และเขา...
เงาร่างในความทรงจำผุดขึ้นในหัว ความละอายนับไม่ถ้วนไหลทะลักออกมา หลายปีมานี้ ท้ายที่สุดแล้ว เขาปฏิบัติกับพวกนางสองแม่ลูกอย่างไม่ยุติธรรม!
ฮ่องเต้หยวนเต๋อสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ยามที่หันไปมองสตรีตรงหน้าอีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นของนาง ซ้อนทับกับดวงตาคู่หนึ่งในความทรงจำ ทว่าเพียงพริบตา สายตาของฮ่องเต้หยวนเต๋อแปรเปลี่ยนเป็อ่อนโยน เขาก้าวไปข้างหน้า ยกมือลูบไล้แก้มของสตรีนางนั้น ปาดน้ำตาบนใบหน้านาง
หลังจากเงียบไปนาน บรรยากาศเริ่มคลุมเครือขึ้นมาพอควร ััของฮ่องเต้หยวนเต๋อ ทำให้น้ำตาของฉางไทเฮาดูจะยิ่งไหลทะลักเป็เขื่อนแตก จิตใจของบุรุษค่อยๆ อ่อนยวบลงทีละนิดๆ ในที่สุดความสงสารภายในใจของฮ่องเต้หยวนเต๋อพุ่งพรวดขึ้นอย่างมิอาจทนไหว ดึงสตรีนางนั้นเข้าสู่อ้อมกอดโดยไม่คำนึงถึงตัวตนของพวกเขา
“ฝ่าา...” ฉางไทเฮาเอ่ยเรียกแ่เบา อ้อมกอดนี้พังทลายความแข็งแกร่งและการรักษาระยะห่างทั้งหมดที่นางฝืนไว้ “ฝ่าา หลายปีมานี้ ทุกครั้งที่นึกถึงประสบการณ์ในชีวิตของเยี่ยนเอ๋อร์ จิตใจของหม่อมฉันก็สับสนอย่างยิ่ง รู้สึกละอายใจต่อทุกคน หม่อมฉันเองก็รู้ว่า อย่างไรเยี่ยนเอ๋อร์ก็เป็ได้แค่พระโอรสของฮ่องเต้พระองค์ก่อน ฐานะทางสังคมที่เขาควรได้รับทั้งชีวิตนี้คงมิอาจได้มา หม่อมฉันรู้สึกละอายใจกับเขานัก หม่อมฉันกลัวว่าหากอยู่ในวังหลวง และต้องเผชิญหน้ากับอำนาจ จิตใจได้รับสิ่งของล่อใจ หม่อมฉันจึงกลัวว่าจะเกิดความคิดอยากแก่งแย่งเพื่อเยี่ยนเอ๋อร์ ดังนั้นหม่อมฉันจึงจำต้องให้ตัวเองยึดพุทธศาสนาเป็ที่พึ่ง กล่าวสารภาพกับฮ่องเต้พระองค์ก่อน เผชิญหน้ากับการชักจูงตนเองเพื่อสงบความคิดที่ไม่ควรมีในจิตใจ ฝ่าาเพคะ...หม่อมฉันไม่อยากถูกความปรารถนาครอบงำเพราะเหตุจากความทุกข์ใจ ทว่าบางครั้งหม่อมฉันก็ควบคุมไม่ได้...”
“มิได้ตำหนิเ้า เ้าไม่ได้ผิด มันเป็ความผิดของเจิ้นเอง เยี่ยนเอ๋อร์...” ฮ่องเต้หยวนเต๋อจับมือของสตรีนางนั้นแน่น “หลายปีมานี้เป็เจิ้นที่ปฏิบัติกับเยี่ยนเอ๋อร์อย่างไม่ยุติธรรม ปฏิบัติกับเ้าอย่างไม่ยุติธรรม!”
"ไม่เพคะฝ่าา พระองค์ทรงเอ็นดูเยี่ยนเอ๋อร์มาก..." ฉางไทเฮากล่าวอย่างเร่งรีบ “และฝ่าายังให้เกียรติหม่อมฉันอย่างมาก”
ให้เกียรติ...
ถ้อยคำสองคำนี้ทำให้ฮ่องเต้หยวนเต๋อขมวดคิ้ว ทว่าฐานะของทั้งสองคนกลับเป็ได้เพียงเท่านี้!
ครู่หนึ่ง ฉางไทเฮาผละตัวออกจากอ้อมแขนของฮ่องเต้หยวนเต๋อ ทั้งสองแยกระยะห่างกัน ฉางไทเฮาจ้องมองฮ่องเต้หยวนเต๋อ “พรุ่งนี้หม่อมฉันจะกลับชิงโหยวกว่านที่เขาฉีชาน ฝ่าาตอบรับคำขอหม่อมฉันข้อหนึ่งได้หรือไม่เพคะ”
“เ้าว่ามา” ฮ่องเต้หยวนเต๋อเอ่ยปาก
“หม่อมฉันไม่อยู่ ขอฝ่าาทรงดูแลเยี่ยนเอ๋อร์แทนหม่อมฉันด้วย เขาไม่สนใจเื่การแก่งแย่ง่ชิง อย่างไรเสียหม่อมฉันก็ยังกลัวว่าเขาจะโดนรังแก” ฉางไทเฮาจับพระหัตถ์ของฮ่องเต้หยวนเต๋อด้วยสายพระเนตรร้อนใจ
“เ้าวางใจเถิด เจิ้นจะไม่ปล่อยให้เขาโดนปฏิบัติอย่างไม่เป็ธรรมแน่นอน” ฮ่องเต้หยวนเต๋อกล่าวอย่างหนักแน่น ในแววตาลึกล้ำราวกับได้ตัดสินใจอะไรเรียบร้อยแล้ว
“ดี เช่นนั้นช่างดียิ่ง...ช่างดียิ่ง” ฉางไทเฮาเอ่ยพึมพำ นางปล่อยมือออก คุกเข่าลงด้านหน้าพระพุทธรูปอีกครั้ง จากนั้นเคาะไม้มู่อวี๋ต่อไปครั้งแล้วครั้งเล่า “ฝ่าา ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป หม่อมฉันจะสำนึกผิดต่อหน้าพระพุทธรูปต่อไป เพื่อสำนึกต่อดวงิญญาบนสรวง์ของฮ่องเต้พระองค์ก่อน... คืนนั้น...เป็ความผิดพลาด!”
คืนนั้นเป็ความผิดพลาด ทว่ามีบางอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว!
แผ่นหลังอันอ้างว้างอยู่ในสายตาของฮ่องเต้หยวนเต๋อ ภายในใจปวดร้าวเล็กน้อย
ย้อนนึกถึงความงามของสตรีนางนี้ ฮ่องเต้หยวนเต๋อขมวดคิ้ว จ้องมองสตรีตรงหน้า นิ่งเงียบไปนาน ผ่านไปสักพักใหญ่ ฮ่องเต้หยวนเต๋อจึงเดินออกจากห้องพระ ทั้งสองเข้าใจตรงกันถึงตัวตนของจ้าวเยี่ยน รวมถึงอดีตในค่ำคืนนั้น พวกเขาจะฝังมันไว้ในก้นบึ้งของจิตใจ
ภายในห้องพระ เสียงฝีเท้าของบุรุษห่างออกไปจนลับหาย สตรีนางนั้นจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น มุมปากผุดรอยยิ้มเสี้ยวหนึ่ง
ตำแหน่งแม่ทัพหลวง... ราชบัลลังก์... เดิมทีสิ่งเ่าั้จะต้องเป็ของเยี่ยนเอ๋อร์ นางจะค่อยๆ แย่งชิงมันกลับมาจากเงื้อมมือของคนพวกนั้น!
ฮ่องเต้หยวนเต๋อรีบกลับไปที่ห้องทรงพระอักษร ขังตัวเองอยู่ในห้องเป็เวลาหนึ่งก้านธูป ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขากำลังทำอันใด ทว่าในไม่ช้า มีข่าวลือออกมาว่า ฮ่องเต้หยวนเต๋อทรงตัดสินพระทัยเลือกคนที่มารับต่อตำแหน่งแม่ทัพหลวงแล้ว
ยามที่ข่าวลือนั้นแพร่สะพัดมาถึงตำหนักชีอู๋ ฮองเฮาอวี่เหวินเพิ่งจะรู้สึกตัว
เมื่อได้ยินข่าวนี้ นางแทบจะเป็ลมหมดสติไปอีกครั้ง ทว่านางกลับฝืนยืนหยัดไว้ และบอกตัวเองไม่หยุดว่า ในยามนี้นางจะต้องอดทน!
นึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ แหวนวงนั้น...รวมถึงคำพูดของฉางไทเฮา...
"นางสตรีชั่วช้า...นางสตรีชั่วช้านั่น! ไม่ เปิ่นกงไม่อาจนั่งนิ่งรอความตาย ไม่อาจปล่อยให้นางได้สมหวัง!" ฮองเฮาอวี่เหวินกัดฟันอย่างแค้นเคือง ดวงตาเป็ประกายบ้าคลั่ง ลุกขึ้นจากตั่งอย่างเร่งรีบ ทันทีที่ฮองเฮาอวี่เหวิน้าจะออกไป กลับถูกอวี่เหวินหรูเยียนและเจินกูกูรั้งห้ามไว้
“ฮองเฮาเพคะ...”
"ปล่อยเปิ่นกง!" ฮองเฮาอวี่เหวินกล่าวอย่างเ็า
“ปล่อยท่านไป ท่านก็จะไปหาเื่ไทเฮาหรือ?” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอกล่าวอย่างเ็า นางไม่อยากจะสนใจเื่ราวมากมายในวังหลวงแห่งนี้ นางไม่อยากไปสืบสาว ทว่ายามนี้เื่บางเื่นางกลับจำต้องสืบเสาะไปให้ถึงราก
แหวนวงเมื่อครู่นี้...
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอขมวดคิ้ว “แหวนของเสด็จพี่มิได้อยู่กับเสด็จพี่สะใภ้ เสด็จพี่สะใภ้ปิดบังเื่อันใดของเสด็จพี่กันแน่?”
ฮองเฮาอวี่เหวินชะงักงัน สบตาองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ มุมปากเย้ยหยัน “เปิ่นกงมิได้ปิดบัง หรือจะบอกให้ทุกคนรู้ว่า แหวนของฝ่าาอยู่กับไทเฮาของฮ่องเต้พระองค์ก่อน ซึ่งเป็พี่สะใภ้ของเขาเล่า?”
และเมื่อครู่นี้ ยามที่ฉางไทเฮามอบแหวนนั่นให้จ้าวเยี่ยน ความหมายที่แฝงอยู่เื้ัคำพูดเ่าั้...
ฮองเฮาอวี่เหวินมิได้ขลาดเขลา นางย่อมเข้าใจดี “นางสตรีชั่วช้านั่น มิเคยเป็นายหญิงที่สุขุมสงบนิ่ง ทว่าเปิ่นกงนึกไม่ถึงเลยว่า นาง... พวกเขา...พวกเขาจะไม่ละอายใจต่อฮ่องเต้พระองค์ก่อนแต่อย่างใด ไม่ละอายใจต่อ...เปิ่นกง! ชิงเหอ อี้เอ๋อร์...อี้เอ๋อร์เสียชีวิตในกองเพลิงค่ายเสินเช่อ เดิมทีฝ่าาจะมอบตำแหน่งแม่ทัพหลวงให้อี้เอ๋อร์ ทว่ายามนี้...ยามนี้พวกเขาสองแม่ลูกโผล่มาเช่นนี้ เพราะกำลังมุ่งเป้าไปที่ตำแหน่งแม่ทัพหลวง พวกเขา...”
ฮองเฮาอวี่เหวินยากจะปิดบังความกระวนกระวายใจ พระพักตร์ดุร้ายไม่น่ามอง เพราะความไม่พอพระทัย
ยามนี้ ไม่ต้องเดานางก็รู้ว่าคนที่ฝ่าาทรงเลือกจะต้องเป็จ้าวเยี่ยนแน่
นางคิดวางแผนใคร่ครวญอย่างแยบยล ทว่าอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่า ตัวตนของจ้าวเยี่ยนจะเป็ไพ่ตายของสตรีผู้นั้น!
"ท่านกล่าวว่าอันใดนะ?" องค์หญิงใหญ่ชิงเหอยืนขึ้นทันที “อี้เอ๋อร์เสียชีวิตในค่ายเสินเช่อ? เป็ไปได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่าอี้เอ๋อร์กลับไปที่จวนมู่อ๋องแล้ว...”
“หึ นั่นเป็แค่อุบายที่เปิ่นกงทำไปเพื่อปิดข่าวการเสียชีวิตของอี้เอ๋อร์ อี้เอ๋อร์ของข้า... ฮือ...ฮือๆ ชิงเหอ ข้าไม่ยอม ฉางหนิงนางสตรีชั่วช้าผู้นั้น ยามนั้นก็แย่งทุกอย่างไปจากเปิ่นกง มายามนี้ลูกชายของนางก็ยังมาแย่งไปจากลูกชายข้า ข้าจะยอมได้อย่างไร? ต่อให้อี้เอ๋อร์จะไม่อยู่แล้ว เปิ่นกงก็ไม่ยอมง่ายๆ แน่!”
ดวงเนตรของฮองเฮาอวี่เหวินเบิกกว้าง สายตาดุดัน
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอจมดิ่งอยู่กับข่าวการเสียชีวิตของจ้าวอี้ สีพระพักตร์ซีดเผือด จึงไม่ได้สังเกตเห็นว่า ฮองเฮาอวี่เหวินก้าวเท้ายาวออกไปนอกห้องแล้ว
ในห้อง องค์หญิงใหญ่ชิงเหอ อวี่เหวินหรูเยียน และเจินกูกูต่างตื่นใ
"ยังไม่รีบตามไปอีก?" องค์หญิงใหญ่ชิงเหอได้สติ เสด็จพี่สะใภ้พุ่งไปหาไทเฮาเยี่ยงนี้ จะต้องไปก่อเื่ยุ่งแน่!
และจะต้องเกิดความเสียหาย สุดท้ายก็ยังไม่มีผู้ใดรู้
อวี่เหวินหรูเยียนพลันได้สติ นึกถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ จึงฉุดคิดถึงจดหมายที่เหนียนยวี่ทิ้งไว้เมื่อเช้าขึ้นมาอีกครั้ง มันยุ่งเหยิง ทุกอย่างยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ยังไม่ทันได้ทำตาม้า อวี่เหวินหรูเยียนก็รีบตามออกไปนอกตำหนักชีอู๋ทันที...