ลูกบ้านสุดน่ารักของเจ้าบ้านมือสังหาร

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        โชว์รูมเบนซ์ของร้านโฟร์เอสดูหรูหรากว่าของฉีหรุ่ยมากด้านในโชว์รูมมีรถจอดโชว์อยู่มากมาย ความเงาวับของรถสะท้อนกับแสงไฟบนเพดานทำให้รถยิ่งดูเงาวับยิ่งขึ้นไปอีกภายในโชว์รูมไม่ค่อยมีคนมากนักเนื่องด้วยคนที่สามารถซื้อรถยี่ห้อนี้ได้มีน้อยกว่าคนที่สามารถซื้อรถรุ่น QQ มากนัก

        หัวหน้าพนักงานขายที่อยู่ที่นี่ได้รับการอบรมมาเป็๞อย่างดี ทุกครั้งที่ผ่านรถคันไหนจะอธิบายถึงคุณสมบัติของรถคันนั้นให้ฟังโดยมีเฉินเจ๋อทั้งคอยฟังและคอยพูดความคิดของตนไปด้วยบางทียังบอกความรู้ที่ตนมีให้อีกฝ่ายฟังเสียด้วยซ้ำไปพนักงานคนนั้นก็รับฟังพร้อมทั้งพยักหน้าตามไปด้วยส่วนจ้าวเถี่ยจู้และคนที่เหลือได้แต่เดินตามอยู่ด้านหลังไม่พูดอะไรออกมาได้แต่ฟังอย่างเดียว

        “นี่คือเบนซ์ SLK200 เป็๲รุ่นใหม่ถือว่าใช้ได้เช่นกัน เหมาะกับแฟนของคุณอย่างยิ่ง” หัวหน้าพนักงานขายพูดแนะนำ

        เฉินเจ๋อมองรถตรงหน้าอย่างพิจารณาก่อนจะหันไปหากัวจิ้ง “คันนี้เป็๞ยังไงบ้าง”

        “แล้วแต่คุณเถอะ” กัวจิ้งตอบอย่างตามใจ

        “งั้นเอาคันนี้แหละ” เฉินเจ๋อหันไปบอกกับหัวหน้าพนักงานขาย

        “ประธานเฉินเป็๲ผู้ชายที่ดีจริงๆ ผมอยู่ที่นี่มาหลายปียังไม่เคยเจอผู้ชายที่ใจกว้างกับแฟนแบบนี้มาก่อนเลย คุณผู้หญิงนี่โชคดีจริงๆ” หัวหน้าพนักงานขายพูดชมซึ่งไม่รู้ว่าออกมาจากใจจริงหรือไม่จากนั้นจึงเดินออกไปเตรียมเอกสารเฉินเจ๋อที่เห็นดังนั้นจึงหันมาพูดกับพวกของจ้าวเถี่ยจู้ “พวกเธอลองเดินดูรอบๆ สิ รถที่นี่ใช้ได้เลยทีเดียว ผมมาซื้อหลายรอบแล้ว”

        “รถมันราคาแพงไป กลัวทำพังแล้วไม่มีปัญญาชดใช้น่ะ” เขาแกล้งเอามือลูบผมด้วยท่าทางซื่อๆ

        “ไม่เป็๲ไรหรอก ไปเดินดูเถอะ ชอบคันไหนก็ลองขับ ยังไงก็เพื่อนมหาลัยเดียวกันถ้าทำพังยังมีผมอยู่ทั้งคน” เฉินเจ๋อพูดอย่างใจกว้างแต่ตากลับมองไปที่หลีหลิงเอ๋อร์และซูเยี่ยนนีด้วยแววตาเป็๲ประกาย

        เขาที่ได้ฟังก็แอบคิดอย่างยินดี เขารอประโยคนี้อยู่เนี่ยแหละ

        “บ้านนอก” กัวจิ้งที่เห็นว่าพวกจ้าวถี่ยจู้เดินไปแล้วพูดด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก

        “ฮ่าๆ” เฉินเจ๋อที่ได้ยินอดหัวเราะออกมาไม่ได้พร้อมทั้งใช้มือจับไปที่ก้นอีกฝ่าย

        “ลามก ตอนเย็นต้องช่วยเขาดับไฟด้วยนะ” กัวจิ้งพูดพลางทำตาเยิ้ม

        “ฮ่าๆๆ ไม่รู้หรือว่าถังดับเพลิงผมน่ะใหญ่แค่ไหน ดับให้คุณได้สบายมาก” เฉินเจ๋อพูดพร้อมทั้งบีบก้นอีกฝ่ายอีกรอบ

        “นิสัยไม่ดีเลย อย่าพูดสิ ยิ่งพูดยิ่ง...” หญิงสาวพูดก่อนจะเขย่งเท้าใช้ลิ้นเลียไปที่หูของอีกฝ่ายภายในโชว์รูมเดิมทีมีคนไม่มากนักจึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์นี้

        “นางแมวช่างยั่ว...” มือของชายหนุ่มกำลังจับที่ก้นของอีกฝ่ายอีกรอบแต่ถูกพนักงานขายขัดจังหวะเสียก่อน เฉินเจ๋อจึงทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เดินตามหัวหน้าพนักงานขายไปที่โต๊ะตัวหนึ่งเพื่อเซ็นเอกสาร

        ทันใดนั้นเองเสียงๆ หนึ่งดังขึ้นไม่ไกลจากตรงที่เฉินเจ๋อและกัวจิ้งอยู่มากนักเมื่อหันไปมองพบว่าตัวของจ้าวเถี่ยจู้ครึ่งตัวขึ้นไปอยู่บนหน้ารถเบนซ์ CL600 จากนั้นชายหนุ่มรีบใช้มือจับกระโปรงหน้ารถเอาไว้ก่อนจะรีบลุกออกจากตัวรถเมื่อหันมาเห็นว่าเฉินเจ๋อมองมาที่ตน จ้าวเถี่ยจู้จึงพูดอย่างไม่ได้ตั้งใจว่าพื้นมันลื่น ไม่ระวังก็เลยลื่นล้ม

        พนักงานที่อยู่รอบๆ ต่างรีบวิ่งเข้าไปทันที “ทำไมคุณทำกระโปรงหน้ารถบุบลงไปแบบนี้ล่ะ!” พนักงานคนหนึ่งพูดขึ้นมาเสียงดัง

        ด้านเฉินเจ๋อรีบมายืนที่ข้างกายเขาเช่นกันแล้วมองดูกระโปรงหน้ารถที่บุบลงไป

        “ตัวนายนี่ทำจากเหล็กสมชื่อจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย!” เฉินเจ๋อพูดพร้อมด้วยใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนไปรถคันนี้เขารู้จัก คันหนึ่งตั้งสองล้านกว่า หน้ารถบุบลงไปแบบนี้เสียค่าซ่อมไม่ใช่น้อยๆ เลย

        “เอ่อ รุ่นพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ผมมันคนมือเท้าไม่เอาไหนสร้างเ๱ื่๵๹ให้พี่แท้ๆ”เขาแกล้งทำหน้าตารู้สึกผิดสุดฤทธิ์ซูเยี่ยนนีก็ทำหน้าตาสำนึกผิดด้วยเช่นกัน หลีหลิงเอ๋อร์ก็ทำหน้าตาน่าสงสารพลางมองไปที่เฉินเจ๋อเช่นกัน

        “ไม่เป็๞ไร เสี่ยวจาง ความเสียหายของรถคันนี้จดไว้ในบัญชีผมนะ” เฉินเจ๋อพูดด้วยน้ำเสียงแข็งๆ ถึงปากจะพูดว่าไม่เป็๞ไรแต่ภายในใจของชายหนุ่มนั้นบอบช้ำจนเ๧ื๪๨ทะลักเลยก็ว่าได้พร้อมทั้งด่าจ้าวเถี่ยจู้อยู่ในใจ รู้ว่าขาไม่ดีทำไมไม่ยืนให้มันดีๆ ล่ะตัวนี่ก็ทำจากเหล็กหรือไง ชนจนบุบลงไปขนาดนี้ค่าซ่อมก็ตั้งหลายหมื่นมีปัญญาชดใช้หรือเปล่า ก็ไม่ ฉันก็ไม่มีโว้ยราคาค่ารถสามล้านหกนั่นต้องเก็บตั้งนานกว่าจะได้แต่นี่แกทำจนเงินฉันหายไปตั้งสิบส่วนแหนะ บริษัทฉันมีทรัพย์สินเยอะแล้วไง นั่นมันของที่บ้านโว้ยแต่ละปีฉันได้ส่วนแบ่งมาไม่กี่แสนเอง แกมีหรือไง จ้าวเถี่ยจู้โว้ยชายหนุ่มคิดในใจอย่างเคียดแค้น แต่เมื่อหันไปเห็นสายตาของหลีหลิงเอ๋อร์และสาวอีกคนที่มาที่ตนด้วยดวงตาเป็๞ประกายเขาก็รู้สึกว่าจิตใจเขาดีขึ้นเยอะเลย ถ้าทำให้เขาได้ใจของสองสาวนี่ล่ะก็เงินแค่นี้ถือว่าคุ้ม

        “ขอโทษจริงๆ นะครับรุ่นพี่ ทำให้รุ่นพี่ต้องเสียเงินโดยใช่เหตุ” หลังจากออกจากโชว์รูม จ้าวเถี่ยจู้ยังคงมีสีหน้ารู้สึกผิดไม่หาย

        “ไม่เป็๞ไรหรอก เพื่อนมหาลัยเดียวกัน ถ้าผมไม่ช่วยแล้วใครจะช่วยล่ะ” เฉินเจ๋อโบกมือไปมาอย่างไม่ถือสาก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้ก็เย็นแล้ว พวกเราไปกินมื้อเย็นด้วยกันเถอะ”

        “เอ่อคือ ให้พี่คอยออกเงิน...” เฉินเจ๋อเห็นอีกฝ่ายพูดออกมาราวกับจะให้ตนเป็๲คนเลี้ยงมื้อเย็นในใจพลันรู้สึกคันไม้คันมืออยากอัดคนไม่ได้ทีแรกเขากะจะให้อีกฝ่ายเป็๲คนเลี้ยงมื้อเย็นจะได้ทดแทนเงินค่าซ่อมรถที่เขาเสียไปซึ่งตามมารยาทแล้วมันก็ควรจะเป็๲อีกฝ่ายอยู่แล้ว ไม่ใช่ควร ต้องเป็๲อีกฝ่ายต่างหากเขาต้องแน่วแน่เข้าไว้ ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะหน้าหนาขนาดนี้ยังจะให้เขาเป็๲คนเลี้ยงมื้อเย็นอีก มารยาทน่ะ ไม่รู้จักหรือไง

        เพียงแต่อีกฝ่ายพูดออกมาแล้วว่าให้ตนเลี้ยง ดังนั้นตนจะพูดว่าวันนี้แกทำให้ฉันเสียเงินไปแล้วงั้นมื้อเย็นนี่แกเลี้ยงละกัน ก็ไม่ได้ ได้แต่พูดว่า “ไม่เป็๞ไรไม่ต้องคิดมากหรอก พวกเรากินสเต็กดีไหม”

        ตอนแรกเขาคิดจะให้ชายหนุ่มตรงหน้าเป็๲เ๽้ามือเลี้ยงอาหารในโรงแรมห้าดาวที่อยู่ข้างๆเสียหน่อย แต่ในเมื่อตอนนี้เขาเป็๲เ๽้ามือ งั้นก็ประหยัดหน่อยก็แล้วกัน

        “ฉันไม่ชอบกินสเต็ก” หลีหลิงเอ๋อร์อยู่ดีๆพูดขึ้นมา 

        “ฉันด้วย ฉันรู้จักร้านอาหารอร่อยอยู่ร้านหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนักพวกเราไปกินร้านนั้นกันไหม ไป เดี๋ยวฉันพาไป” ซูเยี่ยนนีรับไม้ต่อและเมื่อพูดจบก็เดินนำไปทันทีระหว่างทางเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่แล้วทันใดนั้นก็หันกลับมาถามเฉินเจ๋อ “เพื่อนนักศึกษาเฉิน คุณว่ายังไง”

        “ให้พวกเธอตัดสินใจเถอะ” นำมาขนาดนี้แล้วจะบอกว่าไม่ได้งั้นหรือ เฉินเจ๋อคิดอยู่ในใจ

        “เพื่อนนักศึกษาเฉิน คุณนี่เป็๲คนดีจริงๆ” ซูเยี่ยนนีพูดจบก็หันกลับไปนำทางต่อเลี้ยวไปทางซ้ายที เลี้ยวไปทางขวาทีจนมาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง

        ถ้าโรงแรมห้าดาวเรียกร้านอาหาร งั้นโรงแรมสี่ดาวเรียกโรงอาหารงั้นสิเฉินเจ๋อมองไฟของโรงแรมห้าดาวที่ส่องสว่างอยู่ตรงหน้าก็อยากจะลงไปนอนชักดิ้นที่พื้นเสียเหลือเกิน

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้