ณ ประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้า เย่เฟิงใช้สายตาเรียบนิ่งมองเฉินฮุยและหนุ่มสาวอีกสี่คนที่อยู่ด้านหลัง ทั้งห้าคนสวมใส่ชุดสีขาว หญิงสาวสองคนใส่ชุดกระโปรงดูกลมกลืนกับผู้คนรอบข้าง ทว่าการแต่งตัวของชายหนุ่มอีกสามคนกลับโดดเด่นดึงดูดสายตาผู้คนในเมือง
แม้พวกเขารู้ว่าการแต่งตัวเช่นนี้ดูสะดุดตา แต่เฉินฮุยกลับบอกให้แสดงถึงความยิ่งใหญ่เมื่ออยู่ต่อหน้าจื่อเจี้ยนหลาน พวกเขาจึงต้องสวมใส่ชุดเหล่านี้...
“นายคือเย่เฟิงงั้นเหรอ?”
เฉินฮุยหรี่ตา จ้องเย่เฟิงพลางพิจารณาอีกฝ่ายอย่างถี่ถ้วน ชายหนุ่มได้ยินว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งมาก แม้แต่หลงโม่หรานก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เมื่อไม่นานมานี้ก็มีข่าวลือว่าเย่เฟิงบุกสำนักอิ่นเซียนและสังหารฉีหลินจือ จากข่าวลือเหล่านี้ก็ชัดเจนแล้วว่าตนไม่มีทางต่อกรกับเย่เฟิงได้
แต่เขาไม่เชื่อข่าวลือพวกนั้นหรอก ในยุทธจักรเขาเป็ถึงอันดับหนึ่งของผู้ฝึกวรยุทธ์รุ่นเยาว์ ดูแล้วอายุของเย่เฟิงคงยังไม่ถึงยี่สิบปี แล้วจะแข็งแกร่งขนาดนั้นได้อย่างไร? ต่อให้อีกฝ่ายมีพร์มากแค่ไหน แต่เฉินฮุยคิดว่าด้วยอายุยี่สิบปี คนตรงหน้าไม่มีทางสังหารผู้าุโที่มีระดับวรยุทธ์เจ็ดสิบปีได้ เื่นี้ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ยิ่งกว่านั้นตามข่าวลือ เย่เฟิงมีระดับพลังเพียงสิบกว่าปีเท่านั้น ยิ่งดูเป็ไปไม่ได้เลย
ในที่สุดตอนนี้เขาก็ได้เห็นเย่เฟิงกับตาตัวเอง เฉินฮุยคิดว่าบางทีตนอาจสืบหาข้อเท็จจริงของเื่นี้ได้ น่าเสียดายที่เขาไม่มีจิตัั จึงไม่มีทางรู้ว่าเย่เฟิงมีระดับพลังมากเพียงใด
“ใช่ ฉันคือเย่เฟิง” เย่เฟิงยิ้มมุมปาก “ต้องขอโทษด้วยนะ จื่อเจี้ยนหลานเป็เพื่อนของฉัน ถ้าพวกนายจะพาเธอไป ก็ควรถามความเห็นฉันก่อนไหม?”
“เย่เฟิง” เมื่อได้ยินดังนั้น จื่อเจี้ยนหลานก็รีบวิ่งไปหาเขา พร้อมถามด้วยความประหลาดใจ “พี่เป็อะไรไป?”
ตอนนี้เธอคิดว่าเย่เฟิงและเฉินฮุยอาจเคยมีเื่บาดหมางกันมาก่อน แม้เฉินฮุยจะเป็ถึงอันดับหนึ่งของผู้ฝึกวรยุทธ์รุ่นเยาว์ ส่วนเย่เฟิงเพิ่งเป็ที่รู้จักได้ไม่นาน แต่เธอก็มองออกว่าเย่เฟิงแข็งแกร่งกว่าเฉินฮุยมาก หรือเย่เฟิงไม่พอใจที่เฉินฮุยได้ชื่อว่าเป็อันดับหนึ่งของผู้ฝึกวรยุทธ์รุ่นเยาว์?
“ไม่มีอะไร แค่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” เย่เฟิงยิ้มบาง “ฉันจะพาเธอกลับบ้านด้วยกัน เธอจะไปกับฉันไหม?”
จื่อเจี้ยนหลานงุนงง ไม่ใช่แล้ว แค่เปลี่ยนเสื้อผ้า ความคิดก็เปลี่ยนไปด้วยเหรอ อะไรจะรวดเร็วขนาดนั้น? หากไม่มีเฉินฮุย เธอย่อมยินดีติดตามเย่เฟิงไปแน่ แต่ตอนนี้หากเธอตามเขาไป จะเป็การหักหน้าของเฉินฮุย
เมื่อหญิงสาวเงยหน้าก็สบตากับเย่เฟิงที่ก้มมองมา ดวงตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มของเขาทำให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและห่วงใย
ในความคิดของเย่เฟิง เขาอยากพาจื่อเจี้ยนหลานกลับไปช่วยพัฒนาคนของตัวเอง แน่นอนว่าไม่ใช่หลงหว่านเอ๋อร์หรือซูเมิ่งหาน แต่เป็หนานฟาง หลังจากพาเธอกลับไปแล้ว เขาจะให้เธอสอนวิชาอาวุธลับของสำนักอิ่นเซียนแก่หนานฟาง และให้ทั้งสองคนศึกษาแลกเปลี่ยนความคิดกัน ย่อมทำให้การฝึกก้าวหน้าอย่างรวดเร็วแน่ แต่หลังจากเห็นการพูดคุยระหว่างจื่อเจี้ยนหลานและเฉินฮุยเมื่อครู่ เย่เฟิงก็คิดว่าการปล่อยให้เด็กสาวออกเดินทางข้างนอกเพียงลำพังเป็การตัดสินใจที่ผิด... ผ่านไปไม่กี่วันเธอคงถูกเขี่ยทิ้งราวกับขยะแน่ โดยเฉพาะในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยคนใจหยาบ...
“อืม ฉันจะไปกับพี่เย่”
จื่อเจี้ยนหลานครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนก่อนพยักหน้ารับในที่สุด
เมื่อเย่เฟิงได้ยินการเรียกขานเช่นนี้ก็รู้สึกดีไม่น้อย พี่ชายน้องสาว เมื่อเป็เช่นนี้ กลับไปคงไม่ทำให้หลงหว่านเอ๋อร์กับซูเมิ่งหานหึงหวงหรอก
“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ”
เย่เฟิงจูงมือเล็กของจื่อเจี้ยนหลานอย่างเป็ธรรมชาติ พลางเงยหน้ามองเฉินฮุยที่ยืนอยู่ไม่ไกล ก่อนยิ้มบาง
หากพูดถึงระดับความสนิทสนมกับเจี้ยนหลาน เย่เฟิงที่ช่วยเธอสังหารฉีหลินจือย่อมใกล้ชิดกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฉินฮุยยังถือว่าห่างไกลอยู่มาก หากต้องเลือกระหว่างสองคนนี้ จื่อเจี้ยนหลานย่อมเลือกเย่เฟิงอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อก่อนเธอถูกกักขังให้อยู่ที่สำนักอิ่นเซียน ไร้ซึ่งอิสระ แต่ถึงอย่างไรที่นั่นก็ถือเป็บ้านสำหรับเธอ ตอนนี้หญิงสาวตัดขาดจากสำนักอิ่นเซียนแล้ว จึงรู้สึกขาดที่พึ่ง ภายในใจไม่รู้ทำอย่างไรดี
เมื่อเย่เฟิงบอกกับเธอว่า ‘กลับบ้านด้วยกัน’ เทียบกับที่เฉินฮุยกล่าวว่า ‘ไปหาอะไรกิน’ และ ‘เปิดห้องให้’ เห็นได้ชัดว่าเธอซาบซึ้งกับคำพูดของเย่เฟิงมากกว่า
คนตำหนักไท่จี๋มักดูแคลนคนของสำนักอิ่นเซียนว่าชั่วร้าย จื่อเจี้ยนหลานย่อมต้องคำนึงถึงเื่นี้อยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้การที่เฉินฮุยซึ่งเป็ถึงอันดับหนึ่งของผู้ฝึกวรยุทธ์รุ่นเยาว์เข้ามาพูดคุยกับเธอ ย่อมทำให้เธอรู้สึกดีไม่น้อย
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ”
เมื่อเฉินฮุยเห็นเย่เฟิงจับมือจื่อเจี้ยนหลาน สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที มือเล็กที่ดูนุ่มนิ่มคู่นั้น แม้แต่เขาก็ยังไม่เคยได้ััมันเลยด้วยซ้ำ นึกไม่ถึงว่าจะถูกเย่เฟิงชิงตัดหน้าไปก่อน! หากเขารู้ว่าเย่เฟิงไม่เพียงได้จับมือจื่อเจี้ยนหลาน แต่ยังเคยโอบกอดแนบชิดกับเธอมาแล้ว ไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะรู้สึกอย่างไร?
“นายมายุ่งอะไร?”
เย่เฟิงก้าวไปข้างหน้าพร้อมสบตาเฉินฮุย เ้าหมอนี่แค่มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีอะไร รวมกับชายสองคนและหญิงอีกสองคนที่อยู่ด้านหลัง ยิ่งทำให้เย่เฟิงมั่นใจ พวกเขาเข้าหาจื่อเจี้ยนหลาน ย่อมไม่มีจุดประสงค์ที่ดีแน่นอน!
พวกเขาอาจมีจุดประสงค์เดียวกับเย่เฟิง นั่นคือวิชาอาวุธลับของสำนักอิ่นเซียน แต่ทั้งคู่ต่างกันที่หลังจากเย่เฟิงพาจื่อเจี้ยนหลานไปแล้ว เขาย่อมปฏิบัติต่อเธอเสมือนเธอเป็คนของเขา ต่อจากนี้ไม่ว่าใครทำร้ายเธอ มันจะต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของเย่เฟิง ส่วนพวกเฉินฮุยหลังจากได้สิ่งที่้าแล้ว ไม่ว่าจื่อเจี้ยนหลานจะเป็ตายร้ายดีอย่างไร พวกเขาย่อมไม่สนใจ
“ฉันไม่ยอมให้แกพาเจี้ยนหลานไปหรอก” เฉินฮุยแสดงสีหน้าแข็งกระด้าง พลางกล่าวกับเย่เฟิงอย่างเคร่งขรึม “ในยุทธจักรมีข่าวลือว่า นายมีความสัมพันธ์กับคุณหนูตระกูลหลงและสาวสวยดาวโรงเรียน ทั้งยังหมั้นหมายกับสาวสวยอันดับหนึ่งของเมืองเยี่ยนจิงอีก... เจี้ยนหลาน เธอห้ามหลงกลมันเด็ดขาด เ้าหมอนี่มันเป็เพลย์บอย!”
เขาพูดพร้อมหันมองจื่อเจี้ยนหลานด้วยแววตาขมขื่น
“พี่เย่ไม่ใช่คนแบบนั้น”
จื่อเจี้ยนหลานเชื่อมั่นในความรู้สึกของตัวเอง ผู้ชายที่พยายามสุดกำลังเพื่อผู้หญิงของตัวเอง จะเป็คนเช่นนั้นได้อย่างไร ไม่มีทางเป็ไปได้หรอก
“นายไม่ยอมแล้วยังไง?”
เย่เฟิงเหลือบมองเฉินฮุย
“ปล่อยเจี้ยนหลานซะ แล้วฉันจะไม่ทำร้ายนาย”
เฉินฮุยเงยหน้าขึ้นอย่างทะนงตน
เมื่อจื่อเจี้ยนหลานเห็นท่าทีของพวกเขา ก็คิดจะเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาใจเย็น แต่เย่เฟิงคร้านจะพูดให้มากความ
ถ้าแกไม่ยอม งั้นก็ต้องตีจนกว่าแกจะยอมสินะ!
เขาไม่จำเป็ต้องเปลืองแรงมาก แค่หมัดเดียวก็เพียงพอแล้ว ประเด็นสำคัญอยู่ที่ท่ามกลางผู้คนในเมืองแบบนี้ การลงมือสังหารอีกฝ่ายคงไม่เหมาะสมนัก อีกอย่างเขายังไม่อยากเป็ศัตรูคู่แค้นกับตำหนักไท่จี๋ อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่เหมาะที่จะลงมือ
หมัดเทพไร้ตัวตน!
ชื่อนี้เป็เย่เฟิงตั้งเอง มันเป็หมัดที่มีพลังหนักหน่วงทั้งยังเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว เขาดัดแปลงมาจากกระบวนท่าของกระบี่ไร้ตัวตน
ท่ามกลางสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปมา เย่เฟิงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวใหม่เอี่ยมหายตัวไปกะทันหัน ทำให้ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น คนนั้นเขาหายไปได้อย่างไร? ฉับพลันนั้นพวกเขาก็พบว่าผู้ชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าชายหนุ่มและหญิงสาวที่สวมชุดสีขาวทั้งห้าคน
ผัวะ!
ในเวลานั้นเอง เฉินฮุยที่ยังไม่ทันได้ตอบสนองก็โดนหมัดของเย่เฟิงต่อยเข้าไปกลางท้อง!
เขามีระดับวรยุทธ์ถึงสามสิบแปดปี แต่กลับไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย นึกไม่ถึงว่าเย่เฟิงจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วขนาดนี้! แต่การเคลื่อนไหวของเขาจะไม่เร็วได้อย่างไรกัน? เพราะแม้แต่หลงโม่หรานก็ยังไม่สามารถตอบสนองความเร็วระดับนี้ได้
เพียงหมัดเดียว ร่างของเฉินฮุยในชุดคลุมสีขาวก็ถูกกระแทกอย่างแรงจนกระเด็นไปไกล!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้