ตูม!
ภายใต้คำสั่งของกู่ไห่ เกาเซียนจือหยิบเม็ดหมากล้อมสีทองของตน เพื่อเรียกอิงหลงออกมา และควบคุมให้มันบินลงไปด้านล่างทันที
ฟิ้ว!
อสูรเมฆาจำนวนมากที่รายล้อมอยู่ ค่อยๆ หลีกทางให้ทีละตัว
ในหุบเขาแห่งหนึ่ง ร่างเปื้อนเืของเหล่าศิษย์หออี้ผิน ที่ถูกขนนกยูงของจักรพรรดิเซียนต้าิ ตัดเป็สองส่วน ตกกระจัดกระจายบนพื้น แต่กลับมีบางร่างที่รอดชีวิต
มิใช่ผู้ใด เป็เิไท่ที่กลืนเม็ดยาลงไปอย่างต่อเนื่อง เวลานี้เขาได้คลานไปยังร่างกายท่อนล่างของตน น่าแปลกยิ่ง เมื่อกลืนเม็ดยาลงไป ร่างกายทั้งสองส่วนก็เริ่มเชื่อมต่อกันอีกครั้ง
กระนั้น ร่างที่ถูกตัดเป็สองส่วน ก็ทำให้สูญเสียพลังไปมาก ตอนนี้เขากำลังคลานไปยังส่วนลึกของป่าอย่างทุลักทุเล
สถานที่ที่ตกลงมานั้น เป็หุบเขาบนูเาอันรกร้าง ซึ่งมีก้อนหินมากมายกระจายอยู่โดยรอบ ดังนั้นจึงไม่มีสถานที่ให้หลบซ่อนได้เลย เพียงพริบตา เขาก็ถูกกู่ไห่หาพบ
ตูม!
อิงหลงพุ่งลงมาบนพื้น
“ไม่!” สีหน้าของชายมีเคราเปลี่ยนไปทันที
ปัง!
เ้าัั์เหยียดกรงเล็บไปคว้าจับตัวเขาไว้ จากนั้นก็ทะยานขึ้นฟ้า และบินเข้าไปยังกลุ่มเมฆดำ
“ปล่อยข้าๆ!” เิไท่ร้องะโด้วยสีหน้าร้อนรน
ไม่เคยอับอายเช่นนี้มาก่อน แม้แต่ครั้งเดียว อีกนิดเดียวก็จะหนีไปซ่อนตัวได้แล้วแท้ๆ
ฟิ้ว!
พริบตา ชายมีเคราก็ถูกนำตัวมาที่ด้านหน้ากู่ไห่
“หึ! หัวหน้าสังกัดเิ” ดวงตาชายหนุ่มเปล่งประกายเย็นเฉียบ
“กู่ไห่ เ้าคิดจะกระทำสิ่งใด ข้าคือหัวหน้าสังกัดปฐีแห่งหออี้ผิน หากกล้าทำร้ายข้า เ้าต้องพบจุดจบไม่ดีแน่” สีหน้าเิไท่เปลี่ยนไปทันที
“ชะตากรรมของข้า ไม่จำเป็ต้องให้ใครมาบอก ที่ให้จับเ้ามาที่นี่ ก็แค่อยากจะบอกว่า ข้ารู้ทุกอย่างที่เ้าทำ เื่ที่เ้ายุยงซ่งฉิงซู ข้าก็รู้เช่นกัน และก็ได้ให้โอกาสซ่งฉิงซูกลับตัวแล้ว แต่เขาไม่รับมันไว้
ในฐานะสหายร่วมสำนัก ข้าก็ให้โอกาสเ้าเช่นเดียวกัน แต่เ้ากลับไม่ทะนุถนอมมัน ข้าจึงไม่มีอะไรจะพูดอีก... ตายเสียเถอะ!” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเย็น
ชิ้ง!
ทวนวงเดือน์ของแม่ทัพผู้กล้า ฟาดฟันไปทางชายมีเครา
ไอสังหารอันรุนแรงพุ่งตรงไปที่เิไท่ พร้อมปลายทวน
ชายมีเคราหน้าถอดสี “ช้าก่อนๆ! อยากให้ทุกคนในครอบครัวเ้าตาย กระนั้นหรือ?”
“เอ๊ะ?” ทวนวงเดือน์ หยุดลงทันใด
“เกาะจิ๋วหวู่... สำนักซ่งเจี่ยแห่งเกาะจิ๋วหวู่ มีข้อตกลงกับทางเรา ในไม่ช้า พวกเขาจะรวมเกาะจิ๋วหวู่เป็หนึ่งเดียว และสำนักต่างๆ บนเกาะจะอยู่รอดได้ ก็ต่อเมื่อยอมเชื่อฟังสำนักซ่งเจี่ย มิฉะนั้นจะถูกทำลายล้างสิ้น สำนักชิงเหอก็ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมนี้ไปได้เช่นกัน
หากมีสิ่งเกิดขึ้นกับข้า ทุกคนในตระกูลกู่ต้องตาย” เิไท่กล่าว พลางจ้องกู่ไห่
“ว่าอย่างไรนะ?” สีหน้าของเฉินเทียนซานที่อยู่ไม่ไกล เปลี่ยนไปทันที
กู่ไห่หรี่ตาลง “หึ!”
ชิ้ง!
ทวนวงเดือน์ เหวี่ยงไปยังชายมีเครา
“ไม่!”
ตูม!
เิไท่ถูกผ่าออกเป็สองซีก เืและอวัยวะภายในกระจายเกลื่อน
ปัง!
อิงหลงเหวี่ยงศพชายมีเคราทิ้งไป
ยามนี้เป็ไปไม่ได้เลย ที่เิไท่จะสามารถลุกขึ้นมาได้อีก
ปัง!
ศพของเขาร่วงหล่นพื้น กลายเป็เศษเนื้อแหลกเหลว
ความหนาวเหน็บแล่นไปตามกระดูกสันหลังของเหล่าผู้ฝึกตนโดยรอบ เมื่อมองดูกู่ไห่
คนผู้นี้มีความเป็มาเช่นไรแน่? เิไท่เป็สหายร่วมสำนักเขามิใช่หรือ? กู่ไห่ทำเื่โเี้เช่นนี้กับสหายร่วมสำนักได้อย่างไร?
คุณชายเก้าที่อยู่ไม่ไกล มีสีหน้าไม่น่าดูนัก เมื่อเห็นใบหน้าตื่นกลัวของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ
ที่นี่มีอสูรเมฆานับแสนตนเชียวนะ... แสนตน! ส่วนกู่ไห่นั่น มีผู้ติดตามแค่สองคน แต่ในบรรดาอสูรเมฆานับแสนตน กลับไม่มีผู้ใดกล้าบุกเข้าไป?
คุณชายเก้าอยากบุกเข้าไป แต่เหล่าผู้ฝึกตนทั้งหมด กลับไร้ความคิดที่จะต่อสู้ ต่อให้บุกเข้าไป ก็ไร้ความหมายอยู่ดี
ดังคำกล่าวที่ว่า ‘หนึ่งบุรุษเฝ้าด่าน หมื่นทหารมิอาจกล้ำกราย!’
“ท่านหัวหน้า ตอนนี้เราควรจะทำอย่างไรดีขอรับ?” เฉินเทียนซานถาม พร้อมมองกู่ไห่
“เป้าหมายของเราเกือบสำเร็จแล้ว หลังเสร็จธุระที่นี่ เราจะกลับไปที่เกาะจิ๋วหวู่ และเตือนหัวหน้าสำนักชิงเหอ ให้ระวังแผนร้ายของหัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยและศิษย์หออี้ผิน” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเคร่ง
“เอ๊ะ? ศิษย์หออี้ผิน? ท่านหัวหน้า...” เฉินเทียนซานกล่าว ใบหน้าดูน่าเกลียดยิ่ง
“ถังจู่คงไม่ทราบเื่ นี่ต้องเป็การตัดสินใจส่วนตัวของเิไท่และพวก ต้องมีการแอบสมรู้ร่วมคิดกันแน่ บางทีอาจมีสิ่งสำคัญซึ่งซ่อนเร้นอยู่บนเกาะจิ๋วหวู่ จึงทำให้พวกเขาจดจ่ออยู่กับที่นั่นเช่นนั้น!” กู่ไห่วิเคราะห์
“มีบางอย่างบนเกาะจิ๋วหวู่? เหตุใดท่านหัวหน้าถึงได้สังหารเิไท่ เมื่อครู่?...” เฉินเทียนซานมีสีหน้ากังวลยิ่ง
“สายตาของเิไท่ ได้บอกข้าแล้ว ว่าเขาจะไม่พูดสิ่งใดทั้งสิ้น หากเรายังฟังความต่อไป เขาก็จะเอาแต่โป้ปด ดังนั้นไม่ฟังจะดีที่สุด” ชายหนุ่มกล่าว น้ำเสียงจริงจัง
“ขอรับ!” แม้เฉินเทียนซานจะไม่เชื่อนัก แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับเท่านั้น
“อรหันต์เหลียนเซิง ขอบคุณท่านมาก” กู่ไห่หันไปเอ่ยกับภิกษุชรา
“หวังว่าหัวหน้ากู่จะไม่ตำหนิอาตมา ในอนาคต ท่านจะทราบเองว่าจักรพรรดินีหนี่วาคือผู้ใด แม้แต่อาตมา ก็ยังเป็ได้เพียงเด็กน้อยสำหรับนาง... หึ!
อาตมาได้สิ่งที่้าแล้ว ไม่ช้าคงต้องไปจากที่นี่ ถึงเวลาหากได้พบกันอีกครั้ง หวังว่าหัวหน้ากู่จะยังช่วยทำตามคำขอของอาตมา” อรหันต์เหลียนเซิงกล่าว พลางประนมมือ
“หากเป็สิ่งที่ข้าทำได้ ก็ยินดีช่วยเต็มที่!” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ
ผู้ทรงศีลผงกศีรษะเป็เชิงรับรู้
“ใช่แล้ว! อรหันต์เหลียนเซิง ผู้น้อยไม่เข้าใจในเื่หนึ่ง เหตุใดท่านและจักรพรรดิเซียนต้าิ จึงสามารถเหาะเหินได้ โดยไม่จำเป็ต้องพึ่งพาอสูรเมฆา? หรือว่าระดับการฝึกปรือของพวกท่าน มิได้ถูกจำกัดเอาไว้ที่ระดับก่อ์?” กู่ไห่เอ่ยถามอย่างใคร่รู้
“ระดับการฝึกปรือของพวกเรา อยู่ในระดับก่อ์” อรหันต์เหลียนเซิงตอบ พลางยกยิ้ม
“เอ๊ะ?” ชายหนุ่มมองอีกฝ่ายด้วยความสับสน
ต้องรู้ ว่าพลังการต่อสู้ของจักรพรรดิเซียนต้าินั้น แข็งแกร่งนัก
“จักรพรรดิเซียนต้าิอยู่ในระดับก่อ์ อีกทั้งยังมิได้ใช้พลังอย่างเต็มที่ด้วย ทว่า เขามิได้ใช้พลังฝึกปรือต่อสู้กับท่าน แต่ใช้พลังิญญา ซึ่งเป็พลังที่แข็งแกร่งเช่นกัน” ภิกษุชราอธิบาย
พูดจบ อรหันต์เหลียนเซิงก็เหาะไปยังปากทางเข้าออกดินแดน
“พลังิญญา?” กู่ไห่มองเฉินเทียนซาน พลางขมวดคิ้ว
เฉินเทียนซานก็มีสีหน้างุนงงเช่นกัน เขาพูด พลางส่ายหน้า “เื่นี้ข้าก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่เหมือนเคยได้ยินหัวหน้าสำนักพูดอยู่ครั้งหนึ่ง ว่าสัตว์อสูรเกิดมาพร้อมพลังิญญา ส่วนเื่อื่นๆ ข้าก็ไม่ทราบเช่นกันขอรับ!”
กู่ไห่พยักหน้า
ค่ายกลหมากแผ่กระจายออกไป พวกเขายังคงรอคอยเว่ยเซิงเหริน
...
ณ ลานกว้างแห่งหนึ่ง
ผู้าุโใหญ่ และชายหนุ่มผู้ป่วยไข้ เฝ้ามองทุกอย่างที่เกิดขึ้นโดยไม่ละสายตา
“จักรพรรดินีหนี่วา... นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ชายหนุ่มอมโรคกล่าว สีหน้าไม่น่าดูนัก
“ข้าก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ตอนนี้เราคงต้องตรวจสอบเื่นี้อย่างละเอียดเสียแล้ว” ผู้าุโใหญ่กล่าว น้ำเสียงเครียดขึง
ชายหนุ่มผู้ป่วยไข้พยักหน้าเห็นด้วย พลางเงยหน้ามองกลุ่มเมฆบนฟ้า แล้วหรี่ตา คล้ายว่ากำลังจะลงมือแล้ว
วูบ!
ทันใดนั้น อากาศรอบๆ ยอดเขาอันห่างไกลก็เริ่มกระเพื่อม กระแสพลังชี่กระจายออกไปทุกสารทิศ
“เว่ยเซิงเหรินกำลังจะปรากฏตัว?” สีหน้าของชายหนุ่มอมโรคเปลี่ยนไปทันที
“อยู่นี่ ไม่ต้องตามข้ามา” ผู้าุโใหญ่กล่าว น้ำเสียงจริงจัง
ขาดคำ ร่างของผู้าุโใหญ่ก็เหาะจากไป
ฟิ้ว!
...
ไม่นานนัก ผู้าุโใหญ่ก็เหาะมาถึงยอดเขาลูกนั้น
เหนือยอดเขา ปรากฏเงาร่างค่อยๆ ก้าวออกมาจากความว่างเปล่า
เสื้อคลุมที่ร่างนั้นสวมอยู่ ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ มันถูกแบ่งออกเป็สองซีก ฝั่งหนึ่งเป็สีดำ อีกฝั่งเป็สีขาว
ร่างเขาถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมสีดำและสีขาว สวมหมวกปีกกว้างคลุมศีรษะ มองเห็นเพียงมือเท่านั้น
แต่มือคู่นั้นกลับสร้างความประหลาดใจ ให้กับผู้ฝึกตนเกือบทั้งหมดที่อยู่รายรอบ
มือขวาในเสื้อคลุมสีดำนั้น เหี่ยวย่น มีกระเป็จำนวนมาก เฉกเช่นมือของชายชรา
ส่วนมือซ้ายที่อยู่ในเสื้อคลุมสีขาวนั้น เต่งตึง เรียบเนียนมาก ดั่งมือของทารก
ระลอกคลื่นในอากาศจางหาย เมื่อชายในชุดคลุมสีขาวดำเดินออกไป
บัดนี้ ชายในชุดคลุมสีดำ เหาะเข้ามาจากที่ห่างไกล
“เว่ยเซิงเหริน เหตุใดท่านถึงปรากฏตัวออกมา?” ชายชุดดำถาม
ชายในชุดคลุมสีขาวดำมองกลุ่มเมฆบนนภา ก่อนหันไปทางชายชุดดำ “ผู้าุโใหญ่ เหตุใดท่านถึงไม่แจ้งให้ข้าทราบ ว่ามีคนกำลังตามหาอยู่”
ชายในชุดคลุมสีขาวดำกล่าวจบ ดวงตาของเหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่โดยรอบ ต่างเบิกกว้าง เพราะเสียงของเขากลับมีสองเสียง หนึ่งเยาว์วัยราวกับทารก ส่วนอีกหนึ่งกลับแหบพร่าดั่งชายชรา
พูดคนเดียว แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับมีสองเสียง?
“เว่ยเซิงเหริน?” จู่ๆ ก็มีคนร้องโพล่งด้วยความประหลาดใจ
วูบ!
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนต่างหันไปมองด้วยความแปลกใจ
ต้องรู้ ว่าเป้าหมายของกู่ไห่ที่เรียกกองทัพอาชาออกมา ทั้งหมดก็เพื่อตามหาชายผู้นี้ มิใช่หรือ?
...
สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงตาของกู่ไห่ เกาเซียนจือ และเฉินเทียนซานส่องประกายวาบทันควัน
“ท่านหัวหน้า เหมือนว่าการตวัดหางครั้งสุดท้ายของจักรพรรดินีหนี่วา คงจะทำให้เว่ยเซิงเหรินรับรู้ได้กระมัง?” เกาเซียนจือกล่าว แววตายินดียิ่ง
“ในที่สุดก็พบแล้ว!” เฉินเทียนซานร้องอย่างตื่นเต้น
เมื่อพบตัวเว่ยเซิงเหริน พวกเขาก็สามารถกลับเกาะจิ๋วหวู่ได้แล้ว
...
ไกลออกไป ผู้าุโใหญ่ในชุดคลุมสีดำนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบ “ท่านมีกิจธุระ เราจึงไม่อยากรบกวน”
“กิจของข้า ไม่จำเป็ต้องให้เ้ามาตัดสินใจแทน!” เว่ยเซิงเหรินกล่าวอย่างเ็า
ขณะพูด เขาก็เงยหน้าขึ้นมองค่ายกลขนาดใหญ่
แม้ว่าค่ายกลจะถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก แต่กู่ไห่ก็รู้สึกได้ว่า สายตาของอีกฝ่าย กำลังมองทะลุค่ายกลมาที่ตัวเอง
“ใช้ต้นท้อร้อยปีเป็ตัวประกันเพื่อพบข้า... เ้าเป็ใคร? เหตุใดถึงรู้ว่าข้าอยู่ที่นี่?” เสียงของเว่ยเซิงเหรินดังขึ้นอีกครั้ง
เสียงของเด็กและชายชราที่สอดประสานกันนั้น ฟังดูน่ากลัวยิ่ง
“ผู้น้อยคือหัวหน้าสังกัดวารีแห่งหออี้ผิน กู่ไห่... ครานี้ เป็ถังจู่ที่สั่งให้ข้ามาที่นี่ เพื่อตามหาผู้าุโเว่ยเซิงเหรินขอรับ!” ชายหนุ่มกล่าว น้ำเสียงจริงจัง
“ถังจู่หออี้ผิน? หึ! นางไม่มาหาข้าด้วยตนเอง กลับส่งคนมาพบแทน?” เสียงของเว่ยเซิงเหริน ฟังดูว้าเหว่ยิ่ง
“บางทีถังจู่หออี้ผินที่ผู้น้อยรู้จัก อาจมิใช่คนเดียวกับถังจู่ที่ผู้าุโรู้จักก็เป็ได้ ” กู่ไห่กล่าว พลางหายใจเข้าลึก
“โอ้! ถังจู่คนปัจจุบันคือผู้ใด?” เว่ยเซิงเหรินถาม
“หลงหว่านชิง นางน่าจะเป็ลูกสาวของถังจู่ที่ผู้าุโรู้จัก ตอนนี้นางคือถังจู่คนใหม่” ชายหนุ่มตอบ
“ลูกสาว? หลงหว่านชิง? ฮ่าๆๆ! ผู้หญิงคนนั้นแต่งงานแล้ว! สามีของนางคือผู้ใด?” เว่ยเซิงเหรินกล่าว น้ำเสียงสั่นเครือ
กู่ไห่เงียบไปทันที
“ทำไม? พูดมิได้หรือ?” เว่ยเซิงเหรินถาม น้ำเสียงหนักหน่วง
“มิใช่เช่นนั้น หลงหว่านชิงส่งข้ามาที่นี่เพื่อตามหาผู้าุโ นาง้าขอให้ผู้าุโออกไปช่วยเหลือนาง และยังให้ข้านำสิ่งนี้มาด้วย” ชายหนุ่มสูดหายใจ พลางหยิบกล่องเล็กๆ ออกมา
ฟิ้ว!
พลันกล่องเล็กๆ นั่น ก็พุ่งไปหาเว่ยเซิงเหริน ก่อนร่อนลงบนฝ่ามือเขา
“ออกไปหรือ? เป็ไปไม่ได้ เว่ยเซิงเหริน ท่านรับปากท่านประมุขไว้แล้ว” ผู้าุโใหญ่ร้องโพล่งอย่างใ
เว่ยเซิงเหรินเปิดกล่องออก และมองเข้าไปข้างใน จ้องปิ่นประดับที่วางในกล่อง นั่นเป็ปิ่นที่เรียบง่ายและธรรมดามาก ปราศจากพลังิญญาใดๆ ทั้งสิ้น
“นี่คือสิ่งที่ข้ามอบให้ผู้หญิงคนนั้นในอดีต นางมิได้ทิ้งมันไปแล้วหรอกหรือ? นางโกรธข้ามากมิใช่หรือ... แต่ยังเก็บมันไว้?” เสียงของเว่ยเซิงเหรินเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และยินดี
“ผู้าุโ โปรดระงับความรู้สึก” กู่ไห่กล่าว
เว่ยเซิงเหรินสงบลง และมองดูอีกฝ่าย
“ตามที่หลงหว่านชิงบอก นางได้สูญเสียมารดาไปเมื่อยี่สิบปีก่อนแล้ว และจนถึงตอนนี้ ก็ยังหาตัวฆาตกรไม่พบ ดังนั้นนางจึง้าขอให้ผู้าุโออกไป ช่วยนางตามหาฆาตกร ล้างแค้นให้มารดาของนาง ขอผู้าุโออกจากการเก็บตัวด้วย” ชายหนุ่มกล่าว
ทุกคนต่างกลั้นหายใจ
เว่ยเซิงเหรินมองกู่ไห่ พลางเอ่ย “อะไรนะ? พูดซ้ำอีกทีสิ! ข้าได้ยินไม่ชัด พูดซ้ำอีกรอบ! ผู้หญิงคนนั้นเป็อะไร? นางเป็อย่างไรนะ?”
“หลงหว่านชิงคงพบปิ่นนี่เข้า ในตอนที่กำลังจัดเก็บสิ่งของต่างหน้าของมารดา ข้าเห็นว่ากล่องเล็กๆ นี่ อยู่ในสภาพดียิ่ง เมื่อครั้งยังมีชีวิต มารดาของนางคงดูแลมันอย่างดี
มารดาของถังจู่ถูกใครบางคนสังหาร อีกทั้งยังตายอย่างไม่เป็ธรรม แม้จะผ่านมายี่สิบปีแล้ว ก็ยังหาฆาตกรไม่พบ ดังนั้น นางจึงขอร้องให้ผู้าุโออกจากการเก็บตัว และตามหาฆาตกรที่สังหารมารดาของนาง เพื่อล้างแค้น” ชายหนุ่มเล่าซ้ำอีกครั้ง
“ผู้หญิงคนนั้นถูกฆ่า?” ร่างของเว่ยเซิงเหรินโอนเอนทันที ราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้