ป้าสองจ้าวแย่งเงินจากมือจ้าวเถียนเซิงกลับมา “ข้าผิดเองที่ให้เงินพวกเ้า! เ้ามันตัวซวย อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเ้าอยากได้เงินไปทำกระไร คิดจะเอาไปอุดรูให้บ้านจางของเ้าหรือ ฝันไปเถิด! ถุย สามีเ้าจ่ายให้กองกลางแค่เท่าไร จ่ายมาแค่สามตำลึง แต่เ้ากลับกล้าอยากได้สิบตำลึง หน้าเ้าอยู่ที่ใด? ข้าว่าสิ่งที่อยู่บนบ่าเ้าคือบั้นท้าย ไม่ใช่หน้า! คงมีแต่คนเช่นเ้าที่หาเื่ถูกด่าั้แ่เปิดปีใหม่”
จางซื่อที่หาเื่ถูกด่าั้แ่เปิดปีใหม่ “…”
แม้แต่ตำลึงเดียวก็ไม่ให้แล้ว?
นางแอบหยิกแขนจ้าวเถียนเซิง อยากให้เขาพูดกระไรเสียหน่อย
แต่นิสัยจ้าวเถียนเซิงเหมือนพ่อ เวลาเจอปัญหาเอาแต่หลีกเลี่ยง จะช่วยนางพูดได้อย่างไร
ที่สำคัญคือ ไม่ว่าจะให้เงินเขาหรือไม่ก็ไม่รู้สึกกระไร อย่างไรเสียก็แค่จับผ่านมือเท่านั้น กลับห้องแล้วถูกภรรยาริบไปอยู่ดี
“เหล่าต้า แม่ไม่ให้เงินเ้าแล้ว แต่จะเปลี่ยนเป็เสื้อผ้าสองชุดแทน จะได้ไม่เอาเงินไปแล้วตกไม่ถึงมือเ้า!” เห็นชัดว่าป้าสองจ้าวเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายตัวเองกับลูกสะใภ้เป็อย่างดี
“ได้ขอรับ แล้วแต่ท่านแม่เถิด” จ้าวเถียนเซิงตอบอู้อี้ จางซื่อแอบเตะขาเขาใต้โต๊ะด้วยความโมโห
“เหตุใดเ้าจึงเตะข้า?” จ้าวเถียนเซิงที่ไม่รู้จักตีความหมายเงยหน้ามองจางซื่อ จางซื่อเอามือปิดหน้า ชาติก่อนนางทำกรรมอันใดไว้ ถึงได้มาแต่งงานกับท่อนไม้!
“เ้าคนตัวซวย ถ้าไม่อยากอยู่ที่นี่ก็เชิญไสหัวกลับบ้านจาง ตอนนี้บ้านพวกข้ามีเงินแล้ว ข้าหาภรรยาใหม่ที่มีคุณธรรมพรั่งพร้อมและงดงามให้เหล่าต้าได้!” ป้าสองจ้าวไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน[1]
ถูกนางตะคอกใส่ จางซื่อไม่กล้าปริปากอีก
แม่ยายของนางคนนี้เป็คนที่กล้าพูดได้ทุกอย่าง
ถึงตาของจ้าวหงฮวาแล้ว แม้นางจะแอบเก็บเงินไว้ไม่น้อยแต่ก็หวังว่าท่านแม่จะให้ตัวเองมากหน่อย
เงินไม่กัด ยิ่งเยอะยิ่งดี
ไม่คาดคิดเลยว่าป้าสองจ้าวมองมาที่นางแล้วจะพูดว่า “ตอนที่เ้ามอบเงินมาข้าก็ให้เ้าเก็บไว้เองแล้วส่วนหนึ่ง วันนี้ข้าคงไม่ให้แล้ว ลูกสาวที่แต่งออกไปก็เหมือนน้ำที่สาด ปีนี้ถึงเวลาที่เ้าควรหาคู่แล้วเช่นกัน”
จ้าวหงฮวาโมโหกับคำพูดแม่ตัวเองจนเืกระจุกอยู่ในลำคอ อยากพูดกระไรหน่อยแต่ก็นึกถึงตัวอย่างก่อนหน้านี้ของจางซื่อ นางไม่กล้าหาเื่โดนด่า โดนด่าั้แ่วันแรกของปีจะไม่เป็มงคล
“ไว้ว่างจากการเก็บเกี่ยวแล้วพวกเราสร้างบ้านอิฐสักสามหลัง เหล่าต้าหนึ่งหลัง เหล่าเอ้อร์หนึ่งหลัง พวกข้าสองสามีภรรยาหนึ่งหลัง สร้างเสร็จแล้วจะได้หาภรรยาให้เหล่าเอ้อร์” ป้าสองจ้าววางแผน ทุกคนนอกจากจ้าวหงฮวาดีใจกันหมด จางซื่อดีใจเช่นกัน นางไม่คัดค้านที่จะได้อยู่บ้านอิฐอยู่แล้ว
จ้าวหงฮวาหลุบตาลง แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“เงินส่วนใหญ่ในบ้านเราหามาจากบ้านเจียง พวกเ้าจงจำไว้ว่าหากไม่มีบ้านเจียง ปีนี้พวกเราคงหาเงินได้แค่สองสามตำลึงเป็อย่างมาก รวมกับเงินเก็บแล้วก็แค่สิบกว่าตำลึง แม่ไม่ขอให้พวกเ้าฉลาดปราดเปรียว แต่ขอให้พวกเ้าจำให้ขึ้นใจ ว่าหากบ้านเจียงมีปัญหา ทุกคนต้องยืนอยู่ฝั่งบ้านเจียง ควรส่งข่าวก็ส่งข่าว ควรก้าวออกมาด่าก็ก้าวออกมาด่า ควรก้าวออกมาตีก็ก้าวออกมาตี บ้านเจียงจะไม่เอาเปรียบพวกเราเป็แน่ อย่าทำตัวเป็พวกสมองกลวง โดนพูดกรอกหูนิดๆ หน่อยๆ ก็เอนเอียงหรือคิดเป็ศัตรูกับบ้านเจียง พวกเ้าลองคิดให้ดีเถิด ั้แ่หวั่นชิวเข้าบ้านเจียง มีผู้ใดปองร้ายกับพวกเขาแล้วจบลงด้วยดีบ้าง? แม่มองว่าหลินหวั่นชิวกับเจียงหงหย่วนเป็คู่บุพเพสันนิวาสกัน แยกกันอยู่จะเคราะห์ร้าย แต่พออยู่ด้วยกันแล้วมีแต่โชคดี พวกเราไม่หวังอย่างอื่น หวังแค่ได้แบ่งโชคดีมาบ้างเป็พอ”
“วางใจเถิดท่านแม่! ข้าจะตั้งใจทำงานกับเจียงต้าเกอ หาเงินมาแล้วให้ท่านทั้งหมด!” จ้าวสุ่ยเซิงตบหน้าอกรับปากเป็คนแรก
จ้าวเถียนเซิงพูดตาม “ตามที่ท่านแม่ว่า”
จางซื่อเบะปากไม่สนใจ
เื่ในบ้านจ้าวเป็อันตกลงตามนี้ ใส่เสื้อผ้าใหม่ในวันปีใหม่แล้วกำเมล็ดแตงโมออกไปเดินเล่นในหมู่บ้าน
จ้าวหงฮวากับจางซื่อออกจากบ้านไล่หลังกัน จางซื่อไล่ตามจ้าวหงฮวาไป “หงฮวา ข้าเป็ลูกสะใภ้ ท่านแม่จะปฏิบัติกับข้าอย่างไรย่อมไม่เป็กระไร เพราะนางไม่ใช่แม่แท้ๆ ของข้าแต่ผิดกับเ้าที่เป็ลูกแท้ๆ นางยังไม่ยอมถอนขนสักเส้น[2] หากไม่รู้คงคิดว่าเ้าถูกเก็บมาเลี้ยงเป็แน่ ถุยๆ…ให้เหล่าเอ้อร์ตั้งสิบตำลึงแต่ไม่ให้พวกเราแม้แต่สตางค์แดงเดียว!”
เดิมทีจ้าวหงฮวาก็อารมณ์ไม่ดี สีหน้ายิ่งย่ำแย่ลงไปอีกเมื่อถูกจางซื่อเติมเชื้อเพลิงเช่นนี้
จางซื่อเห็นนางหน้าเปลี่ยนสีก็พูดอีกว่า “หงฮวา ข้าพอจะมองออกนะว่าต้าเกอของเ้ากับเ้าไม่ค่อยเป็ที่ชื่นชอบในบ้านจ้าว แม่เ้าลำเอียง วันหน้าคุยกับแม่สื่อก็อาจไม่หาคู่ครองดีๆ ให้เ้า ด้วยนิสัยของนาง บ้านใดให้สินสอดเยอะสุดก็คงยกเ้าให้บ้านนั้น ไม่สนว่าแต่งไปแล้วเ้าจะมีความสุขหรือไม่”
เมื่อนางพูดถึงตรงนี้ ดวงตาจ้าวหงฮวาแดงก่ำ
ก็ใช่น่ะสิ ในสายตาท่านแม่แล้ว นางเป็แค่สินค้าแลกเงินเท่านั้น
จางซื่อเห็นว่ากำลังไฟได้ที่แล้วก็พูดว่า “หงฮวา พี่สะใภ้มีเื่จะขอร้องเ้า หากเ้าช่วยจัดการ วันหน้าข้ากับต้าเกอจะยืนอยู่ฝั่งเ้า”
“ช่วยกระไร?” จ้าวหงฮวาถาม
“เื่ดอกไม้ลูกปัดนั่นแหละ ข้าได้ยินว่ากุ้ยเซียงกำลังหาคน เ้าช่วยคุยกับนางหน่อยเถิด ให้นางนับข้าเข้าไปด้วย”
“กระไรนะ?” จ้าวหงฮวาฟังไม่เข้าใจ นางหยุดเดินเพื่อมองจางซื่อ
จางซื่อตบมือดังฉาด “ไอ๊หยา…เ้ายังไม่รู้หรอกหรือ หวางกุ้ยเซียงกำลังหาสตรีในหมู่บ้านมาช่วยทำดอกไม้ลูกปัด ให้ค่าแรงดอกละหนึ่งอีแปะ”
“เหตุใดต้องหาหวางกุ้ยเซียง? ท่านควรไปหาหลินหวั่นชิวจึงจะถูก นางให้ดอกละสองสามอีแปะ” นางรู้สึกว่าหวางกุ้ยเซียงฉลาดแกมโกง คิดวิธีเช่นนี้ออกมาได้
แต่ว่า…ดอกละหนึ่งอีแปะ ร้อยดอกแค่ร้อยอีแปะ พันดอกก็แค่พันอีแปะ
นางลองคำนวณดู รอบนี้หลินหวั่นชิวให้ลูกปัดมาค่อนข้างมาก ไว้นางทำเสร็จหมดแล้วนำไปขายน่าจะได้หลายสิบตำลึง
แม้การขโมยวัสดุรอบนี้จะทำให้หลินหวั่นชิวไม่มอบวัสดุให้ตัวเองอีก แต่นางมีเงินทุนแล้วไม่จำเป็ต้องทำเอง
“ได้ ข้าจะไปคุยให้” จ้าวหงฮวารับปาก “หรือพวกเราจะไปบ้านหวางตอนนี้เลย”
แค่คุยกันไม่ใช่เื่ใหญ่ นางไม่เชื่อว่าหวางกุ้ยเซียงจะไม่ตอบตกลง
“ไอ๊หยา น้องสาวดีที่สุดเลย!” จางซื่อได้ยินจ้าวหงฮวารับปากก็ยิ้มกว้าง “ดูสิว่าน้องสาวเก่งกาจเพียงใด คนอื่นต้องแย่งชิงกัน แต่น้องสาวแค่ขยับปากนิดหน่อยก็ได้แล้ว”
จ้าวหงฮวายิ้ม นางชอบความรู้สึกที่ถูกคนชมมาก
ไม่นาน ทั้งคู่ก็มาถึงบ้านหวาง ที่นี่คึกคักมาก มีบรรดาฟู่เหริน เด็กและหญิงสาวในหมู่บ้านหลายคน
ภายในห้องจุดกระถางถ่าน บนโต๊ะมีผลไม้แห้งและเมล็ดแตงโมรับแขก ทุกคนพูดเยินยอหวางกุ้ยเซียงกับหลิวซื่อ
จ้าวหงฮวาเห็นแล้วไม่ค่อยสบอารมณ์
ได้ค่าแรงแค่ดอกละอีแปะ มีกระไรวิเศษเล่า พวกบ้านนอก!
เชิงอรรถ
[1] ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน(不是省油的灯) ใช้ในการเปรียบเปรยถึงคนเื่มาก มักสร้างความวุ่นวายให้ผู้อื่นเสมอ
[2] ไม่ยอมถอนขนสักเส้น(一毛不拔) หมายถึง ตระหนี่ถี่เหนียวมาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้