหลากสีเพื่อเฉลิมฉลองการเกิดใหม่ของคุณหนูสาม
เอ้อร์ไท่ไท่กลับจากจวนสกุลเดิมพร้อมใบหน้าซีดเผือดและเปลือกตาบวมแดง ทันทีที่ผ่านประตูก็แทบอยากจะแขวนคอตาย ไม่ว่าจะมุมใดของเรือนก็ล้วนประดับด้วยโคมไฟหลากสี เมื่อเอ้อร์ไท่ไท่ได้ยินว่าเป็เพราะคุณหนูสามก็ยิ่งไม่สบายใจ จึงไปใส่ร้ายป้ายสีเล่าเื่ไม่ดีต่าง ๆ ของเหอตังกุยให้เหล่าไท่ไท่ฟัง นางขอให้เหล่าไท่ไท่อย่ารับหลานสาวนอกสกุลเข้าจวน เหล่าไท่ไท่ที่ไม่ได้เห็นว่าคุณหนูสามเป็เช่นนางกล่าวจึงตั้งใจปฏิเสธเอ้อร์ไท่ไท่ด้วยเหตุผลบางประการ ก่อนไล่เอ้อร์ไท่ไท่กลับเรือน
สองวันที่ผ่านมา อาการของนายน้อยจูแย่ลงเรื่อย ๆ เอ้อร์ไท่ไท่รู้ทันทีว่าต่งซื่อจะต้องส่งเสริมให้นางเอ่ยวาจาใส่ร้ายคุณหนูเหอ เห็นได้ชัดว่า้าใช้คุณหนูสามเป็เครื่องมือ นางจึงใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง ขณะนายน้อยจูมีโอกาสรอดน้อยนิด เอ้อร์ไท่ไท่จึงเตรียมงานศพในตระกูลตามพิธีที่ถูกต้อง แม้คนรับใช้หลายคนจะรู้สึกว่าเร็วเกินไป แต่พวกเขาก็ยังต้องประจบประแจงเพื่อไม่ให้ตกเป็เป้าถูกเอ้อร์ไท่ไท่รังแก พวกเขาจึงสวมชุดและหมวกไว้ทุกข์อย่างเป็ทางการ ขณะที่ต่งซื่อยังคงป้อนยาและอาหารให้ลูกชาย ทั้งยังจุดธูปขอพรพระโพธิสัตว์ทุกองค์ อธิษฐานให้โรคประหลาดของลูกชายหายในเร็ววัน เมื่อเห็นพวกบ่าวรับใช้โอหังสวมชุดไว้ทุกข์เดินไปมาในจวนก็เดือดดาลทันที ทว่าต่อมาไม่นานนายน้อยจูก็จากไป นางจึงคิดว่าคนเ่าั้สาปแช่งลูกชาย ความเกลียดชังอันบ้าคลั่งจึงปะทุเต็มหัวใจ
วันนี้ยามกลางวันหลัวไป๋เฉียนวุ่นวายในจวนทั้งวัน เขาต้องใช้น้ำอุ่นแช่ตัวนายน้อยจู ทีแรกทุกคนคิดว่าเขาเป็บ้าเพราะลูกชายเพิ่งตายจาก ไม่มีใครคาดคิดว่านายน้อยจูจะฟื้นจากความตาย! แม้ตอนนี้นายน้อยจูจะยังอ่อนแอมาก แต่ใบหน้าเริ่มมีเืฝาด ดวงตาก็สดใสขึ้นเล็กน้อย เมื่อบ่าวรับใช้เ่าั้ทราบข่าวก็ถอดชุดไว้ทุกข์ทันที พลันจุดประทัดทั้งหมดที่ใช้ในการเฉลิมฉลองทันทีโดยหวังจะได้รับการอภัยจากต่งซื่อ
หลังเหล่าไท่ไท่กินอาหารกลางวันเสร็จไม่นาน ทุกคนในเรือนทิงจูต่างได้ยินเสียงประทัด เหล่าไท่ไท่นึกถึงคำพูดของคุณหนูสาม “หากหลานจูโชคดีฟื้นจากความตาย จวนหลัวตงต้องเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ด้วยการเล่นฆ้องและจุดประทัดแน่นอน” หากเซียนผู้เฒ่าไม่สั่งให้นางอยู่เรือนหลังนี้เป็เวลาสองวัน เหล่าไท่ไท่คงวิ่งไปดูอาการนายน้อยจูว่าเป็อย่างไรหลังได้รับการช่วยชีวิตด้วยพลังของเซียนผู้เฒ่า ครั้งเสี่ยวอี้ฝันว่าได้กินโอสถ์ นางไม่เพียงเกิดใหม่ ซ้ำยังเฉลียวฉลาด น่ารักและมีชีวิตชีวากว่าเมื่อก่อน ตอนนี้คุณชายจูเกิดใหม่อีกคน จะเป็เพราะเทพเซียนเปิดแสงสว่างให้เขากลับมาหรือไม่? เขาจะสามารถท่องสี่หนังสือห้าคัมภีร์ได้เลยหรือไม่? จะสามารถสอบเป็จอหงวนอันดับหนึ่งของราชสำนักให้ตระกูลหลัวได้หรือไม่?
เหล่าไท่ไท่อยากมอบรางวัลให้คุณหนูสามเต็มที เมื่อได้ยินหยางมามาบอกว่าคุณหนูสามมีชีวิตลำบาก “อดอยากนานกว่าครึ่งปี” นางจึงสั่งให้คนเตรียมโต๊ะอาหารประณีตทันที ขอให้กานเฉ่าและผู่กงอิ๋งผลัดเปลี่ยนไปเรียกคุณหนูสามมากินข้าว ทว่าสาวใช้ของคุณหนูสามรายงานว่าเนื่องจากคุณหนูสามใกับเหตุการณ์เมื่อครู่จึงเอาแต่ร้องไห้ใต้ผ้าห่ม ตาของนางบวมเป่งยิ่งกว่าหมั่นโถวเสียอีก นางอยากรอให้ดวงตาหายบวมก่อนค่อยออกมาพบผู้คน
ก่อนคุณหนูสามออกมากินอาหาร ต่งซื่อก็ร้องะโเดือดดาลที่หน้าประตู ทำให้เหล่าไท่ไท่ใมากด้วยคิดว่าคุณชายจูตายอีกรอบ นางจึงไม่สนใจคำแนะนำของเซียนผู้เฒ่าที่บอกว่า “นางต้องอยู่ที่นี่สองวัน ห้ามเจอหน้าใคร” ขณะเร่งเร้าให้ต่งซื่อเข้ามาก็ให้เซียงชุนหยาไปเรียกคุณหนูสามอีกครั้ง
หลังทุกคนได้ยินคำพูดของต่งซื่อจึงรู้ว่าคุณชายจูปลอดภัยดี นางมาที่นี่เพียงเพื่อจับกุมคุณหนูสามผู้เคยทำร้ายคุณชายจูจนถึงแก่ความตาย
ต่งซื่อเล่าทั้งน้ำตาว่าคนจากครอบครัวสาขาแรกพบรังหนูใต้เตียงคุณชายจู ตอนกลางวันหลัวไป๋เฉียนยังพบหนูอีกมากมายในสวนดอกไม้และเรือนซีคั่ว หนูส่วนใหญ่ถูกเผาพร้อมเรือนซีคั่วแล้ว หลังวิเคราะห์และหาเหตุผลอย่างรอบคอบจึงมั่นใจว่ามีใครบางคนในเรือนซีคั่วแอบเลี้ยงหนูจำนวนมาก ก่อนหลอกล่อให้คุณชายเว่ยนำมาวางใต้เตียงคุณชายจูจนเกิดโรคและโชคร้ายจนคุณชายจูต้องทุกข์ทรมาน
แม่นางจีเลิกคิ้ว คุณหนูสามอาศัยในเรือนซีคั่วจึงเห็นได้ชัดว่า “ใครบางคน” ที่ต่งซื่อกล่าวนั้นหมายถึงนาง คุณหนูสามอาศัยในจวนเป็เวลาครึ่งปี เมื่อทำผิดจนถูกพี่สะใภ้ตำหนิก็มักร้องไห้ทั้งวัน แม่นางจีจึงสงสารนางเสมอ ยากจะจินตนาการได้ว่าคุณหนูสามจะทำเื่เช่นนี้
ขณะนั้นหยางมามาดึงแม่นางจีไปอธิบายให้ฟังสั้น ๆ ว่าคุณหนูสามเคยเล่าให้นางฟังที่วัดสุ่ยซัง พูดอย่างเศร้าใจว่าเหล่าไท่ไท่ก็รู้เื่ทั้งหมด
แต่เหล่าไท่ไท่กลับเอ่ยว่าแม้คุณชายเว่ยจะวางสิ่งเ่าั้มั่วซั่วจนก่อให้เกิดเหตุร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้ต่งซื่อรู้ว่าคุณชายเว่ยนำพวกมันไปไว้ในห้องครัวเรือนซีคั่วแต่ก็ไม่ได้หยุดคุณชายเว่ย แม้เอ้อร์ไท่ไท่จะรู้ว่ามีหนูหลายตัวในเรือนซีคั่วแต่ก็ไม่ยอมให้ใช้ยาฆ่าหนู... ถึงอย่างไรคุณหนูสามก็เป็เ้านายที่แท้จริงของเรือนซีคั่ว นางต้องรับผิดชอบต่อเหตุที่เกิดขึ้นในเรือนของนาง เหล่าไท่ไท่เข้าใจคำกล่าวที่ว่า “ครอบครัว ความสามัคคีและชีวิตที่รุ่งเรือง” นางไม่้าให้ทุกคนลำบากใจ โดยเฉพาะเอ้อร์ไท่ไท่ที่ต้องดูแลจวน เป็การดีต่อทั้งครอบครัวหากเลือกจะรักษาหน้านางไว้…”
เหล่าไท่ไท่จึงตัดสินใจให้คุณหนูสามรับผิดชอบเื่นี้อีกครั้ง อีกทั้งบอกทุกคนว่าเป็ความผิดของคุณหนูสาม นอกจากนี้ยังคิดให้คุณหนูสามรินชาให้ต่งซื่อต่อหน้าทุกคนเพื่อขอโทษ
ในความคิดเหล่าไท่ไท่ ท่ามกลางความวุ่นวายของหนู คุณชายจูเป็ผู้เคราะห์ร้ายที่สุด แม่ของเขาก็หวาดกลัวเช่นกัน เป็การดีกว่าหากลงโทษเสี่ยวอี้เชิงสัญลักษณ์ ให้เด็กหญิงตัวเล็กก้มหัวให้พี่ชายและพี่สะใภ้เพื่อชดเชย เื่ทั้งหมดก็จะจบลง คุณชายจูได้เกิดใหม่ ทั้งครอบครัวก็มีความสุขอีกครั้ง หลังจัดการบ่าวสารเลวหวังฉี นอกจากเงินสี่ร้อยตำลึงที่นางยักยอกจากเรือนซีคั่ว นางยังต้องจ่ายเงินอีกสี่ร้อยตำลึงเพื่อรวบรวมเป็สินสอดของเหอตังกุยยามแต่งงาน นับเป็ค่าชดเชยได้ แต่อย่างไรเสี่ยวอี้ก็เป็เด็กหญิงตัวเล็กที่น่าสงสารและไม่ได้ทำอะไรผิด
ทว่าเื่ทั้งหมดเกี่ยวกับ “เซียนผู้เฒ่ามอบความฝันให้เสี่ยวอี้และสอนวิธีช่วยคุณชายจู” เหล่าไท่ไท่ไม่คิดจะเปิดเผยต่อหน้าทุกคนแน่นอน
ลูกหลานรุ่นเยาว์ในตระกูลหลัวตายจากไปแล้วสองคน ทว่าทั้งคู่กลับฟื้นคืนชีพจากความช่วยเหลือของเซียนผู้เฒ่า น่าประหลาดใจยิ่งนัก ยากจะรับประกันได้ว่าหากคนชั่วได้ยินแล้วปล่อยข่าวลือว่า “ตระกูลหลัวมียาลับทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้” คนเลวทุกรูปแบบ ญาติมิตรและผู้มีอำนาจหรือแม้แต่ฮ่องเต้ต่างต้องเข้ามาขอยากับตระกูลหลัว หากเป็เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมา…เื่นี้ต้องไม่ให้ใครรู้เด็ดขาด
เหล่าไท่ไท่จึงสร้างเื่ด้วยตัวเองโดยบอกว่าคุณชายจูยังไม่ตาย เพียงอาการทรุดและหมดสติชั่วคราวเท่านั้น ทุกคนเสียใจที่ไม่ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด เมื่อผู้าุโหลัวเดินทางไปข้างนอกบังเอิญได้ยินเื่นี้จึงกลับมาตรวจอาการคุณชายจูเงียบ ๆ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ชอบพบปะผู้คนจึงทิ้งจดหมายสอนวิธีการรักษาให้หลัวไป๋เฉียน ด้วยเหตุนี้จึงช่วยชีวิตลูกชายของเขาได้ เหล่าไท่ไท่จะบอกหลัวไป๋เฉียนและภรรยาของเขาเกี่ยวกับ “เสี่ยวอี้ฝันว่าเซียนผู้เฒ่าบอกวิธีช่วยชีวิตหลานชายของนางโดยแลกกับใบหน้าที่สวยงาม” หลัวไป๋เฉียนและภรรยาของเขาจะต้องรักเสี่ยวอี้เป็สองเท่า เสี่ยวอี้ที่ขาดความรักจากแม่ก็จะเติบโตด้วยความรักของพี่ชายและพี่สะใภ้ เหล่าไท่ไท่ก็จะได้เห็นครอบครัวที่ดีและสามัคคีกัน ช่างเป็ภาพที่ทำให้ผู้คนมีความสุขเหลือเกิน!
แต่สิ่งเดียวที่คาดไม่ถึงคือ...ขณะเหล่าไท่ไท่เพิ่งหารือเื่ข้อแก้ตัวกับหยางมามาเสร็จ ทว่ายังไม่ทันจะได้คุยกับเหอตังกุย ต่งซินหลันก็มาเอะอะหน้าประตูเสียก่อน
เมื่อเหล่าไท่ไท่รู้ว่าต่งซินหลันมาที่นี่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้คุณชายจูก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย คราแรกนางตกลงจะคืนความยุติธรรมให้ครอบครัวสาขาแรก ทั้งยังวางแผนให้เสี่ยวอี้ขอโทษ แต่ตอนนี้หากจู่ ๆ ก็ขอให้เสี่ยวอี้ขอโทษพี่สะใภ้ เสี่ยวอี้ก็คงเสียใจไม่น้อย หากเสี่ยวอี้คิดว่าการกระทำของนางมีน้ำหนักเกินกว่าความผิดพลาดแล้วตัดสินใจเล่าความจริงเื่เซียนผู้เฒ่า สถานการณ์ก็จะยิ่งแย่ เหล่าไท่ไท่จึงวางแผนไกล่เกลี่ยกับทั้งสองฝ่ายในคืนนี้เพื่อบรรเทาความโกรธของพวกเขา เมื่อทุกคนจากไป นางจะเกลี้ยกล่อมเสี่ยวอี้ให้ขอโทษพี่สะใภ้ในวันรุ่งขึ้น ต่งซื่อเป็หญิงมีคุณธรรมและมีเหตุผล จะเอาจริงเอาจังกับเด็กได้อย่างไร?
หยางมามาเห็นด้วยกับแิของเหล่าไท่ไท่ วิธีนี้จะทำให้ทุกคนในตระกูลหลัวมีความสุข ผู้คนทุกสาขาจะต้องพอใจ คุณชายใหญ่ก็จะได้รับความยุติธรรม ความผิดที่เอ้อร์ไท่ไท่ละทิ้งหน้าที่จะจบลงเงียบ ๆ คุณหนูสามผู้น่าสงสารก็จะได้รับเงินจำนวนแปดร้อยตำลึงเป็การชดเชย แม้นางจะไม่ได้รับความเป็ธรรมใน่แรก แต่นางจะมีความสุขเมื่อเงินเหล่านี้ส่งมาถึง
ความจริงแล้วแผนการดังกล่าวเป็ไปเพื่อประโยชน์ของคุณหนูสาม ในจวนหลังใหญ่เช่นนี้ ผู้คนไม่สามารถดูแลนางได้เต็มที่ ชื่อเสียงที่ดีในการช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไม่เห็นแก่ตัวก็เทียบไม่ได้กับเงินจำนวนมาก แม้จะเป็การ “เลี้ยงหนูเพื่อทำร้ายหลานชายจนต้องโขกหัวยอมรับผิดต่อหน้าทุกคน” แต่อนาคตของนางจะยังคงสดใสด้วยภูมิหลังครอบครัวที่ดี ฐานะสูงส่ง อีกทั้งเหล่าไท่ไท่ยังจะหาครอบครัวที่ดีให้นางและมอบสินสอดเพิ่มเพื่อชดเชย
หลังต่งซินหลันบุกเข้ามา หยางมามาก็กลัวว่าต่งซินหลันจะพูดเกินไปด้วยความโกรธ ด้วยอารมณ์นุ่มนวลของคุณหนูสามอาจไม่สามารถทนคำพูดมากเกินไปเหล่านี้ได้ หยางมามาจึงส่งแม่นางจีไปยืนข้างหลังคุณหนูสามพร้อมบอกว่าหากสถานการณ์ไม่ดีให้พาคุณหนูสามกลับห้องก่อน แล้วสถานการณ์เลวร้ายจะคลี่คลายในที่สุด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้