“ยอมเสียอย่างนั้นหรือ?” เสี่ยวเมิ่งเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย
“ใช่!” หยวนจุนหันไปมองใบหน้างามของนางแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้จัดการฉางรู้ว่าเ้าเป็นักสร้างของเมืองเทียนอวิ่น แต่ไม่รู้ว่าเ้าคือเสี่ยวเมิ่ง ใช่หรือไม่?”
เสี่ยวเมิ่งพยักหน้า แววตาเป็ประกายราวกับอัญมณี “ตอนนี้พลังจิตในการสร้างของข้าบรรลุถึงระดับนักสร้างขั้นยอดแล้ว ขอเวลาอีกแค่ครึ่งเดือน ข้าจึงจะสามารถบรรลุเข้าสู่นักสร้างระดับปรมาจารย์ขั้นทั่วไปได้!”
“เมื่อเป็เช่นนั้นข้าจะกลั่นอาวุธระดับิญญาขั้นสองได้! ซึ่งโรงประมูลจะต้องรั้งข้าไว้อย่างแน่นอน!”
ทั้งสองมองหน้ากัน เพราะรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดของโรงประมูลคือกำไร นักสร้างเป็อาชีพที่หายากและได้รับการยกย่องในมหาภพหลิงเทียน นักสร้างขั้นยอดอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้โรงประมูลยอมเสียตระกูลเจียงไป แต่หากเป็นักสร้างระดับปรมาจารย์ เช่นนั้นก็เป็อีกเื่หนึ่ง!
อาวุธระดับิญญาขั้นสอง แม้แต่ตระกูลหลิวที่เป็ผู้นำอันดับหนึ่งของเมืองยังมีเพียงสามชิ้นเท่านั้น หากอาวุธระดับิญญาขั้นสองปรากฏ ต้องเกิดความโกลาหลในเมืองเทียนอวิ่นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม นักสร้างระดับปรมาจารย์นั้นมีค่าเกินกว่าอาวุธระดับิญญา!
“ข้าอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว ข้ายังมีบางอย่างที่ต้องไปทำ เช่นนั้นจนกว่าเ้าจะบรรลุผ่านถึงขั้นนักสร้างระดับปรมาจารย์ เ้าต้องแต่งกายแบบอื่นแล้วแฝงตัวเข้าไปในโรงประมูลนะ”
เสี่ยวเมิ่งตอบรับเบาๆ นางรู้ว่าเมื่อสองเดือนก่อนหยวนจุนได้ทำสัญญาตกลงกับหลิวหรูเยียนไว้ ดังนั้นเมื่อถึงทางแยกระหว่างโรงประมูลกับจวนตระกูลหลิว นางจึงส่งสายตาบอก ก่อนที่ทั้งสองจะแยกจากกัน
หยวนจุนกลับมาที่หน้าประตูจวนตระกูลหลิวอีกครั้งหลังจากผ่านไปสองเดือน เขาเห็นทหารยามสองคนทำท่าเชื้อเชิญมาแต่ไกล
“คุณหนูรอนานแล้ว เชิญทางนี้”
หนึ่งในนั้นนำทางหยวนจุนมาที่ศาลาสวนดอกไม้ หลิวหรูเยียนกำลังนั่งหลับตาเงียบๆ อยู่ที่หน้าโต๊ะหินในศาลา
ส่วนด้านนอกศาลามีร่างเปื้อนเืถูกห้อยอยู่บนต้นไม้ใหญ่
เมื่อมองไปยังใบหน้าที่คุ้นเคยนั้น หยวนจุนมุ่ยปากเล็กน้อย ผู้นั้นคือน้องชายของหานจิ้น หานซู่
เรียกได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในสภาพจนตรอก รู้สึกถึงการต่อสู้ดิ้นรนเฮือกสุดท้าย ครั้นลืมตาแล้วเห็นหยวนจุน ร่างกายของเขาก็สะดุ้งใ เพราะหยวนจุนได้ทิ้งาแและเงามืดไว้ในใจเขามากมาย
หลิวหรูเยียนลืมตาขึ้น นางยิ้มน้อยๆ ก่อนจะนำมือไพล่หลังไปอยู่ข้างหยวนจุน แล้วกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ข้าคิดว่าเ้าจะไม่กล้ามาที่นี่แล้วเสียอีก?”
“ในเมื่อเ้ามา แสดงว่าเ้าทำเงื่อนไขข้อแรกสำเร็จแล้วใช่หรือไม่?” แม้หลิวหรูเยียนจะไม่รู้สึกถึงปราณดาราที่ออกมาจากตัวหยวนจุนเลยแม้แต่น้อย แต่นางก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่แข็งแรงและแววตาที่มุ่งมั่นมากขึ้น
“ฮือฮือ!”
หานซู่พยายามดิ้นรน ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เศษผ้าที่อุดอยู่ในปากทำให้ผู้คนแทบไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูด
“หุบปาก!” หลิวหรูเยียนเลิกคิ้ว แล้วขว้างถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะไปที่ร่างของหานซู่ เพียงแค่ได้ยินเสียงถ้วยชาแตก หานซู่ที่กำลังพยายามดิ้นรนก็ก้มหน้าลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
บนถ้วยชานั้นมีพลังปราณดาราที่รุนแรง พลังของหลิวหรูเยียนก้าวหน้าขึ้นมากเมื่อเทียบกับสองเดือนก่อน! แม้จะยังอยู่ในระดับวงแหวนใหญ่ขั้นห้า แต่กลับทรงพลังกว่าระดับวงแหวนใหญ่ขั้นห้าของเจียงเฮ่อไม่รู้กี่เท่า
การที่หลิวหรูเยียนแสดงพลังยุทธ์ที่ก้าวหน้าให้หยวนจุนเห็น เป็เื่ที่นางตั้งใจ!
“รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงฆ่าเขา?” หลิวหรูเยียนหรี่ตาขณะชี้ไปที่หานซู่ เมื่อเห็นหยวนจุนไม่ตอบอะไร นางจึงหันกลับมาแล้วกล่าวว่า “สองเดือนก่อน เขาโกหกทหารยามของตระกูลหลิวให้ไปสู้กับเ้าเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เ้าจำได้หรือไม่?”
“เจ็ดวันต่อมา เขามาขอความช่วยเหลือจากตระกูลหลิวของข้า บอกว่าหานจิ้นพี่ชายของเขาหายตัวไป และหอกนั้นก็พุ่งตรงมาที่เ้า คนพาลเช่นนี้จะเก็บไว้เพื่อเหตุใด?”
แม้หลิวหรูเยียนจะกล่าวอย่างเรียบง่ายและเป็กันเอง แต่เมื่อหยวนจุนได้ยินก็ััได้ว่า นางกับตระกูลหลิวเชื่อแปดส่วนว่าหานจิ้นตายด้วยน้ำมือของเขา
เหตุผลที่นางใช้วิธีนี้ฆ่าหานซู่ หนึ่งคือ้าเตือนหยวนจุนว่าอย่าทำสิ่งใดให้ตระกูลหลิวไม่พอใจ สองคือหลิวหรูเยียน้าขู่หยวนจุน ถึงนางจะทำดีด้วยแต่ก็ยังสงสัยในตัวเขาอยู่
หลิวหรูเยียนยืนขึ้น เผยให้เห็นร่างที่สมบูรณ์แบบภายใต้ชุดกระโปรงเข้ารูปลายพญาหงส์ ด้านหน้าเรียบด้านหลังโค้งเว้า ดึงดูดสายตาเสียจนหยวนจุนได้ยินเสียงทหารยามกลืนน้ำลายอยู่ข้างๆ เขา
“เ้าบรรลุขั้นสี่ระดับใดแล้ว? วงแหวนเล็กหรือ?”
เมื่อเห็นหยวนจุนพยักหน้าอย่างเบื่อหน่าย หลิวหรูเยียนจึงยิ้มพลางจิบชา ก่อนจะผลักมือเรียวไปยังหัวใจของหยวนจุน
“เคลื่อนท่าเก้าสยบ!”
หยวนจุนรู้ว่าเคลื่อนท่าเก้าสยบของหลิวหรูเยียนมิใช่วิชายุทธ์ แต่มีประโยชน์พิเศษบางอย่าง ไม่แน่ว่ามันอาจช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ข้อมือของนางก็เป็ได้
“ผ่าง”
หยวนจุนผลักฝ่ามือออกไปอย่างเต็มกำลัง ฝ่ามือของทั้งสองกระแทกเข้าหากันจนทำให้คลื่นพลังแผ่ขยายออก หญิงรับใช้ที่อยู่รอบๆ ถึงกับต้องรีบออกไปจากศาลาสวนดอกไม้นี้
หลิวหรูเยียนปรบมืออย่างชื่นชม นางกล่าวว่า “สมแล้วที่เป็ผู้ที่ข้าหลิวหรูเยียนให้ความสำคัญ ภายในเวลาสองเดือนสามารถบรรลุได้หนึ่งขั้น จนไปถึงระดับวงแหวนใหญ่ขั้นสี่ได้!”
“เมื่อเป็เช่นนี้ ข้าก็วางใจที่จะมอบหมายเื่ต่อไปให้เ้า แน่นอน หากเ้าสามารถทำเงื่อนไขข้อสองของข้าสำเร็จ ตระกูลหลิวจะถอนกำลังทหารรักษาเมืองออกจากเมืองเทียนอวิ่นทันที”
หยวนจุนพยักหน้าเพื่อบอกให้นางเข้าประเด็น
“พรมแดนระหว่างเมืองเทียนอวิ่นและเมืองลั่วฝานมีูเาสองแดน ซึ่งในูเานั้นมีบางอย่างที่ตระกูลหลิว้า ทั้งนี้ สองเมืองจะผลัดเปลี่ยนกันดูแลูเา ซึ่งเป็กฎที่สืบทอดกันมานับพันปี ทุกสามปีจะมีการประลองระหว่างเมือง ฝ่ายที่ชนะจะได้ดูแลูเาสองแดนสามปี!”
“เมืองเทียนอวิ่นแพ้ไปแล้วสองครั้ง ปีนี้จึงต้องชนะเพื่อที่จะได้สิทธิ์ในการูเา มิเช่นนั้น เมืองลั่วฝานจะเจริญมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเมืองเทียนอวิ่นจะยิ่งยากจนลง แล้ววันหนึ่งคงต้องถูกเมืองอื่นยึดไปอย่างแน่นอน!”
“ในเมืองเทียนอวิ่นมีผู้มีความสามารถมากมาย ข้ามีเพียงวงแหวนใหญ่ขั้นสี่อาจมีกำลังสู้พวกเขาไม่ได้” หยวนจุนยักไหล่ แล้วกล่าวด้วยเสียงนิ่งเรียบ
“มิใช่อย่างนั้น” หลิวหรูเยียนยืนขึ้นแล้วก้าวออกไปสองสามก้าว นางแสดงสีหน้าเคร่งขรึม “การประลองระหว่างเมืองมิใช่การประลองความแข็งแกร่งของเมือง แต่เป็การประลองระหว่างอนุชนรุ่นหลัง!”
“การประลองระหว่างเมืองจะใช้กฎชนะสองในสาม ในฐานะที่ตระกูลหลิวเป็ผู้นำอันดับหนึ่งของเมืองจึงต้องรับหน้าที่ที่สำคัญนี้ ข้ากับพี่ใหญ่จำเป็ต้องเข้าร่วม ส่วนอีกคนจะคัดเลือกจากอนุชนรุ่นหลังในเมือง”
“และที่สุดท้ายก็คือเ้า แน่นอนว่าข้ากับพี่ใหญ่จะใช้กำลังสุดความสามารถเพื่อให้ได้ชัยชนะสองครั้ง เ้าไม่จำเป็ต้องลงมือ แต่ถ้าพวกเราคนใดคนหนึ่งแพ้...”
กล่าวถึงตอนนี้ หยวนจุนก็เข้าใจแผนการของหลิวหรูเยียนเป็อย่างดี เพียงแต่เขาสงสัยเล็กน้อย ในเมืองนี้นอกจากมีตระกูลหลิวแล้ว ยังมีอีกสองตระกูลคือตระกูลเจียงและตระกูลมู่ นางมีผู้เก่งกาจมากมายให้เลือก แล้วเหตุใดต้องเป็เขาด้วยล่ะ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้