จวนแม่ทัพฟาง / ซีโจว
“เื่นี้ยังไม่มีราชโองการลงมาดังนั้นข้าคิดว่า…”
“ลูกจะไปเ้าค่ะท่านพ่อ ลูกตกลงรับการหมั้นหมายครั้งนี้”
“ฟางหลีม่าน” บุตรสาวคนกลางของแม่ทัพใหม่แห่งเมืองซีโจว “ฟางเฉิน” หันไปตวาดบุตรสาวขึ้นหลังจากที่เดินเข้ามาในจวนและแจ้งเื่สำคัญที่มาจากราชสำนัก
“ม่านเอ๋อร์!! เ้าพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือไม่ถึงเ้าจะโตแล้วแต่แม่ก็ไม่ยอมให้เ้าไปลำบากที่เมืองลู่โจวที่กันดารนั่นหรอกนะ ท่านพี่เ้าคะเื่นี้…”
“ฟางฮูหยิน” เอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินบุตรสาวพูดออกมา นางหันไปมองฮูหยินรองและบุตรสาวที่นั่งงอตัวอยู่ที่เก้าอี้ นางเองก็มีบุตรสาวซึ่งแม้จะอายุน้อยกว่า “ฟางหลีม่าน” อยู่สองปีแต่ก็พ้นพิธีปักปิ่นมาแล้ว
“ฮูหยินเ้าคะ ท่านคงจะไม่คิดที่จะ…”
“ข้ายังไม่ทันได้พูดสิ่งใด "หลงเยี่ยน" เหตุใดเ้าจึงต้องรีบตีตนไปก่อนไข้"
“เฮ้อ...เอาเถอะพวกเ้าอย่าได้ถกเถียงกันให้มากเลยตราบใดที่ยังไม่มีราชโองการมาก็ยังมีเวลาให้หายใจหายคอ วันนี้ข้าก็แค่เรียกพวกเ้าทุกคนมาแจ้งให้รับรู้เท่านั้น แยกย้ายกันกลับไปเถอะ”
ห้องของหลีม่าน
“คุณหนูเ้าคะเหตุใดท่านจึงขันอาสาอยากจะแต่งงานกับอ๋องแม่ทัพที่โเี้ผู้นั้นเ้าคะ ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงที่น่ากลัวของเขามาก่อน อ๋องกระหายเื อ๋องมัจจุราชแห่งสนามรบ แล้วยังอ๋อง…”
“แต่ไม่ใช่กับข้า เ้าน่ะฟังแค่คำร่ำลือแล้วเอามาพูดเป็ตุเป็ตะ ข้าก็แค่อยากจะออกจากจวนแม่ทัพนี่เสียบ้าง เ้าไม่อยากรู้หรือว่าข้างนอกนั่นกว้างใหญ่น่าท่องเที่ยวมากขนาดไหน”
“คุณหนู หากว่าท่านแต่งงานออกไปแล้วท่านจะได้ท่องเที่ยวไปทั่วได้เช่นไรเ้าคะ แต่งไปแล้วก็ต้องเป็พระชายาท่านอ๋องที่สำคัญที่องค์ชายเก้าผู้นี้ถูกแต่งตั้งเป็อ๋องก็เพราะ….”
“เพราะว่าเขาเก่งเื่การทหารและไม่ชอบอยู่กับที่ อีกอย่างเขาก็ตามล้างแค้นให้กับพ่อบุญธรรมที่เคยเลี้ยงเขามา ข้ารู้แล้วน่าเ้าออกไปเถอะข้าอยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ สักหน่อย”
“คุณหนูวันนี้ท่านไม่ออกไปฟังละครหรือเ้าคะ เห็นว่ามีคณะละครมาใหม่”
“ไม่ล่ะ ๆ เื่นี้น่าตื่นเต้นกว่ากันเยอะเลยเ้าออกไปเถอะอย่ามากวนข้า”
“ก็ได้เ้าค่ะ”
“เจียวจู” สาวใช้ของฟางหลีม่านจำใจเดินออกมาเมื่อเกลี้ยกล่อมผู้เป็นายไม่สำเร็จ แต่นางเป็เพียงบ่าวที่รับใช้ที่เติบโตมาพร้อมกันดังนั้นไม่ว่าหลีม่านจะเลือกเส้นทางใด นางก็พร้อมจะติดตามผู้เป็นายไปทุกที่
“เป็อย่างไรเจียวจู คุณหนูของเ้าไม่ยอมหรือ”
“เรียนฮูหยิน ดูเหมือนว่าคุณหนูจะกระตือรือร้นจนไม่สนใจสิ่งใดเลยเ้าค่ะ ขนาดละครที่นางโปรดปรานยังไม่อยากจะไปดูเลยแล้วยังไล่ข้าออกมาจากห้องด้วยเ้าค่ะ”
“เฮ้อ…. ข้าจะทำเช่นไรดีนะ หากว่ามีราชโองการลงมาจริง ๆ คงไม่พ้นที่จะต้องส่งนางไปที่นั่น แม้ว่าจะอยากส่งหรูเอ๋อร์ไปแทน แต่นางขึ้นชื่อว่าเป็บุตรของฮูหยินรอง ศักดิ์ไม่เทียบเท่ากับม่านเอ๋อร์ ข้าจะทำเช่นไรดี”
ห้องของหลีม่าน
“อยู่ไหนนะข้าจำได้ว่าเอาเก็บไว้ตรงนี้ ไม่ใช่นี่ตำราแพทย์ นี่ก็ตำรากลยุทธ์ศึกของท่านปู่ นี่วิชายา อยู่ไหนล่ะหรือว่าเจียวจูจะเก็บไปแล้ว”
หลีม่านขลุกตัวอยู่แต่ในห้องตำราของตัวเองเพื่อหาบางอย่างั้แ่นางไล่สาวใช้ออกไป และเมื่อเดินมาถึงตู้เก็บตำราตู้ที่สาม ซึ่งนางเป็บุตรของแม่ทัพแม้ภายนอกจะดูไม่เอาไหน
“ฟางหลีม่าน” ชอบท่องเที่ยวและชอบความสนุกแต่น้อยคนนักที่จะทราบว่าสตรีในจวนอย่างนางมีสรรพวิชาทั้งด้านตำราและการแพทย์จากฝั่งท่านตา และความรู้เื่ศาสตราวุธ การขี่ม้ายิงธนูจากทางบิดาและท่านปู่ อีกทั้งยังเก่งเื่การเดินหมากเป็ที่สุด แม้ว่าเื่กาพย์ กลอน ดีดพิณหรือการวาดภาพนางจะไม่เอาไหนเลยก็ตาม
“เจอแล้ว!! ที่แท้ข้าก็เอาท่านมาแอบเอาไว้ตรงนี้นี่เอง”
นางหยิบม้วนภาพออกมาพร้อมกับปัดฝุ่นเพราะมันกองอยู่รวมกันกับแผนที่ภูมิศาสตร์ของแคว้นเฉินอานของนางซึ่งบัดนี้ปกครองโดยฮ่องเต้ “หยางซื่อจวิ่นหรง” เป็ระยะเวลาเกือบสิบปีนับั้แ่ศึกครั้งสุดท้ายกับลั่วข่านซึ่งครั้งนั้นท่านปู่และบิดาของนางก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
“ฝุ่นจับนิดหน่อย ไม่เป็ไรข้าจะค่อย ๆ ทำความสะอาดให้ท่านเอง”
ภาพวาดของแม่ทัพหนุ่มค่อย ๆ ถูกเปิดออกมาหลังจากที่ม้วนเก็บเอาไว้จนเก่า ใบหน้าที่เคร่งขรึมแต่ก็ยังดูน่าเกรงขามในชุดลำลองสีทองปักเลื่อมลายัผูกผมด้วยกวานสีทองอันเล็กในมือนางค่อย ๆ เผยออกมา หลีม่านบรรจงใช้นิ้วลูบไปทั่วแผ่นภาพนั้นเบา ๆ อย่างทะนุถนอม
“ไม่พบกันเสียนานเลยนะเ้าคะ พี่ห่าวหราน”
สิบปีก่อน
“เ้าแพ้แล้วอี้หลง ม้าตัวนี้เป็ของข้า”
“องค์ชายเก้าท่านขี้โกงนี่ หลอกให้ข้ามองไปที่อื่นส่วนท่านก็ยิงหมาป่า”
“ช่วยไม่ได้มันเป็กลยุทธ์นี่นา”
“เช่นนั้นก็ได้พ่ะย่ะค่ะ ม้าตัวนี้เป็ของท่านแล้ว”
ม้าสีขาวงดงามที่ใช้เป็เดิมพันขององค์ชายเก้า “หยางห่าวหราน” กับบุตรชายคนโตของแม่ทัพฟาง “ฟางอี้หลง” พี่ชายคนเดียวของฟางหลีม่านถูกจูงไปที่คอกม้าตามสัญญาหลังจากการแข่งขันล่าสัตว์ได้จบลง
“พี่ใหญ่ท่านแพ้อีกแล้วหรือเ้าคะ”
“หลีม่าน เ้าจะพูดเช่นนั้นได้เช่นไร วันนี้ข้าพลาดไปนิดหน่อยเอง วันหลังก็ชนะ”
“แพ้ก็คือแพ้ พี่ใหญ่ท่านยอมรับเถอะ”
“เ้า!! หน็อยแค่แพ้ครั้งเดียวถึงกับเยาะเย้ยข้า ข้าจะฟ้องท่านแม่ว่าเ้าแอบออกมาจากกระโจม”
“พี่ใหญ่ท่านใจร้ายเกินไปแล้วข้าก็แค่…”
“น้องสาวของเ้าหรืออี้หลง”
“องค์ชายเก้า ใช่แล้วนี่น้องสาวข้าเองนางชื่อว่า…”
“ฟางหลีม่านเพคะ ได้ยินชื่อเสียงขององค์ชายเก้ามานานวันนี้เลยอยากเห็นกับตาไม่น่าเชื่อว่าท่านจะเก่งกว่าพี่ใหญ่ของข้าจริง ๆ ท่านล่าหมาป่ามาได้ตั้งสองตัวแล้วยังมีกวางอีก”
“หยางห่าวหราน” คลี่ยิ้มออกมาเมื่อถูกเด็กน้อยในวัยเจ็ดขวบชื่นชม นั่นเป็รอยยิ้มที่ทำให้หลีม่านประทับใจและยังจดจำได้จนถึงตอนนี้ แม้ว่ามันจะเป็เวลาสั้น ๆ ก็ตามเพราะว่าหลังจากวันนั้น นางก็ไม่เคยเห็นองค์ชายเก้ายิ้มอีกเลย
“พระสนมหยางลี่เฟยถูกลอบปลงพระชนม์!!”
ข่าวนั้นถูกส่งไปยังจวนแม่ทัพ แม่ทัพฟางและพี่ใหญ่ของนางรีบเข้าวังไปทันที นางจำได้ว่าวันที่ฝังพระศพของพระสนมหยาง แม้ว่าองค์ชายเก้าในวัยสิบเจ็ดปีจะไม่มีแม้แต่น้ำตา แต่ใบหน้าที่อ่อนโยนเหมือนกับที่นางพบเขาที่ลานล่าสัตว์นั้นไม่มีให้เห็นอีกเลย
สองปีหลังจากนั้น
“องค์ชายเก้าชนะศึกเจียงหยางแล้ว”
“องค์ชายเก้าบุกตีเมืองเซี่ยเฉินสำเร็จแล้ว”
“ท่านอ๋องหยางยกทัพบุกอะเซ่อลี่เป่ย ฆ่าแม่ทัพได้สำเร็จแล้ว!!”
ข่าวที่องค์ชายเก้ายกทัพปราบศัตรูทั่วแคว้นเป็ที่โด่งดังจนฝ่าาประทานยศชินอ๋องและแม่ทัพสามดินแดนให้กับเขา ชื่อเสียงของ “หยางห่าวหราน” โด่งดังไปทั่วแคว้น
แม้แต่นักเล่านิทานและโรงละครยังต้องเขียนเป็เื่เล่าขานเพื่อสรรเสริญเขา จิตรกรชื่อดังก็ยังวาดภาพขององค์ชายเก้าออกมาซึ่งถือเป็ภาพที่ทำกำไรได้งดงามที่สุดใน่นั้น
“ไม่รู้ว่าเจ็ดปีที่ไม่ได้พบกัน ท่านจะเป็เช่นไรบ้างนะ พี่ห่าวหราน”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้