“บ่าว บ่าวได้รับความไม่เป็ธรรม ท่านรองโปรดละเว้นบ่าวสักครั้งเถิดเ้าค่ะ”
เห็นได้ชัดว่าเฉิงจือซวี่ไม่ได้โกรธ แต่เมื่อถูกสายตาเขามองมา แม่นมโจวกลับรู้สึกอึดอัด
สุดท้ายแล้วก็เป็ผู้ที่เป็เ้าเมืองขั้นสี่ ไม่ใช่เด็กทารกที่เคยต้องให้แม่นมโจวดูแลผู้นั้น แรงกดดันยามเผชิญหน้ากับเฉิงจือซวี่เหนือกว่าตอนเผชิญหน้ากับฮูหยินผู้เฒ่าจูนัก!
ทำลายการสอบระดับอำเภอของเฉิงชิง ไม่ควรค่านัก
เฉิงจือซวี่คร้านจะลงมือ ไม่ต้องพูดถึงว่าเฉิงชิงจะได้ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอเลย ถึงจะสอบได้ตำแหน่งบัณฑิตจ้วงหยวนทันที กว่าจะได้เป็เ้าเมืองขั้นสี่ก็ต้องใช้เวลาอีกเป็สิบปี อีกทั้งใน่เวลานี้ ตัวเฉิงจือซวี่จะไม่เลื่อนขั้นอีกได้อย่างไร?
เขาไม่เห็นเฉิงชิงเป็ศัตรูโดยสิ้นเชิง
ถึงแม้จะมีปัญญามาก รอหนังสือตัดสินของราชสำนักลงมาแล้ว ความโด่งดังเพียงชั่วครู่ในยามนี้ของเฉิงชิงก็จะหายไปในชั่วพริบตา แม้แต่ชะตาที่จะเป็คู่ต่อสู้ของเฉิงกุยยังไม่มีเลย!
หากไม่ใช่เพื่อชื่อเสียงภายในตระกูลของบ้านรอง เฉิงจือซวี่ก็คร้านจะไปพบเฉิงชิง
แต่คาดไม่ถึงว่ามารดาของตนจะตัดใจยาก แม้แต่ความโด่งดังเพียงชั่วครู่ก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้รับ แต่แค่นี้ก็ไม่นับว่าเป็อันใด เื่ก็ทำไปแล้ว เฉิงจือซวี่ย่อมไม่มีทางไปกล่าวโทษมารดาของตนเพราะเื่นี้——แต่แม่นมโจวดำเนินการไม่เรียบร้อย คนที่ส่งไปถูกจับคาที่ เฉิงจือซวี่ไม่กลัวว่าที่ว่าการอำเภอจะตรวจสอบเจออะไร นายอำเภอหลี่เป็คนฉลาดผู้หนึ่ง ความขัดแย้งภายในตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋ นายอำเภอหลี่คงจะคืนกลับมาให้ตระกูลเฉิงจัดการเอง
แต่เมื่อเป็เช่นนี้แล้ว สุดท้ายก็ถูกนายท่านห้าจับจุดอ่อนได้อยู่ดี
นายท่านห้าย่อม้าจุดอ่อนนี้มาก
เฉิงจือซวี่นึกมาถึงตรงนี้ แววตาก็พลันมืดมน
“แม่นมโจว เ้าคือคนเก่าแก่ภายในบ้าน เื่อะไรที่ควรทำ คำพูดใดที่ควรกล่าว เ้าย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ ข้าเห็นว่าฝูกุ้ยเป็คนที่ฉลาดหลักแหลม อีกไม่กี่วันก็จะพาเขาไปรับตำแหน่งด้วย เ้ากลับก่อเื่เช่นนี้ขึ้นมา”
ฝูกุ้ยคือบุตรชายคนเล็กของแม่นมโจว บัดนี้เป็บ่าวรับใช้ข้างกายของเฉิงจือซวี่
นอกจากบุตรชายคนนี้แล้ว แม่นมโจวยังมีบุตสาวบุตรชายคนอื่นอีก ทั้งรุ่นล้วนเป็คนรับใช้ บุตรสาวบุตรชายทุกคนของแม่นมโจวล้วนเป็คนรับใช้ของบ้านรอง สัญญาขายตัวล้วนอยู่ในกำมือของบ้านรอง ไม่ว่าเหล่าเ้านายบ้านรองคิดจะจัดการแม่นมโจวอย่างไร นางก็ล้วนรับได้
เฉิงจือซวี่เอ่ยถึงฝูกุ้ยขึ้นมา แม่นมโจวก็ตัวพลันตัวอ่อนกองลงกับพื้น
ท่านรองสมกับเป็บุตรที่ฮูหยินผู้เฒ่าให้กำเนิดเอง บุตรและมารดาทั้งสองมีจิตใจโเี้เช่นเดียวกัน!
คืนนั้นแม่นมโจวล้มป่วยเป็โรคร้าย ฟ้ายังไม่ทันสว่างก็ถูกส่งไปยังเคหาสน์ในชนบทเพื่อรักษาตัว หมอที่เชิญมาก็กล่าวว่าโรคนี้ติดต่อคนได้ แม้แต่บุตรสาวและบุตรชายก็ไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม
เฉิงกุยรู้ข่าวในเช้าวันที่สอง นิ่งอึ้งไปนาน
แม่นมโจวร่างกายแข็งแรงเช่นนั้น เหตุใดจู่ๆ ถึงป่วยเป็โรคร้ายไปได้?
เขาถามถึงอาการป่วยของแม่นมโจว ได้รับคำอธิบายอย่างขอไปที เฉิงกุยจึงได้ตระหนัก
ภายในใจของเขารู้สึกหดหู่ ไม่รู้ว่าควรไปปรึกษาผู้ใด มีเพียงอวี๋ซานที่รู้ข้อมูลภายใน ทั้งสองบังเอิญเจอกัน อวี๋ซานก็รู้สึกว่าเฉิงกุยไร้เหตุผลเกินไปแล้ว
“ยามเ้าคิดจะทำเื่ดีก็ควรนึกถึงผลลัพธ์เช่นนี้!”
หากเฉิงชิงไปเข้าร่วมการสอบระดับอำเภอไม่ได้ หรือว่าตกหลุมพรางแผนร้ายจนต้องแบกรับมลทินเพียงผู้เดียว ก่อนหน้าที่อวี๋ซานจะนำคนไปส่งที่ที่ว่าการอำเภอก็รู้แล้ว สุดท้ายเื่นี้ก็คงสืบไปไม่ถึงตัวเ้านายของบ้านรอง ย่อมต้องให้บ่าวจงรักภักดีผู้หนึ่งเป็คนแบกรับมลทิน
แต่ฮูหยินผู้เฒ่าจูก็ใจแข็งยิ่งนัก แม่นมที่รับใช้ข้างกายมาหลายปี พอบอกว่าจะทิ้งก็ทิ้งกันได้ลงคอ ทว่าอวี๋ซานที่ไปเป็แขกบ้านรองเป็ประจำยังรู้สึกว่าฮูหยินผู้เฒ่าจูเมตตาและอ่อนโยน!
เฉิงกุยสับสน แต่อวี๋ซานกลับไม่เสียใจแม้แต่น้อย
แม่นมโจวของบ้านรองก็ไม่เคยปรนนิบัติอวี๋ซาน ระหว่างอวี๋ซานและแม่นมโจวไร้ความรู้สึกต่อกัน เขาจึงไม่อาจสงสารแม่นมโจว
ไม่ใช่แม่นมโจวก็เป็ฮูหยินผู้เฒ่าจู หากเฉิงกุยเป็เดือดเป็ร้อนแทนแม่นมโจวก็ได้แต่เห็นคุณธรรมนำคนในครอบครัว ไปแจ้งความผิดของท่านย่าแท้ๆ แล้ว นี่ย่อมเป็ไปไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ต้องคิดแล้ว เมื่อไม่มีบ่าวชราผู้นั้นส่งเสริม หลังจากนี้ท่านย่าของเ้าก็คงไม่เพ่งเล็งเ้าเด็กเวรเฉิงชิงนั่นแล้ว… ไม่ใช่ว่าเป็แค่บัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอหรือ อย่าบอกนะว่าเ้าและข้ายังกลัวว่าเฉิงชิงจะไม่สำเร็จ? ให้เขาดีใจไปก่อนสักหลายวัน บัดนี้ปีนขึ้นสูงแล้ว หลังจากนี้เมื่อตกลงมาแล้วจะยิ่งน่าสังเวช!”
เฉิงชิงต้องสอบให้ผ่านระดับอำเภอและระดับเมือง จึงจะมีคุณสมบัติเข้าร่วมการสอบระดับสำนักศึกษา
ปีนี้อวี๋ซานเองก็ต้องเข้าร่วมการสอบระดับสำนักศึกษาด้วยเช่นกัน
เขาหวังจะเห็นเฉิงชิงโชคร้าย แต่ไม่ใช่โชคร้ายถูกคนวางแผนใส่เช่นนั้น
ดวงตาคู่นั้นของเฉิงชิงช่างงดงาม แม้จะจงใจเจียมตัวแล้ว อวี๋ซานก็ยังคงััได้ถึงความโอหังของเฉิงชิง ช้าเร็วต้องมีสักวันหนึ่งที่เขาต้องทำให้เฉิงชิงยอมสยบอย่างเต็มใจ จากนี้ไปเชื่อฟังเขาอย่างดี!
เฉิงชิงยังไม่รู้ว่ามีคนที่จดจ่อกับความ้าให้นางศิโรราบ
หากรู้ก็คงหัวเราะเยาะความคิดเพ้อเจ้อของอวี๋ซาน
อวี๋ซานที่เป็เด็กยังไม่โตเต็มวัยเช่นนั้นจะทำให้นางศิโรราบได้ นอกจากว่าความรู้และประสบการณ์ของการเป็คนสองโลกทั้งหมดจะเป็ของปลอม เยี่ยอ๋องซื่อจื่อผู้นั้นไม่ใช่ว่าแข็งแกร่งกว่าอวี๋ซานหรือ แม้แต่กับเยี่ยอ๋องซื่อจื่อ นางเองก็ไม่ได้มีความคิดนอบน้อมนะ!
เ้าคนแซ่เซียวนั่นยังกล่าวอีกว่าในสามเดือนก็จะมีผลลัพธ์ นี่ผ่านมานานแล้ว คนทั้งครอบครัวพวกนางก็ยังคงถูกกักบริเวณ
ก่อนหน้านี้ยังไม่รู้สึก พอได้ลิ้มรสอิสรภาพหลายวันเข้า เมื่อกลับไปถูกกักขังที่ตรอกหยางหลิ่วอีก เฉิงชิงก็รู้สึกยากที่จะทานทนได้เป็พิเศษ วันนี้เป็การประกาศรายชื่อการสอบระดับอำเภอครั้งสุดท้าย นางอยากจะไปดูรายชื่อด้วยตนเองเหลือเกิน แต่ก็ได้แต่เพียงถูกขังรอฟังข่าวที่ตรอกหยางหลิ่ว
เฮ้อ!
ชีวิตนางผ่านไปอย่างไม่มีความสุข นายอำเภอหลี่แห่งหนานอี๋ก็ยิ่งลำบากใจ
เื่หนึ่งคือจะแต่งตั้งเฉิงชิงให้เป็บัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอหรือไม่ อีกเื่คือคนครอบครัวนั้นที่บุตรชายของเ้าเมืองอวี๋จับตัวส่งมายังที่ว่าการอำเภอ
คนบ้านนอกถูกขัง ณ ที่ว่าการอำเภอสองวัน พอถูกลากมายังห้องโถงก็หวาดกลัว อะไรก็ล้วนรับสารภาพทั้งหมดแล้ว
นายอำเภอหลี่เป็คนใจอ่อน ไม่มีทางทรมานเด็กและสตรี นอกจากเด็กและสตรีครอบครัวนี้ก็ยังมีบุตรชายคนหนึ่งนี่ พอนำไม้ลงทัณฑ์มาแล้วเฆี่ยนตีสองไม้ ผู้ที่เป็มารดาก็ปวดใจ ย่อมสารภาพของมาทั้งหมดแล้ว… ยังคงเป็ความขัดแย้งภายในตระกูลเฉิงชิง!
เมื่อเห็นนายอำเภอหลี่ลำบากใจ กุนซือข้างกายจึงแนะนำ
“ความขัดแย้งภายในตระกูลเฉิง เหตุใดนายท่านจึงต้องลำบากใจด้วย ไม่สู้สอบถามความคิดเห็นของนายท่านห้าขอรับ”
บ้านรองตระกูลเฉิงมีเ้าเมืองคนหนึ่งนะ บัดนี้คนก็อยู่ที่หนานอี๋ นายท่านห้าผู้เป็ผู้นำตระกูลไม่เป็ตัวกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งของคนในตระกูลให้ดี กลับเรียกตนผู้เป็ใต้เท้านายอำเภอไปเผชิญกับเ้าเมืองเฉิง ไร้เหตุผลสิ้นดี
เพียงแต่เกรงว่าหากใต้เท้านายอำเภอเที่ยงธรรม ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น จับคนบ้านรองมาไต่สวน ใบหน้าของนายท่านห้าเฉิงก็คงไม่เหลือแล้ว
นายอำเภอหลี่สับสนอยู่ครึ่งวันจึงค่อยๆ พยักหน้า
“เื่นี้ข้าไม่ยุ่งก็ถือว่าผิดต่อมโนธรรม เื่แต่งตั้งเฉิงชิงเป็บัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอกลับไม่ควรลังเลอีก เป็ข้าที่คิดผิดไป ผลการสอบที่เฉิงชิงพึ่งพาความสามารถสอบออกมาได้ ข้าก็ควรยอมรับ!”
กระดาษข้อสอบของการสอบระดับอำเภอล้วนเป็การตรวจแบบปิดบังชื่อผู้เข้าสอบ วิจารณ์ข้อดีข้อเสียก่อนถึงค่อยเปิดกระดาษดูชื่อแซ่ของผู้เข้าสอบ เฉิงชิงพึ่งพาความสามารถในการสอบได้อันดับที่หนึ่งจริงๆ
นายอำเภอหลี่ไม่คิดจะล่วงเกินเฉิงจือซวี่ ภายในใจรู้สึกผิด เื่ที่เลือกเฉิงชิงเป็บัณฑิตอั้นโส่วแห่งอำเภอกลับไม่ลังเลอีกต่อไป วันนี้ต้องประกาศรายชื่อ เขาวงเฉิงชิงให้อยู่ต้นรายชื่อด้วยตนเอง!
“นำประกาศรายชื่อแผ่นนี้ไปติดเถิด!”
ข้ารับใช้ประคองประกาศรายชื่อสองมือด้วยความนอบน้อม ยังไม่ทันออกไป ก็มีเ้าพนักงานวิ่งโซเซเข้ามารายงาน “ใต้เท้า ข้าหลวงใหญ่ที่ราชสำนักส่งมา มาถึงประตูทางเข้าของที่ว่าการอำเภอแล้วขอรับ!”
นายอำเภอหลี่งงงวยไปในทันที
ข้าหลวงใหญ่ของราชสำนัก มาถึงประตูทางเข้าที่ว่าการอำเภอแล้ว?
ข้าหลวงใหญ่มาทำอะไร… นายอำเภอหลี่ใจเต้น พลันนึกถึงคดีของเฉิงจือหย่วน
“ยังมัวยืนทำอะไรอยู่ รีบไปประกาศรายชื่อ!”
บางทีหนังสือตัดสินของราชสำนักคงมาถึงแล้ว
หากผลลัพธ์ไม่ดี ประกาศรายชื่อที่แต่งตั้งเฉิงชิงเป็บัณฑิตอั้นโส่วแห่งอำเภอก็คงไม่อาจติดออกไปได้แล้ว ถึงอย่างไรก็เลือกที่จะติดก่อน ไม่ให้เสียแรงที่ต่อสู้กับมโนธรรมของตนเอง ไม่ว่าราชสำนักจะตัดสินอย่างไร ในใจของนายอำเภอหลี่ก็ยอมรับแล้วว่าเฉิงชิงคือบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอของอำเภอหนานอี๋ในปีนี้!
