หานิหันกลับไปมองเรือเหาะที่กำลังเคลื่อนเข้าหาเขาอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาเ็าไร้อารมณ์ใดๆ ก่อนจะชี้นิ้วไปยังทิศทางนั้น
ปลายนิ้วที่ชี้ออกไป ค่อยๆ สร้างลำแสงขึ้นรอบร่างกายของเขา ก่อนจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็ดาบแสงนับไม่ถ้วนที่ลอยวนรอบตัวของเขาในชั่วพริบตา
เสียงของดาบแหวกอากาศดังขึ้น
ฟิ่ว ฟิ่ว ฟิ่ว ฟิ่ว!
คลื่นดาบนับล้านเล่มพุ่งพรวดออกจากตัวหานิ กวาดล้างทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า เหล่าผู้คนบนเรือบินััได้ถึงพลังมหาศาลที่พุ่งเข้าหา พวกเขาตื่นตัวในทันที รีบรวมพลังเพื่อเตรียมโต้กลับ อู๋เวินที่ยืนอยู่บนเรือรบหน้าสุด มีสีหน้าเคร่งเครียดก่อนะโเสียงดัง
"รวมการโจมตีทั้งหมดเข้าด้วยกัน!! อย่าปล่อยให้มันทะลวงผ่านมาได้!!"
ทันใดนั้น ออร่าของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ระดับสูงสุดมากกว่าร้อยสาย พุ่งทะยานขึ้นฟ้าเป็พายุพลังิญญาที่แทบฉีกเมฆให้แตกกระจาย พลังธาตุนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยออกมา
ทั้งพลังไฟ ธาตุน้ำแข็งนิรันดร์ พายุสายฟ้า คมดาบิญญา กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ หอกสังหาร และคาถาเต๋าที่ซ้อนทับกันนับไม่ถ้วน สาดซัดเข้าใส่คลื่นดาบแสงของหานิด้วยพลังเต็มขั้น
แต่... เหตุการณ์กลับไม่เป็ไปตามคาด เพียงเสี้ยววินาที การโจมตีทั้งหมดกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่เหลือแม้แต่เศษพลังตกค้าง
อู๋เวินเบิกตากว้างทันที ก่อนเสียงะโของเขาจะดังไปทั่วท้องฟ้า
"ทุกคน หนีเดี๋ยวนี้!!"
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่บางส่วนที่ไหวตัวทัน รีบปลดปล่อยพลังหลบหนีออกจากเรือบินอย่างรวดเร็ว ร่างของพวกเขาพุ่งออกจากลำเรือด้วยความหวาดกลัว
แต่ผู้ที่บ่มเพาะต่ำกว่านั้น... ไม่มีแม้แต่โอกาสได้ยินเสียงคำเตือนใดๆ ของอู๋เวิน
ฟิ่ว ฟิ่ว ฟิ่ว ฟิ่ว ฟิ่ว!
ดาบแห่งแสงพุ่งทะลวงเข้ากลางท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว บดขยี้เรือบินทีละลำ แม้ว่าเรือบินเ่าั้จะมีม่านพลังป้องกันระดับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ แต่ดาบแห่งแสงของหานิก็แทงทะลุมันได้อย่างง่าย ก่อนเสียงะเิดังตามมา
ตูม! ตูม! ตูม!
เรือบินที่แผ่พลังข่มโลกเมื่อครู่ ะเิเป็เสี่ยงๆ อย่างไร้ค่า ผู้ที่หนีไม่ทันถูกบดขยี้จนไม่มีแม้แต่เถ้าถ่านให้ระลึกถึงจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งพยายามคว้าร่างของบุตรชายที่ยังยืนสับสนอยู่บนดาดฟ้าเรือ
"ลูกชาย! จับมือข้าไว้! ข้าจะพาเ้าหนี...."
ฉึก!
ดาบแห่งแสงเล่มหนึ่งพุ่งเจาะกลางหน้าผากเขา หัวของจักรพรรดิผู้นั้นะเิทันที เืและิญญาหายไปพร้อมกันในพริบตา
"ท่านพ่อ!!" เด็กหนุ่มะโสุดเสียง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าเข้าหา
ฉึก! ฉึก!
ร่างของเขาถูกฉีกออกเป็ชิ้นๆ กลางอากาศโดยดาบอีกสองเล่มที่ตัดขวาง เสียงกรีดร้องถูกกลืนหายไปกับเสียงลมพัดผ่าน
เย่หลินที่ยืนอยู่ไม่ไกล ดวงตาเบิกกว้างขึ้น ภาพตรงหน้าเหมือนฝันร้ายซ้อนทับอยู่กับความเป็จริง เขาไม่รู้จะพูดอะไรดี มือของเขาสั่น ร่างกายหนักอึ้ง หัวขาวโพลน เขาไม่สามารถคิดหรือรับรู้อะไรได้อีก
ในเวลาแค่การกะพริบตาครั้งเดียว... กองเรือบินที่แบกจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่มากกว่าหลายร้อยชีวิตกลับถูกทำลายทั้งหมดไม่มีแม้แต่แสงแห่งความหวังใดๆ หลงเหลืออยู่
เขาไม่รู้แล้วว่าสิ่งที่เห็นเป็ความจริงหรือความฝัน
หวังฟางเซียน ศิษย์คนโตแห่งยอดเขาไผ่์ จ้องมองชายตรงหน้าที่เกือบฆ่านางเมื่อครู่ไปแล้วแต่กลับไม่มีแม้แต่แววตาแห่งความตื่นตระหนกในดวงตาของนางแม้แต่น้อย
นางนึกย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนนางไม่เคยพูดคุยกับหานิเลยสักครั้ง ั้แ่วันที่เขาเหยียบเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะ จนถึงวันนี้ที่เขากลายเป็สิ่งที่เรียกว่าคน... ก็คงไม่ได้อีกแล้ว
ในสายตานาง เขาเคยเป็แค่คนธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น ดูเฉื่อยชา ไม่มีออร่า ไม่มีแรงดึงดูด ไม่มีเสน่ห์ ไม่มีแม้แต่ความน่าสนใจสักนิด แต่เพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น เขาก็วิ่งนำหน้านางไปแล้ว... และนางก็ต้องยอมรับในใจว่านางไม่มีทางแข็งแกร่งระดับหานิได้หากอยู่ในการบ่มเพาะระดับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
"ธรรมดาที่แสนพิเศษ..." นางพูดด้วยเสียงเรียบๆ ก่อนจะกัดริมฝีปากแน่นขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปที่หานิ
เหมยจิ้งหยา ศิษย์สายตรงลำดับที่สามแห่งยอดเขาไผ่์ก็จ้องมองหานิเช่นกัน นางไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย รู้จักเพียงแค่ชื่อเท่านั้น เื่ราวทั้งหมดเกี่ยวกับชายผู้นี้มาจากปากของหวังฟางเซียนล้วนๆ
“นี่เหรอ? คนที่พี่สาวบอกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ?” เสียงอันอ่อนหวานของซ่างกวนถิงถิงดังขึ้น
“ข้าว่าท่านคงตาบอดแล้วล่ะ”
เฟิ่งเอ๋อ... ที่ตอนนี้อยู่ในร่างเป็ด เกาะอยู่บนไหล่ของซ่างกวนถิงถิง เอียงหัวเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงใสๆ
“โอ้ คนนี้เองเหรอที่พี่สาวบอกว่าไม่มีอะไรพิเศษ หน้าตาก็ธรรมดา... แต่ทำไมถึงดูไม่เหมือนที่พี่สาวคนโตบอกมาเลยละ?”
ยังไม่ทันที่เสียงพูดหยอกเย้าจะจางหายไป ลำแสงประหลาดสายหนึ่งพุ่งตรงเข้าหาหัวของซ่างกวนถิงถิงอย่างรวดเร็ว รุนแรงจนแทบจะฉีกมิติออก
แต่ในชั่ววินาทีนั้นเอง ชายชุดดำผู้หนึ่งก็พุ่งเข้ามาป้องกันได้ทันเวลา พลังบางอย่างแผ่ซ่านออกจากร่างเขา พร้อมกับเสียงพูดต่ำๆ ที่แฝงไปด้วยความกดดัน
“ใจเย็นก่อนเ้าหนู... ถ้าคุณหนูของข้าเป็อะไรไป ผู้นำดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะของเ้าก็คงไม่…..”
ฉับ!
หัวของชายชุดดำนั้นขาดสะบั้น ก่อนที่คำพูดของจะจบ
หานิยืนอยู่ที่เดิม พร้อมออร่าแห่งความว่างเปล่าถูกปล่อยออกจากร่างอย่างไร้เสียง แต่แรงสั่นะเืกลับทำให้พื้นรอบข้างแตกร้าวเป็รอยคล้ายใยแมงมุม
เสียงของซ่างกวนถิงถิงสั่นเครือไปด้วยความหวาดกลัว
“คุณปู่!”
ขณะที่หัวของชายชุดดำร่วงหล่นลง ทว่าร่างกายของเขากลับไม่ยอมล้มตาม ก่อนที่มือซ้ายของชายชราเอื้อมลงมาจับหัวของตนเองไว้ พร้อมยกมันขึ้นช้าๆ แล้วประกบหัวกลับเข้าที่เดิมราวกับการโจมตีของหานิไม่สามารถทำอะไรเขาได้
เสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยรอยยิ้มอันบางเบาดังขึ้นจากร่างของชายชราที่ต่อหัวเสร็จแล้ว
“เหมือนว่าเ้าเอง... ก็ไม่ใช่คนจากโลกเบื้องล่างเหมือนกันสินะ”
ทันใดนั้น คลื่นพลังว่างเปล่าก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของชายชราเช่นกัน มันอาจไม่ทรงพลังเท่าหานิ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมองข้ามได้เด็ดขาด
หานิยังคงยืนนิ่งอยู่ ก่อนที่ชายชราจะเห็นบางอย่างที่แปลกตาเล็กน้อยเมื่อมองห่างออกไปจากด้านหลังของหานของเหลวสีแดงสดแตกกระจายออกบนอากาศ
อีกด้านหนึ่ง จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่บางคนที่รอดจากคลื่นดาบแสงของหานิ สีหน้าซีดเผือดจนไม่เหลือเค้าเดิมของความหยิ่งผยองในยามปกติ พวกเขาตกอยู่ในความมึนงงเพราะเป้าหมายของพวกเขากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะเพื่อทำการเสริมกำลัง โดยตระกูลอู๋พึ่งได้รับพันธมิตรเพิ่มเติมนั้นก็คือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ดอกไม้ะ หอการค้าหมื่นมหาสมุทร
ทันใดนั้น ใครบางคนก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“...นี่มัน... พลังของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่? เป็ไปไม่ได้... ไม่มีทางที่มันจะอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แน่นอน”
อู๋เวินที่ยังรอดอยู่เช่นกัน จ้องมองหานิอย่างเงียบงัน สายตาของเขายังคงเยือกเย็น และในตอนนั้นเอง เสียงภายในก็แทรกเข้ามาในหัวของเขา มันคือเสียงของซุยจื่อเมิ่ง
ในขณะเดียวกัน จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่บางคนที่หลบซ่อนอยู่ลึกกว่า เริ่มมองหานิด้วยสายตาแตกต่างออกไป พวกเขาไม่ได้หวาดกลัวอย่างเดียว หากแต่มีความโลภผุดขึ้นมาในหัวใจ
ถ้าพวกเขารู้... เคล็ดลับที่อยู่เื้ัพลังของหานิได้ล่ะ?
ถ้าพวกเขาแย่งมันมาได้ล่ะ? แค่คิด เส้นทางที่ปิดตายก็เหมือนจะเปิดขึ้นมา
"มันอาจจะ... เปลี่ยนทุกอย่าง..." หนึ่งในนั้นพึมพำกับตัวเอง แววตาเปล่งประกาย แต่ยังไม่ทันให้จินตนาการกลืนกินความเป็จริง ร่างของเขาก็สั่นไหวแปลกๆ
ทุกอย่างเริ่มบิดเบี้ยวเหมือนอากาศสั่นไหว เขามองไม่เห็นสิ่งรอบข้างชัดเจน ภาพตรงหน้าส่ายซ้ายขวาราวกับคนเมาสุรา
... ฉัวะ! ... ฉัวะ! ... ฉัวะ!... ฉัวะ!... ฉัวะ!... ฉัวะ!
ของเหลวสีแดงสดพุ่งทะลักออกจากร่างของเขา ก่อนที่เขาจะทันรู้ตัวว่ามันเกิดอะไรขึ้น แขน ขา ลำตัว ศีรษะ ถูกแยกออกจากกันอย่างเงียบงัน ไม่มีเสียง ไม่มีรูปร่าง ไม่มีสัญญาณเตือน เขาตาย... โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองโดนอะไร
และไม่ใช่แค่เขา จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อีกหลายคนที่อยู่บริเวณนั้น ร่างของพวกเขาถูกฉีกออกเป็ชิ้นๆ พร้อมกันโดยไม่รู้สาเหตุ ไม่มีใครได้ยินเสียงโจมตี ไม่มีคำเตือน ไม่มีอะไรเลย
หลังจากนั้นพวกเขาเพิ่งเข้าใจว่า... ตอนนี้พวกเขาตายไปแล้ว และมันสายเกินไปที่จะทำอะไร
ชายชราผู้มีพลังว่างเปล่าเมื่อครู่ มองไปยังหานิอีกครั้ง ดวงตาเริ่มไม่มั่นคงเหมือนเดิมแล้ว เขาไม่พูดอะไรอยู่พักใหญ่
“เ้าหนูคนนี้... อันตราย”
เขาคิดพลางสูดลมหายใจลึก แล้วพูดออกไปด้วยเสียงใจเย็น
“เอาอย่างนี้เถอะ เ้าหนู เรามานั่งคุยกันสัก...”
แต่คำพูดของชายชรายังไม่ทันจะจบ
แค่ก!
เขากระอักเืออกมาจากปาก พร้อมแขนข้างหนึ่งของเขาถูกตัดขาดกระเด็นไปกลางอากาศอย่างไร้เสียง ไม่มีแม้แต่คลื่นพลังเตือนล่วงหน้า
เสียงของซ่างกวนถิงถิงกรีดลั่น
“คุณปู่!! แขนของท่าน?!”
ชายชราก้มลงมองไหล่ตัวเองที่เหลือเพียงความว่างเปล่า ก่อนจะหัวเราะเบาๆ แววตาของเขายังคงไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย น้ำเสียงของเขายังคงสงบ
“ข้าไม่เป็ไร คุณหนู”