คนรอบข้างที่บุกเข้ามาอย่างกะทันหันไม่ได้รบกวนคนสองคนในห้องแม้แต่น้อย
ฉางไทเฮาทอดพระเนตรสตรีซึ่งยังคงเพลิดเพลินอยู่บนเตียง โทสะในพระทัยพุ่งทะยาน สถานการณ์ตรงหน้าเป็สิ่งที่ฉางหงเยียนตั้งใจ หรือทั้งสองคนนี้ตกอยู่ในแผนการของผู้อื่นกันแน่?
ไม่รู้เพราะเหตุใด ฉางไทเฮารู้สึกว่ามีความเป็ไปได้ที่จะเป็อย่างหลัง นางนึกถึงอวี่เหวินซิน...
การคาดเดาหนึ่งกระโจนเข้ามาในหัว แม้แต่ฉางไทเฮายังกระวนกระวายใจ สีพระพักตร์พลันแปรเปลี่ยน นี่เป็จุดประสงค์ที่แท้จริงในการมาเยือนเขตพำนักของอวี่เหวินซินหรือไม่?
แทบทันใดนั้น ฉางไทเฮาพลันตระหนักได้ถึงความผิดปกติ และตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเื่นี้ พระหัตถ์ที่ถือผ้าเช็ดหน้าสั่นเทาเล็กน้อย
"เร็วเข้า...ยังมัวยืนนิ่งอันใดอยู่ ยังไม่รีบไปหยุดพวกเขาอีก! พาออกไป...รีบพาพวกเขาออกไป"
ในหัวของฉางไทเฮาสับสน นางในยามนี้ยังไม่มีแผนการรับมือแต่อย่างใด ทว่านางรู้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้คือต้องพาฉางหลิงเกอออกไปอย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเพราะเื่พิษในค่ายเสินเช่อ หรือสถานการณ์ในยามนี้ ตัวตนของฉางหลิงเกอจะต้องไม่ถูกเปิดเผยเด็ดขาด ยิ่งกว่านั้นจะให้ได้รับอันตรายอย่างใดไม่ได้
ภายในพระทัยของฉางไทเฮาเต็มไปด้วยความร้อนรน จ้าวเยี่ยนผู้ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังคนทั้งสอง มองเห็นสถานการณ์ในห้องอย่างชัดเจนเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นเขายังเห็นปฏิกิริยาของอูเสียนอ๋องกับฉางไทเฮา ความรีบร้อนของมารดา และความตื่นใของอูเสียนอ๋อง เป็เพราะบุรุษบนเตียงผู้นั้น และเขามั่นใจในจุดนี้อย่างยิ่ง
จ้าวเยี่ยนจ้องมองบุรุษบนเตียง คิ้วงดงามขมวดมุ่นเล็กน้อย เมื่อครู่อูเสียนอ๋องเอ่ยคำว่า ‘ฮ่อง’ ออกมา คนฉลาดเช่นเขา จึงค่อนข้างจะแน่ใจในตัวตนของบุรุษผู้นี้
ได้ยินว่า ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของแคว้นหนานเยวี่ยเพิ่งครองราชย์ได้ไม่นาน และยังได้ยินว่า อายุของฮ่องเต้พระองค์ใหม่ไล่เลี่ยกับเขา...
ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของแคว้นหนานเยวี่ยงั้นหรือ?
เหตุใดเขาถึงมาเป่ยฉี? ทั้งยังลอบเข้ามาอีก จ้าวเยี่ยนนึกคิดเชื่อมโยงกับบางสิ่ง ั์ตาดำมืด ตระหนักได้ถึงความผิดปกติของเื่ราว
ไม่แปลกใจที่เสด็จแม่จะทรงร้อนใจ!
ฉางไทเฮาเพิ่งจะออกคำสั่ง เมื่ออูเสียนอ๋องได้ยิน เขาพลันได้สติกลับมาทันที เขาคิดว่า หากฮ่องเต้ทรง้าหงเยียน เช่นนั้นการที่ฉางหงเยียนมาที่เป่ยฉีก็เป็เพียงหน้าที่เท่านั้น ทว่าความกังวลของฉางไทเฮาที่เขารู้สึกดูเหมือนว่าเขาเองก็มีความรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีที่บอกไม่ถูกเช่นกัน
ไม่ได้ทำในสิ่งที่้า อูเสียนอ๋องก้าวเท้าเข้าไปในห้อง รวบรวมความกล้าในการเข้าไปขัดจังหวะร่วมรักของฮ่องเต้กับหญิงสาว ทว่าเพิ่งจะก้าวไปได้ก้าวเดียว ด้านหลังกลับมีเสียงของสตรีดังออกมาจากนอกห้อง...
"หยุดอันใด? พาออกไปอันใด? ดูสิ พวกเราเพิ่งมา แคว้นหนานเยวี่ยก็จะพาอันใดออกไปงั้นหรือ? ทว่าคงจะไม่ได้หรอก ยามนี้เื่ในค่ายเสินเช่อยังไม่ได้ข้อสรุป..."
เสียงนั้นค่อยๆ เข้ามาใกล้พร้อมกับเสียงฝีเท้า มันดังเข้าไปในโสตประสาทของฉางไทเฮา ทำให้สีพระพักตร์ของสตรีในชุดเรียบง่ายยิ่งซีดเผือด
อวี่เหวินซิน พวกเขามาที่นี่เร็วเช่นนี้เลยหรือไร!
ฉางไทเฮากัดฟันอย่างแค้นเคือง สีพระพักตร์ฉายแววตื่นตระหนก เพียงเวลาชั่วครู่เท่านั้น นางยังคิดแผนการรับมือไม่ทันออก เสียงฝีเท้ากลับใกล้เข้ามาประชิดด้านหลังเสียแล้ว
"เอ๊ะ เสด็จพี่สะใภ้? เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่ได้?"
เสียงนั้นเข้ามาใกล้เจือปนความแปลกใจ ทว่ามิรู้เพราะเหตุใด ฉางไทเฮาจึงรู้สึกว่าน้ำเสียงของอวี่เหวินซินดูตื่นเต้นมากกว่าแปลกใจ ราวกับว่านางรู้ว่าตนอยู่ในเขตพำนักนานแล้วก็ไม่ปาน
ด้านหนึ่ง นางยังไม่ทันได้หันกลับไปเผชิญหน้ากับอวี่เหวินซิน เสียงร้องใของฮองเฮาอวี่เหวินกลับดังขึ้นเสียก่อน “ตายจริง... นี่...นี่มันเกิดเื่อันใดขึ้น องค์หญิงหงเยียน? นี่มัน...”
ฮองเฮาอวี่เหวินก้าวเท้ายาวเข้ามาในห้อง ตามด้วยองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง รวมทั้งหนานกงฉี่และอวี่เหวินหรูเยียน พวกเขาทั้งหมดเห็นสถานการณ์ในห้องนั้น ยามนี้ชายหญิงสองคนที่ยังคงโรมรันกันอย่างเร่าร้อนเมื่อครู่นี้ได้หยุดลงแล้ว ร่างกายเปลือยเปล่าของหญิงสาว และร่างกายเปลือยเปล่าของบุรุษ ถูกปกคลุมด้วยความตื่นตระหนกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
การบุกรุกอย่างกะทันหันของผู้คนมากมายเยี่ยงนี้ ดูเหมือนหญิงสาวยังไม่ได้สติ ทว่าสติของชายหนุ่มกลับมารู้สึกตัวนานแล้ว เขาจ้องมองทุกอย่างตรงหน้า สีหน้าเขียวคล้ำ
นี่...นี่มันเกิดอันใดขึ้น?
คนฉลาดเช่นเขา เมื่อรู้สึกตัวกลับมายามนี้จึงนึกเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า เขารู้สึกมึนงงจนเคลิ้มหลับไป และเมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็รู้สึกถึงความร้อนแปลกๆ ที่พลุ่งพล่านในร่างกายจนแทบจะควบคุมไม่อยู่ จึงทำสิ่งที่สัญชาตญาณในร่างกายสั่งมากับสตรีข้างกาย ทว่า...ทว่าเขาไม่คิดเลยว่า สตรีผู้นั้นจะเป็ฉางหงเยียน!
ฉางหงเยียน...
นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
ทั้งยังสถานการณ์ตรงหน้านี้อีก...
สายตาเฉียบคมของฉางหลิงเกอกวาดมองทุกคน เขาหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ ศักดิ์ศรีของฮ่องเต้จะทนให้ตัวเองเปลือยกายต่อหน้าผู้คนมากมายเยี่ยงนี้ไม่ได้ ทว่าการสวมใส่เสื้อผ้าของเขาตกอยู่ในสายตาของผู้คนรอบข้าง ทุกคนที่กำลังเฝ้ามอง ต่างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึง
ผู้คนตรงนั้นล้วนเป็คนที่ฉลาดเฉลียวทั้งสิ้น เสื้อผ้าชุดนั้นเป็เสื้อผ้าของผู้ติดตามราชทูตแคว้นหนานเยวี่ย ทว่ารัศมีที่แผ่ซ่านออกมาจากการเคลื่อนไหวของบุรุษผู้นี้กลับดูมิใช่คนที่เป็ข้ารับใช้จะมีได้
ดูเหมือนทุกคนยังไม่รู้สึกตัวกลับมาจากสถานการณ์เมื่อครู่นี้ แม้แต่อวี่เหวินหรูเยียนที่ได้อ่านจดหมายที่เหนียนยวี่ทิ้งไว้มาก่อนแล้ว เมื่อได้ยินว่า่เวลานี้จะมีงิ้วดีๆ ที่ลานทางใต้ ก็ยังไม่คาดคิดว่าจะเป็งิ้วที่เร่าร้อนเยี่ยงนี้
อย่างไรเสียนางก็เป็สตรีที่ยังไม่ผ่านเื่ทางโลก ครั้นมองเห็นสถานการณ์ในยามนี้ ใบหน้าพลันแดงระเรื่อ ไม่กล้าส่งสายตาไปรอบๆ
แต่มีอย่างหนึ่งที่นางรู้ การมาเป่ยฉีของฉางหงเยียนครานี้ นางมาในฐานะราชทูตเหมือนตน และ้าจะเป็มู่หวังเฟยเช่นกัน ทว่ายามนี้นางไม่มีโอกาสอย่างแน่นอนแล้ว
ครั้นคิดถึงความพยายามของฉางหงเยียนที่จะทำกับท่านอ๋องมู่เมื่อคืนนั้น ทั้งหมดนี้เป็แผนการของเหนียนยวี่งั้นหรือ?
และจุดประสงค์ของเหนียนยวี่คือการล้างแค้นให้ท่านอ๋องมู่?
อวี่เหวินหรูเยียนไม่อาจเข้าใจได้ ทว่าในใจกลับรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ไม่เพียงเพราะเื่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ นางยังเหลือคู่แข่งน้อยลง และยังเป็เพราะเื่ที่ฉางหงเยียนทำกับท่านอ๋องมู่ แม้กระทั่งตัวนางในยามนี้ยังมีความรู้สึกไม่ดีเหลืออยู่บ้าง จึงอดไม่ได้จะปรบมือให้กับแผนการของเหนียนยวี่!
อวี่เหวินหรูเยียนครุ่นคิดในใจ และในยามนี้สีหน้าของทุกคนในห้องพลันแปรเปลี่ยนไป
บรรยากาศแปลกประหลาดอย่างยิ่ง ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงยืนอยู่รั้งท้ายสุดในกลุ่มผู้คน คนมากประสบการณ์เช่นนางก็เข้าใจถึงจุดประสงค์ของฮองเฮาอวี่เหวินที่พานางมาที่นี่แล้ว นางเหลือบมองในห้อง สายตากวาดมองฉางไทเฮาอย่างสงบเสงี่ยม แม้จะไม่มีอารมณ์ปรากฏบนใบหน้าของไทเฮา ทว่านางกลับจินตนาการได้ว่า ใบหน้าของฉางไทเฮาในยามนี้จะมีปฏิกิริยาอย่างไร
ฮองเฮาอวี่เหวินให้นางมาดูงิ้ว นี่ไม่ใช่แค่งิ้วของแคว้นหนานเยวี่ย แต่เกรงว่าจะเป็งิ้วของฉางไทเฮาด้วย!
ฮองเฮาอวี่เหวินเองก็มิคาดคิดว่า พวกเขาที่เร่งรีบมาจะได้รับการต้อนรับด้วยงิ้วดีๆ ฉากนี้
งิ้วดี หึ ช่างเป็งิ้วที่ดีเสียจริง!
“หึ นี่มัน...เสด็จพี่ไทเฮา เทศกาลฉีเฉี่ยววันนั้น ท่านมิใช่กล่าวว่าหงเยียนชื่นชอบอี้เอ๋อร์มานานแล้วหรือ เปิ่นกงยังคิดเลยว่า องค์หญิงฉางหงเยียนพร์และหน้าตาไม่เลว หากเป็ไปได้ก็จะให้พวกคนหนุ่มสาวสองคนได้ลองร่วมปลูกฝังความสัมพันธ์กัน มิแน่ว่าอาจจะสามารถสร้างเื่ราวๆ ดีขึ้นได้ ทว่ายามนี้... นี่มัน...นี่มันเื่ราวอันใด! ถึงแม้สตรีหนานเยวี่ยจะเปิดกว้างและเป็อิสระ ก็ไม่สามารถจะมาทำเื่ไม่ดีไม่งามตอนกลางวันแสกๆ เยี่ยงนี้ได้ ลูกหลานราชวงศ์เป่ยฉีของข้ามิอาจทนรับสตรีไร้ยางอายเช่นนี้” ฮองเฮาอวี่เหวินกล่าวอย่างเ็า ถ้อยคำจนถึงตอนท้ายไม่มีปิดบังถ้อยคำดูถูกและตำหนิแม้แต่น้อย