เย่ชิงหนิวรู้สึกโกรธแค้นเป็อย่างมาก ที่เป็เช่นนี้เพราะไม่ใช่เื่อาการาเ็ที่กระทบกระเทือบอยู่ภายในร่างกายแต่อย่างใด และไม่ใช่ฝนปรอยๆ ที่เริ่มตกั้แ่เมื่อวานจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่หยุดแต่อย่างใด แต่เป็เพราะความอึดอัดใจและเด็กสาวสองคนที่อยู่ภายในรถม้าในตอนนี้
เหตุการณ์ทีู่เาสุสานทวยเทพ เยาเสพุ่งหอกสีทองโจมตีใส่เย่ชิงหานจนถูกดูดกลืนเข้าไปภายในูเาสุสานทวยเทพ แม้เหล่าผู้าุโและคนอื่นๆ ของทั้งสี่ตระกูลที่มาด้วยจะไม่ได้รับาเ็สาหัสอะไรกันมาก แม้เผ่าปีศาจที่มาด้วยกันกับเยาเสจะถูกสังหารตายหมดทั้งสองคน และเยาเสพลังฝีมือลดต่ำลงไปมากพร้อมกับเสียขาไปข้างหนึ่ง แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่สามารถมาหักล้างไฟแห่งความคับแค้นภายในใจของเขาลงได้
ถ้าหากไม่ใช่เขาที่อวดดีนำพาคนทั้งหลายเดินทางกลับเมืองชางโดยตรง ถ้าหากไม่ใช่เขาที่ประมาทปล่อยให้เด็กๆ ทั้งหลายออกห่างจากตนเองเกินหนึ่งร้อยเมตร ถ้าหากเริ่มแรกเขาทุ่มสุดตัวอย่างไม่คิดชีวิตใช้ท่าวัวศึกอสูรตัดสังหารโจมตีใส่เยาเสจนได้รับาเ็สาหัสหรือตายไป ไม่แน่ว่าในตอนนี้เย่ชิงหานคงไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ และคงไม่ทำให้เด็กสาวทั้งสองที่อยู่บนรถเศร้าเสียใจและเ็ปรวดร้าวถึงเพียงนี้
เยว่ชิงเฉิงและเย่ชิงอู่หลังจากที่ตื่นขึ้นมากลับผิดจากที่เขาคิดเอาไว้ พวกนางทั้งสองไม่ได้ร้องฟูมฟายเอะอะโวยวายใดๆ ทำเพียงแค่สอบถามออกมาสองสามคำว่ามีหวังจะช่วยเย่ชิงหานออกมาได้ไหม? แต่หลังจากที่ได้รับคำตอบที่ไม่แน่ชัดจากเย่ชิงหนิวทั้งสองจึงนิ่งเงียบไป นิ่งเงียบมาตลอดทางจนกระทั่งถึงตอนนี้
“เฮ้ออ...! ข้าว่าพวกเ้าทั้งสองทำไมไม่พูดอะไรบ้าง หลายวันแล้วไม่พูดอะไรสักคำ พวกเ้าอยากให้ข้าอึดอัดตายหรืออย่างไร?” อีกเพียงไม่นานก็จะถึงเมืองชางแต่เย่ชิงหนิวก็อดทนต่อไปไม่ไหวถอนหายใจพร้อมกับพูดออกมา
เยว่ชิงเฉิงไม่ได้พูดตอบออกมายังคงเหม่อมองลอดผ้าม่านของรถม้าไปยังท้องฟ้าทิศตะวันออกเฉียงใต้ ดวงตาคู่สดใสตอนนี้ปราศจากชีวิตชีวาทั้งไร้ความรู้สึกและเหม่อลอย
เย่ชิงอู่เอามือยันคางจ้องมองดูผลไม้ภายในจานที่วางอยู่บนโต๊ะ ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินเสียงของเย่ชิงหนิวฉันนั้น ทำเพียงจ้องมองดูผลไม้ทั้งหลายราวกับมันได้กลายเป็ใบหน้าของใครคนหนึ่งขึ้นมา
.................................
เอี๊ยด!
ครึ่งชั่วโมงต่อมาขบวนรถม้าค่อยๆ หยุดการเคลื่อนตัวลง ภายนอกรถม้าเริ่มมีเสียงดังเกรียวกราวขึ้น จากนั้นด้านหน้ารถม้ามีเสียงเดินของคนจำนวนมากดังลอยมาและเสียงของเย่เชียงพลันดังขึ้น “ผู้าุโสูงสุด พวกเรามาถึงตระกูลเย่แล้ว!”
“ยายหนูทั้งสองไปกันเถอะ ไปดูว่าท่านหัวหน้าตระกูลมีวิธีการช่วยเหลือเย่ชิงหานอย่างไร?”
เย่ชิงหนิวลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ แล้วเดินลงจากรถม้าไป เยว่ชิงเฉิงเมื่อได้ฟังดวงตาพลันมีประกายขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนเย่ชิงอยู่หยุดอาการเหม่อลอยหันไปมองตากับเยว่ชิงเฉิงแล้วก็เดินตามเย่ชิงหนิวลงจากรถม้าไป
“คำนับท่านผู้าุโสูงสุด!”
หน้าประตูใหญ่ตระกูลเย่เหล่าผู้าุโทั้งหลายและบุคคลสำคัญระดับสูงต่างๆ ล้วนยืนรอคอยต้อนรับเย่ชิงหนิวและแขกผู้สูงศักดิ์จากตระกูลทั้งหลายอยู่อย่างพร้อมเพรียงกัน
“พี่หนิว ไม่เป็อะไรมากใช่ไหม?” เย่ไป๋หู่รีบเดินเข้ามาในทันที ประคองแขนข้างหนึ่งของเย่ชิงหนิวขึ้นแล้วปล่อยพลังปราณรบเข้าไปในร่างกายของเขาเพื่อตรวจสอบดูอาการาเ็
“เหอะๆ ยังไม่ตายง่ายๆ หรอกอย่าทำตื่นเต้นใไปนักเลย เข้าไปข้างในกันก่อนเถอะอย่าให้แขกคนสำคัญทั้งหลายต้องคอยนาน!” เย่ชิงหนิวตบมือของเย่ไป๋หู่เบาๆ บอกให้เขาสบายใจได้ จากนั้นหันมองไปยังพวกหลงไซ้หนานพยักหน้าให้แล้วพูดขึ้น “แม่นางหลงและทุกๆ ท่านเข้าไปพักผ่อนภายในก่อนเถอะ ข้าคงต้องขอเวลาพักฟื้นสักระยะ เย่เชียง! ดูแลแขกให้ดี!”
“ขอรับท่านผู้าุโสูงสุด! เชิญทุกท่านเข้าไปภายในเถอะ!” เย่เชียงรีบพยักหน้าตอบรับจากนั้นเชิญเหล่านายน้อย คุณหนู และผู้าุโของตระกูลทั้งหลายให้เข้าไปยังตระกูลเย่เพื่อพักผ่อน
.................................
“ท่านปู่ไป๋หู่ทำไมไม่เห็นท่านปู่เทียนหลงล่ะ สรุปแล้วหานน้อยเป็อย่างไรบ้างท่านรู้บ้างไหม? แล้วมีทางช่วยเหลือได้ไหม?” ทุกคนเพิ่งเข้ามาถึงห้องโถงใหญ่ของตระกูลเย่ยังไม่ทันที่จะนั่งลงเย่ชิงอู่กลับเอ่ยถามขึ้นด้วยความรีบร้อน ได้ยินดังนั้นทุกคนจึงต่างพากันส่งสายตามองไปยังเย่ไป๋หู่ที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งที่นั่งประธาน คล้ายกับว่าล้วนรอฟังข่าวดีที่จะได้ยินจากเขาฉะนั้น
“ตอนนี้ท่านหัวหน้าตระกูลไปเมืองัแล้ว!” เย่ไป๋หู่มองเห็นสายตาที่มองมาของทุกคนที่เต็มไปด้วยความคาดหวังจึงถอนหายใจออกมาแล้วพูดขึ้นอย่างจำใจ “สำหรับเย่ชิงหานข้าได้รับข่าวที่ยืนยันมาแล้วว่าตอนนี้ปลอดภัยชั่วคราว ส่วนเื่ที่เขาจะออกมาจากูเาสุสานทวยเทพได้หรือไม่นั้นคงต้องอยู่ที่โชคชะตาของเขาเอง แต่ว่า...ตามการคาดคะเนของข้าเขามีโอกาสหกในสิบส่วนที่จะสามารถเดินออกมาได้เมื่อเส้นทาง์เปิดออกอีกห้าปีหลังจากนี้”
“ท่านปู่ไป๋หู่ที่ท่านพูดเป็ความจริงรึ? ท่านไม่ได้หลอกข้าใช่ไหม?” คำพูดของเย่ไป๋หู่ทำให้ดวงตาของเย่ชิงอู่ เยว่ชิงเฉิง และทุกๆ คนต่างเป็ประกายแสงแห่งความหวังขึ้นมา แต่ภายในใจก็ยังคงมีความสงสัยอยู่เล็กน้อย เย่ชิงหานาเ็สาหัสอย่างหนัก กระดูกทั่วร่างล้วนแตกหัก และสูญเสียเืเป็อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังเป็การฝืนเข้าไปภายในูเาสุสานทวยเทพอีกด้วย พวกเขาล้วนรู้กันดีว่าการทำลายม่านพลังป้องเพื่อฝืนเข้าไปภายในจะเป็อย่างไร ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีใครเคยรอดกลับออกมาได้สักคนเดียว
“ไป๋หู่เ้าพูดจริงรึ?” ดวงตาวัวของเย่ชิงหนิวปูดโปนขึ้นเห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ฟังจึงรีบส่งกระแสเสียงสอบถามเย่ไป๋หู่ในทันที
“ข้าและท่านหัวหน้าตระกูลพบกับท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษมาแล้ว เื่เหล่านี้ท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษเป็คนบอก แต่พวกข้าคาดเดาว่าโอกาสที่เย่ชิงหานจะเดินออกมาได้มีเพียงสี่ในสิบส่วนเพียงเท่านั้น อีกสักพักข้าจะอธิบายให้เ้าฟังอย่างละเอียดอีกที!”
เย่ไป๋หู่พยักหน้าให้เย่ชิงหนิวพร้อมกับส่งกระแสเสียงบอก จากนั้นหันหน้าไปทางทุกคนอีกครั้งแล้วพูดขึ้นต่อ “ข้อมูลเหล่านี้ท่านหัวหน้าตระกูลเย่ได้รับมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ แน่นอนว่าอีกห้าปีหลังจากนี้เย่ชิงหานจะกลับออกมาได้หรือไม่นั่นก็คงต้องอาศัยแรงจากผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิของตระกูลทั้งหลายช่วยด้วย”
“อืม! แหล่งข่าวที่ผู้าุโไป๋หู่ได้รับมานั้นเชื่อถือได้ไม่ใช่ข่าวลวงอย่างแน่นอน หลานอู่และยายหนูชิงเฉิงหากพวกเ้า้าอยากที่จะเพิ่มอัตราความสำเร็จเพื่อให้เย่ชิงหานกลับออกมาอย่างปลอดภัยละก็ จงตั้งใจฝึกฝนกันให้ดีๆ อีกห้าปีหลังจากนี้เมื่อเส้นทาง์เปิดออกจะได้เข้าไปพร้อมกับผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิคนอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือเย่ชิงหานออกมา”
มองดูดวงตาที่สัตย์ซื่อจริงใจของเย่ไป๋หู่ มองเห็นสีหน้าจริงจังของเย่ชิงหนิว เยว่ชิงเฉิงและเย่ชิงอู่มองตากันอย่างยินดีจนน้ำตาไหลออกมา
ยังมีชีวิตอยู่และยังมีโอกาสรอดชีวิตกลับออกมาได้ ข่าวที่ได้ยินนี้สำหรับพวกนางทั้งสองถือว่าเป็ข่าวดีที่สุดในรอบหลายวัน ขอเพียงยังมีความหวังก็พอ อย่าว่าแต่หกส่วนเลยต่อให้มีเหลือเพียงแค่ส่วนเดียวพวกนางก็จะดิ้นรนทำมันให้ได้ ดังนั้นทั้งสองจึงตัดสินใจแล้วว่าจะตั้งใจฝึกฝนอย่างดีที่สุดเพื่ออีกห้าปีหลังจากนี้จะสามารถช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการช่วยเหลือเย่ชิงหานขึ้นมาอีกเล็กน้อยก็ยังดี
“น่ายินดี น่ายินดีเป็อย่างมาก ข่าวดีเช่นนี้เปรียบเสมือนป่าไม้ที่แห้งแล้งมาเนิ่นนานได้รับหยาดฝนโปรยปรายลงมาฉันนั้น หลายวันมานี้ข้าอึดอัดจะตายอยู่แล้ว อืม! ห้าปี ภายในเวลาห้าปีนี้ข้าจะต้องตั้งใจฝึกฝนให้ดีเพื่อเป็ส่วนหนึ่งในการต้อนรับการกลับมาของนายน้อยหาน!” เฟิงจื่อตบลงไปที่ต้นขาฉาดหนึ่งพร้อมกับลุกขึ้นยืน ดวงตาเปล่งประกายแสงแห่งความเร่าร้อนออกมา
“ห้าปีหลังจากนี้ไซ้หนานจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยนายน้อยหานออกมาให้ได้!” หลงไซ้หนานก็ลุกยืนขึ้นพูดออกมาเช่นเดียวกัน
ฮวาเฉ่าเองก็เอ่ยปากพูดขึ้น “นับรวมข้าด้วยอีกคน!”
“อืม...ขอบคุณทุกๆ ท่าน อีกห้าปีหลังจากนี้หากเย่ชิงหานสามารถกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยตระกูลเย่จะต้องตอบแทบน้ำใจทุกท่านอย่างดีแน่นอน!” เย่ไป๋หู่ประสานมือทำท่าแสดงความขอบคุณ ในเวลาเดียวกันภายในใจของเขาก็แอบชูนิ้วโป้งให้เย่ชิงหาน เ้าเด็กคนนี้อยู่ภายในตระกูลเย่สิบกว่าปีไม่ได้โดดเด่นอะไร คิดไม่ถึงว่าเพิ่งออกจากตระกูลเย่ไปเพียงปีเดียวไม่เพียงแต่คว้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเยว่กลับมายังตระกูลด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งดูจากสถานการณ์แล้วระดับความสัมพันธ์มิตรไมตรีที่คบหากับนายน้อยและคุณหนูใหญ่ของตระกูลทั้งหลายก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน
เยว่ชิงเฉิงกัดริมฝีปากของตนเองเล็กน้อยก่อนที่จะตัดสินใจหันไปทางเย่ชิงหนิวแล้วพูดขึ้น “ท่านผู้าุโเย่ชิงหนิว ชิงเฉิงมีเื่อยากจะขอร้องเพื่อขอความกรุณาอย่างหนึ่ง ไม่ทราบว่าข้าอยากจะขอพบแม่นางเย่ชิงอวี่ได้หรือไม่?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้