หลังจากฝึกเคล็ดวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นไปถึง 36 รอบ ก็ใช้เวลาไปเกือบทั้งวันฉินโจ้วรู้สึกได้ถึงความก้าวหน้า จากนั้นหยัดกายลุกขึ้นเดินออกจากบ้านตรงไปยังเนินเขาของสุสาน
เขาก็ไม่รู้เหมือนว่าเพราะที่นี่มันไกลจากตัวเมืองเกินไป หรือเพราะว่าบรรยากาศของสุสานในตอนกลางคืนมันมืดมนขนหัวลุกเกินไปกันแน่ถึงได้ไม่มีผู้เล่นในบริเวณสุสานนี้เลย มีก็แต่เสียงร้องของอีกา
จากประสบการณ์ครั้งแรกฉินโจ้วอัญเชิญทหารโครงกระดูกเพื่อจัดการกับมอนสเตอร์ซากศพเน่าเปื่อยถึงแม้ว่าตอนนี้เลเวลของเขาจะเท่ากับมอนสเตอร์ซากศพเน่าเปื่อยแล้วก็ตามแต่วิธีนี้ก็ยังคงให้ผลลัพธ์ที่ดีอยู่ เพราะทหารโครงกระดูกสามารถจัดการซากศพเน่าเปื่อยได้เร็วกว่ามอนสเตอร์ชนิดอื่นๆทำให้จำนวนมอนสเตอร์ที่ถูกกำจัดก็เพิ่มขึ้นไปด้วย
หลังจากซากศพกว่า 70% ถูกกำจัดไป ร่างของฉินโจ้วส่องแสงสีขาวของการเลื่อนระดับ
ติ๊ง! ระบบแจ้งเตือน :ขอแสดงความยินดีด้วย ผู้เล่นเมามายซบตักสาวงาม ได้เลื่อนระดับขึ้นหนึ่งขั้นขณะนี้อยู่ในเลเวล 13
ฉินโจ้วแทบไม่ต้องคิดอะไรแล้วเขาเพิ่มแต้มคุณสมบัติอิสระไปที่พลังจิตทันที เพื่อการเป็นักเวทที่เก่ง เขาวางแผนจะเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังจิตจากการคำนวณ เขาต้องจัดการซากศพเน่าเปื่อยอีกไม่ต่ำกว่า 6,000 ตัวเพื่อที่จะเลื่อนอีกหนึ่งเลเวล แต่จำนวนซากศพทั้งหมดในสุสานมีแค่ 3,000 ตัวเท่านั้น แสดงว่าเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน แต่พอคิดว่าจะได้ชุดอุปกรณ์รัตติกาลดำอีก 2 ชุด ฉินโจ้วก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที
ชุดอุปกรณ์น่ะมันหายากถ้าอยากได้ก็ต้องขุดค้นมันขึ้นมา
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปฉินโจ้วเก็บเหรียญทองแดงเหรียญสุดท้ายก่อนจะเดินทางกลับเมืองไปเขาทิ้งอุปกรณ์อื่นๆ และชุดอุปกรณ์รัตติกาลดำ 2 ชุดที่เขาพบไว้ที่ร้านคนสิบสองเหรียญทองแดง และออฟไลน์ เพื่อไปออกกำลังกายขา
หลายวันต่อมาฉินโจ้วแบ่งเวลาออกเป็สาม่ เขาฝึกศิลปะป้องกันตัว จัดการซากศพ และนวดขาข้างที่าเ็โดยเฉลี่ยในหนึ่งวันเขาจะได้ชุดอุปกรณ์รัตติกาลดำ 1 ชุด ซึ่งมันมีค่าไม่ต่ำกว่า 50 เหรียญทองก็พอจะนับว่ามีโชคอยู่บ้าง ระดับของเขาเพิ่มเป็เลเวล 14 แล้ว ถึงตอนนี้จะไม่ติด 1 ใน 10 อันดับ แต่เขาคิดว่าอย่างไรเสียก็น่าจะอยู่ใน 100 อันดับแรก สิ่งที่ทำให้ฉินโจ้วตื่นเต้นคือ ขาของเขาเริ่มขยับได้บ้างเล็กน้อยแม้จะยังยกขึ้นไม่ได้ แต่ก็ดีกว่าแต่ก่อนที่ขยับไม่ได้เลย ตอนนี้ถือว่าพัฒนาขึ้นไปไม่น้อย
เป็อีกคืนที่แสงจันทราสาดส่องถึงจะเป็เวลากลางคืนในเกม อย่างไรเสียก็ไม่ใช่กลางคืนจริงๆมันแค่มืดกว่าตอนกลางวันนิดหน่อยเท่านั้น
ในตอนที่ใกล้จะถึงสุสานฉินโจ้วมองเห็นร่างสีขาวอยู่ในสุสานเธอถือไม้เท้าสีขาวอยู่ในมือและปล่อยบอลแสงสีขาว บอลแสงพุ่งไปที่ซากศพก่อนที่ซากศพจะสลายกลายเป็ควันสีขาว โดยทั่วไปแล้วบอลแสงสองลูกจัดการซากศพได้ 1 ตัว ถ้าเทียบกับนักเวทอย่างฉินโจ้วแล้วน่าจะแข็งแกร่งกว่าสัก 1-2 หน่วย
ฉินโจ้วไม่ได้รบกวนเธอเขาเพียงยืนซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ในเงามืด เมื่อมีผู้เล่นพบสถานที่สำหรับฝึกฝนเขาไม่ใช่ประเภทที่จะใช้กำลังเพื่อบีบบังคับให้เธอออกจากพื้นที่ไปหรอกน่า
ผู้เล่นหญิงคนนี้มีอาชีพเป็นักบวชเธอใช้บอลแสงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็เวทธาตุแสง และเป็หนึ่งในทักษะการโจมตีเพียงไม่กี่อย่างที่อาชีพนักบวชสามารถใช้งานได้เวทแสงเกิดมาเพื่อจัดการกับมอนสเตอร์ธาตุมืดอยู่แล้วเมื่อถูกโจมตีด้วยบอลแสงศักดิ์สิทธิ์ มอนสเตอร์ธาตุมืดจะถูกลดค่าสถานะลงครึ่งหนึ่งและมันไม่ได้สร้างความเสียหายแก่ตัวผู้เล่นหญิงแม้แต่น้อย
เดินเข้าไปใกล้อีกนิดก็พบว่าเธอเป็ผู้เล่นสาวสวยทีเดียวดวงหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวดั่งใบสน ร่างกายดูเบาบางราวปุยฝ้ายต้องลมผิวขาวราวกับหิมะ ดวงตาของเธอแสดงถึงความราบเรียบ ท่วงท่าอาการปราศจากความตื่นเต้นมองแล้วให้ความรู้สึกนิ่งสงบ เพราะผู้เล่นหญิงซ่อนชื่อของเธอไว้ ฉินโจ้วจึงมองไม่เห็นชื่อของเธอทำเอาเขาเกิดความคิดอยากซื้อหนังสือทักษะการตรวจสอบขึ้นมาแล้วสิ
ถึงเลเวลจะสูงขึ้นแต่ก็ยังยากที่ผู้เล่นจะมองเห็นค่าสถานะของมอนสเตอร์ที่เลเวลสูงกว่าตนอยู่ดีทำให้ในเวลานี้ทักษะการตรวจสอบสำคัญไม่น้อย อย่างไรก็ตามหนังสือทักษะยังเป็สิ่งที่หายากราคาจึงค่อนข้างสูง
ทันใดนั้นมีเสียงพูดคุยดังแว่วมาจากทางเมืองัฟังจากเสียงฝีเท้าเดินกันอย่างไม่เป็ระเบียบ จำนวนคนคงไม่น้อยแน่สักพักฉินโจ้วก็เห็นกลุ่มผู้เล่นราว 12 คน พวกเขาตรงมาทางสุสานโดยที่ชื่อมีคำนำหน้าว่าสมาคมโลก ดูท่าพวกเขาน่าจะเป็สมาชิกของสมาคมโลกแต่อย่างไรก็ตามดูจากลักษณะท่าทางการเดินและหน้าตาก็บอกยี่ห้อว่าเป็พวกสารเลวของแท้แน่นอนถึงฉินโจ้วจะเข้าใจดีว่าไม่ควรตัดสินผู้คนจากภายนอกก็เถอะแต่พวกเขาดูท่าทางชั่วร้ายและแถมยังปกปิดร่างกายเสียมิดชิดอาจเป็เพราะเขายืนอยู่ในเงามืด และแสงจันทร์คืนนี้ก็ค่อนข้างสลัวจึงทำให้ไม่มีใครมองเห็นเขา
ผู้เล่นของสมาคมโลกพบกับนักบวชที่กำลังจัดการซากศพอยู่ก่อนแล้วแต่พวกเขาก็ไม่สนใจ และะโมาแต่ไกลว่า "สมาคมโลกจะจัดการมอนสเตอร์ทั้งหมดคนที่ไม่เกี่ยวข้องไสหัวออกไปให้พ้น" ด้วยน้ำเสียงก้าวร้าว
นักบวชหันไปมองและหยุดร่ายเวทหลังจากใช้ความคิดอยู่สามวินาที จึงเลือกจะเดินจากไปอย่างเชื่องช้า
"เดินดีๆ ล่ะน้องสาว" ในโลกแห่งนี้ยังมีผู้เล่นตัวเล็กๆคนหนึ่งชื่อ ''ผมชื่อหมาป่าสีเทา'' หลังจากที่สายตาจับจ้องไปยังนักบวชสาวผู้มีใบหน้าสะสวย ทันใดเขาก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้น จากนั้นเขาจึงพูดออกไปว่า"ช้าก่อน"
บางคนวิ่งไปขวางหน้าและตามมาด้วยผู้เล่นคนอื่นๆ ยืนล้อมหน้าล้อมหลังนักบวชสาวที่กำลังจะเดินจากไป
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักบวชสาวต้องเผชิญสถานการณ์เช่นนี้เธอหยุดเดินทันที ก่อนที่จะหันกลับมาจ้องผู้เล่นที่ชื่อผมชื่อหมาป่าสีเทาด้วยสายตาเ็า
ผู้เล่นผมชื่อหมาป่าสีเทาถูกสายตาที่แสนเย็นเฉียบของเ้าหล่อนจ้องจนใจสะท้าน ก่อนเขาจะยิ้มแห้งๆ และพูดว่า "ผมเพิ่งนึกได้น่ะว่าเธอเป็คนเจอสถานที่นี้ก่อน คงไม่ดีเท่าไรที่พวกเราจะไล่เธอออกไปบังเอิญว่ากลุ่มของเรายังขาดนักบวชอยู่พอดีเธอจะเข้ากลุ่มกับเราเพื่อฆ่าซากศพด้วยก็ได้นะ ถ้าเป็แบบนี้เธอก็ไม่ต้องหนีไปแถมยังได้รับค่าประสบการณ์ไม่น้อยด้วยแต่อาจทำให้การเลื่อนเลเวลช้าออกไปอีกนิดหน่อย ว่าไง สนใจไหมล่ะ?"
"หลีกไป"ทั้งสีหน้าและท่าทางของนักบวชสาวราบเรียบไร้การเปลี่ยนแปลง
"นี่น้องสาวตอบตกลงข้อเสนอของผมดีกว่าน่า" ผมชื่อหมาป่าสีเทาเธอเริ่มรู้สึกฮึกเหิมขึ้นเมื่อถูกล้อมด้วยสายตาที่จ้องมองมา
"บอสหมาป่า" ผู้เล่นที่อยู่ข้างๆ หมาป่าสีเทากระซิบที่หูว่า"ดูเหมือนคนนี้จะอยู่ในอันดับรายชื่อที่ชื่อว่า ชุดขาวลอยล่องน่ะ"
ผมชื่อหมาป่าสีเทาตะลึงไปชั่วขณะเขาคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะยิ้มอย่างชั่วร้ายและพูดว่า "ที่แท้คุณก็คือชุดขาวลอยล่องนี่เองเอาอย่างนี้ไหม ถ้าคุณไม่รับข้อเสนอก็ไม่เป็ไรแต่สุสานแห่งนี้เป็พื้นที่ของสมาคมโลกแล้ว คุณมาฆ่ามอนสเตอร์โดยพลการแถมเก็บชุดอุปกรณ์รัตติกาลดำไปอีกแต่ว่าถ้าคุณยอมทิ้งชุดอุปกรณ์รัตติกาลดำไว้ ผมก็จะยอมปล่อยคุณไปก็ได้ คิดว่าอย่างไรบ้าง?”
“หน้าไม่อาย!" สองคำสบถออกมาจากปากชุดขาวลอยล่อง
ผมชื่อหมาป่าสีเทาไม่สนใจเขาบอกกับสมาชิกของสมาคมโลกที่อยู่ข้างๆ ว่า "พี่น้องทั้งหลายเนื่องจากสาวน้อยชุดขาวลอยล่องผู้นี้ไม่เต็มใจจะยกชุดอุปกรณ์รัตติกาลดำให้เราคงไม่อาจทำให้เธอลำบากใจได้ ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะหาว่าเรารังแกผู้หญิงแต่เนื่องจากอุปกรณ์นี้จะหยิบไปหน้าตาเฉยก็ไม่ได้ราคาของชุดอุปกรณ์รัตติกาลดำในร้านค้าตอนนี้คือ 57 เหรียญทอง เราจะลดราคาให้ก็แล้วกันเรามีพี่น้องทั้งหมด 25 คน ดังนั้นถ้าคุณชุดขาวลอยล่องจ่ายให้พวกเรามา 50 เหรียญทอง เื่วันนี้จะถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น ว่าอย่างไรล่ะ โอเคไหม?"
สมาชิกของสมาคมโลกเข้าใจความคิดของผมชื่อหมาป่าสีเทาและะโขึ้นในทันที อย่างไรเสียนักบวชมีพลังโจมตีที่แสนต่ำและพวกเขาก็มีคนอย่างเหลือเฟือถึง 25 คน ใครจะไปกลัวชุดขาวลอยล่องกันถึงแม้นักบวชจะมีบอลธาตุแสง ซึ่งมันใช้ได้ผลแค่กับมอนสเตอร์ธาตุมืดเท่านั้นถ้าใช้โจมตีผู้เล่นธรรมดาน่ะหรือ ก็คงเหมือนถูกละอองฝนตกใส่เหรียญทองสองเหรียญต่อคน ตีเป็เงินก็ราวๆ 2,000 หยวนก็สมกับเงินเดือนเดือนนี้ เื่ดีๆ แบบนี้จะมีใครไม่ชอบกัน
ฉินโจ้วไม่คิดว่าจะได้เห็นละครฉากเด็ดในคืนนี้นับว่าไม่เสียเปล่าเลยที่มาที่นี่ชุดอุปกรณ์รัตติกาลดำมีค่ามากสำหรับผู้เล่นคนอื่นๆ แต่ในสายตาของเขา มันมีค่าแค่ 57 เหรียญทองเท่านั้นซึ่งเขาไม่คิดจะชายตาแลสักนิดเขามาที่นี่เพราะความสะดวกในการจัดการซากศพเน่าเปื่อยต่างหาก มันช่วยประหยัดเวลาได้มากแต่เขาไม่คาดคิดว่าผู้เล่นบางคนจะรู้ว่าชุดอุปกรณ์รัตติกาลดำสามารถหาได้จากที่นี่เห็นได้ชัดว่าบนโลกนี้มีผู้เล่นมากพร์อีกไม่น้อย
เวลานี้ไม่ต้องพูดกันอีกแล้วชุดขาวลอยล่องเดินตรงเข้าไปหาสมาชิกของสมาคมโลก ก่อนเธอจะส่งยิ้มหวานให้ทำเอาผู้เล่นผมชื่อหมาป่าสีเทาสงสัยอยู่เล็กน้อย ราวกับบุปผชาติผลิบานคล้ายเช่นการจุดดอกไม้ไฟยามค่ำคืน ในตอนนั้นเองพลังที่แข็งแกร่งของธาตุแสงทะลักออกมาร่างของชุดขาวลอยล่องะเิพลังของฝนธนูธาตุแสงกระจายออกไปเต็มฟ้าพุ่งเข้าใส่พวกสมาคมโลกอย่างรวดเร็ว
เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวดังระงมไปทั่วเมื่อแสงสีขาวสว่างวาบ ผู้เล่นทั้งหมดที่ถูกโจมตีด้วยฝนธนูเหมือนถูกสูบพลังชีวิตและพวกเขาก็ตายในทันที หลังจากนั้นอุปกรณ์ทั้งหมดก็ตกลงพื้น หลังจากเลเวล 10 ไป เมื่อผู้เล่นตายจะถูกลดระดับลง 1 เลเวลและมีโอกาสที่อุปกรณ์สวมใส่จะหลุดออกจากตัวผู้เล่น แถมยังไม่จำกัดจำนวนอีกด้วย
หลังจากฝนธนูยิงออกไปก็ไม่เหลือผู้เล่นอื่นอยู่รอบตัวชุดขาวลอยล่องอีกเลยเหลือแต่นักธนูที่ยืนอยู่ไกลลิบ เพราะอาชีพนักธนูทำให้เขาต้องระมัดระวังรอบคอบตลอดเวลา ทำให้ต้องทิ้งระยะห่างไว้พอสมควร
ฝนธนูธาตุแสงที่ยิงออกมาสังหารผมชื่อหมาป่าสีเทาและคนอื่นๆรวมทั้งสิ้น 24 ศพ
นักธนูเกิดพลันสติแตกรีบพุ่งตัวออกไปทิ้งระยะห่าง ก่อนจะง้างธนู ใส่ลูก และยิงใส่ชุดขาวลอยล่องทันที
เสียง ติ๊ง! ติ๊ง! ดังขึ้นสองครั้งชุดขาวลอยล่องถูกยิงด้วยธนู มีตัวเลขความเสียหายลอยขึ้นมา -70 -70 ดูเหมือนว่าทักษะฝนธนูธาตุแสงที่ชุดขาวลอยล่องใช้จะสามารถใช้ได้แค่ครั้งเดียวเธอจึงโจมตีกลับด้วยบอลแสงศักดิ์สิทธิ์บอลแสงพุ่งเข้าใส่นักธนูและปรากฏตัวเลขความเสียหายขึ้น -30 -30
หลังจากถูกยิงหลายรอบเข้าพลังชีวิตของชุดขาวลอยล่องก็เหลือน้อยเต็มทีชุดขาวลอยล่องเข้าใจแล้วว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนักธนูฝั่งตรงข้ามเลยดังนั้นเธอจึงไม่เพิ่มพลังชีวิตให้ตัวเอง และยืนรอความตายอย่างสงบใบหน้าของนักธนูเป็ประกายวาบ ก่อนที่จะยิงลูกธนูเพื่อปลิดชีพ
ติ๊ง!
เงาร่างขาวสั่นไหวเล็กน้อยทหารโครงกระดูกสีขาวปรากฏขึ้นต่อหน้าชุดขาวลอยล่องในทันทีดวงตาสีดำของทหารโครงกระดูกจ้องไปยังนักธนูเ้าทหารโครงกระดูกโผล่มาป้องกันได้ทันเวลาพอดี
ในเวลาเดียวกันฉินโจ้วได้รับข้อความจากระบบว่ามีผู้เล่นอยู่บนเนินเขาที่ชื่อเหลาหู่โจมตีมอนสเตอร์อัญเชิญของเขา ้าโจมตีกลับหรือไม่ แต่ฉินโจ้วไม่ได้สู้กลับเพราะถ้าเขาสู้กลับ ชื่อของเขาจะถูกฝ่ายตรงข้ามเห็นทันทีเขายังไม่อยากมีปัญหากับสมาคมลับในตอนนี้
ชุดขาวลอยล่องมีประสบการณ์พอตัวเมื่อเธอเห็นทหารโครงกระดูกช่วยป้องกันลูกธนู เธอก็รู้ได้ทันทีว่าต้องมีใครบางคนคอยช่วยเหลือเธออยู่เธอจึงเริ่มรักษาตัวเอง ด้วยการเพิ่มพลังชีวิตจนเต็ม และเพิ่มพลังโจมตีทันทีะุแสงศักดิ์สิทธิ์มีพลังโจมตีค่อนข้างต่ำ แต่เธอก็ไม่ได้คิดจะยืดเวลาให้นานและอีกอย่างพลังชีวิตของนักธนูนั้นช่างเปราะบาง จนกระทั่งพลังชีวิตลดลงครึ่งหนึ่งนักธนูนับว่าเป็อาชีพที่มีความเร็วค่อนข้างสูงแค่ครู่เดียวก็หนีหายไปแล้ว
ชุดขาวลอยล่องทราบดีว่าเธอไม่มีทางไล่ทัน ดังนั้นจึงไม่ได้ไล่ตามพวกมันไปเธอหันไปหาต้นไม้ใหญ่ที่ใครบางคนหลบอยู่ และเอ่ยขึ้นว่า "ขอบคุณมากสำหรับการช่วยเหลือ โปรดออกมาเถอะ"
ฉินโจ้วเดินออกมาด้านหน้าจากที่หลบอยู่หลังต้นไม้ก่อนจะส่งทหารโครงกระดูกจิ๋วที่มีพลังชีวิตเกินครึ่งกลับไปต่างมิติตอบชุดขาวลอยล่องกลับไปว่า "ผมฉินโจ้ว ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบมองนะผมแค่กำลังเก็บเลเวลอยู่ที่นี่พอดี"
ชุดขาวลอยล่องไม่ได้สนใจ ก่อนจะพูดว่า"ฉันชุดขาวลอยล่อง ฉันติดหนี้บุญคุณนายแล้ว"
"ไม่ต้องใส่ใจหรอก ผมไม่อยากให้คุณมาตอบแทนอะไรผมช่วยเพราะเราเป็เพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็เท่านั้น จะให้เอาแต่ยืนมองเฉยๆผมทำไม่ได้หรอก" ฉินโจ้วโบกมือ เขาไม่ได้พูดตามความจริงเพราะว่าที่จริงแล้วเป็เพราะความสวยของเธอต่างหาก
“ฉันจะจำเอาไว้ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อน” ชุดขาวลอยล่องหันหลังกลับก่อนที่จะเดินลากตัวเองออกจากน้ำโคลน
ฉินโจ้วรู้สึกเหมือนโง่ลงไปชั่วขณะผู้หญิงคนนี้พูดแล้วทำเลย ดูท่าจะเป็คนซื่อตรงยิ่งกว่าพวกผู้ชายเสียอีกเขาหันมาะโไล่หลังถามไปว่า "คุณไม่เอาอุปกรณ์พวกนี้หรือ?"
"ไม่" ชุดขาวลอยล่องตอบกลับ
"มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า?" ฉินโจ้วถามอีกครั้ง
“ไม่้า” น้ำเสียงของชุดขาวลอยล่องยังคงราบเรียบ ก่อนที่เธอจะเดินออกไปไกลจนลับตา
ฉินโจ้วยักไหล่ ก่อนจะพูดกับตัวเองว่า"เอาล่ะ ได้เวลาทำสิ่งที่ฉันโปรดปรานแล้วสิ ถึงเวลาเก็บของแล้วยิ่งเยอะก็ยิ่งดี" ตอนแรกคิดว่าน่าจะทำเงินได้เพียงเล็กน้อยแต่ที่ไหนได้ ไม่คิดว่าจะโชคดีขนาดนี้ ทั้งหมด 43 ชิ้นเป็อุปกรณ์เหล็กดำทั้งหมด กับอีก 3 เหรียญทอง 26 เหรียญเงิน และ 58 เหรียญทองแดง และที่สำคัญที่สุดก็คือสูตรยานั่นเอง
สูตรยาน้ำเงินเวอร์ชันอัปเกรด: สามารถผลิตยาน้ำเงินขวดเล็กฉบับปรับปรุง โดยจะฟื้นพลังจิตทั้งหมด 200 หน่วย และเพิ่ม 200 หน่วยต่อวินาทีอาชีพที่้า : เภสัชกร
อัตราการปรากฏของสูตรยานั้นแสนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เป็รองก็แค่ทักษะลับเท่านั้นแม้ว่าทักษะในชีวิตจำนวนไม่น้อยจะหาซื้อได้จากร้านค้า ทว่ามีแค่ทักษะหลักเท่านั้นส่วนทักษะที่สูงกว่าต้องหาด้วยวิธีอื่นเอาเองดังนั้นสูตรยาน้ำเงินที่ปรับปรุงแล้วชิ้นนี้ ต้องเป็ของดีแน่นอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ยาน้ำเงินกำลังเป็ที่นิยมไม่เบาราคาของยาน้ำเงินฉบับปรับปรุงก็แพงกว่ายาแดงอีกด้วย
ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงหลั๋วอีอีที่หายเงียบไปไม่มีข่าวดีมาสักพักแล้ว เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าผู้หญิงคนนี้อาจโกหกก็ได้
ก่อนอื่นก็กลับเข้าเมืองก่อนจากนั้นเอาอุปกรณ์ไปที่ร้านคนสิบสองเหรียญทองแดง และกลับไปที่บ้านพักของเหล่านี้สามารถซื้อขายได้ในร้านค้าดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกพวกผมชื่อหมาป่าสีเทาตามมาเจอเพราะผู้เล่นทุกคนล้วนสามารถซื้อขายอุปกรณ์จากในร้านค้าทั้งนั้นแต่ถ้าเขาไปตั้งร้านขายบนถนนอยู่ร้านเดียว นั่นมันก็อีกเื่หนึ่ง
หลังจากนี้ไปร้านขายยาต้องมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างแน่นอน