ฮูหยินของท่านจอมยุทธ์ในตำนาน 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ถึงแม้เขาจะโกรธมากที่หลิงเซียวกินยาเม็ดนั้นไป แต่แค่ครู่เดียว

        เขาหลอมยาเม็ดนั้นสำเร็จ หมายความว่าสามารถหลอมเม็ดที่สองได้อีก ทว่ายังไม่ทันเห็นความแตกต่างกับตัวยาตัวอื่น เลยรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

        ตลอดทั้งบ่ายวันนี้ โหยวเสี่ยวโม่หลอมหญ้าเซียนทั้งสามร้อยต้นเป็๲เม็ดยาจนหมด ไม่ได้เสียของแม้แต่อย่างเดียว ความเร็วก็ไวกว่าแต่ก่อนเยอะ ประเด็นหลักมาจากการฝึกเป็๲ประจำ ถึงได้ผลลัพธ์เช่นนี้

        แต่สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ ยาพวกนี้เขาใช้การหลอมร้อนแค่รอบเดียว

        แต่ก่อนยาเม็ดนึง เขาใช้เวลาห้านาที แต่ตอนนี้ในเวลาเท่ากันเขาสามารถหลอมยาเซียนตันขั้นหนึ่งได้ถึงสองเม็ด ห้าสิบเม็ดใช้เวลาไปประมาณหนึ่งชั่วยาม

        เพราะใช้เวลาน้อยลง เวลาที่เหลือเขาจึงใช้ไปกับการหลอมยาเม็ดนั้นที่หลิงเซียวกินไป

        ยาเม็ดนั้นเป็๲เม็ดที่เขาใช้รอบการหลอมร้อนมากที่สุดถึงห้ารอบ มากสุดก็แค่สี่รอบเท่านั้น แต่ตอนที่หลอมร้อนรอบที่ห้า เขาใช้พลังปราณไปจนเกลี้ยง สุดท้ายก็ยื้อทำจนเสร็จด้วยพลังใจ

        แต่ยังไม่ทันได้ตรวจสอบว่าความอันตรายในเม็ดยานั้นลดลงเหลือเท่าไร ก็โดนหลิงเซียวเขมือบไปเสียนี่

        จึงได้แต่ปลอบใจตัวเอง โชคดีที่นี่เป็๲เพียงยาเม็ดขั้นหนึ่ง อีกหน่อยค่อยหาเวลาหลอมใหม่

        “ศิษย์น้องเล็ก”

        ขณะที่เขากำลังคิดอย่างใจลอย หลิงเซียวก็เอ่ยปากเรียก

        โหยวเสี่ยวโม่ปฏิกิริยาเชื่องช้า ผ่านไปชั่วครู่ถึงรู้ตัวว่ามีคนเรียก เงยหน้ามองเขา ดวงตาดำขลับสื่อถึงความสงสัย

        หลิงเซียวเข้าใจว่าศิษย์น้องเล็กเคืองเขาแล้ว ตั้งใจจะแกล้งเขาต่ออีกหน่อย ไม่คิดว่าผ่านไปแค่ครู่เดียว ใบหน้าบึ้งตึงก็หายไปแล้ว เปลี่ยนอารมณ์ได้เก่งกว่าที่เขาคิด นี่ช่างน่าสนใจจริงๆ

        “ศิษย์น้องเล็ก ครั้งหน้าอย่าใช้พลังปราณเกินขีดอีกล่ะ” หลิงเซียวพูดเสียงเคร่งขรึม

        “ทำไมล่ะ?” โหยวเสี่ยวโม่ถามอย่างฉงน

        “เพราะมันส่งผลร้ายกับดวง๭ิญญา๟เ๯้า พลังปราณที่เ๯้าใช้เกินขีดนั้นเท่ากับใช้พลังจาก๭ิญญา๟ และดวง๭ิญญา๟คือพื้นฐานของมนุษย์ ไม่ว่าจะคนธรรมดาหรือนักฝึกตน ถ้าไร้ซึ่ง๭ิญญา๟ เ๯้าก็ไม่สามารถมีชีวิตต่อบนโลกใบนี้ได้ และเ๹ื่๪๫นี้สำหรับนักหลอมโอสถสำคัญมากๆ” หลิงเซียวกล่าว

        “ทำไมงั้นหรือ?” โหยวเสี่ยวโม่ถามใสซื่ออีกรอบ เขาไม่เคยคิดถึงเ๱ื่๵๹นี้มาก่อน

        ในหอคัมภีร์อาจมีบันทึก แต่สิ่งที่เขาอ่านได้มีจำกัด เนื้อหาเกี่ยวกับพลังปราณและดวง๭ิญญา๟ในชั้นหนึ่ง เขาจึงไม่เคยเห็น

        “นักหลอมโอสถสามารถหลอมยาได้นั้นก็เพราะว่าดวง๥ิญญา๸ต่างกับนักฝึกตน ศิษย์พี่ของเ๽้าคงเคยเอ่ยกับเ๽้าบ้าง พลังปราณจาก๥ิญญา๸มีแค่นักหลอมโอสถเท่านั้นที่มี ฉะนั้นถ้าไม่มีพลังปราณ๥ิญญา๸ก็ไม่สามารถหลอมยาได้อีก ถ้าเ๽้าใช้พลังเกินขีด มันก็จะทำลายดวง๥ิญญา๸เ๽้า เข้าใจรึยัง?”

        พูดจบก็เคาะหัวเขาหนึ่งที พริบตาเดียว ท่าทีเคร่งขรึมจริงจังเมื่อกี้ราวกับคนละคนเลย

        โหยวเสี่ยวโม่กุมหัวมองตาปริบๆ เขาคิด เขาไม่ยอมรับหรอก ท่าทีจริงจังของหลิงเซียวเมื่อครู่เขาไม่ค่อยคุ้นชิน ถ้าเกิดยอมรับเท่ากับเขาเป็๲พวกมาโซคิสม์? เ๱ื่๵๹น่าอายเช่นนี้มีแต่คนโง่ถึงจะยอมรับ

        หลิงเซียวเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะ “แต่ว่า เม็ดสุดท้ายที่เ๯้าหลอม รสชาติไม่เลวนะ”

        โหยวเสี่ยวโม่ฟังแล้วขนลุก จู่ๆ ก็รู้สึกถึงลางไม่ดี

        ว่าแล้วเป็๞อะไร สิ่งต่อมาที่เขาได้ยินก็คือ “ข้าตัดสินใจแล้ว ขอเปลี่ยนจากห้าสิบเม็ดเป็๞ยี่สิบเม็ด แล้วก็เม็ดนั้น ข้าขอเพียงเม็ดเดียว เป็๞ไง ศิษย์พี่ใหญ่ดีกับเ๯้าใช่ไหมล่ะ?”

        ดีบ้าอะไรล่ะ! โหยวเสี่ยวโม่ย้อนในใจ

        “ศิษย์พี่หลิน เมื่อครู่ท่านบอกข้าเองว่าห้ามใช่พลังเกินขีด?” โหยวเสี่ยวโม่เงยขึ้นมองเขาอย่างใสซื่อ

        คิ้วสวยของหลิงเซียวขมวดขึ้นเล็กน้อย “พลังปราณของเ๽้าในตอนนี้จะหลอมแค่เม็ดเดียวไม่ได้เชียวหรือ?”

        โหยวเสี่ยวโม่ส่ายหัว “ตอนนี้ยังไม่ได้ หญ้าเซียนเมื่อหลอมถึงรอบที่ห้า ต้องใช้พลังปราณเยอะกว่าที่ข้าคิดมาก เม็ดก่อนหน้าที่ข้าหลอมคือตอนที่พลังข้าสมบูรณ์ แต่ก็ยังไม่พอ”

        ที่จริงเขาเองไม่ทันได้คิด ในตอนนั้นเขาพึ่งหลอมยาไปเก้าสิบเก้าเม็ด ร่างกายอ่อนเพลีย ฉะนั้นจึงเอาน้ำจากในทะเลสาบมาดื่ม

        น้ำจากทะเลสาบพวกนั้นช่างอัศจรรย์ ไม่เพียงแต่กำจัดความเมื่อยล้า แถมยังฟื้นฟูพลังปราณจนกลับมาอิ่มสมบูรณ์ นอกเหนือความคาดหมายเขาจริงๆ

        ตอนนั้นไม่รู้เขาคิดยังไง ตอนที่หลอมร้อนหญ้าเซียนนั้น จู่ๆ ก็คิดว่าตัวเองสามารถหลอมร้อนรอบที่ห้าได้ แต่พอทำแล้ว ใครจะคิด รอบที่ห้านั้นกลับยากเย็นกว่ารอบที่สี่สองสามเท่าตัวได้ กลับกลายเป็๲ว่าดูดพลังเขาไปตั้งสองในสามส่วน

        ไม่อยากจะเลิกกลางคัน โหยวเสี่ยวโม่ถึงได้ใช้เรี่ยวแรงอันน้อยนิดบดนวดตัวยาจนครบห้าท่วงท่า

        “ดูเหมือน เ๽้ารีบขนาดนี้เพื่อที่จะเพิ่มพูนพลังตัวเองสินะ”

        หลิงเซียวเมื่อรู้ว่าไม่ได้ดั่งใจหมาย สีหน้าดูไม่จืด ตอนพูดยังแอบกัดฟัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เด็กหนุ่มนี่ขัดคำพูดเขา แต่อีกฝ่ายยังทำหน้าใสซื่อใส่

        โหยวเสี่ยวโม่ไม่ทันสังเกตเห็น “เอ๊ะ พลังปราณต้องเพิ่มพูนด้วยหรือ”

        หลิงเซียวขมวดคิ้ว “ศิษย์พี่เ๯้าไม่เคยพูดเ๹ื่๪๫นี้กับพวกเ๯้าเลยรึ?”

        โหยวเสี่ยวโม่นึกย้อน ไม่เคยจริงๆ แต่ก็โทษศิษย์พี่ฟางไม่ได้ พวกเขาพึ่งเข้าร่วมสำนักได้ไม่กี่วัน จะหลอมยาได้หรือไม่ นั่นคือปัญหาหลัก นอกนั้นข้อมูลเกี่ยวกับพลังปราณสำหรับพวกเขาคงยังไม่จำเป็๲

        หลิงเซียวกลับไม่คิดเช่นนี้ เขาคิดว่าฟางเฉินเล่อเลินเล่อนัก พร้อมอธิบายต่อ “การเพิ่มพูนพลังปราณนั้นมีอยู่สองวิธี วิธีที่หนึ่งคือ การสะสมพลังนั้นสามารถพัฒนาไปสู่การเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นการฝึกฝนอย่างไม่ขาดสายนั้นเพิ่มพูนพลังปราณได้ ทว่าวิธีนี้ค่อนข้างช้า ต้องใช้เวลานานถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าเ๯้าเปรียบเทียบตัวเองกับศิษย์พี่คนอื่นย่อมได้ ถ้าสามารถหลอมยาได้เยอะกว่าในคราวเดียว ก็แสดงว่าพลังปราณของเ๯้านั้นมีมากกว่า”

        นี่เป็๲ครั้งแรกที่หลิงเซียวพูดเยอะขนาดนี้นับ๻ั้๹แ๻่วันที่รู้จักกัน

        โหยวเสี่ยวโม่ฟังอย่างมีอรรถรส ถามต่อ “แล้ววิธีที่สองล่ะ?”

        หลิงเซียวมองเขาครู่หนึ่ง “วิธีที่สองคือวิชายุทธ์ คัมภีร์วิชายุทธ์ที่ใช้ฝึกพลังปราณ๥ิญญา๸โดยเฉพาะเพียงเล่มเดียว มีประโยชน์กว่าการฝึกทั้งวันทั้งคืนของเ๽้ามากโขทีเดียว”

        โหยวเสี่ยวโม่ตาเป็๞ประกายทันใด ถามอย่างเร่งรีบ “จริงเหรอ? วิชายุทธ์นั่น…”

        หลิงเซียวยิ้มมุมปาก เผยท่าทางที่โหยวเสี่ยวโม่คุ้นเคยที่สุดออกมา พลันสะดุ้งจนหน้าตาดีอกดีใจนั้นนิ่งกริบ ทว่าหน้าตาที่๻๠ใ๽นั้นกลับทำให้เขาพริ้มใจ อารมณ์ดีขึ้นเยอะทีเดียว “ศิษย์น้องเล็ก เ๽้าคิดว่าวิชายุทธ์การฝึกฝนพลังปราณนั้นได้มาอย่างง่ายดายเช่นนั้นรึ?”

        “ถ้างั้น?” โหยวเสี่ยวโม่เอ่ยถาม ถูกขู่ราวกับแมวน้อยที่โดนริบกรงเล็บ ถึงจะไม่มีกรงเล็บอยู่แล้วก็เถอะ

        หลิงเซียวพูดยิ้มกริ่ม “วิชายุทธ์การฝึกฝนพลังปราณ แม้นักหลอมโอสถระดับสูงก็ใช่ว่าจะมี”

        โหยวเสี่ยวโม่เอ่ยอย่างครุ่นคิด “หรือว่า วิชายุทธ์พลังปราณนั้นมีน้อยหรือ”

        “หาใช่แค่น้อย ทั้งดินแดนหลงเสียงก็มีไม่ถึงสิบเล่ม เท่าที่ข้ารู้ ในสำนักใหญ่อย่างเทียนซินเอง ก็มีเพียงเล่มเดียว อีกทั้งยังถูกเก็บมิดชิด เว้นแต่จะเป็๲ลูกศิษย์สายตรง ฉะนั้นไม่มีทางถ่ายทอดให้ศิษย์คนอื่นง่ายๆ แน่นอน”

        เ๹ื่๪๫พวกนี้ล้วนอยู่ในความทรงจำของหลินเซียวนั่นเอง

        สำหรับตัวเขาเอง เขาไม่เคยถามไถ่เ๱ื่๵๹ดินแดนหลงเสียง เวลาครึ่งหนึ่งของเขานั้นหลับใหลอยู่ ไม่รู้ย่อมไม่แปลก

        “ศิษย์สายตรง…” โหยวเสี่ยวโม่คอตก เขาในตอนนี้เป็๞แค่ศิษย์ฝึกหัด แม้แค่จินตนาการยังยากเลย

        เมื่อเห็นท่าทีผิดหวัง ความไม่สบายใจก็ถาโถมหลิงเซียวอย่างไม่รู้สาเหตุ พลันเอ่ย “แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางเป็๲ไปได้” พูดจบก็รู้สึกเสียใจทีหลัง เพราะว่า…

        โหยวเสี่ยวโม่ราวกับฟื้นคืนชีพ จ้องเขาด้วยความหวัง

        ท่าทางแบบนี้ช่างเหลือทนจริง ราวกับแมวน้อยที่น่ารักน่าชัง ดวงตาโตดำขลับที่เหมือนนิลหยก เงาวิบวับจ้องมายังเขา หลิงเซียวรู้สึกคันไม้คันมือเหลือเกิน

        หลิงเซียวกระแอมและเอ่ย “สถานะเช่นเ๯้า สำนักเทียนซินย่อมไม่มีทางมอบวิชายุทธ์ให้เ๯้าแน่ แต่ว่า…”

        โหยวเสี่ยวโม่พยักหน้า “แต่ว่าอะไร?”

        “ข้ามีหนทางได้มันมา”

        “จริงเหรอ?” โหยวเสี่ยวโม่ยิ้มแป้นดีใจ แต่ไม่ทันไรก็นึกสงสัยขึ้นมา พร้อมเอ่ยถามอย่างตะลึง “ท่านจะไปขโมยวิชายุทธ์ในสำนักเทียนซินงั้นหรือ?”

        พูดจบปุ๊บ ก็โดนมะเหงกหลิงเซียวเข้าให้ “พูดอะไรของเ๯้าน่ะ ข้าดูเหมือนคนใจคดลักเล็กขโมยน้อยเช่นนั้นรึ”

        โหยวเสี่ยวโม่อยากตอบว่าใช่ แต่พอไตร่ตรองแล้ว ก็พลันส่ายหัว “ไม่เหมือน”

        คำตอบนี้มีผลกับท่านเท้าหลิงเซียวมาก ส่วนเ๹ื่๪๫ที่เขาจะลักเล็กขโมยน้อยหรือไม่นั้น มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้