จุนห่าวได้น้ำเต้าไม้แล้ว และรู้จากอาวุธวิเศษเสี่ยวไป๋ว่าน้ำเต้านี้คืออาวุธเซียน ซึ่งอาวุธเซียนนี้เรียกว่า ‘เทศะรุกขเทพจื่อถง’
เทศะรุกขเทพจื่อถง คือเทศะ [1] บ่มเพาะของนักกลั่นอาวุธผู้หนึ่งในแดนเซียนที่กลั่นให้กับคนรักที่ร่วมบำเพ็ญเพียรด้วยกันมาของเขา เทศะแห่งนี้ใช้เืจำนวนมากของนักกลั่นอาวุธ แต่หลังจากกลั่นออกมาได้สำเร็จ ขนาดของพื้นที่กลับมีเพียงแค่สิบหมู่ [2] อีกทั้งยังไม่มีคุณสมบัติในการเร่งความเร็วในการเพาะปลูก และหญ้าเซียนวิเศษที่ปลูกภายในเทศะแห่งนี้ก็เหมือนกันกับโลกภายนอก นักกลั่นอาวุธคิดว่า ถึงแม้เทศะแห่งนี้จะเป็อาวุธเซียน แต่ก็ไม่ได้ผลตามที่คาดการณ์ไว้ เขาจึงโยนมันทิ้งจนภายในของเทศะแตกร้าว และถูกแบ่งแยกออกเป็สองส่วน ครึ่งหนึ่งตกไปที่สุ่ยหลานซิงที่จุนห่าวอยู่ อีกครึ่งหนึ่งตกไปที่แผ่นดินชางหลาน
เสือขาวเสี่ยวไป๋เกิดในเผ่าเสือขาว ณ แดนเซียน แม้ว่าเสี่ยวไป๋จะมีอายุ 500 ปีแล้ว แต่สำหรับเผ่าเสือขาว ถ้ามีอายุ 2000 ปี ถึงจะถือว่าเป็ผู้ใหญ่ เสี่ยวไป๋จึงยังเป็เด็กอยู่ เพราะเสี่ยวไป๋ติดเล่น และออกไปวิ่งเล่นนอกเขตเผ่าจึงถูกฆ่า หลังจากที่เสี่ยวไป๋ตาย นักกลั่นอาวุธได้จับดวงิญญาของเสี่ยวไป๋ ใช้กลั่นเป็อาวุธวิเศษจึงกลายเป็...เทศะรุกขเทพจื่อถง
แม้ว่าเทศะรุกขเทพจื่อถงจะถูกนักกลั่นอาวุธทอดทิ้ง แต่สำหรับจุนห่าวแล้ว ถือเป็สมบัติล้ำค่าที่หายากยิ่ง บนแผ่นดินชางหลาน อาวุธของผู้ฝึกปราณล้วนเป็อาวุธระดับต้น ไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดใช้อาวุธเซียนมาก่อน
หลังจากที่เสี่ยวไป๋ให้ข้อมูลสั้น ๆ กับจุนห่าวเกี่ยวกับประวัติความเป็มาของเทศะแล้ว ก็พูดกับจุนห่าวว่า “จุนห่าว เราเข้าไปในเทศะกันเถอะ ในเทศะยังมีของที่นักกลั่นอาวุธทิ้งไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งล้วนแต่เป็ของจากแดนเซียน หญ้าต้นหนึ่งในแดนเซียนสำหรับเ้าก็ถือว่าเป็สมบัติล้ำค่าแล้ว”
“ข้าเข้าไปได้เหรอ” จุนห่าวถามขึ้น จากความทรงจำของร่างเดิมรับรู้ได้ว่าบนแผ่นดินชางหลานเป็ดินแดนเก็บสะสมอาวุธ แต่มีน้อยมาก อย่างตระกูลจุนที่ยิ่งใหญ่ มีเพียงท่านปู่ของร่างเดิมที่มีกระสอบเก็บสะสมอาวุธ และเก็บได้แต่อาวุธที่ตายแล้วเท่านั้น ไม่อาจเก็บอาวุธที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เลย
“แน่นอน ก็เ้าเป็เ้าของเทศะ ซึ่งเป็คนควบคุมเทศะแห่งนี้ เมื่อไหร่ที่เ้าอยากเข้าไป ก็เข้าไปได้” เสี่ยวไป๋พูดขึ้น “เ้านี่บ้านนอกเสียจริง” เสี่ยวไป๋เยาะเย้ยอีกครั้ง
“ถ้าเทียบกับเ้า ข้าก็บ้านนอกจริงๆ แหละ” จุนห่าวยักไหล่พลางพูดอย่างเรียบเฉย
พอจุนห่าวพูดจบ ิญญาของเขาก็ทะลุเข้าไปในเทศะ หลังจากที่เข้าไปในเทศะแล้ว จุนห่าวรู้สึกอัศจรรย์มาก เมื่อวานนี้เขากำลังต่อสู้ในสนามรบ วันนี้กลับได้เข้ามาในดินแดนที่อัศจรรย์เช่นนี้ หลังทะลุเทศะเข้ามา เขาได้เห็นเสือขาวน้อยอยู่ตรงหน้าเขา ิญญาของเสี่ยวไป๋นั้นมีความแข็งกระด้างเหมือนกับร่างกายของมัน แต่หน้าตาของเสี่ยวไป๋กลับเหมือนแมวและน่ารักมาก
หลังจากมองดูรูปร่างหน้าตาที่น่ารักของเสี่ยวไป๋ จุนห่าวพูดพลางยิ้มกริ่มว่า “สวัสดีเสี่ยวไป๋ ข้าคือจุนห่าว เ้าช่างน่ารักเสียจริง ไม่เหมือนเสือแม้แต่น้อย เหมือนแมวซะมากกว่า”
“ข้าคือเสือขาว...คือเสือขาว!” เสี่ยวไป๋พูดพร้อมคำราม
“เ้าเบิกตาดูให้ดี ๆ ข้าคือเสือขาว...ไม่ใช่แมว!”
“ข้าแค่ล้อเ้าเล่น” จุนห่าวไม่อยากให้เสี่ยวไป๋หงุดหงิดอีก เพราะเขายังมีคำถามที่อยากจะถามเสี่ยวไป๋
สำหรับเทศะรุกขเทพจื่อถง จุนห่าวยังมีข้อสงสัยอีกมาก ดังนั้นจุนห่าวจึงเลือกถามเื่สำคัญก่อน “เสี่ยวไป๋ ที่ข้ามาที่นี้ได้ เพราะเ้าช่วยใช่ไหม”
เสี่ยวไป๋ตอบ “ใช่สิ ตอนที่เืของเ้าไหลเข้าไปในน้ำเต้าครึ่งส่วนนั้น ข้าได้ดูดเืของเ้ามามากพอจนตื่นขึ้นมา และเป็โชคดีของเ้า ที่ข้าแค่หลับไปในน้ำเต้า พอข้าตื่นขึ้นมา ก็พบว่าร่างกายของเ้าได้ตายไปแล้ว ข้าจึงพาิญญาของเ้าข้ามเวลามาพบอีกครึ่งหนึ่งของเทศะรุกขเทพจื่อถงที่นี่ จะว่าไปช่างบัญเอิญยิ่งนัก ิญญาในอีกครึ่งส่วนของเทศะกำลังถูกทำลายพอดิบพอดี เป็แสงสว่างให้เ้าพอดีเลย อีกอย่างข้าก็ไม่ต้องเปลืองแรงไปหาร่างใหม่ให้เ้าอยู่ด้วย
หลังจากฟังเสี่ยวไป๋จบ จุนห่าวกล่าวต่อจากเสี่ยวไป๋ว่า “ขอบคุณเ้ามาก เสี่ยวไป๋ หากไม่มีเ้า...ก็คงไม่มีข้าในตอนนี้” เมื่อเห็นจุนห่าวขอบคุณด้วยความจริงใจเช่นนี้ เสี่ยวไป๋รู้สึกเขินเล็กน้อย “ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ตอนนั้นเ้าก็ถือว่าเป็นายข้าแล้ว ถ้าไม่ช่วยเ้า ข้าก็มีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้เหมือนกัน เราทั้งคู่ไม่มีใครทิ้งใครได้ จะตายก็ต้องตายด้วยกัน”
เสี่ยวไป๋กล่าวต่อว่า “เมื่อกี้ข้าเห็นเ้าหยดเืลงบนน้ำเต้าที่สมบูรณ์ ช่างน่าขันยิ่งนัก แต่เพื่อไม่ให้เ้าผิดหวัง ข้าก็เลยดูดเืเ้ามาบางส่วน เล่นเป็เพื่อนเ้าซะหน่อย”
จุนห่าวพูดอย่างไม่เข้าใจ “หมายความว่ายังไง? ” จุนห่าวฉุกคิดได้ว่า เขาได้ทำสิ่งโง่เง่าซะแล้ว
“หมายความว่า ตอนที่อยู่สุ่ยหลานซิง ข้ากับเ้าได้ทำสัญญาิญญากันแล้ว พอเจอน้ำเต้าอีกครึ่งส่วนก็ผสานรวมกันได้ทันที ไม่จำเป็ต้องหยดโลหิตแล้ว เ้ายังซื่อบื้อมาหยดโลหิตแสดงความเป็เ้าของอีก เ้านี่โง่เง่าเสียจริง” เสี่ยวไป๋ยิ้มกริ่ม “ข้าเลยให้ความร่วมมือทำเป็ดูดโลหิตเ้าจนหมด และก็ทะลุเข้าไปในจิตใต้สำนึกของเ้า เพื่อสร้างภาพปาฏิหาริย์ให้กับเ้าไงล่ะ”
จุนห่าว: ...... ฟังเสี่ยวไป๋พูด ก็รู้สึกว่าตัวเองโง่เง่าจริงๆ แหละ จุนห่าวลูบจมูกพลางพูดว่า “เสี่ยวไป๋ เ้าพาข้าไปเดินดูรอบๆ เทศะนี้เถอะ” จุนห่าวเปลี่ยนเื่ เพราะเขาไม่อยากจะคิดถึงเื่หยดโลหิตอะไรนั่นแล้ว
“เทศะแห่งนี้มีดินสีแดงสิบหมู่ ดินสีแดงนี้ใช้บ่มเพาะพืชิญญาโดยเฉพาะ ตรงกลางมีบ่อโอสถที่ใช้รดน้ำพืชิญญา ช่วยเร่งพืชิญญาให้โตเร็วขึ้นได้” เสี่ยวไป๋กล่าว “บ่อโอสถนี้กำหนดให้ใช้ได้เฉพาะพืชิญญาเท่านั้น ใช้กับคนไม่เป็ผล” จุนห่าวแอบคิดอยู่พอดีว่าเขาจะใช้มันได้ไหม เสี่ยวไป๋ดันพูดดักขึ้นมาเสียก่อน
เสี่ยวไป๋พาจุนห่าวเข้าไปในจวนไม้ไผ่แห่งเดียวในเทศะ จวนไม้ไผ่นี้ แม้ภายนอกจะดูไม่ใหญ่ ทว่าด้านในเหมือนเป็โลกอีกใบหนึ่ง ข้างในมีห้องนอน ห้องหนังสือและห้องปรุงยา ในห้องนอนนั้นว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย ห้องหนังสือก็มีแต่หนังสือวางเต็มไปหมด ส่วนห้องปรุงยาก็มียาวิเศษจำนวนหนึ่ง
[1] เทศะ คือ ห้วงหรือสถานที่
[2] หมู่ คือ ไร่จีน หรือหน่วยวัดพื้นที่ของจีน 1 หมู่ เท่ากับ 666.67 ตารางเมตร