หลิวจือโม่เป็ห่วงสุขภาพหลี่ชิงหลิงจึงขอให้นางพักผ่อน หากมีเื่อะไรค่อยคุยกันหลังตื่น
หลี่ชิงหลิงรู้สึกเหนื่อยเช่นกันจึงไม่ปฏิเสธอีก หลิวจือโม่ช่วยพยุงเด็กสาวลุก เตรียมกลับไปนอนที่ห้องของตน
ในจังหวะนี้เอง เสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงเรียกหลี่ชิงเฟิงของผู้เฒ่าหลี่ดังขึ้น
หลังจากหยุดชะงัก หลี่ชิงหลิงหันไปมองหลี่ชิงเฟิง พยักหน้าให้เขาเปิดประตู
นางนั่งลงอีกครั้ง เดาว่าผู้เฒ่หลี่คงกำลังตามหานางอยู่ ดังนั้นนางจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อเขาและกลับไปพักผ่อนในห้อง
ยังไงก็ต้องรักษาหน้าอีกฝ่ายหน่อย
เพื่อให้คนอื่นชี้ว่าไม่ได้
หลี่ชิงเฟิงกัดฟัน วิ่งไปเปิดประตูอย่างไม่เต็มใจ เห็นผู้เฒ่าหลี่แล้วเรียกทักทายเสียงเบา
ผู้เฒ่าหลี่มองเขา ตอบรับแล้วถามเขาว่าหลี่ชิงหลิงกลับมาแล้วหรือ
“อืม เพิ่งกลับมาขอรับ”
ผู้เฒ่าหลี่เงยหน้าก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน
หลี่ชิงเฟิงเบะปาก ยื่นมือไปปิดประตูแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาอยากเห็นจริงๆ ว่าผู้เฒ่าหลี่มาทำอะไรที่นี่?
ผู้เฒ่าหลี่เดินไปที่ประตูห้องโถง เห็นหลี่ชิงหลิงมีแถบผ้าสีขาวบนหัวแล้วหยุดชะงัก แต่แล้วก็เดินต่อเข้าไปในห้องโถง
แล้วหลี่ชิงหลิงจึงเรียกทักทายปู่อย่างใจเย็น
ผู้เฒ่าหลี่นั่งตรงข้ามกับหลี่ชิงหลิงโดยไม่ต้องเชื้อเชิญ กวาดมองนางหลายครั้งแล้วจึงถามเสียงเรียบว่าหมอว่าอย่างไรบ้าง
"หมอบอกว่าเสียเืมากเกินไป ต้องบำรุง พักผ่อนเยอะๆ” หลี่ชิงหลิงพูดจบในไม่กี่คำ นางมองผู้เฒ่าหลี่และถาม “ท่านปู่มาทำไมหรือ” ตอนบ้านถล่มโดนทับ เขาไม่ได้มาด้วยซ้ำ แล้วตอนนี้จะมาทำไม?
อาจเพราะััได้ถึงความเ็า ผู้เฒ่าหลี่จึงกระแอม "เมื่อคืน ตอนเ้าเกิดอุบัติเหตุ ข้านอนหลับสนิทเกินไปเลยไม่ได้ยินที่เสี่ยวเฟิงมาเรียก" ไม่ว่าจะอย่างไร หลี่ชิงหลิงก็เป็หลานสาวแท้ๆ หากรู้ว่าเกิดเื่เขาต้องมาช่วยอยู่แล้ว
สองวันนี้ ทุกครั้งที่ออกบ้านจะมีชาวบ้านชี้หน้าเขาว่าเขาเป็คนใจร้าย หลานสาวเกิดเื่ร้ายแรงขนาดนั้นกลับไม่มาดู
กระดูกสันหลังของเขาถูกแทงจนแทบพรุน
ทันทีที่เขารู้ว่าหลี่ชิงหลิงกลับมาจึงรีบมาหา ดูว่าพอจะกู้หน้าคืนได้ไหม?
หลี่ชิงหลิงยิ้มเรียบแต่ไม่พูดต่อ เพียงถามอีกครั้งว่าเขามาทำไม
เมื่อเห็นสีหน้าไม่แยแสของหลี่ชิงหลิง ผู้เฒ่าหลี่ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาที่เป็ผู้ใหญ่อธิบายแบบนี้แล้ว นางยังจะถือตัว?
เขาพูดด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุขเล็กน้อย "บ้านเ้าคงอยู่ไม่ได้แล้ว ่นี้พวกเ้าสามคนก็ไปอยู่กับข้าก่อนเถอะ ไว้ซ่อมเสร็จแล้วค่อยกลับมา” ถ้าเขาพาหลี่ชิงหลิงกลับไปอาศัยอยู่ที่บ้าน ชาวบ้านคงไม่กล้าว่าอะไรอีก
แม้ว่าเขาจะเห็นแก่ตัวเล็กน้อย แต่เขาก็รู้สึกเ็ปแทนหลี่ชิงหลิงจริงๆ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่ชิงหลิงมองผู้เฒ่าหลี่ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย นางไม่คิดว่าเขาจะให้พวกเขาไปอยู่ที่บ้าน ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากทางทิศตะวันตกจริงๆ
“ท่านปู่ เื่ไปอยู่ที่บ้าน คุยกับท่านย่าหรือยังเ้าคะ?” หลี่ชิงหลิงถามด้วยความสงสัย
ผู้เฒ่าหลี่ส่งเสียงหึ บอกว่าเื่นี้เขาตัดสินใจเองได้
ใช่จริงด้วย หลี่ชิงหลิงพูดด้วยสีหน้าแจ่มแจ้ง "ท่านปู่ ขอบคุณสำหรับความเมตตา แต่ข้ารับไว้ไม่ได้"
“เ้ายังไม่ได้แต่งงาน คงไม่ได้คิดจะอยู่ที่นี่จริงๆ ใช่ไหม” ผู้เฒ่าหลี่ได้ยินคำปฏิเสธของหลี่ชิงหลิงแล้วไม่พอใจอย่างมาก “ทำแบบนี้ไม่เหมาะ เ้าไม่เอาชื่อเสียงแล้วหรือ?”
หลี่ชิงหลิงยักไหล่ และพูดอย่างแน่นอน "ข้าอยู่บ้านไม่ได้ เลยมาอยู่บ้านคู่หมั้นข้าชั่วคราวแล้วจะทำไม?” ชื่อเสียงทำอะไรได้? กินได้หรือไม่? ถ้านางสนใจเื่ชื่อเสียงมาก นางคงไม่ใช้ชีวิตตามอำเภอใจจนถึงตอนนี้
เด็กสาวไม่ใส่ใจแบบนี้ ผู้เฒ่าหลี่จึงโกรธมาก เขาจ้องถมึงและพูดเสียงดัง "ต่อให้เ้าไม่สน แต่ก็ต้องระวังชื่อเสียงของเป่าจูพี่สาวแก" อย่างไรเสีย พวกเขาก็เป็ลูกพี่ลูกน้องกัน เมื่อคนรู้ว่าหลี่เป่าจูมีลูกพี่ลูกน้องที่ฉาวโฉ่เช่นนี้คงแต่งงานยากยิ่งกว่าเดิม
เขาไม่สามารถเลี้ยงเด็กจนแก่ได้
ว่าแล้วเชียวว่าที่ผู้เฒ่าหลี่ใจดีขนาดนี้ ให้พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านของเขาได้อย่างไร ที่แท้ก็เพื่อหลี่เป่าจูนี่เอง
หัวใจของหลี่ชิงหลิงเย็นเยียบ น้ำเสียงของนางเ็ายิ่งขึ้น "ท่านปู่ พูดตรงๆ พี่เป่าจูไม่มีชื่อเสียงอะไรเลย โดนแม่ทำลายไปหมดตั้งนานแล้ว” นางหายใจเบา ๆ ไม่อยากคุยไปมากกว่านี้จึงกล่าวไล่แขกโดยตรง "ถ้าท่านไม่มีอะไรอย่างอื่นแล้วก็กลับไปเถอะ ข้ายังไม่หายดี ข้า้าพักผ่อน"
เมื่อเห็นท่าทางไม่สะทกสะท้านของหลี่ชิงหลิง ผู้เฒ่าหลี่ก็โกรธจนเจ็บหน้าอก เขาผุดลุกขึ้น ชี้หลี่ชิงหลิง และพูดเสียงดัง "ไม่ไปน่ะได้ แต่เสี่ยวเฟิงต้องไป” เขาไม่อยากเห็นหลานชายของเขาถูกหลี่ชิงหลิงทำลาย พากลับไปด้วยจะดีที่สุด
ครั้งนี้หลี่ชิงเฟิงปฏิเสธโดยไม่รอให้หลี่ชิงหลิงพูด
เขาต้องไร้สมองจึงจะตามผู้เฒ่าหลี่กลับไป
ทุกคนปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยวจนผู้เฒ่าหลี่รู้สึกทำตัวไม่ถูก เขามองหลี่ชิงเฟิงพลางขมวดคิ้ว "เสี่ยวเฟิง ไม่สนใจชื่อเสียงแล้วหรือไง? หา?” ตามติดพี่ที่ชื่อเสียงแย่แบบนี้ไม่เป็ผลดีอยู่แล้ว
หลี่ชิงเฟิงยืนติดหลี่ชิงหลิงและตอบอย่างหนักแน่น "ถ้าข้าต้องแยกจากพี่สาว ข้าก็ไม่อยากมีชื่อเสียง" เทียบกับพี่แล้ว ชื่อเสียงไม่สำคัญเลย “อีกอย่าง ข้าไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบที่ทำงานเยอะแต่ไม่มีอะไรกิน” เขาไม่อยากใช้ชีวิตอดอยากแบบนั้นอีกแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิงเฟิง ผู้เฒ่าหลี่ก็เสียหน้าอย่างสิ้นเชิง เขาก้มหน้าลงและพูดอย่างเ็า "ได้ ข้าจะจำไว้ ทีหลังเสียใจก็อย่ามาหาข้าแล้วกัน" สะบัดแขนเสื้อเอามือไพล่หลังและเดินออกจากบ้านหลิวไป
หลี่ชิงเฟิงวิ่งไปปิดประตู แล้ววิ่งกลับมายิ้มให้หลี่ชิงหลิง
เป็เขาด้วยซ้ำที่กังวลว่าพี่จะตามปู่กลับไป แต่โชคดีที่ไม่
หลี่ชิงหลิงเคาะหัวหลี่ชิงเฟิงพลางเรียกว่าเ้าเด็กซน
พี่น้องทั้งสามจึงพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลิว หลังจากที่ชาวบ้านรู้เื่นี้พวกเขาก็ซุบซิบกันเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร
บางคนที่ใจดีเอาไข่มาให้ มาเยี่ยมหลี่ชิงหลิงและพูดคำปลอบใจคำสองคำ
เมื่อหลี่ชิงหลิงดีขึ้น นางขอให้หลิวจือโม่เข้าเมืองเพื่อซื้อเนื้อหมู ขนม ลูกอมกลับมา ส่วนนางพาหลี่ชิงเฟิงไปขอบคุณผู้ที่ช่วยเหลือตนทีละบ้าน
เมื่อคนเ่าั้เห็นของขวัญขอบคุณของพวกเขาต่างก็ปฏิเสธ คิดว่าผู้คนจากหมู่บ้านเดียวกันควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ว่าพวกเขาจะปฏิเสธอย่างไร หลี่ชิงหลิงก็มุ่งมั่นที่จะให้ทุกคนเก็บของขวัญขอบคุณไว้
พวกเขาจึงรู้สึกชื่นชมว่าหลี่ชิงหลิงเป็คนใจกว้างเสียจริง
หลี่ชิงหลิงไม่รู้เกี่ยวกับเื่นี้ นางแค่รู้สึกว่าถ้าต้องตอบแทนกลับไป ตนถึงจะรู้สึกสบายใจ
นางรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องเป็หนี้คนอื่น
ในวันนี้ หลี่ชิงหลิงกำลังนั่งอยู่ที่ประตู มองดูหิมะตกหนักที่ตกลงมาไม่หยุด ยันคางและพูดด้วยความกังวล “ไม่รู้ว่าอาหวงหายไปไหน? จะหนาวไหมนะ" อาหวงวิ่งออกไปในวันส่งท้ายปีเก่า ไม่รู้ว่ามันหายไปไหน
นางเองก็ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนจึงแอบกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
หลังจากที่หลิวจือโม่เขียนตัวอักษรขนาดใหญ่เสร็จก็วางแปรงลง เขาหันไปมองหลี่ชิงหลิง "มันคงจะหาที่หลบหิมะเป็" อาหวงเกือบโตจะเต็มวัยแล้ว มันจะปล่อยให้ตัวเองหนาวสั่นได้อย่างไร
หลี่ชิงหลิงถอนหายใจอีกครั้ง "ตอนนี้ไม่มีอะไรกินด้วย ไม่รู้ว่ามันจะหิวหรือเปล่า" สัตว์ทั้งหลายล้วนจำศีลในฤดูหนาว ไม่ได้มีให้ล่าเยอะเหมือนฤดูอื่น
น้ำเสียงของนางเหมือนกับแม่ที่กังวลเกี่ยวกับลูกชาย หลิวจือโม่รู้สึกตลกเล็กน้อย เขาขยับเก้าอี้มานั่งข้างนาง มองทิวทัศน์หิมะข้างนอกด้วย
"หวังว่ามันจะดูแลตัวเองได้!" ทันทีที่นางพูดจบ เสียงร้องของฝูงแกะก็ดังมาจากสวนหลังบ้าน หลังจากนั้นไม่นาน สิ่งมีชีวิตใหญ่ก็ปรากฏตัวต่อหน้า
มันคายกวางในปากลงบนพื้นและเตรียมเหวี่ยงตัวใส่หลี่ชิงหลิงอย่างตื่นเต้น
หลิวจือโม่ห้ามไว้ก่อนที่มันจะกระโจนใส่หลี่ชิงหลิง "เสี่ยวหลิงยังไม่หายดี ตัวเ้าก็เย็นแบบนั้น ห้ามะโมา” หลังจากที่หลี่ชิงหลิงได้รับาเ็ก็กลัวหนาวเล็กน้อย เขากลัวว่าความเย็นจากร่างอาหวงจะไปถึงตัวนาง
ทันทีที่อาหวงได้ยินก็หยุดฝีเท้า ใช้หัวใหญ่ดันเอวหลิวจือโม่ ดันเขาออกไปจึงเดินมาตรงหน้าหลี่ชิงหลิง แลบลิ้นออกมาและเลียมือของเด็กสาว
ดวงตาของมันจับจ้องนาง มองนางราวกับจะถามว่าได้รับาเ็อย่างไร?
หลี่ชิงหลิงเกาคางของอาหวง "ได้กลับไปดูบ้านบ้างไหม ถล่มหมดแล้ว ข้าไม่ทันระวังเลยาเ็ แต่ตอนนี้ไม่เป็ไรแล้ว ไม่ต้องห่วง” หากคนนอกเห็นหลี่ชิงหลิงพูดคุยกับเสือแบบนี้ พวกเขาคงคิดว่านางบ้าไปแล้ว เสือจะฟังเข้าใจได้อย่างไร
แต่อาหวงได้รับการเลี้ยงดูด้วยน้ำจิติญญาจากหลี่ชิงหลิง ไอคิวของมันเทียบเท่ากับเด็กอายุสามหรือสี่ขวบ แน่นอนว่ามันสามารถเข้าใจได้
อาหวงใช้ลิ้นเลียหลี่ชิงหลิงอีกครั้ง หันหลังกลับและวิ่งออกไป ลากกวางที่ล่ากลับมาขยับเข้ามาใกล้แล้วมองเด็กสาว อยากให้นางกินกวางเพื่อบำรุงร่างกาย
