"นิด ชมพู ตอนข้ามถนนดูรถกันดี ๆ นะลูก" อนงค์ะโไล่หลังเด็กหญิงทั้งสองที่กำลังเดินหิ้วกระเป๋าออกจากร้านไป แม้ว่าจะมีตำรวจจราจรคอยดูแลความปลอดภัยให้ที่หน้าโรงเรียนแต่เธอก็ไม่วางใจต้องกำชับเด็กทั้งสองคนอีกรอบ
ตามภาภรณ์และอนงค์กานต์หันมาขานรับและโบกมือลาอนงค์ก่อนพากันเดินฝ่าฝูงชนมุ่งไปที่โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของตลาดนี่เอง
วันนี้เป็วันเปิดเทอมวันแรก ด้านหน้าตลาดต่างคลาคล่ำไปด้วยผู้คนและรถหลากชนิด ทั้งเป็คนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาด และพ่อแม่ ผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลานที่โรงเรียน อนงค์กานต์และตามภาภรณ์ยืนเบียดอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนกลุ่มใหญ่เพื่อรอข้ามถนนตรงทางม้าลาย
โรงเรียนมัธยมแห่งนี้เป็โรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ เปิดสอนั้แ่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 แบบสหศึกษา เรียนรวมกันทั้งชายหญิง ชั้น ม.1 มีทั้งหมด 3 ห้อง พวกเธอทั้งคู่โชคดีที่ได้อยู่ห้องเดียวกันคือ ม.1/2 จึงไม่ได้รู้สึกเคอะเขินมากนักกับสังคมใหม่แห่งนี้ ห้องนี้มีนักเรียน 45 คน คละกันชายหญิงเกือบครึ่งต่อครึ่ง
"ตัวสองคนชื่ออะไร?" มีเสียงถามขึ้นมาจากที่นั่งด้านหน้าพวกเขาในชั่วโมงโฮมรูมหลังเคารพธงชาติ อนงค์กานต์และตามภาภรณ์กำลังพูดคุยกันเบา ๆ ระหว่างนั่งรอครูประจำชั้น ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมองที่มาของเสียงนั้น พบเด็กหญิงผมสั้น ตาเรียวดำขลับ ผิวสีน้ำผึ้ง กำลังมองมายังพวกเธอด้วยความสนใจ เมื่ออนงค์กานต์ได้เห็น ความทรงจำก็ค่อย ๆ ไหลเข้ามาทันที เมื่อชาติก่อนคนคนนี้เป็เพื่อนสนิทของตามภาภรณ์ ตามภาภรณ์เป็หัวหน้าชั้น และคนนี้ก็เป็รองหัวหน้า นั่งทำงานและนั่งเรียนด้วยกันอยู่ตลอดเวลา
"เราชื่อ ตามภาภรณ์ ชื่อเล่นชมพู ส่วนนี่อนงค์กานต์ ชื่อเล่นนิด ตัวล่ะ?"
"เราชื่อพรนภา ชื่อเล่น นภา เรียนประถมที่โรงเรียนเวียงงาม ตัวทั้งสองจบจากที่เดียวกันเหรอ ดูสนิทกันจัง”
"เปล่า เราจบจากโรงเรียนห้วยกก ส่วนชมพูจบจากโรงเรียนอนุบาลเวียง์นี่เอง แม่เราสองคนขายของที่ตลาดน่ะ เลยรู้จักกัน" พรนภาพยักหน้าอย่างเข้าใจ และก็ไม่ได้พูดคุยกันอีกเนื่องจากครูประจำชั้นเดินเข้ามาพอดี
ครูประจำชั้นก็ยังเป็คนเดิมเหมือนชาติก่อน เป็ครูผู้หญิงชื่อพอใจ นิสัยค่อนข้างดุ อายุน่าจะใกล้เคียงกับพ่อกานต์ของเธอ เมื่อแนะนำตัวและชี้แจ้งกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของโรงเรียนให้นักเรียนทราบแล้ว ก็ให้ทุกคนช่วยกันคัดเลือกคนที่มีบุคลิกเหมาะสมที่จะเป็หัวหน้าห้องขึ้นมา แล้วค่อยลงคะแนนเสียงในอีกสามวันข้างหน้า เพื่อให้รู้จักมักคุ้นกันมากกว่านี้อีกหน่อยก่อนที่จะเลือก
เมื่อทุกคนมองกันไปมาก็พากันชี้ตัวคัดคนที่เหมาะจะเป็หัวหน้า แน่นอนอยู่แล้วต้องมีตามภาภรณ์รวมอยู่ในนั้นด้วย แต่ที่ไม่น่าเชื่อนั่นคือมีคนชี้มาที่เธอด้วย เมื่อชาติก่อนไม่ใช่แบบนี้! เธอจึงรีบยกมือขึ้นทันที
"คุณครูคะ หนูชื่ออนงค์กานต์ค่ะ หนูขอพูดอะไรกับเพื่อนนิดนึงได้ไหมคะ?" เมื่อเห็นครูพยักหน้าอนุญาตเธอก็พูดต่อทันที “เราขอบใจเพื่อนมาก ๆ เลยนะที่เห็นว่าเราเหมาะจะเป็หัวหน้าห้อง แต่เรารู้ตัวดีว่าเราคงไม่เหมาะจะทำงานนี้ค่ะ เพราะเราเป็คนี้เีมาก ๆ เลย”
บรรดาเพื่อนร่วมชั้นรวมทั้งครูประจำชั้นพากันหัวเราะครืนเมื่ออนงค์กานต์พูดประโยคตบท้ายนี้ออกมา โดยเฉพาะตามภาภรณ์ถึงกับยกมือกุมท้องนั่งตัวงอหัวเราะเสียงดัง
แม้ทั้งสองคนจะเป็เพื่อนกันได้ไม่นาน แต่เธอก็รู้ว่าอนงค์กานต์เป็คนี้เีและเฉื่อยชามากแค่ไหน นอกจากเื่ขายของหาเงินที่เธอขยันและว่องไวเป็พิเศษแล้ว เื่อื่น ๆ ที่อยู่นอกเหนือความสนใจของเธอแล้ว อนงค์กานต์ถึงกับคร้านที่จะขยับตัว รวมทั้งี้เีฟังเื่จุกจิก ี้เีสนใจเื่วุ่นวายต่าง ๆ รอบตัวด้วย ถ้าเธอได้เป็หัวหน้าชั้นจริง น่าจะวุ่นวายพิลึก ยิ่งคิดตามภาภรณ์ก็ยิ่งหัวเราะเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนอนงค์กานต์ทนไม่ไหวถึงกับยกมือตีเข้าไปที่กลางหลังเพื่อนเบา ๆ
"ให้เราคอยช่วยงานสนับสนุนอยู่ข้างหลังน่ะได้ แต่ให้เราไปอยู่ข้างหน้าเพื่อนำทางเพื่อน ๆ เราว่าเราน่าจะพาเพื่อน ๆ หลงทางและล้มกลิ้งไปในคูน้ำมากกว่า แหะ แหะ...” พลางยกมือเกาหัวตัวเองอย่างเขิน ๆ “เราขออนุญาตถอนตัวนะคะ” อนงค์กานต์พูดและเจาะจงมองไปที่เพื่อนผู้หญิงที่เสนอชื่อเธอขึ้นมา เพื่อนคนนั้นส่งยิ้มกลับมาให้และพยักหน้าตอบรับคำขอนั้น ส่วนครูประจำชั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นเต็มที่ ในท้ายที่สุดก็คัดคนที่มีบุคลิกดีได้ 6 คน และ เตรียมลงคะแนนเสียงในอีกสามวันข้างหน้า
"อนงค์กานต์ เราขอโทษนะที่เสนอชื่อเธอเมื่อเช้า” เสียงทักทายดังขึ้นมาข้าง ๆ ขณะที่อนงค์กานต์และตามภาภรณ์กำลังวุ่นเก็บสมุด ปากกา ลงในลิ้นชักเพื่อเตรียมไปพักรับประทานอาหารกลางวัน อนงค์กานต์หันหน้าไปมองก็พบเด็กหญิงที่เสนอชื่อเธอเมื่อเช้ายืนอยู่ จึงส่งยิ้มให้ทันที
"ไม่เป็ไรหรอก เราควรขอโทษเธอมากกว่าที่ทำให้ผิดหวัง ขอโทษจริง ๆ นะ อ้อ...เรียกชื่อเล่นเราก็ได้ เราชื่อนิด เธอล่ะชื่ออะไร?”
"เราชื่อ สิริขวัญ เรียกเราว่าฟ้าก็ได้สั้นดี”
"ส่วนนี้ชมพู ตามภาภรณ์ น่าจะคุ้นอยู่แล้ว ว่านี่หัวหน้าห้องเชียวนะ” ไม่วายพูดแซวเพื่อนออกไปจนโดนฟาดแรง ๆ กลับมาที่แขนทีหนึ่ง “ส่วนที่นั่งด้านหน้านี่ชื่อพรนภา ชื่อเล่น นภา” เธอแนะนำพรนภาที่นั่งอยู่ด้านหน้าด้วย “พวกตัวมีเพื่อนไปกินข้าวยัง ไปกับพวกเราสิ” ทั้งพรนภาและสิริขวัญตอบตกลงและทั้งสี่คนก็พากันมุ่งหน้าไปยังโรงอาหารที่อยู่ด้านข้างอาคารเรียน
