บทที่ 36 บรรเทาิญญาอัปมงคล และสถานที่สืบทอดหงส์ะเก้าสี
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่อาจทราบได้ ในที่สุดความรู้สึกไร้น้ำหนักอันรุนแรงก็จางหายไป แต่เท้าของพวกเขาก็ยังคงลอยเคว้งคว้างกลางอากาศ ไม่ได้ััพื้นดิน และในที่สุดหลี่โม่ก็ฟื้นคืนสติ
เขาััได้ทันทีว่าด้านหลังของตนคือเมฆหมอกเจ็ดสีเรืองรอง เมฆหมอกประหลาดนี้เองที่ช่วยปกป้องพวกเขาไม่ให้ได้รับอันตราย แสงเรืองรองเหล่านี้ล้วนแผ่ออกมาจากรอยแยกของประตูหินที่อยู่ไม่ไกล
“ขอบคุณนะ ปล่อยได้แล้ว”
เสียงเ็าแ่เบาดังขึ้นข้างหูเขา
“เอ่อ…”
หลี่โม่ยังไม่ทันได้สติกลับมาในทันที ใบหน้าอันงดงามไร้ที่ติของนางอยู่ใกล้จนเขาััได้ถึงลมหายใจอันอบอุ่น ด้วยเพราะเขาโอบกอดนางไว้แน่นเกินไป เขาจึงััได้ถึงการเต้นของหัวใจจากยัยก้อนน้ำแข็งผ่านอาภรณ์
เป็ที่รู้กันดีว่าเมื่อคนเราตกน้ำหรือตกลงมาจากที่สูง จะมีการจับยึดสิ่งใดก็ตามที่คว้าได้ไว้โดยไม่รู้ตัว ในตอนนี้เสี่ยวหลี่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย และคิดว่าตนเองคงกังวลเกินไปจนทำเื่ที่ไม่จำเป็เข้าแล้ว
หลี่โม่ไอเบา ๆ ผละจากนาง ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ที่นี่ที่ไหนกัน? ใต้ชิงเยวียนมีสถานที่แบบนี้ด้วยหรือ?”
เขาทำทีสำรวจสิ่งรอบตัว
“เ้าให้ข้ามาที่วังจันทรา ก็เพื่อจะพาข้ามาที่นี่หรือ?”
“อืม”
อิ๋งปิงพยักหน้า ไม่ได้อธิบายความอันใดมากนัก
“เ้ารู้จักที่นี่ได้อย่างไร?”
หลี่โม่เอ่ยถามอย่างส่ง ๆ เพราะเมื่อคนเราอึดอัด ก็มักจะพูดมาก
อิ๋งปิงทอดสายตาลงพลางกล่าวอย่างเรียบเฉย
“ข้าเคยมาที่นี่ในความฝัน”
หากมองว่าเื่ราวที่เกิดขึ้นในชาติก่อนเป็เพียงความฝัน การกล่าวเช่นนี้ก็ย่อมไม่ผิด หลังจากที่นางกลับมาเกิดใหม่ แม้หลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนไป แต่โชคดีที่การเรียกหานางจากที่นี่ไม่เคยหายไปเลย ผู้อื่นแม้จะมีถึงร้อยชีวิต ะโลงมาจากวังจันทรา ก็ย่อมไม่อาจมายังสถานที่สืบทอดซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาชิงเยวียนแห่งนี้ได้ แม้จะมาถึงได้ ก็ไม่อาจเข้าไปยังส่วนลึกของการสืบทอดได้อย่างราบรื่น ทำได้เพียงติดอยู่กับแสงเรืองรองนั้นจนตาย
“ไปกันเถอะ”
อิ๋งปิงเผลอวางมือลงบนเอว แต่ก็พบว่าว่างเปล่า
“ใช้ของข้าสิ”
สิ้นเสียง ในมือของนางพลันปรากฏกระบี่ชิงกังที่ดูธรรมดายิ่งนัก มันมีรอยบิ่นเล็กน้อยเพียงขนาดเท่าเม็ดข้าวสาร ดูท่าทาง หลี่โม่คงจะมาถึงวังจันทราได้ไม่ง่ายดายนักอย่างที่กล่าวไว้กระมัง?
อิ๋งปิงเก็บความคิดในใจลง พยักหน้าเล็กน้อย แล้วถือกระบี่เดินนำไป
หลี่โม่เดินตามไปข้าง ๆ อย่างระมัดระวัง เขาคิดในใจว่า ในเมื่อเป็สถานที่สืบทอด ก็อาจจะมีบททดสอบบางอย่างด้วยหรือเปล่า?
ความคิดเพิ่งจะผุดขึ้นมา ทันใดนั้น
อู๋—— เสียงลมพัดหวีดหวิว
สายลมเย็นะเืพัดกรูเข้ามา ทำให้จิติญญาส่วนลึกรู้สึกหนาวสะท้านเป็ระลอก
“ลงมา… อยู่เป็เพื่อนข้า….”
“ทำไมพวกเ้าถึงยังรอดชีวิต!”
“วาสนา… วาสนาอันยิ่งใหญ่… เ้าพาข้าเข้าไปด้วยสิ…”
เสียงพึมพำที่ทับซ้อนกันลอยมาตามสายลม
“ระวัง…อย่าห่างจากข้ามากนัก”
เสียงใสเย็นของอิ๋งปิงดังขึ้น
“พวกนี้คืออะไร?”
หลี่โม่อาศัยแสงจากสะพานเรืองรอง สอดส่องมองไปรอบ ๆ พบว่าเมฆหมอกสีดำมืดเคลื่อนไหว มีใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเ็ปปรากฏขึ้นแวบไปมาเป็ระยะ ๆ ถ้าเป็เมื่อก่อน อิ๋งปิงคงี้เีอธิบาย แต่วันนี้นางกลับช่วยไขข้อสงสัยให้เขา
“ผู้ฝึกยุทธ์เมื่อก้าวถึงขอบเขตปราณญาณเทพ จะสามารถเฝ้าสังเกตภูผา ลำน้ำ สุริยัน จันทรา พืชพรรณประหลาด อสูรร้ายนานา หรือแม้แต่ปรากฏการณ์อันมหัศจรรย์ของ์และโลก เพื่อฝึกฝนจิติญญา เมื่อสำเร็จขั้นปราณญาณเทพแตกฉาน ก็จะสามารถแยกจิตออกจากร่าง และใช้จิตควบคุมสรรพสิ่งได้”
“ดังนั้น หากมีผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในระดับปราณญาณเทพขึ้นไปเสียชีวิตลง โดยยังมีความยึดติดในใจ และจิติญญาส่วนหนึ่งมิได้ดับสลาย ก็จะกลายเป็ิญญาอัปมงคล”
“ิญญาอัปมงคลไม่อาจทนทานต่อแสงแดดได้ ดังนั้น ณ ที่แห่งนี้จึงมีจำนวนมากมายนัก”
เสี่ยวหลี่เข้าใจแจ่มแจ้ง คิดดูแล้วย่อมรู้ว่าต้องมีผู้คนจำนวนมากที่เคยคิดสำรวจหุบเขาชิงเยวียนและได้ลงมือทำจริง ในหมู่พวกเขามีผู้แข็งแกร่งจำนวนไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาล้มเหลวทั้งหมด ความยึดติดส่วนหนึ่งจะยังคงอยู่ที่นี่ตลอดไป เฝ้ามองการสืบทอดหงส์ะเก้าสีที่พวกเขาไม่อาจเข้าไปได้อีกแล้ว
“ิญญาอัปมงคล…”
สายลมหนาวพัดพาิญญาอัปมงคลเข้ามาจากทุกทิศทาง อิ๋งปิงที่อยู่ข้าง ๆ พลันลงมือในทันที
ฉัวะ— เสียงคมกระบี่กรีดอากาศ
นี่เป็ครั้งแรกที่หลี่โม่เห็นอิ๋งปิงลงมืออย่างจริงจัง แสงกระบี่พุ่งทะยาน แตกกระจายออกเป็บุปผากระบี่นับร้อย คมกระบี่แต่ละดอกจู่โจมเข้าใส่ิญญาอัปมงคลอย่างแม่นยำ ผลักมันให้ถอยร่นไปอย่างรุนแรง
ทว่า การจู่โจมที่เพียงพอจะทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับปราณภายในต้องล่าถอยนี้ เมื่อกระทบิญญาอัปมงคล กลับมิได้สร้างความเสียหายอันใดเลย ทำได้เพียงผลักอีกฝ่ายกลับเข้าไปในม่านหมอก ก่อนที่มันจะหวนกลับมาอีกครั้งในไม่ช้า
“รีบไปเร็วเข้า ิญญาอัปมงคลไม่กลัวคมอาวุธ…”
อิ๋งปิงยังพูดไม่ทันจบ พลันมีความรู้สึกอบอุ่นและเป็มงคลบางอย่างแผ่ออกมาจากด้านหลัง ที่หน้าอกของหลี่โม่ ถุงผ้าไหมเรืองแสงเป็รูปขนนกเพลิง เป็พลังบริสุทธิ์หยางที่เป็ศัตรูโดยธรรมชาติของสิ่งชั่วร้ายและมลทิน
หลี่โม่เหวี่ยงหมัดออกไปอย่างเบา ๆ บนกำปั้นของเขา พลังหยางจากขนนกเพลิงเคลือบคลุมอยู่บาง ๆ
“ฮิฮิฮิ…”
ิญญาอัปมงคลเบื้องหน้า เห็นได้ชัดว่าไร้สติสัมปชัญญะสมบูรณ์ จึงมิได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์
ฉึก! เกิดเสียงทะลวงร่าง
ราวกับหิมะที่ถูกสาดด้วยน้ำมันเดือด ร่างสีดำมืดมิดราวหมึกของิญญาอัปมงคลเริ่มละลายสลายไปแทบจะทันที มันพยายามจะถอยหนีตามสัญชาตญาณ แต่กลับถูกหลี่โม่ชกทะลุร่างไปตรง ๆ
ปุ้ง— ิญญาอัปมงคลสลายไป
“ในถุงผ้าไหมนั่น มีกลิ่นอายของเผ่าหงส์อยู่”
“น่าจะเป็สิ่งที่มีสายเืหงส์ะทิ้งไว้?”
ร่างกายที่ตึงเครียดของอิ๋งปิงผ่อนคลายลง เช่นนี้แล้ว นางก็ไม่จำเป็ต้องเสียสมาธิมาดูแลเขาอีกต่อไป
เพียงแต่… ทำไมหลี่โม่ถึงยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเลย?
เสี่ยวหลี่กำลังมึนงงเล็กน้อย เพราะเมื่อครู่ระบบได้ส่งข้อความแจ้งเตือนมา
【ยินดีด้วย เ้าของระบบ ลงทุนสำเร็จ ช่วยให้ ‘เซี่ยหรง’ สลายความยึดติด และได้พักผ่อนอย่างสงบสุข】
【ผลตอบรับการลงทุน: ความเข้าใจในวิถีแห่งยุทธ์หนึ่งปี】
หลี่โม่ “!”
การสังหาริญญาอัปมงคลยังนับเป็ผลตอบรับการลงทุนได้ด้วยหรือนี่? ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้คนต่างกล่าวกันว่าการบรรเทาิญญาผู้ล่วงลับคือการสร้างบุญ...
หลี่โม่มองไปยังเงามืดที่พลิกพลิ้วไปมาในม่านหมอก ดวงตาของเขาฉายแววปรารถนาลึกล้ำ แม้จะเป็เพียงยุงตัวเล็ก ๆ ก็ยังนับเป็เนื้อ รางวัลที่สมควรจะได้มา เขาก็คงต้องคว้าเอาไว้
ขณะที่หลี่โม่กำลังจะดำเนินการต่อ ก็พบว่ายัยก้อนน้ำแข็งขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางมองมาที่เขา
“แค่ก ๆ”
“ิญญาอัปมงคลเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วคืออดีตผู้าุโของสำนักชิงเยวียน”
“ในเมื่อเป็เื่เล็กน้อยที่ทำได้ง่ายดาย ก็ควรให้พวกเขาได้พักผ่อนอย่างสงบสุขเถิด”
เสี่ยวหลี่กล่าวอย่างจริงจัง อิ๋งปิงเม้มริมฝีปากบางเบา ในดวงตาของนางมีแสงใสสว่างวาบ สุดท้ายนางก็มิได้เอ่ยปากเร่งเร้า เพียงยืนรออยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบงัน หากมีิญญาอัปมงคลพุ่งตรงมาหานาง ก็จะสะบัดมันไปทางหลี่โม่อย่างเป็ธรรมชาติ
ยอดเยี่ยมไปเลย! หลี่โม่ส่งเสียงในใจ
ในไม่ช้า ิญญาอัปมงคลก็ถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น กระทั่งอากาศก็มิได้หนาวเย็นอีกต่อไป สิ่งที่ได้มาคือผลตอบแทนการลงทุนมากมายต่อเนื่อง นับคร่าว ๆ แล้ว ความเข้าใจในวิถีแห่งยุทธ์มีถึงแปดสิบหกปี รวมกับของเดิม ก็เกือบจะถึงสองร้อยปีแล้ว
ยังมีสิ่งของจิปาถะอีกหลายอย่าง เช่น อาวุธที่ชำรุด ยาเม็ดที่มีสรรพคุณหลากหลาย ทรัพย์สินมีค่าอย่างทองเงิน หรือแม้แต่โฉนดที่ดินหลายใบ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังคงใช้ได้อยู่หรือไม่
“ขอบคุณ”
หลี่โม่ยิ้มออกมาจากใจจริง ประสานหมัดคารวะไปยังอิ๋งปิง
“อืม” อิ๋งปิงเก็บกระบี่คืนฝัก ในใจพลันบังเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
บางครั้งนางก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดหลี่โม่จึงทำเื่ที่ไร้ประโยชน์และเสียเวลาเช่นนี้ แต่ความรู้สึกหลังจากกระทำแล้ว ดูเหมือนจะไม่เลวร้ายเท่าไหร่?
นางส่ายศีรษะ ก่อนจะเดินหน้าไปสองสามก้าว ในที่สุดก็มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูสถานที่สืบทอด ตรงบานประตูหินที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ มือเรียวของนางวางลงบนบานประตูหิน
ครืด— เกิดเสียงครืนคราง
แรงสั่นะเือันแปลกประหลาดถูกส่งผ่าน ฝุ่นผงร่วงหล่นลงมา บานประตูหินค่อย ๆ เผยอเปิดออกช้า ๆ แสงสีชมพูอ่อนจางส่องสว่างออกมาเต็มพื้นที่โดยรอบ หลี่โม่ยกมือขึ้นบังตาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะมองลอดนิ้วเข้าไปภายในประตู
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้