ห้องทำงานรองประธานบริษัท PNSP
“เข้ามาทำไมไม่เคาะประตู! รู้จักคำว่า ‘มารยาท’ บ้างไหม? เื่พื้นฐาน... ไม่รู้เลยหรือไง” เสียงเ็า และเฉียบขาดของเ้าของห้องดังขึ้นทันทีที่ประตูถูกเปิดโดยไม่ทันเคาะ อันดาถึงกับสะดุ้ง
“ขอโทษค่ะ” เธอรีบตอบ แล้วหมุนตัวถอยหลังออกไป ปิดประตูอย่างเรียบร้อย
ชนกันต์เหลือบตามองประตูอย่างหงุดหงิดเล็กๆ ขัดจังหวะงาน แล้วยังเปิดประตูโครมเข้ามาอีก
แต่อีกไม่กี่วินาทีต่อมา... เสียงเคาะเบาๆ ก็ดังขึ้น
ก็ยังดี... เธอยังรู้จักแก้ไข แต่ก็เหมือนจะกวนประสาท
ประตูเปิดออกอีกครั้ง ร่างระหงของอันดาโผล่พ้นเข้ามาพร้อมรอยยิ้มอารมณ์ดี
“บอสคะ” เสียงหวานเจือความทะเล้นเล็กๆ เอ่ยขึ้น
“ที่นี่ไม่มีใครเรียกผมว่าบอส” เขาพูดเรียบๆ
“แหม... ยังไงซะฉันก็เป็ ‘คู่ควง’ ของคุณนะคะ ขอเรียกพิเศษกว่าคนอื่นหน่อยจะเป็อะไรไป แถมเรียกแบบนี้เวลาออกงานก็เนียนขึ้นด้วย”
“อยากเรียกอะไรก็เรียก” เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าจากเอกสาร
“ค่ะ” เธอตอบรับ ยิ้มยังคงไม่หายจากใบหน้า
“แล้วนี่เข้ามาทำไม มีเื่อะไร?”
อันดาสูดหายใจเข้าเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
“บอสคะ... ขอเบิกเงินล่วงหน้าได้ไหมคะ?”
คำถามนั้นทำให้บรรยากาศในห้องเงียบไปชั่วครู่ เธอรู้ว่าเสี่ยง… ทำงานวันแรกก็มาขอเงิน เ้านายคนไหนก็ต้องมีหงุดหงิดบ้างแหละ เธอแค่หวังว่าเขาจะไม่ด่าแรงเกินไป
“เท่าไหร่?”
“หนึ่งพันบาทก็ได้ค่ะ หรือถ้าสองพันได้ก็... เอ่อ... ขอบคุณมากเลยค่ะ” เธอพูดพลางก้มหน้าเกร็งๆ
ชายหนุ่มวางปากกาลง หยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา ล้วงเงินแบงก์พันออกมาหลายใบ กะด้วยตาน่าจะราวๆ ห้าพัน แล้วส่งให้เธอ
อันดาชะงักนิดหน่อย ไม่คิดว่าจะง่ายขนาดนี้
“ให้เบิกเหรอคะ?” เสียงของเธอแฝงความดีใจ เงยหน้ามามองเขาตาไม่กระพริบ
“ไม่ใช่เบิก ฉันให้ไว้ใช้ แยกจากเงินเดือน” เขาตอบเสียงเรียบ “ยังไงตอนนี้ เธอก็ได้ชื่อว่าเป็ผู้หญิงของฉันแล้ว จะปล่อยให้อดๆ อยากๆ ก็กระไรอยู่”
อันดาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สายตาสั่นไหว แต่ก็ยืดหลังตรง
“ไม่ได้ค่ะ ฉันแค่รับบทคู่ควง รับงาน รับเงิน ไม่เอาเงินคุณฟรีๆ หรอกค่ะ”
“คือ… ไม่เอา?” เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย มองเธออย่างท้าทาย
อันดารีบคว้าเงินมากอดไว้แน่น เหมือนกลัวเขาจะเปลี่ยนใจ
“เอาค่ะ! …แต่ขอถือว่ายืม เงินเดือนออก ฉันคืนแน่นอน ขอบคุณนะคะ”
เขาไม่ได้ตอบอะไร แค่พยักหน้าเบาๆ แล้วกลับไปจดจ่อกับงานตรงหน้า
ทันทีที่เธอปิดประตูออกไป รอยยิ้มจางๆ ก็ผุดขึ้นบนใบหน้าชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว
ให้เงินฟรีๆ ก็ยังจะไม่เอา
เขาส่ายหัวเบาๆ พลางพึมพำในใจ
จะไปสนใจทำไมกัน… ที่ให้ไปก็เพราะสงสารเท่านั้น
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ที่หน้าบริษัท
ใกล้เวลานัดพบลูกค้าใหญ่ นาวินเดินเข้ามาแจ้งชนกันต์ ก่อนที่ทั้งสามคนจะพากันออกจากออฟฟิศไปยังรถตู้สีดำเงาที่จอดรออยู่หน้าบริษัท
อันดานั่งเบาะหลังติดกระจก ข้างๆ ชนกันต์ ส่วนนาวินนั่งด้านหน้าใกล้คนขับ เพราะต้องคอยบอกทาง
อันดาแอบเหลือบมองชายหนุ่มข้างกาย
…ในใจนึกยิ้มขำ เห็นเ็าแบบนี้ แต่เขาเป็คนใจดี เมื่อนึกถึงตอนที่ให้เงินเธอยืม
ห้องอาหารส่วนตัว โรงแรมณพาท
“ปกติเห็นคุณกันต์มากับคุณนาวินสองคนตลอด วันนี้กลับพาสาวสวยมาด้วย... แปลกใจอยู่นะครับ” คุณพิเชษฐ์ ลูกค้ารายใหญ่ที่นัดมาคุยเื่สัญญาใหม่หัวเราะร่วน แววตาไม่ปิดบังความสนอกสนใจในตัวอันดาแม้แต่น้อย
ดวงตาเขามองต่ำลงไปที่่อกของเธอ ก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปาก …ท่าทางไม่น่าดูเอาเสียเลย
“ครับ ่นี้นาวินมีงานเยอะเกินไปหน่อย เลยให้เธอมาช่วยเป็เลขาอีกคน” ชนกันต์ตอบเรียบๆ
“เลขาคนใหม่แน่เหรอครับ?” คุณพิเชษฐ์โน้มตัวมากระซิบใกล้ๆ น้ำเสียงเจือความล้อเลียนอย่างโจ่งแจ้ง “ถ้าใช่จริงๆ ผมขอทำความรู้จักหน่อยได้ไหมล่ะ?”
ชายหนุ่มปรายตามองคนถามด้วยสายตานิ่งเรียบ แต่ั์ตาเต็มไปด้วยแววไม่พอใจ
...สายตาของไอ้คนนี้มันไม่ใช่แค่ ‘ชื่นชม’ แต่มันคือความละลาบละล้วงแบบหยาบคาย
“เธอเป็คนของผมครับ” คำตอบนั้นถูกเปล่งออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ เย็นเฉียบ แต่หนักแน่น
คุณพิเชษฐ์ชะงักเล็กน้อย ยิ้มบางอย่างรู้ทัน แต่ก็เหมือนยังไม่รู้จักคำว่า ‘หยุด’
“งั้น… คุยเื่งานกันต่อดีกว่านะครับ” นาวินรีบแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ พยายามประคองสถานการณ์ให้ไม่ตึงเครียดไปกว่านี้ เขาหยิบสัญญาขึ้นมาวางตรงหน้าอีกฝ่าย
“นี่ครับ เราได้แก้ไขตามรายละเอียดที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้าแล้ว”
“อะไรกัน เอะอะก็เข้าเื่งาน ทั้งที่เรายังคุยเล่นกันไม่จบเลย” คุณพิเชษฐ์เอนหลังพิงเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะยกแขนพาดพนักพิงอีกด้าน รอยยิ้มเย้ยหยันผุดขึ้นที่มุมปาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้