“ลูกยังมิได้คิดเลยขอรับ อยากจะรบกวนมารดาชี้แนะให้” หลี่ลั่วไม่ได้คิดและตัดสินใจไว้จริงๆ
หลี่หยางซื่อพูดพร้อมกับระบายรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า “เ้าไม่ได้เติบโตอยู่ในจวนั้แ่วัยเยาว์ ดังนั้นจึงยังมิได้เข้าสู่ผังสกุล วันนี้ฝ่าาทรงพระราชทานชื่อให้เ้า พรุ่งนี้เ้าจะต้องเข้าผังสกุลและไปทำพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษ เพียงแต่ว่าศาลเ้าบรรพชนของสกุลหลี่อยู่ที่จวนจงกั๋วกง หัวหน้าตระกูลคือพี่ชายคนละแม่ของท่านปู่เ้า ซึ่งก็เป็ท่านปู่ใหญ่ของเ้า และท่านย่าใหญ่ของเ้านั้นเป็ผู้ที่สวดมนต์เป็ประจำ สร้อยประคำเส้นนั้นมอบให้แก่นางเ้าคิดว่าดีหรือไม่?”
“ดีขอรับ” มันเหมาะสมดีแล้วจริงๆ มอบให้จงกั๋วกงฮูหยิน ต่อไปหากมีเื่ใดยังพอให้อาศัยไหว้วานได้บ้าง
สำหรับกำไลข้อมือนั้นหลี่หยางซื่อมิได้เอ่ยถึง หลี่ลั่วเองก็มิได้คิดจะมอบให้นางตอนนี้เช่นกัน สำหรับตั๋วเงินจำนวนแปดพันตำลึงนั้นหลี่ลั่วตั้งใจจะเก็บไว้เอง จึงยัดใส่ถุงเงินของตน
จี้หมัวมัวเห็นแล้วใจนสะดุ้ง ตั๋วเงินจำนวนแปดพันตำลึงนี้มิใช่ควรมอบให้ฮูหยินหรอกหรือ? คุณชายหกเก็บไว้เองจะปลอดภัยหรือไม่ นางมองไปที่หลี่หยางซื่อและกำลังจะเอ่ยปาก ทว่ากลับเห็นหลี่หยางซื่อมิได้เอ่ยอันใด นางจึงมิได้พูดอันใดออกมา
“สถานการณ์ในจวนโหวของพวกเรานั้นค่อนข้างซับซ้อน ถึงเวลาพบหน้ากัน แม่ค่อยแนะนำให้เ้าฟัง จี้หมัวมัวนั้นเ้ารู้จักแล้ว เพียงแต่ที่นี่คือเรือนชั้นนอก ในยามปกติแม่มาที่นี่บ่อยๆ มิได้ พ่อบ้านที่ดูแลเรือนชั้นนอกคือสามีของจี้หมัวมัว วันนี้ไปรับคนมาจากชนบท ก่อนอาหารเย็นคงจะพากันมาถึง อีกสักครู่เมื่อเขากลับมา ค่อยแนะนำให้เ้ารู้จัก” หลี่หยางซื่อพูดจบก็หันไปสั่งความกับจี้หมัวมัว
ในเวลาต่อมา จี้หมัวหมัวได้นำข้ารับใช้เข้ามาด้วยหลายคน
“เ้าเพิ่งจะมาถึง บ่าวรับใช้ในเรือนของเ้าแม่จึงตัดสินใจแทนเ้า” หลี่หยางซื่ออธิบาย “จี้หมัวมัว ท่านแนะนำให้คุณชายหกรู้จักสักหน่อย”
“ขอบคุณมารดาขอรับ ต้องลำบากจี้หมัวมัวแล้ว”
“คุณชายหกกล่าวเกรงใจเกินไปแล้วเ้าค่ะ” จี้หมัวมัวคัดเลือกสาวใช้ออกมาสี่คนก่อน “นี่คือเหนียนหง ซื้อตัว[1]เข้ามาในจวนั้แ่อายุสิบขวบ ปีนี้อายุสิบห้าปี ฝีมือเย็บปักถักร้อยของเหนียนหงนั้นดีที่สุดในจำนวนสาวใช้ทั้งหมดนี้ ต่อไปข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของคุณชายหก ยกให้เป็หน้าที่ของเหนียนหงรับผิดชอบไปนะเ้าคะ”
“เหนียนหงคารวะคุณชายหกเ้าค่ะ” เหนียนหงเป็หญิงสาวผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้านหน้าตางดงาม สาวใช้ที่ถูกจัดให้มาดูแลปรนนิบัติหลี่ลั่วนั้น แน่นอนว่ารูปร่างหน้าตาจะขี้ริ้วมิได้
“นี่คือหยวนโม่ เดิมทีเป็สาวใช้ในเรือนใหญ่ ได้เคยศึกษาเล่าเรียนหนังสือเป็เวลาหลายปีกับเรือนเดิม รู้จักตัวหนังสือไม่เลวทีเดียวเ้าค่ะ”
“หยวนโม่คารวะคุณชายหกเ้าค่ะ”
“ต่อไปให้หยวนโม่ดูแลห้องหนังสือเถิด” บ่าวรับใช้ในสมัยโบราณนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วแทบจะไม่รู้จักตัวหนังสือ มีบ่าวรู้จักตัวหนังสือคนหนึ่งก็ไม่เลว
“เ้าค่ะ”
“คนนี้คือลวี่ผิง ปีนี้อายุสิบห้าปีเช่นเดียวกันเ้าค่ะ” จี้หมัวมัวแนะนำหญิงรับใช้คนสุดท้าย “คนนี้คือผิงอันเ้าค่ะ เป็หลานสาวของบ่าวเอง ปีนี้อายุสิบสี่ปีเ้าค่ะ”
หลานสาวของหมัวมัวข้างกายหลี่หยางซื่อทำหน้าที่ดูแลหลี่ลั่ว ต่างฝ่ายต่างก็จะได้วางใจ เมื่อครั้งที่หลี่หยางซื่อแต่งให้หลี่ซวี่นั้น นางได้พาคนมาด้วยสี่ครอบครัว นอกจากครอบครัวของจี้หมัวมัวแล้ว ยังมีอีกสองครอบครัวที่นางส่งให้ไปดูแลเรือกสวนไร่นา ส่วนอีกครอบครัวหนึ่งอยู่เป็หูเป็ตาแทนนางในบ้านสกุลหลี่ ซึ่งได้ถูกนางขายทิ้งไปแล้ว จวนโหวเป็ขุนนางใหม่ที่เพิ่งจะได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เมื่อห้าปีก่อน เวลานี้นอกจากครอบครัวของจี้หมัวมัวแล้ว ก็ไม่มีลูกหลานของข้ารับใช้ครอบครัวใดอีก
“แม่ให้เ้ายืมตัวซินหมัวมัวกับพ่อบ้านจี้ พวกเขาเป็ครอบครัวที่เข้ามาพร้อมกับแม่ตอนที่แม่แต่งเข้ามา ซินหมัวมัวมีหลานชายคนหนึ่ง ปีนี้มีอายุสิบสองปี จะมาปรนนิบัติรับใช้เ้าด้วย” ขณะที่หลี่หยางซื่อคัดเลือกคนรับใช้นั้นก็คิดใคร่ครวญอย่างละเอียดรอบคอบ อย่างไรหลี่ลั่วกับพวกเขาก็ถือว่ามีเกียรติและหน้าตาร่วมกัน การเลือกข้ารับใช้จึงต้องมีความระมัดระวัง
หลี่ลั่วพยักหน้า “นอกจากหยวนโม่แล้ว พี่สาวอีกสามคนรู้จักตัวหนังสือหรือไม่?”
“บ่าวรู้หนังสือเ้าค่ะ” ผิงอันตอบ
เหนียนหงและลวี่ผิงส่ายหน้าทั้งคู่
“ถ้าเช่นนั้นพี่ผิงอันรับผิดชอบดูแลห้องทรัพย์สินส่วนตัวของข้าเถิด” หลี่ลั่วหันไปยิ้มให้กับผิงอัน “แต่มีข้อพึงระวังหนึ่งข้อ หากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ไม่ว่าจะเป็ผู้ใดก็ห้ามเ้าเปิดประตูห้องนี้”
“บ่าวทราบแล้วเ้าค่ะ” ผิงอันนั้นั้แ่เล็กได้ถูกจี้หมัวมัวและภรรยาของจี้ซิ่นอบรมสั่งสอนเลี้ยงดูมาอย่างดี ด้วยคิดว่าต่อไปอยากจะให้นางได้ออกเรือนไปกับคนดีๆ หากสามารถเป็สาวรับใช้รุ่นใหญ่ที่ทำหน้าที่ดูแลห้องทรัพย์สินส่วนตัวของโหวเหฺยได้ นี่ถือเป็เกียรติยิ่ง อีกอย่างโหวเหฺยนั้นยังเป็เด็กน้อย จึงตัดปัญหาเื่ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวลงได้
ข้ารับใช้คนอื่นๆ ที่ทำงานชั้นแรงงานต่างๆ ได้ทำการแจ้งชื่อและแบ่งงานกันไปตามความเหมาะสม
“มารดาขอรับ ข้าอยากจะซ่อมแซมตกแต่งที่นี่สักเล็กน้อย” หลี่ลั่วไม่ค่อยชอบการตกแต่งของเรือนหลังนี้ บ้านสกุลหลี่ในอดีตนั้นฐานะยากจน ตอนนี้เรือนหลังใหญ่ล้วนเป็ของเขา เขาย่อมอยากให้ตัวเองอยู่อย่างสุขกายสบายใจ
เื่นี้หลี่หยางซื่อไม่มีความเห็นใดๆ “เช่นนั้นเ้าก็ตกแต่งตามที่เ้าชมชอบ ถึงเวลานั้นก็แจ้งกับทางพ่อบ้านจี้เป็อันใช้ได้ ระหว่างนี้เ้าย้ายไปอยู่เรือนของพี่ชายเ้าเป็การชั่วคราวก่อน ครอบครัวของเราต่างต้องหวังพึ่งเ้าสองคนพี่น้องแล้ว”
“ขอบคุณมารดาขอรับ”
“ท่านแม่โปรดวางใจ ข้าจะดูแลน้องชายเป็อย่างดี”
ต่อมาหลี่หยางซื่อและหลี่หลินก็ออกจากเรือนไป หลี่หงนั้นที่จริงอยากจะอยู่พูดคุยกับน้องชายอีกสักหน่อย ทว่าก็เกรงว่าน้องชายจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง จึงได้แต่กลับเรือนของตนไปอย่างอาลัยอาวรณ์
ระหว่างทางที่เดินกลับเรือน หลี่หยางซื่อได้เอ่ยกับบุตรสาว “น้องหกของเ้าเพิ่งจะกลับมา แล้วยังให้ปิ่นปักผมสูงค่าเช่นนี้แก่เ้า เ้าอย่าลืมให้ของขวัญน้องหกเล่า” จดหมายมาถึงจวนวันนี้ พวกเขาจึงไม่มีเวลาสำหรับเตรียมของขวัญพบหน้า[2]
“ลูกทราบแล้วเ้าค่ะ ลูกตั้งใจไว้แล้วว่าจะปักถุงเงินให้น้องหกสักหลายๆ ใบ และตัดเสื้อผ้าให้สักหลายๆ ชุด”
“อืม” สำหรับฝีมือเย็บปักถักร้อยของบุตรสาวนั้น หลี่หยางซื่อพอใจมาก จากนั้นจึงหันมาพูดกับหลี่หง “เ้าตามข้ามา ยังมีอีกเื่ที่แม่ยังไม่ได้คุยกับเ้า”
[1] ซื้อตัว (买进) หมายถึง การซื้อตัวทาสในเรือน จะมีการทำสัญญาซื้อขายทาสในสมัยโบราณ
[2] ของขวัญพบหน้า (见面礼) คือ ธรรมเนียมการให้ของขวัญเมื่อพบหน้ากันครั้งแรก