พ่อของลั่วเสี่ยวซีได้ปลดการระงับบัตรเครดิตแล้วและได้สร้างเงื่อนไขที่ว่าในเวลาสองปีหากลั่วเสี่ยวซียังไม่มีผลงานที่น่าพอใจในวงการนางแบบเธอจะต้องกลับไปช่วยกิจการที่บ้าน
ซึ่งลั่วเสี่ยวซียอมรับเงื่อนไขของพ่อได้หมดยกเว้นแต่เื่ที่พ่อจะให้เธอเลิกตามจีบซูอี้เฉิง
เพราะฉะนั้นเธอจึงต้องมาดูตัวกับลูกชายคุณอาฉิน
“พ่อคะนี่พ่อคิดว่าให้หนูไปดูตัวกับหนุ่มหล่อ แล้วหนูจะตัดใจจากซูอี้เฉิงได้งั้นเหรอ”ลั่วเสี่ยวซีคุยโทรศัพท์ขณะเดินเข้าร้านกาแฟ “ฝันหวานแล้วล่ะค่ะหนูเคยบอกพ่อแล้วใช่ไหม ว่านอกจากซูอี้เฉิงหนูไม่เอาใครทั้งนั้น!”
เธอกดวางสายในขณะที่พนักงานเดินมาต้อนรับ
“ยินดีต้อนรับค่ะไม่ทราบว่าจองโต๊ะไว้หรือเปล่าคะ”
“ฉัน...”ลั่วเสี่ยวซีกวาดตามองไปรอบๆ ร้านกาแฟที่ตกแต่งอย่างสวยงามหรูหราทันใดนั้นก็เจอเข้ากับภาพของคนคุ้นตา
ฉินเว่ย!
คนติดดินอย่างเขาวันนี้กลับอยู่ในชุดสูทเต็มยศทำให้หล่อเหลาดูดีขึ้นมาผิดหูผิดตา
ลั่วเสี่ยวซีเดินเข้าไปหาและนั่งลงตรงหน้าเขาอย่างไม่เกรงใจ
“บังเอิญจังนะ”
“มาแล้วเหรอ”ฉินเว่ยเรียกพนักงานให้นำเมนูมาให้ลั่วเสี่ยวซี “จะดื่มอะไรหน่อยไหม”
ลั่วเสี่ยวซียิ้มพลางพลิกเปิดเมนูแต่ทันใดนั้น มือเธอก็ชะงักค้าง
ลูกชายคุณอาฉิน...ฉินเว่ย
ฉินเว่ยดูไม่แปลกใจสักนิดที่เจอเธอแถมยังพูดกับเธอว่า ‘มาแล้วเหรอ’
เธอเงยหน้าขึ้นมาอย่างใจนเริ่มพูดติดๆขัดๆ
“นะ นาย...ฉินเว่ย นะนายคือลูกชายสุดเพอร์เฟ็คในตำนานที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศของคุณอาฉินงั้นเหรอ?”
ฉินเว่ยยิ้ม “ไงเธอยังไม่รู้อีกเหรอว่าคู่ดูตัวของเธอก็คือฉัน”
ลั่วเสี่ยวซีส่ายหน้าอย่างอึ้งๆ“ไม่รู้ แต่ว่านะ ถ้าเป็นายก็ค่อยง่ายหน่อย”
“หมายความว่าไง?” ฉินเว่ยพูดพลางจิบเอสเพรสโซ่
“แหม ก็พ่อฉันน่ะสิอยากให้ฉันจับนายให้อยู่หมัด อีกหน่อยนายจะได้มาช่วยดูแลกิจการตระกูลลั่วเขาจะได้สบายใจสักที” ลั่วเสี่ยวซีสลัดกระเป๋าออกจากตัวและฟุบหน้าลงบนโต๊ะอย่างไม่ห่วงภาพลักษณ์
“แต่นายก็รู้นี่นอกจากซูอี้เฉิงแล้ว ฉันไม่้าใครอีก”
“ก่อนมาที่นี่ฉันยังกังวลอยู่เลยว่า เกิดอีกฝ่ายหลงเสน่ห์ฉันขึ้นมา แล้วไปบอกพ่อว่าชอบฉันพ่อคงบังคับให้ฉันแต่งงานแน่ๆ แต่ถ้าเป็นาย ฉันก็วางใจเพราะคงไม่เกิดเื่แบบนั้นขึ้นแน่นอน”
“ถ้าหากฉันบอกเธอว่าฉันไม่ปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเธอล่ะ”นิ้วมือเรียวยาวของฉินเว่ยจับแก้วกาแฟอย่างสบายอารมณ์ “เสี่ยวซีเธอกับซูอี้เฉิงไม่มีทางเป็ไปได้ ฉันว่าพวกเราก็เหมาะสมกันอยู่นะ เธอรู้จักฉันดีส่วนฉันก็ไม่รังเกียจเธอ ถ้าแต่งงานกันก็ส่งผลดีกับกิจการทางบ้านของเราทั้งคู่เมื่อพ่อเธอเกษียณ ฉันก็ช่วยบริหารธุรกิจเครือลั่วเธอก็สามารถใช้ชีวิตตามอำเภอใจได้เหมือนเดิม มันไม่ดีตรงไหน?”
เป็ครั้งแรกที่ลั่วเสี่ยวซีเห็นฉินเว่ยจริงจังขนาดนี้เขาดูต่างจากเวลาขับรถสปอร์ตจีบสาวอกตู้มลิบลับราวกับคนแปลกหน้า
เธอโบกไม้โบกมือหน้าฉินเว่ย“นี่นายใช่เ้าชายท่องราตรีฉินเว่ยตัวจริงหรือเปล่าเนี่ยเพื่อธุรกิจของที่บ้านแล้วถึงกับยอมแต่งงานมันไม่ใช่นิสัยของคนรักอิสระแบบนายเลยนี่”
ฉินเว่ยยิ้มเยาะตัวเองเบาๆ“เสี่ยวซี คนที่เกิดมาในครอบครัวแบบพวกเราก็ต้องแต่งงานทางธุรกิจกันทั้งนั้นพวกเราจะเลือกกินเลือกใช้อะไรก็ได้ สามารถเพลิดเพลินกับของฟุ่มเฟือยได้ทุกอย่างแต่เื่ของคู่ครองพวกเราถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องแต่งงานกับอีกฝ่ายที่ให้ผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน”
“งั้นนายไปหาลูกสาวเศรษฐีบ้านอื่นก็ได้ไม่ใช่เหรอ”ลั่วเสี่ยวซีกล่าว “ตระกูลอื่นที่มีอำนาจมากกว่าบ้านฉันมีอยู่เต็มเมือง A ไปหมดทำไมนายถึงมาเลือกฉัน?”
ฉินเว่ยเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด“เสี่ยวซี จะให้ฉันพูดยังไงดี...ฉันไม่ชอบสาวๆ พวกนั้นแต่ละคนเหมือนถูกเซตมาแล้วว่าต้องดูอ่อนโยนใจกว้าง พูดจานุ่มนวล ฉันรับไม่ได้อ่ะ”
ลั่วเสี่ยวซียิ้มหวานพลางยกมือกุมแก้มทั้งสองข้าง
“งั้นนายชอบฉันเหรอ?”
“ชอบสิ”ฉินเว่ยสบตากับลั่วเสี่ยวซี “หน้าตาดีไร้ที่ติ รูปร่างก็สุดยอดฉันชอบขาเรียวยาวของเธอมากที่สุด ไหนจะนิสัยเปิดเผยเป็กันเอง แล้วทำไมฉันจะไม่ชอบเธอล่ะแต่ว่านะ ฉันชอบบริษัทของพ่อเธอมากกว่า”
“ให้ตายเถอะ”ลั่วเสี่ยวซีสบถและเตะฉินเว่ยไปหนึ่งที
เธอกับฉินเว่ยสนิทกันมากจึงรู้ดีว่าต้นประโยคที่เขาพูดมาก็แค่ล้อเล่น แต่ท้ายประโยคนี่สิพูดจริง
เธออธิบายสีหน้าจริงจัง“ฉินเว่ย ฉันไม่สามารถปล่อยมือจากซูอี้เฉิงได้จริงๆนอกเสียจากเขาจะแต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว”
“แต่ถึงยังไงฉันก็อยากให้เธอลองคิดเื่การแต่งงานของเราดูดีๆ”ฉินเว่ยวิเคราะห์เหตุผลให้ลั่วเสี่ยวซีฟังเป็ข้อๆ
“หนึ่งเธอกับซูอี้เฉิงมันเป็ไม่ได้ แต่ถ้าเธอแต่งงานกับฉัน เธอจะได้ตัดใจเสียทีไม่งั้นตอนที่ซูอี้เฉิงแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น เธอนี่นับว่าแพ้หมดรูปเลยนะ สองฉันมีความสามารถมากพอที่จะช่วยบริหารงานของตระกูลลั่ว อีกหน่อยเธอในฐานะคุณนายฉินอยากจะทำอะไรก็ทำได้ตามอำเภอใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะโดนบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบเพราะมีฉันคอยให้ท้ายเธออยู่แล้ว สาม ฉันหล่อขนาดนี้ เธอจะไม่รับฉันไว้พิจารณาจริงๆเหรอ?”
พรืด...ลั่วเสี่ยวซีหัวเราะจนตัวสั่นไปหมดเธอมองฉินเว่ยสีหน้าจริงจัง
“ทำไงดีล่ะฉินเว่ยนายหล่อก็หล่อ แถมเงื่อนไขที่ร่ายมาก็ช่างเย้ายวนใจ แต่ว่านะฉันไม่ได้รู้สึกใจเต้นสักนิด”
“ใจแข็งชะมัด”ฉินเว่ยถอนหายใจ “ถ้าเป็แบบนี้ล่ะก็...สงสัยฉันคงต้องลองจีบเธอดูสักตั้ง”
“หา?” ลั่วเสี่ยวซีตาโตอย่างใเมื่อตั้งสติได้จึงเริ่มต่อว่าเขา
“ฉินเว่ยนายกลับคำพูดนี่พวกเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าจะเป็เพื่อนที่ดีต่อกันตลอดไป!”
“ไม่เคยได้ยินคนเขาพูดกันหรือไงว่าไม่มีมิตรภาพที่แท้จริงระหว่างชายกับหญิงนอกเสียจากอีกฝ่ายจะแกล้งโง่หรือไม่ก็ไม่ยอมสารภาพความจริง แต่ฉันไม่ใช่คนพวกนั้นฉันพูดจริงทำจริง ไม่งั้นเสียชื่อคาสโนว่าอย่างฉันหมด”
“...”ลั่วเสี่ยวซีถึงกับพูดไม่ออก
จนกระทั่งออกมาจากร้านกาแฟลั่วเสี่ยวซีก็ยังคงสับสนมึนงงกับเื่ที่เกิดขึ้น
เธอขับรถมุ่งหน้าไปยัง Dingya Mountain Villa ทันทีโดยไม่สนใจว่าูเี่อันจะอยู่บ้านหรือไม่ เมื่อเธอไปถึงูเี่อันก็เพิ่งอบคัพเค้กเสร็จพอดี
“ขอกินเค้กสงบจิตสงบใจก่อนนะ”เธอกลืนเค้กพลางดึงูเี่อันให้นั่งลง “บอสใหญ่บ้านเธอล่ะ?”
“หลับอยู่”ูเี่อันชี้นิ้วไป้า “ถามถึงเขาทำไม”
ลั่วเสี่ยวซีเล่าเื่ที่เกิดขึ้นทั้งหมดใหู้เี่อันฟังเธอเน้นย้ำเื่ที่ฉินเว่ยบอกว่าจะตามจีบเธอ ซึ่งเป็เื่ที่เธอช็อกที่สุด!
ูเี่อันเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของลั่วเสี่ยวซีแล้วอดยิ้มไม่ได้
“ผู้ชายที่มาจีบเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมานับๆ แล้วเป็พันคนได้มั้งแล้วทำไมคราวนี้ดันทำท่าอย่างกับเพิ่งเคยโดนผู้ชายจีบครั้งแรกอย่างงั้นแหละ”
“ฉันก็แค่คิดมาโดยตลอดว่าความสัมพันธ์ของฉันกับฉินเว่ยเป็แค่เพื่อนซี้กัน” ลั่วเสี่ยวซีส่ายหน้า“เขาไม่ควรมาชอบฉัน ยิ่งไม่ควรมาจีบฉัน พวกเราควรเป็แค่เพื่อนสนิท”
ูเี่อันยิ้มเธอเดินไปหยิบไอศกรีมออกมาจากตู้เย็น “เสี่ยวซี เธอจะโลกสวยไปแล้ว สงสัยเพราะเธอใช้ชีวิตได้ตามอำเภอใจเลยเป็แบบนี้นี่เธอคิดว่าที่ฉินเว่ยช่วยปกป้องเธอในผับ ไปไหนมาไหนกับเธอตลอดและไม่เคยทำอะไรเกินเลยกับเธอ ก็เพราะคิดว่าเธอเป็แค่เพื่อนงั้นเหรอเธอลืมไปแล้วหรือไงว่าตอนแรกที่เขาเข้าหาเธอ จุดประสงค์ของเขาคืออะไร”
ตอนอยู่ในผับฉินเว่ยเข้าหาเธอเพราะ้าแค่ Onenight stand
“เพราะรู้ว่าเธอชอบพี่ชายฉันเขาเลยได้แต่คงสถานะเพื่อนเอาไว้เพื่อจะได้อยู่ข้างๆ เธอแต่ตอนนี้เมื่อเขาเห็นผลประโยชน์ที่จะได้หากแต่งงานกับเธอ เขาเลยฉีกเส้นกั้นบางๆ อันนั้นทิ้งซะซึ่งก็ไม่แปลก” ูเี่อันอธิบาย “เพราะฉะนั้น เธอไม่ต้องใไป”
ลั่วเสี่ยวซีพยักหน้าพลางส่งยิ้มใหู้เี่อัน
“สมแล้วที่เป็ผู้มีประสบการณ์เฮ้อ การได้แต่งงานกับคนที่ชอบรู้สึกยังไง?”
ูเี่อันนิ่งอึ้งเธอรีบเข้าไปปิดปากลั่วเสี่ยวซีไว้
“เจียงเส้าข่ายบอกเธอแล้วเหรอ”
ลั่วเสี่ยวซีพยักหน้าพลางส่งเสียงประท้วง ูเี่อันเอามือออกจากปากเพื่อน จากนั้นจึงพูดเตือน
“ลู่เป๋าเหยียนก็อยู่บ้านเธออย่าพูดอะไรมั่วซั่ว”
ลั่วเสี่ยวซีพยักหน้าอีกครั้งจากนั้นจึงส่งสายตาดูถูกให้เพื่อนตัวเอง
“เธอนี่ไม่ใจเลยเื่ใหญ่ขนาดนี้ดันไม่บอกฉันสักคำ”
“ก็เพราะฉันกลัวเธอจะเอาไปป่าวประกาศจนลู่เป๋าเหยียนรู้ความจริงเข้าน่ะสิ” ูเี่อันตอบอย่างกลุ้มใจ“การแอบชอบเขามาเป็สิบปี ไม่ใช่เื่น่าอวดเลยสักนิด”
“เอ๋ พูดแบบนี้เธอตกหลุมรักลู่เป๋าเหยียนั้แ่แรกพบเลยงั้นเหรอ” ลั่วเสี่ยวซีนับนิ้ว “ั้แ่สิบขวบจนถึงตอนนี้สิบสี่ปี...เอิ่มูเี่อันนี่เธอมีสิทธิ์อะไรมาหัวเราะเยาะฉันเื่ที่ตามจีบพี่ชายเธอมาตั้งนานเนี่ยเื่ของเธอนานกว่าฉันเสียอีกนะ!”
“นานกว่าเธอแค่ไม่กี่ปีเองพอๆ กันนั่นแหละ!”
ลั่วเสี่ยวซีหยุดคิด“ก็จริง” จากนั้นจึงตักไอศกรีมเข้าปาก ทันใดนั้นเธอก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้และมองไปที่ถ้วยไปศรีม
“เป็ไอศรีมโฮมเมดของ Abel จริงด้วย!เธอได้มันมายังไง สุดยอด!”
“ไม่ใช่ฉัน”ูเี่อันตอบ “ลู่เป๋าเหยียนเชิญเชฟมาทำให้ที่นี่”
“เชิญ Abel จากอเมริกามาที่นี่ไม่ใช่เื่ง่ายเลยนะ”ลั่วเสี่ยวซีจ้องูเี่อันอย่างพิจารณา
“ระหว่างพวกเธอต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ!”
ูเี่อันแย้มยิ้ม“ถ้ามีแล้วจะทำไม? อยู่บ้านเดียวกันทุกวันแบบนี้ไม่มีสิแปลก”
คำพูดนี้ช่างพาให้คนฟังคิดไปไหลลั่วเสี่ยวซีกระเถิบเข้าใกล้เพื่อนของตนอย่างมีนัย
“พวกเธอ...ทำแบบนั้นกันเรียบร้อยแล้ว? ต้มสุกแล้วสินะ?”
ูเี่อันนิ่งคิดอยู่นานแล้วจึงตอบอย่างหนักแน่นว่า
“น้ำใกล้จะเดือดแล้วล่ะ”
ลั่วเสี่ยวซีรู้จักเพื่อนคนนี้ดีได้ยินดังนั้นก็เข้าใจในทันที เธอยิ้มกว้างอย่างดีใจ
“ูเี่อันสู้ๆ!มัดใจลู่เป๋าเหยียนไว้ให้ได้นะคะ จะได้มาเป็เถ้าแก่เนี้ยของฉันไปชั่วชีวิต!”
ูเี่อันยกชานมที่เพิ่งชงเสร็จขึ้นดื่ม
เป็เถ้าแก่เนี้ยของลั่วเสี่ยวซีงั้นเหรอก็น่าสนใจแฮะ
ลู่เป๋าเหยียนนอนหลับยาวจนถึงสี่โมงกว่าจึงเดินลงมาข้างล่างลั่วเสี่ยวซีเองก็เพิ่งกลับไปส่วนูเี่อันกำลังเก็บจานผลไม้และคัพเค้กที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชา
“ลั่วเสี่ยวซีมาที่นี่?” เขาถาม
เขาเป็เดินมาเงียบๆและเอ่ยปากถามูเี่อันอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาูเี่อันถึงกับสะดุ้งเธอส่งเศษขยะให้กับป้าหลิวและตอบเขา
“อืมเพิ่งกลับไปเมื่อกี้”
ลู่เป๋าเหยียนใช้มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าคงเพราะเพิ่งตื่นนอน เขาในยามนี้จึงดูสบายๆ ง่ายๆ กว่าทุกทีเมื่อได้ยินคำตอบแล้วจึงตั้งท่าจะเดินกลับ ูเี่อันส่งเสียงเรียกเขาไว้
“ฉันอบเค้กเอาไว้เดี๋ยวเอาให้นายกินนะ!”
เขาไม่ชอบกินของหวานปกติจึงไม่ค่อยแตะของพวกนี้แต่เมื่อูเี่อันพูดจบเธอก็วิ่งเข้าไปหยิบเค้กออกมาให้เขาจากในครัวทันที
“ลองชิมดูสิ”รอยยิ้มของเธอหวานกว่าเค้กตรงหน้าเสียอีก
ลู่เป๋าเหยียนรับเค้กมา“คนเราทำความดีมักหวังผลตอบแทน เธอมีเื่อะไรจะคุยกับฉันหรือเปล่า”
นอกจากความรู้ในอาชีพตัวเองูเี่อันไม่มีความสามารถพิเศษอย่างอื่นอีกเลย นอกจากการทำอาหารและอบขนมเธอลองชิมเค้กที่เพิ่งอบเสร็จในวันนี้ของตัวเองแล้วรสชาตินุ่มหอมอร่อยไม่แพ้เค้กตามโรงแรมห้าดาว
เธอก็แค่อยากให้ชิมเท่านั้นเอง...ทำไมเขาถึงคิดว่าเธอทำไปเพราะหวังผลกันนะ?
ไหนๆ เขาก็คิดแบบนี้แล้วงั้นเธออาศัยโอกาสนี้ขอร้องเขาสักเื่แล้วกัน
“งั้นฉันพูดเลยนะที่จริงฉันมีเื่อยากให้นายช่วย”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้วเล็กน้อย
“ว่ามา”
