ศิษย์ผู้นี้ตัวเตี้ยกว่าผมอย่างเห็นได้ชัด ยามที่ถูกเขาประคองอยู่เช่นนี้ เท้าผมแทบจะลากพื้นอยู่แล้ว ตอนอยู่ในคุกน้ำก็ถือว่ายังดี แม้น้ำจะสกปรกมากแค่ไหน แต่มันก็ยังเป็ผิวััที่อ่อนโยน ตอนนี้ผมได้ออกมาจากคุกน้ำแล้ว ผมกลับมีความคิดชั่ววูบที่อยากจะฆ่าตัวตายขึ้นมาจริงๆ
พื้นผิวทางเดินทำจากก้อนหินซึ่งมีความแข็งจนบาดนิ้วเท้าของผม ทำให้ผมต้องคอยงอเท้าสลับกับยืดเท้า พอเดินไปได้สักพักหนึ่ง เขาก็หอบหายใจด้วยความเหนื่อย เมื่อเขาปล่อยมือที่ช่วยประคองผม ทำให้เท้าทั้งสองข้างที่โชคร้ายของผมแตะลงบนพื้นทันที
เดิมทีาแที่เท้าก็ยังมีเืไหลอยู่ เมื่อแตะลงบนพื้นทางเดินจึงทำให้เกิดรอยเืเปื้อนยาว ผมมองเห็นเองก็ยังรู้สึกได้ถึงความเ็ปและน่าหวาดกลัวเป็อย่างยิ่ง
พี่ใหญ่ท่านนี้จะต้องเป็คนที่ซ่งฉียวนส่งมาเพื่อทรมานผมเป็แน่? แม้ว่าตอนนี้จอมปีศาจที่เคยสง่าผ่าเผยอย่างผมจะกลายเป็มนุษย์ธรรมดา แต่ไม่แน่ว่าจู่ๆ พลังของผมอาจจะกลับมาก็ได้? ปล่อยให้คนเพียงแค่คนเดียวมาลากผมไป แถมยังเป็พวกไก่อ่อน นี่มันใช่วิธีการของเขาจริงๆ หรือ?
...ช่างเถอะ แม้ว่าจะเป็พวกไก่อ่อนแต่ผมก็ไม่สามารถสู้หรือหนีได้อยู่แล้ว
เราทั้งสองเดินผ่านทางแยกมาประมาณเจ็ดแปดแยกราวกับว่ากำลังเดินวนเวียนอยู่ในเขาวงกต กว่าจะเจอทางออกก็ต้องเดินไปตามทางอีกสี่ห้าเส้นซึ่งก็เป็ระยะเวลาที่ยาวนานเหลือเกินในความรู้สึก
เวลานี้ผมเจ็บจนส่งเสียงร้องไห้ไม่ออก ผมทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดไปบนตัวพี่ชายท่านนี้ ซึ่งคล้ายว่าอาจไม่ได้ตั้งใจ แต่มันก็ทำให้ผมทรมานตลอดทาง ขณะที่กำลังคิดจะทับเขาให้ตายไปเลยอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งก็นึกเกลียดตัวเองว่าทำไมตอนแรกจะต้องเขียนเส้นทางคุกน้ำของสำนักฉิงชางให้ซับซ้อนขนาดนี้ด้วย?
ตอนแรกรู้สึกว่าการเขียนแบบนี้เยี่ยมยอดมาก ตัวอย่างเช่น “อุโมงค์ลึกที่คดเคี้ยวและมืดสลัว ผู้ที่มาเยือนจะต้องเดินวกวนจนรู้สึกสับสนเวียนหัววนเวียน” อีกทั้ง “แม้เพิ่งจะผ่านหัวมุมนี้ไป ทว่ากลับรู้สึกเหมือนเคยผ่านไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อมาคิดดูแล้วก็เห็นว่ายังมีอีกหัวมุมหนึ่งที่มีความคล้ายคลึงกัน”
การเขียนบรรยายเป็ตัวอักษรกลับกลายเป็เื่ที่เลวร้ายในโลกแห่งความเป็จริง!
ผมถูกลากตัวไปด้วยความงุนงง พี่ใหญ่ท่านนี้ใช้มือคลำไปตามกำแพงที่อยู่รอบๆ เมื่อคลำไปเจอหินก้อนหนึ่งที่ไม่ได้ดูเตะตาสักเท่าไรแล้วจึงกดลง จากนั้นประตูหินที่ทั้งหนักและหนาก็ค่อยๆ เปิดขึ้น แสงสว่างส่องลอดผ่านเข้ามาทางประตูที่กำลังเปิดออก ส่องมายังเส้นผม ร่างกายของผม สว่างจนอาจทำให้ดวงตาของผมบอดได้
ผมรีบหลับตาลงทันที ดวงตาพร่าไปหมด รู้สึกแสบตาเกินกว่าจะทนได้
ครั้งนี้ไม่โทษใครทั้งนั้น เป็เพราะความโง่เขลาของตัวผมเอง เพราะว่านานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นแสงสว่าง เมื่อเจอแสงอาทิตย์ก็ควรจะหลับตาลง ข้าวที่ผมได้กินลงท้องเมื่อนานมาแล้วมันย่อยจนกลายเป็อุจจาระขับถ่ายออกมาจากร่างกาย นานจนผมลืมไปหมดแล้ว
อา ข้าว...
“จ๊อก”
เป็อีกครั้งที่ท้องของผมสะท้อนถึงความคิดได้อย่างถูกต้องแม่นยำ มันส่งสัญญาณบอกว่าหิวมากไปยังท่านพี่ชายที่อยู่ด้านข้างและคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ด้านนอก
ใช่แล้ว ด้านนอกมีคนยืนอยู่มากมาย หลังจากที่ผมปรับสายตาให้เข้ากับแสงอาทิตย์ได้แล้ว เมื่อมองไปข้างหน้าอีกครั้งก็แทบจะใตาย
ตัวแทนจากแดน์ หนึ่งสำนัก สามพรรค หกตระกูลใหญ่ ทั้งหมดต่างก็รออยู่ที่หน้าประตูของคุกใต้ดินและกำลังจ้องมาที่ผมคล้ายกับเสือที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อ สายตาราวกับว่ากำลังดูละครลิง และผู้ที่ยืนอยู่ในตำแหน่งผู้นำของคนเหล่านี้ก็คือซ่งฉียวนเ้าสำนักฉิงชาง เขาสวมชุดนักพรตสีดำปักลวดลายสีทองดูเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ด้วยใบหน้าที่งดงามและรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากทุกคนที่อยู่รวมกันนั้น ทำให้เขาดูสะดุดตาและโดดเด่นกว่าใคร
เดิมทีแล้วเสื้อผ้าแบบนี้ไม่เหมาะกับฐานะและนิสัยของเขา ในนิยายที่ผมเขียนกำหนดให้เขาชอบสีขาว นิสัยก็ไม่มืดมน เพราะหากมืดมนแล้วก็ยากที่จะรับลูกศิษย์ได้สำเร็จ นอกจากนี้ พระเอกในนิยายของผมเื่ “มหันตภัยแห่งแดนเซียนปีศาจ” เป็ตัวละครที่มีความเที่ยงธรรม ซึ่งจะต้องส่งเสริมการดำรงอยู่ของพลังงานด้านบวก
เขากวาดสายตามองมา ผมเองไม่ทันจะก้มศีรษะลง สายตาจึงปะทะกับเขาเข้าพอดี คนที่เมื่อสักครู่นี้ยังยิ้มแย้มและพูดคุยกับคนที่อยู่รอบข้าง แต่พอเห็นผม สายตาเขากลับเปลี่ยนเป็เยือกเย็นทันที ในแววตาคู่นั้นผมััได้ถึงความเหยียดหยามและความรังเกียจ มุลมปากเขายกยิ้มอย่างชั่วร้ายผิดปกติ
ช่างเถอะ ความมืดมนมีไว้สำหรับผมเท่านั้นแหละ
“ท่านผู้นี้คือจอมปีศาจอวี๋เคอที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามอย่างนั้นหรือ? ทำไมตอนนี้ถึงได้ตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชเช่นนี้? รู้สึกหิวจนท้องส่งเสียงร้องไม่เหมาะสมออกมาเช่นนี้อีก? ”
จะให้ทำเช่นไร? ท้องร้องมันเป็ความผิดของผมอย่างนั้นหรือ?
“เห็นสภาพของเขาตอนนี้แล้วข้ารู้สึกสะอิดสะเอียนจริงๆ ”
แม่สาวน้อยที่รัก ถ้าเธอถูกตอกติดกับตะปูเหล็กสี่ตัว ที่ปอดมีโซ่เหล็กสีดำสองเส้นแทงเอาไว้ แล้วยังถูกจับโยนลงไปอยู่ในคุกน้ำที่เน่าเหม็นสักสิบกว่าวัน สภาพก็คงไม่ได้ดีไปกว่าผมนักหรอก!
“ความผิดของเขาปรากฏชัดเจน เขาทำผิดก็สมควรได้รับการลงโทษ ข้าคิดว่ากฎการลงโทษพวกนี้ล้วนเบาเกินไป ควรจะจับเขาโยนลงไปในหลุมที่มีแมลงพิษหลากหลายชนิดให้ถูกกัดกินจนตาย! ”
เฮ้ย! ท่านพี่ ท่านเป็ผู้เที่ยงธรรมนะ? ผู้บำเพ็ญตนเป็เซียนควรจะจิตใจดีมีเมตตาไม่ใช่หรือ? มิใช่ว่าโเี้เกินไปแล้วหรือ?
“ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนจอมปีศาจเป็บุรุษที่สง่างามและงดงามอย่างยิ่ง ทว่าสภาพตอนนี้ตายไปเสียยังจะดีกว่า แค่เอาตัวรอดไปวันๆ กระทั่งศักดิ์ศรีก็ไม่เหลือเสียแล้ว”
ถุย!
ผมฟังที่พวกเขาพูดแล้วรู้สึกว่าควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้จริงๆ ถึงแม้ผมจะรู้ว่าก่อนหน้านี้อวี๋เคอทำสิ่งที่ชั่วร้ายมามากมายจนนับไม่ถ้วน ทว่าตอนนี้เสือร่วงลงสู่พื้นราบโดนสุนัขรังแก [1] มันช่างไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลยจริงๆ!
“บุรุษที่สง่างามอะไรกัน เรียกว่าเป็คนชั้นต่ำใจดำอำมหิตน่าจะใกล้เคียงกว่า! ลูกของข้าก็ถูกมันลักพาตัวไปยังถ้ำปีศาจ ตอนที่เขาตาย แม้แต่พบหน้าเขาเป็ครั้งสุดท้าย ข้าก็ไม่ได้พบ! สารเลว! เ้าเอาลูกข้าคืนมา! ”
ผมกำลังถูกด่าทอต่อว่า ทันใดนั้นก็มีบางสิ่งเกิดขึ้น เสียงดังคล้ายเสียงะเิซึ่งอยู่ไม่ไกล จากนั้นแส้สีแดงสดยาวสามฟุตกว่าก็พุ่งมาทางผม กวัดแกว่งอยู่กลางอากาศคล้ายบุปผากำลังร่ายรำ
แส้สวยงาม ผู้ที่ถือแส้ก็งดงาม ใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวดั่งใบหลิว ั์ตาดอกท้อ ริมฝีปากอมชมพู หน้าอกอวบอิ่ม ไม่ใช่สาวน้อยสดใสอย่างในรายการโทรทัศน์ ทว่าเป็สตรีวัยกลางคนที่มากด้วยเสน่ห์
แม้ว่าคนจะงดงาม ทว่าวิถีแส้กลับโเี้เฉียบขาดอย่างยิ่ง แรงปะทะกับอากาศทำให้เกิดเสียงดังเปรี้ยง เดาว่าหากแส้นี่ตวัดมาโดนคอของผมเข้าล่ะก็ หัวของผมคงได้ขาดกระเด็นไปอยู่คนละทิศคนละทาง หากตวัดมาโดนกลางลำตัว เอวก็คงจะขาดอย่างแน่นอน!
เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินจะบรรยาย พี่ชายที่อยู่ข้างๆ ผมชักกระบี่เล่มยาวที่ห้อยไว้ตรง่เอวออกมาอย่างรวดเร็ว ยกกระบี่ขึ้นกวัดแกว่งด้วยท่วงท่างดงาม ต้านพลังอันโหดร้ายที่มาจากแส้เส้นยาวนั่น จากนั้นก็โอบผมไว้แล้วพาะโหลบออกมายืนอย่างมั่นคงอยู่ในที่ที่ไม่ไกลนัก
“เ้าตระกูลโม่ซาง เวลานี้จอมปีศาจอยู่ภายใต้การจัดการของสำนักฉิงชางของข้า จะเป็หรือตายเ้าสำนักของพวกเราเท่านั้นที่เป็ผู้กำหนด ท่านได้โปรดอย่าลงมืออีก มิเช่นนั้นอย่าโทษว่าผู้น้อยล่วงเกิน”
ผม “...”
วิชาตัวเบาของมารดาท่านดีขนาดนี้ กำลังภายในก็ยอดเยี่ยม กระบวนท่าก็เยี่ยมยอดสุดๆ แล้วเหตุใดตอนอยู่ในคุกน้ำเมื่อสักครู่นี้ถึงไม่ใช้!!!
รวมกับเื่เมื่อกี้ นี่ท่านจงใจแกล้งผมแล้วยังตั้งใจทรมานผมอย่างนั้น??? ท่านโกรธแค้นผมเื่อะไรกัน???!!!
ไอ้คนเ้าเล่ห์!!!
ความเ็ปจากการถูกหลอกเข้ากัดกินผมในชั่วพริบตา ความรู้สึกขื่นขมล้นทะลักอยู่เต็มอก ผมหันหน้ามองไปยังใบหน้าด้านข้างของคนเ้าเล่ห์ จ้องมองผิวบริเวณ่กรามนั่นอยู่นาน ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป ผมพยายามยกมือข้างที่อยู่ใกล้ตัวเขาขึ้น ััลงไปบนผิวนั่นอย่างไม่รู้ตัว หลังจากที่เช็ดคราบเืบนนั้นออกไปแล้ว กลับพบสิ่งผิดปกติเข้าอย่างหนึ่ง
ิันี่เป็ของปลอม
“เซียวอวิ๋น เก็บกระบี่เ้าเสีย จะเสียมารยาทไม่ได้”
ผู้ที่สายตาเฉียบแหลมล้วนมองออกว่าประโยคที่ซ่งฉียวนพูดนี้ไม่ได้มีความจริงใจนัก เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นด้วยกับวิธีของเซียวอวิ๋น ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเป็คนสั่งให้ลูกน้องทำแบบนี้เอง เพียงแต่ทำเป็ไม่รู้ไม่เห็นก็เท่านั้น เมื่อครู่นี้กำลังของหนึ่งสำนักแสดงให้เห็นแล้ว ทว่าพวกเขาไม่รู้เลยว่าพลังของซ่งฉียวนนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด ทว่าการที่เขาสามารถจับอวี๋เคอได้ด้วยตนเองก็คงพอจะเดาได้บ้างแล้ว
สตรีที่ถูกเรียกว่าโม่ซางมองผมด้วยสายตาดุร้าย แส้ที่อยู่ในมือตวัดลงบนพื้นอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงคล้ายะเิดังลั่น นางเก็บแส้ลงในช่องเก็บของโดยที่สายตามองตามไม่ทัน แล้วถอยไปอยู่ในตำแหน่งที่ตระกูลโม่อยู่ด้วยความจำใจ
คนเ้าเล่ห์เก็บกระบี่กลับอย่างเชื่อฟัง จากนั้นค้อมตัวเล็กน้อย เสียงเก็บกระบี่เข้าฝักดังขึ้นในชั่วพริบตา เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้หูของผม กระซิบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
“นายท่าน เป็ข้า กู้จิ่นเฉิง”
!!! ซวยแล้ว! กู้จิ่นเฉิง??? เขาตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?
ในนิยายเื่ “มหันตภัยแห่งแดนเซียนปีศาจ” กู้จิ่นเฉิงเป็มือขวาของจอมปีศาจอวี๋เคอ ั้แ่เด็กเขาถูกฝึกฝนให้เป็ผู้กล้าเดนตายซึ่งคอยรับใช้อยู่ข้างกายอวี๋เคอ กลุ่มผู้กล้าเดนตายเปลี่ยนไปคนแล้วคนเล่า มีเพียงเขาเท่านั้นที่รอดมาได้ในทุกๆ รอบ คล้ายกับวัชพืชที่ไม่มีวันตายและเติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สุดท้ายก็ได้รับการเลื่อนขั้นกลายเป็ผู้ภักดีเพียงคนเดียวของอวี๋เคอ
คนผู้นี้เหมือนเกิดมาเพื่ออวี๋เคอ ยามอวี๋เคอ้าเล่นสนุกกับสตรี เขาก็จะเป็ผู้จัดหามาให้ ยามอวี๋เคอ้าเล่นสนุกกับบุรุษ เขาก็จะเป็ผู้จัดหามาให้ ยามอวี๋เคอเข่นฆ่าผู้คน เขาก็ทำหน้าที่ตามเก็บกวาดให้อย่างเงียบๆ สุดท้ายเขาก็ยอมตายแทนอวี๋เคอในการต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างซ่งฉียวนและอวี๋เคอ
ในตอนแรกแฟนคลับมากมายของกู้จิ่นเฉิงพากันมาคร่ำครวญในพื้นที่แสดงความคิดเห็น ด่าผมซึ่งเป็นักเขียนว่าไร้มนุษยธรรม ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี คาดไม่ถึงเลยว่าจะปล่อยให้กู้จิ่นเฉิงเทวดาตัวน้อยของพวกเขาตายง่ายๆ แบบนี้
ผมจำได้ว่าตัวเองแกล้งตอบกลับไปว่า : บนโลกนี้ไม่มีคนที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้อยู่แล้ว
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบสงบ ต่อมาสิ่งที่ผมต้องเผชิญหน้าก็คือการะเิอันน่าสยดสยอง ตอนนั้นเหมือนว่าผมได้สูญเสียสิ่งที่สะสมมาตลอดเพราะเื่นี้ แถมยังโดนบรรณาธิการของผมด่าเสียยกใหญ่เพราะเื่นี้
กู้จิ่นเฉิงโอบเอวของผมเอาไว้แน่น ไม่พูดอะไรอีก ลากผมเดินไปทางซ่งฉียวน จากนั้นก็แตะลงบนหัวของผมอย่างมีมารยาท... ก่อนจะผลักออกไป
ทำไมรู้สึกเหมือนถูกทรยศเสียแล้วล่ะ???
......
เชิงอรรถ
[1] เสือร่วงลงสู่พื้นราบโดนสุนัขรังแก อุปมาถึง ผู้มีอำนาจสูญเสียอำนาจหรือความได้เปรียบ