ไป๋หลี่ิชวนออกจากเยนอวิ๋นเจี้ยนในวันนี้เลย ทางด้านของกูเฟยเยี่ยนกับคนอื่นๆ ไม่ได้พักค้างคืนเช่นกัน พวกเขารีบเดินทางตรงไปยังเมืองจิ้นหยาง
ระหว่างทาง กูเฟยเยี่ยนมักจะควบคุมตนเองไม่อยู่ หญิงสาวมักจะส่งสายตาคับแค้นใจไปทางกู้อวิ๋นหย่วน เมื่อนางมองเขาแล้วสายตาก็เหมือนกับจับจ้องเขาไม่เคลื่อนไหวอยู่ครึ่งค่อนวัน
กู้อวิ๋นหย่วนหลบหลีกทุกครั้ง เมื่อผ่านไปนานเขาจึงไม่สนใจแล้วว่ากูเฟยเยี่ยนจะมองหรือไม่ เพราะนอกจากการขี่ม้าเพื่อเร่งเดินทางแล้ว ตราบใดที่เป็่เวลาในการพักผ่อนเขาก็จะเกาะติดจวินจิ่วเฉิน เพียงแค่เขาเดินไปอยู่ข้างกายจวินจิ่วเฉิน สายตาของกูเฟยเยี่ยนก็จะไม่กล้าไล่ตาม
นอกจากสายตาจ้องมองแล้ว กูเฟยเยี่ยนยังมองหาโอกาสในการพูดคุยกับกู้อวิ๋นหย่วนเพียงลำพังมาโดยตลอด แต่น่าเสียดายที่กู้อวิ๋นหย่วนเจตนาที่จะระวังนาง นางจึงหาโอกาสที่เหมาะสมไม่ได้เสียที
ทว่าหากกูเฟยเยี่ยน้าดำเนินการจริงๆ มันก็สามารถทำได้ เพียงแต่นางไม่ได้ทำ เมื่อเทียบกับตอนที่ได้พบกู้อวิ๋นหย่วนแล้วบัดนี้นางสงบสติอารมณ์ไปมาก ในยามนี้นางเป็ห่วงอาการของเฉิงอี้เฟย ต่อให้ใจร้อนมากเพียงใดนางก็จะไม่สิ้นเปลืองเวลาไปกับเหตุการณ์นี้
สิบวันต่อมา ฟ้ายังไม่สาง ในที่สุดกลุ่มของกูเฟยเยี่ยนก็มาถึงเมืองจิ้นหยาง หลังจากที่เข้าเมืองมาพวกเขาก็ตรงไปยังจวนตระกูลเฉิงทันที
พ่อบ้านชราของตระกูลเฉิงคือผู้ที่มาเปิดประตู ทันทีที่เขาเห็นกูเฟยเยี่ยนกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยกลับมา เขาก็ดีใจเป็อย่างมาก เพียงแต่เขามองซ้ายมองขวาก็เห็นเพียงแค่นักปราชญ์อายุน้อยคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่เห็นแพทย์าุโจึงเริ่มเป็กังวล หรือว่าการเดินทางในครั้งนี้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยกับกูเฟยเยี่ยนจะตามหาแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นไม่พบ?
แม้ว่าพ่อบ้านชราจะร้อนใจ แต่เมื่อจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอยู่ด้วยจึงไม่กล้าเอ่ยถามออกมา เขาทำได้เพียงรีบเชิญพวกเขาเข้าไปทางด้านหลัง
กูเฟยเยี่ยนรีบเดินไปพลางเอ่ยถาม “สถานการณ์ของท่านแม่ทัพเฉิงเป็อย่างไรบ้าง? ระยะเวลานี้มีเื่ใหญ่อะไรเกิดขึ้นหรือไม่? ”
พ่อบ้านชรากำลังกลัดกลุ้มที่ไม่มีโอกาสได้พูดอยู่พอดี เขาจึงรีบร้อนเอ่ยว่า “แพทย์หญิงกู ท่านแม่ทัพเฉิงสบายดี ่ระยะเวลานี้ไม่ได้เกิดเื่ใหญ่อะไร ก็แค่…ก็แค่มีผู้คนด้านนอกจำนวนไม่น้อยเลยที่เอาแต่พูดจาไร้สาระนินทาท่าน ทำให้ท่านไม่ได้รับความเป็ธรรมจริงๆ ”
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกสงสัยเพราะจวินฮั่นหยิ่นน่าจะลดความทะเยอทะยานลงแล้ว ใครกันที่ยังมีเลศนัยแฝงไว้อยู่? หรือว่าจะเป็ตระกูลฉี?
พ่อบ้านชราฉวยโอกาสหยั่งเชิง ทว่าสิ่งที่เขาพูดก็เป็ความจริง เขาเหลือบมองจวินจิ่วเฉินด้วยความกลัวแวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความกล้าหาญ “แพทย์หญิงกู ผู้คนด้านนอกล้วนพูดคุยกันว่าท่านคุยโวโอ้อวด ท่านตามหาแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นไม่พบจึงหลบซ่อนไม่กล้าออกมาจากจิ้งหวางฝู่ แถมยังพูดอีกว่า…พูดว่าผ่านไปอีกไม่กี่วันระยะเวลาสามเดือนก็จะมาถึง ท่านก็จะไม่มีที่หลบซ่อนแล้ว”
กูเฟยเยี่ยนตกตะลึงเล็กน้อย นางไม่ได้ใกับข่าวลือเหล่านี้ แต่เพิ่งจะตระหนักได้ว่าระยะเวลาสามเดือนใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว นางแอบมองจวินจิ่วเฉินจึงเห็นสีหน้าไร้ความรู้สึกกับสายตาของจวินจิ่วเฉินที่มองตรงไปยังด้านหน้า
นางคิดว่าเขาได้ยินอย่างแน่นอน ในใจของเขา…จะคิดเห็นอย่างไรกันนะ?
กูเฟยเยี่ยนไม่มีเวลามาคิดมากชั่วคราว อีกทั้งี้เีสนใจข่าวลือเหล่านี้ด้วย นางรีบเร่งฝีเท้าเดินไปด้านหน้า
พ่อบ้านชราหยั่งเชิงแล้วก็ไม่พบสิ่งใดจึงทำได้เพียงกังวลในใจแล้วนำทางต่อไป กู้อวิ๋นหย่วนก้มหน้าก้มตารวบรวมสมาธิพลางเดินตามหลัง
เมื่อมาถึงลานด้านหลัง กลุ่มของกูเฟยเยี่ยนก็ปะทะหน้ากับเฉิงอี้เฟยที่นั่งอยู่บนรถเข็นโดยมีคนเข็นออกจากห้อง
หลังจากที่ไม่ได้พบกันยี่สิบวัน เฉิงอี้เฟยผอมลงมาก เพียงแต่เฉิงอี้เฟย แม้ว่าจะนั่งอยู่บนรถเข็นเขาก็ยังยืดอกตั้งตรงและมีความกระปรี้กระเปร่า
ต้องทราบเอาไว้ว่าเขาไม่เพียงแค่พิการแต่ยังต้องทนทุกข์ทรมานกับความเ็ปที่ขาทั้งสองข้างอย่างรุนแรงในทุกค่ำคืนอีกด้วย ทว่าบนใบหน้าของเขาไม่มีความน้อยเนื้อต่ำใจกับความสิ้นหวังของคนพิการเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาไม่มีความหงอยเหงาเศร้าซึม แม้กระทั่งมองไม่เห็นถึงร่องรอยที่เคยเกิดจากความทรมานของโรคภัยไข้เจ็บ
เขายังคงความตรงไปตรงมา ใบหน้าเต็มไปด้วยจิตใจและปณิธาน นิสัยพาลดื้อรั้นไม่ยอมคน ในขณะนี้เขาสวมใส่ชุดทหารฝ่ายการรบแบบเต็มยศ ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและทรงอำนาจที่มิอาจล่วงละเมิดได้
่เวลานี้เขากำลังจะไปที่ราชสำนักชัดๆ !
นี่เป็ครั้งแรกที่กูเฟยเยี่ยนพบกับเฉิงอี้เฟยหลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมา นางรู้สึกประหลาดใจมาก! การที่บุคคลที่มีความโอหังอวดดีตกอับมาถึงจุดนี้ แล้วยังไม่ยอมแพ้ในตนเองก็ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกโล่งใจแล้ว แต่นางคิดไม่ถึงว่าเขาจะยังดื้อดึงและสงบนิ่งที่จะไปเผชิญหน้ากับขุนพลข้าราชการมากมายในราชสำนักด้วยสภาพเช่นนี้
จวินจิ่วเฉินรู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน
อะไรคือนิสัยดื้อรั้นไม่ยอมคน หากการที่ไม่ถูกสายตาของคนในสังคม บุคคลที่มีอำนาจหรือมหาอำนาจครอบงำ สิ่งเ่าั้ไม่สามารถเรียกได้ว่ามีนิสัยดื้อรั้นไม่ยอมคน แต่การที่ไม่ติดอยู่ในอุปสรรคของการ “หยิ่งในศักดิ์ศรีของตนเอง” ถึงจะเป็ผู้ที่มีนิสัยดื้อรั้นไม่ยอมคนจริงๆ และยังเรียกได้ว่าเป็บุรุษที่ทรงเกียรติอย่างแท้จริง!
ทุกคนล้วนมีอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ อยู่ในใจ หากว่าสามารถก้าวข้ามอุปสรรคในใจที่ตนเองสร้างไว้ได้ เช่นนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะไม่มีวันล้มลง!
ระหว่างตระกูลฉีกับตระกูลเฉิง ฉีอวี้กับเฉิงอี้เฟย จวินจิ่วเฉินสนับสนุนเฉิงอี้เฟยมาโดยตลอด บัดนี้การที่ได้เห็นถึงความดื้อดึงไม่ย่อท้อของบุรุษที่แท้จริง เขาไม่เพียงแค่ให้การยอมรับ แต่ยังเผยแววตาของความชื่นชมอีกด้วย
เฉิงอี้เฟยที่ได้พบกูเฟยเยี่ยนกับจวินจิ่วเฉินอย่างกะทันหันก็เกิดความตกตะลึงเช่นกัน
ทว่าเขารีบเรียกสติกลับมาในทันทีแล้วเผยรอยยิ้มสดใส เขารอมาโดยตลอด รอการกลับมาของบุรุษที่เขาเลื่อมใสศรัทธาที่สุดและรอการกลับมาของนังหนูที่เขาชื่นชอบที่สุด ่เวลาเช่นนี้ยังมีเื่ใดที่ทำให้ดีอกดีใจมากกว่าการกลับมาของพวกเขาอีก?
เฉิงอี้เฟยแสดงความเคารพจวินจิ่วเฉินก่อนจะค่อยหันไปมองกูเฟยเยี่ยน เขาดีอกดีใจอย่างยิ่งจนพูดอะไรไม่ออกชั่วขณะ
กูเฟยเยี่ยนรีบร้อนเอ่ยถาม “เฉิงอี้เฟย ความเ็ปบนขาร้ายแรงขึ้นหรือไม่? ”
เฉิงอี้เฟยดีใจมากจนเอาแต่ยิ้มแย้มไม่พูดอะไร
กูเฟยเยี่ยนจึงเร่งรัด “เ้าพูดสิ! ”
เฉิงอี้เฟยยังคงยิ้มแย้ม
ในขณะนี้เองหลินฟูเหรินก็พรวดพราดพุ่งเข้ามาด้วยความดีใจเป็ล้นพ้น จนลืมแสดงความเคารพจวินจิ่วเฉิน นางถามด้วยความตื่นเต้นและดีใจ “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย หนูน้อยเยี่ยน ในที่สุดพวกท่านก็กลับมาแล้ว! ในที่สุดก็กลับมาแล้ว! พวกท่านเชิญแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นมาได้หรือไม่? ”
จวินจิ่วเฉินก้าวถอยหนึ่งก้าว ในขณะนี้เองที่เฉิงอี้เฟยกับหลินฟูเหรินสังเกตเห็นถึงกู้อวิ๋นหย่วนที่ยืนอยู่ด้านหลังมาโดยตลอด
จวินจิ่วเฉินเอ่ยแนะนำ “ท่านนี้คือแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้น แพทย์กู้”
เฉิงอี้เฟยกับหลินฟูเหรินล้วนประหลาดใจ ทางด้านของพ่อบ้านชราก็เช่นกัน
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาของทุกคน กู้อวิ๋นหย่วนที่สุภาพเรียบร้อยอ่อนโยนและถ่อมตนดูเหมือนว่าจะมีความประหม่าเล็กน้อย เขารีบหันไปโค้งคำนับหลินฟูเหรินกับเฉิงอี้เฟย “ข้าน้อยมีนามว่ากู้อวิ๋นหย่วน ได้รับคำเชิญจากแพทย์หญิงกูให้มาวินิจฉัยรักษาท่านแม่ทัพเฉิงโดยเฉพาะ ไม่ทราบว่าท่านแม่ทัพเฉิงจะสะดวกเมื่อใด? ”
หลินฟูเหรินผู้เฒ่าตะลึงงันมากทีเดียว ทว่าทางด้านของเฉิงอี้เฟยนั้นได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว “ตอนนี้เลย! ”
แม้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะเป็นักปราชญ์ ทว่าเขาคือคนที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยกับแพทย์หญิงน้อยเชิญมาโดยเฉพาะ เขาจึงเต็มใจที่จะเชื่อ
กู้อวิ๋นหย่วนดีใจเป็อย่างยิ่ง “การที่สะดวกตอนนี้เป็เื่ที่ดีมาก ท่านแม่ทัพใหญ่ เชิญกลับไปที่ห้องเถอะ”
หลินฟูเหรินผู้เฒ่ากับกูเฟยเยี่ยนแทบจะก้าวไปด้านหน้าพร้อมกัน เพราะต่างก็้าเข็นเฉิงอี้เฟยกลับไปในห้อง ทว่ากู้อวิ๋นหย่วนแย่งไปก่อน หลังจากที่เขาเข็นเฉิงอี้เฟยเข้าไปก็เตรียมปิดประตูลงเพื่อไม่ให้ใครหน้าไหนก็ตามเข้าไปด้านใน
หลินฟูเหรินรีบร้อนเอ่ยถาม “แพทย์กู้ ให้แพทย์หญิงกูไปช่วยท่านดีหรือไม่? ”
กู้อวิ๋นหย่วนตอบกลับมา “ไม่จำเป็ ข้าน้อยไม่คุ้นชิน”
หลินฟูเหรินผู้เฒ่าอดไม่ไหวจริงๆ จึงต้องเอ่ยตามตรง “แพทย์กู้ ท่านคือความหวังสุดท้ายของอี้เฟยแล้ว ท่านจะต้องรักษาเขาให้ได้นะ! ”
กู้อวิ๋นหย่วนตอบอย่างถ่อมตน “ข้าน้อยจะพยายามจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน”
หลังจากที่เขาพูดจบก็ปิดประตูลง
หลินฟูเหรินผู้เฒ่าจึงรีบส่งสายตาถามกูเฟยเยี่ยนกับจวินจิ่วเฉินในทันที กูเฟยเยี่ยนกับจวินจิ่วเฉินไม่ได้รู้จักกู้อวิ๋นหย่วนอย่างแจ่มแจ้งนัก ทว่าพวกเขาเชื่อใจในคำแนะนำของหัวหน้าาุโแห่งหุบเขาเสินหนงและยอมรับในทักษะทางการแพทย์ของกู้อวิ๋นหย่วน
จวินจิ่วเฉินเดินไปนั่งด้านข้าง กูเฟยเยี่ยนกระซิบแ่เบา “ฟูเหรินผู้เฒ่า นี่คือความหวังสุดท้ายแล้ว เรารอกันเถอะ”
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเฝ้ารออยู่ด้านนอกประตู
จวบจนกระทั่งผ่านไปนาน ภายในห้องก็ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ทว่าทางด้านของเหมยกงกงแห่งพระราชวังนั้นก็ได้รีบมาเพราะได้ยินข่าว…