ทว่าเห็นเพียงเฟิ่งเฉี่ยนเลิกคิ้วเรียวงามเลียนแบบท่าทางของนาง ตวัดจวักพันชั่งไปด้านหน้าแล้วพูดเสียงดัง “นี่คือจวักพันชั่ง ยาวสองฉื่อเจ็ดชุ่น ข้าเคยใช้มันทำข้าวผัดไข่ หมูสามชั้นในน้ำซอส ซ้ำยังเคยใช้มันต่อสู้กับโจรโฉดหลายคน จนถึงบัดนี้ยังไม่เคยแพ้เช่นกัน!”
พรืด!
คนทั้งหมดกลั้นหัวเราะจนหน้าแดงก่ำ
ไอหยา!
ฮองเฮาเหนียงเหนียง ท่านมาประลองยุทธ์ หรือท่านมาเพื่อสร้างเื่ขบขันกันแน่
ยังกล่าวอีกว่าไม่เคยพ่ายแพ้
ท่านแค่ใช้มันทำอาหารใช่หรือไม่ บันทึกการสู้รบมาจากที่ใดกัน? รบกับอาหารหรือ?
ถึงกับใช้น้ำเสียงจริงจังและให้ความสำคัญเช่นนี้มาแนะนำ “อาวุธ” ของท่าน ยิ่งจริงจังยิ่งน่าเวทนาโดยแท้!
มุมปากขององค์หญิงหลานซินกระตุกติดๆ กันสามครั้ง นางพบว่าเฟิ่งเฉี่ยนเป็ดาวหายนะในชีวิตของนาง พูดกับนางมากขึ้นสักประโยคล้วนเป็การบั่นทอนอายุทั้งสิ้น!
นางตัดสินใจไม่พูดจาไร้สาระกับเฟิ่งเฉี่ยนอีกต่อไป ใช้ความสามารถที่แท้จริงกำจัดนางเสีย ดูว่านางจะยังปากคอเราะรายได้อีกหรือไม่
“พี่สาว ล่วงเกินแล้ว!”
แขนขวาของนางกระตุก พลังเทพเคลื่อนไหว กลิ่นอายเทพสีม่วงอ่อนปรากฏให้เห็นทันที!
“นกนางแอ่นเหิน!”
สิ่งที่ตามมาพร้อมกับเสียงตวาดของนางก็คือลำแสงกระบี่สีเงินรูปร่างคล้ายงู เสียงร้องคำรามของมันแหวกอากาศคล้ายเสียงฟ้าผ่า พุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ เงาร่างสีม่วงคล้ายนกนางแอ่นค่อยๆ กดดันบีบคั้นเข้าหาเฟิ่งเฉี่ยน!
ในท้องพระโรง ลมจากกระบี่ม้วนตัวขึ้น แสงคมปลาบของกระบี่เริ่มแสดงอานุภาพ
และฝั่งตรงข้ามของนาง เฟิ่งเฉี่ยนยังคงไม่ขยับนางยืนแน่วนิ่งประดุจูเาไท่ซาน คนทั้งคนคล้ายกระบี่คมที่ยังไม่ออกจากฝัก เต็มไปด้วยพลังที่กดข่มอีกฝ่าย!
สามก้าว สองก้าว หนึ่งก้าว...
เจ็ดชุ่น ห้าชุ่น สามชุ่น...
กระบี่นกนางแอ่นเหินส่งเสียงคำรามเหมือนเสียงขู่ ฟู่ๆ ของงู เข้ามาใกล้ทีละชุ่นๆ!
จวักพันชั่งกำลังจะสำแดงเดช ในแววตาของเฟิ่งเฉี่ยนปรากฏให้เห็นลำแสงพาดผ่าน นางเคลื่อนไหวแล้ว ข้อมือของนางตวัดออกเบาๆ พร้อมกับเสียงที่สั่งออกไป “พลังทำลายล้าง!”
จวักพันชั่งแสดงอานุภาพประหนึ่งสายฟ้าแล่บ มันโจมตีอย่างรวดเร็วและแม่นยำลงบนตำแหน่งเจ็ดชุ่นของกระบี่นกนางแอ่นเหิน!
ไม่มากไม่น้อย พอดีเหมาะเหม็งที่ตำแหน่งเจ็ดชุ่น!
ตีงูให้ตีตำแหน่งเจ็ดชุ่น[1]!
หากเปรียบเทียบกระบี่นกนางแอ่นเหินเป็งูขาวตัวหนึ่ง เช่นนั้นตำแหน่งเจ็ดชุ่น ก็คือจุดอ่อนที่สุดของมัน!
ข้างหูได้ยินเสียงัคำรามผ่านไป เสียงนั้นราวกับเป็เสียงที่เกิดจากการเปิดประตูโบราณบานใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง เสียงัคำรามที่ดังขึ้นหนักแน่นเช่นนั้น ไกลเช่นนั้น และสะท้านะเืไปถึงจิตใจของมนุษย์...
องค์หญิงหลานซินเห็นอยู่กับตาว่าปลายกระบี่กำลังจะแทงเป้าหมาย ปลายกระบี่ห่างจากหว่างคิ้วของเป้าหมายเพียงแค่สามชุ่น ทันใดนั้นฝ่ายตรงข้ามโจมตี การโจมตีนี้รวดเร็วดังสายฟ้าฟาด นางไม่ทันกระทั่งจะดึงกระบี่กลับมา กระบี่ยาวถูกโจมตีอย่างจัง หลุดออกจากข้อมือของนางและกระเด็นออกไปไกล!
สายตาของนางมองตามทิศทางที่กระบี่ยาวกระเด็นออกไป เพียงแค่ชั่วพริบตาลำคอรู้สึกเย็นเยียบ มีสิ่งของบางอย่างพาดลงบนลำคอของนาง นางก้มลงมองเห็นจวักพันชั่งในมือของเฟิ่งเฉี่ยนกำลังทาบลงบนลำคอของนาง!
มันกะทันหันเกินไป!
ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป!
นางถึงกับไม่ทันได้แสดงความสามารถอย่างเต็มกำลัง ก็พ่ายแพ้เช่นนี้ นางไม่ยอม!
ผู้คนที่ชมการต่อสู้อยู่ถึงกับสูดลมหายใจเข้าแรงๆ อย่างตกตะลึง ลูกั์ตาเกือบจะพลัดหล่นออกมานอกเบ้าตา!
จบลงแล้ว?
การประลองยุทธ์เพิ่งจะเริ่มขึ้น และได้สิ้นสุดลงแล้วหรือ?
พวกเขาไม่เชื่อสายตาของตนเอง...
ทั้งๆ ที่หลานเฟยเหนียงเหนียงเป็เทพยุทธ์ขั้นสูงที่อยู่เหนือฮองเฮา ทั้งๆ ที่ในมือของหลานเฟยเหนียงเหนียงมีกระบี่มีชื่อเช่น กระบี่นกนางแอ่นเหิน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับฮองเฮาที่ถือจวักเหล็กรูปร่างประหลาด ถึงกับแพ้เพียงการโจมตีในกระบวนท่าเดียว!
เพียงแค่หนึ่งกระบวนท่า เพียงแค่กระบวนท่าเดียวก็แพ้แล้ว!
นี่มันเหลือเชื่อ
เฟิ่งชังอ้าปากค้างอีกคำรบหนึ่ง นี่ยังใช่บุตรสาวของเขาหรือไม่
วินาทีที่กระบี่โจมตีปลิดชีพ รวดเร็วและมั่นคงเช่นนั้น ต่อให้เขาซึ่งเป็ยอดฝีมือก็ยังไม่แน่ว่าจะทำได้ แต่นางกลับทำได้!
ราวกับทุกอย่างล้วนอยู่ในการคาดการณ์ของนางทั้งหมด ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของนาง...
นี่ต้องผ่านประสบการณ์จริงมามากมายกี่ครั้งจึงจะสุขุมเช่นนี้ นางเป็เพียงสตรีในตำหนักใน นางทำได้อย่างไร
หรือบนโลกนี้จะมีคนบางคนที่เกิดมาก็เหมาะที่จะต่อสู้
ส่วนนาง ก็คือหนึ่งในนั้นหรือ?
เซวียนหยวนเช่อพรูลมหายใจเบาๆ ริมฝีปากเซ็กซี่นั้นโค้งขึ้นเล็กน้อย เมื่อสักครู่ที่ปลายกระบี่เกือบจะถึงเป้าหมาย เขาปาดเหงื่อแทนเฟิ่งเฉี่ยน แม้จะรู้ว่านางมีจวักพันชั่งอยู่ในมือ แต่เมื่ออยู่ระหว่างการต่อสู้ สถานการณ์พลิกผันได้ตลอดเวลา ไม่ว่าใครล้วนไม่อาจคาดเดาได้ กระทั่งเห็นจวักพันชั่งของนางโจมตีกลับชนิดสายฟ้าแล่บ โจมตีจุดตายเพียงครั้งเดียว เขาจึงลอบพรูลมหายใจโล่งอก!
ไม่โจมตี รอโอกาสอย่างเงียบๆ หรือหากจะโจมตีก็ต้องโจมตีชนิดสายฟ้าแล่บ ทั้งเร็วทั้งเหี้ยมโหดทั้งแม่นยำ!
นี่เหมาะสมกับนิสัยของนางอย่างยิ่ง!
นี่จึงจะเป็ฮองเฮาที่เขารู้จัก!
ดวงตาของซือคงเซิ่งเจี๋ยเปล่งประกาย เขาตบโต๊ะชื่นชม “เยี่ยม!”
ซือคงจวินเย่ตวัดหางตามองเขาปราดหนึ่ง เขาลืมไปใช่หรือไม่ ใครกันแน่ที่เป็น้องสาวแท้ๆ ของเขา เหตุใดจึงมักจะลุกขึ้นมาชื่นชมคู่ต่อสู้ว่ายอดเยี่ยมเสมอ
องค์หญิงหลานซินอดทนอดกลั้นจนหน้าแดงไปถึงลำคอ นางทั้งอับอายทั้งโกรธทั้งไม่ยินยอม “เ้า...เ้าพาล! เ้าใช้อาวุธเทพ อานุภาพอยู่เหนือกระบี่นกนางแอ่นเหินของข้า นี่ไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริงของเ้า นี่ไม่ยุติธรรม!”
เฟิ่งเฉี่ยนตวัดจวักพันชั่งกลับมาพาดบนไหล่ของตนเอง นางเลิกคิ้วพูดทั้งรอยยิ้ม “แพ้ก็คือแพ้ เหตุใดยังต้องมีเหตุผลมากมายเช่นนี้ มีเพียงผู้แพ้เท่านั้นที่จะหาเหตุผลต่างๆ นานาให้กับตนเอง!”
องค์หญิงหลานซินสะอึก สีหน้าแทบจะกลายเป็สีม่วงเช่นเดียวกับอาภรณ์ของนาง แดงจนเกือบจะกลายเป็สีม่วง
ดวงตาของหานปิงจีไหววูบ นางเพิ่งจะได้สติจากภาพเหตุการณ์เมื่อสักครู่ นางมองเฟิ่งเฉี่ยนด้วยมุมมองใหม่ นางพูดเสียงเย็น “ข้าประกาศ การแข่งขันรอบที่สาม ฮองเฮาชนะ!”
เสียงตัดสินประกาศลงมา!
ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเป็อื่น!
องค์หญิงหลานซินร้อนใจดั่งไฟสุม หรือนางต้องเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเป็ผู้มีสิทธิ์เปิดกล่องสมบัติล้ำค่าก่อนหรือ
ไม่ นางไม่ยอมเด็ดขาด!
ดวงตางดงามกลอกไปมา นางพลันคิดแผนการได้จึงเอ่ยปาก “ช้าก่อน! เปิ่นกงยังมีเื่จะพูด!”
ดวงตาเ็าของหานปิงจีมองมาทางนาง ได้ยินนางพูดอีกว่า “การแข่งขันเมื่อสักครู่ เปิ่นกงยอมรับความพ่ายแพ้...”
เฟิ่งเฉี่ยนประหลาดใจอยู่บ้าง ด้วยคิดไม่ถึงว่านางจะเปลี่ยนใจเร็วเช่นนี้ ยอมรับว่าพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย
องค์หญิงหลานซินยกยิ้มด้วยความมั่นใจ “ทว่าเมื่อสักครู่เปิ่นกงแข่งขันกับฮองเฮาด้วยฐานะของหลานเฟยเหนียงเหนียงของแคว้นเป่ยเยียน! ตอนนี้ เปิ่นกงจะแข่งขันกับฮองเฮาอีกครั้งด้วยฐานะขององค์หญิงแห่งแคว้นหนานเยียน! การแข่งขันครั้งนี้เป็การประลองวรยุทธ์เพียงครั้งเดียวแล้วตัดสิน และทั้งสองฝ่ายห้ามใช้อาวุธเทพใดๆ ทั้งสิ้น! หากครั้งนี้เปิ่นกงยังคงเป็ฝ่ายแพ้ เปิ่นกงจะยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี และจะเป็ฝ่ายถอนตัวจากผู้มีสิทธิ์เปิดกล่องสมบัติล้ำค่าก่อนด้วยตนเอง!”
ได้ยินดังนั้นเฟิ่งเฉี่ยนหัวเราะ
เคยพบเห็นคนหน้าไม่อายมาก็มาก แต่ไม่เคยพบเห็นคนไม่รู้จักละอายแก่ใจถึงขั้นนี้!
แพ้แล้วพาล ถึงกับแปลงสาร พูดจาเหมือนมีเหตุมีผล!
สุด! เ้าสุดจริงๆ!
ซือคงจวินเย่กล่าวสนับสนุนคำพูดขององค์หญิงหลานซินทันที “ถูกต้อง! หลานเฟยเหนียงเหนียงเป็พระชายาของแคว้นเป่ยเยียน และเป็องค์หญิงของแคว้นหนานเยียนของพวกเราเช่นกัน นางเป็ตัวแทนของแคว้นเป่ยเยียนของพวกเราเปิดกล่องสมบัติล้ำค่าก่อนผู้อื่นได้!”
พูดแล้วเขาก็ลอบส่งสายตาให้กับจางโหม่ว จางโหม่วรับรู้เขาลูบคางของตนแล้วยิ้มตายิบหยี “ข้าคิดว่าคำกล่าวของหลานเฟยเหนียงเหนียงและไท่จื่อดูมีเหตุผล ในเมื่อเป็การประลองวรยุทธ์ ย่อมควรจะอาศัยเพียงความสามารถที่แท้จริง การอาศัยอาวุธเทพแล้วได้ชัยชนะ เป็การได้ชัยชนะโดยพึ่งแต่อาวุธจริงๆ! ข้าเห็นด้วยกับการประลองอีกครั้ง ทั้งสองฝ่ายห้ามใช้อาวุธเทพใดๆ ประลองเพียงรอบเดียวตัดสินแพ้ชนะ!”
[1] สำนวนนี้หมายถึง การตีงูต้องตีให้แม่นที่ตำแหน่งหลังศีรษะ 7 นิ้วของจีน งูจึงจะสยบทันที ซึ่งตำแหน่งนี้เป็จุดอ่อนหรือจุดตายของงู
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้