“เ้าเด็กนั่นกำลังลงมาแล้ว! ไปล้อมเขาไว้!”
รากบ่มเพาะของเยี่ยชิงมีพลังการติดตามซึ่งเป็การประยุกต์ใช้ทักษะกองพลพฤกษา ทำให้เขาสามารถตรวจจับร่องรอยของศัตรูในระยะที่กำหนดได้
เมื่อมาถึงปากถ้ำหนิงเทียนก็พบว่าขณะนี้เยี่ยชิงและสหายอยู่ห่างจากตนประมาณหนึ่งลี้ หากเขาสามารถััถึงพลังิญญาที่พลุ่งพล่านในถ้ำแห่งนี้ได้ เยี่ยชิงเองก็ย่อมััได้เช่นกัน
แล้วการซ่อนตัวที่นี่จะไม่โดนดักจับหรือ?
หนิงเทียนอยากถอยกลับเพราะไม่้าเสี่ยง ทว่าลำแสงทั้งสองที่หมุนเวียนภายในเส้นลมปราณที่สองกลับปลดปล่อยความหลงใหลอันแรงกล้าเพื่อกระตุ้นให้หนิงเทียนก้าวเข้าไป
“ข้างในนี้มีอะไรอยู่กันแน่?” เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบเร่งเข้าไปในถ้ำ
พื้นที่โดยรอบมีพืชพรรณเขียวชอุ่มและไม้เถาขึ้นปกคลุมทั่วบริเวณ ซึ่งเป็เื่ยากที่ปุถุชนจะค้นเจอ
เมื่อเข้ามาในถ้ำ เขาก็พบว่าสถานที่แห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก พลังิญญาค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ทั้งยังมีลักษณะคล้ายคลึงกับถ้ำิญญาในตำนานอีกด้วย
ยามนี้เยี่ยชิงไล่ตามมาถึงนอกถ้ำแล้ว หลังจากตรวจสอบสถานที่อยู่ครู่หนึ่ง ความปีติยินดีบนใบหน้าของเขาก็เริ่มเด่นชัดขึ้น
“ถ้ำิญญา! ฮ่าๆ ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน เ้าเด็กนี่เป็ดาวนำโชคจริงๆ ไม่เพียงแต่มีอาวุธิญญาจื๋อซิว เขายังพาข้ามาที่ถ้ำิญญาด้วย เช่นนี้ข้าก็จะสามารถไปถึงจิตหยั่งลึกขั้นแปดได้แล้ว ไอ้หนู ขอบใจเ้ามาก!”
เมื่อพูดจบเยี่ยชิงก็รีบเข้าไปในถ้ำิญญาด้วยความตื่นเต้น
ทันใดนั้นหอกแหลมคมก็พุ่งหาเขาราวกับการโจมตีของภูตผี เยี่ยชิงหลบอย่างรวดเร็วด้วยความใ ทั้งยังกระแทกเข้ากับผนังหิน และได้รับาเ็ที่แขนซ้ายจากปลายหอกที่ทิ่มแทง
“บ้าเอ๊ย! ข้าจะไม่ยกโทษให้เ้า!”
เยี่ยชิงรีบถอยกลับไปตั้งหลัก ลำพังพื้นที่ในถ้ำก็แคบมากอยู่แล้ว และหนิงเทียนก็ยังมาซ่อนตัวอีก เขาจึงไม่กล้าหุนหันพลันแล่นเท่าใดนัก
“หากกล้าก็เข้ามา!”
“แน่จริงเ้าก็ออกมาเดี๋ยวนี้!”
“เ้าก็เข้ามาสิ!”
“เ้าต่างหากที่ต้องออกมา!”
ทั้งสองะโใส่กันอย่างไม่ลดละ ทว่ากลับไม่มีฝ่ายใดกล้าขยับตัวแม้แต่น้อย
ผ่านไปครู่หนึ่งเยี่ยชิงก็ยังไม่ยอมบุกเข้ามา หนิงเทียนจึงตัดสินใจเคลื่อนตัวเข้าไปในถ้ำ
ภายในเชิงเขามีทางแยกจำนวนมาก คนส่วนใหญ่มักหลงได้ง่าย แต่ด้วยคำแนะนำของเส้นลมปราณที่สองที่ได้รับการปลูกรากจิติญญา หนิงเทียนจึงพบกับตำแหน่งชีพจรของถ้ำิญญา
บริเวณนั้นคือถ้ำหยกขาวขนาดประมาณสิบจั้ง ทั้งยังมีทางเข้าที่แคบมาก ทันทีที่หนิงเทียนก้าวเข้าไป หินก้อนใหญ่ก็เคลื่อนมาปิดทางออกไว้
“บ้าเอ๊ย! มีกลไกเสียด้วย”
หนิงเทียนสะดุ้งโหยงแล้วลองใช้มือดันหิน ทว่าก้อนแข็งแกร่งนั้นกลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
“เอาเถอะ อย่างน้อยเยี่ยชิงก็เข้ามาไม่ได้”
หนิงเทียนหันกลับไปสนใจจุดชีพจรของถ้ำิญญาตรงหน้า แม้ที่นี่จะมีพลังิญญาท่วมท้น แต่ก็ยังมีความแตกต่างจากถ้ำในตำนาน
ถ้ำิญญา หมายถึง รังที่รวบรวมพลังิญญา ซึ่งต่างจากทุ่งิญญาและบ่อน้ำิญญา
ทรัพยากรบ่มเพาะในดินแดนหยวนซิงแบ่งออกเป็หลายประเภท ทรัพยากรจำพวกหินิญญา น้ำทิพย์ และโอสถล้วนเป็ของทั่วไปที่พกพาได้สะดวก ส่วนบ่อน้ำิญญา ทุ่งิญญา ทะเลสาบิญญา และมหาสมุทริญญาจะเรียกว่าทรัพยากรซ่อนเร้น ซึ่งมักอยู่ประจำตำแหน่งและมีพลังที่น่าทึ่ง โดยพื้นฐานแล้วจะอยู่ภายใต้การของสำนักใหญ่และยากต่อการเคลื่อนย้าย
ตำนานเล่าว่าถ้ำิญญาเกิดขึ้นหลังจากทุ่งิญญาเหือดแห้ง ทั้งยังเป็ขุมทรัพย์แห่งการบ่มเพาะที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว ต่างจากบ่อน้ำิญญาและทุ่งิญญาที่สามารถฟื้นฟูพลังขึ้นใหม่ได้
ถ้ำิญญาแห่งนี้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ ผนังโดยรอบมีรูเล็กๆ จำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏอยู่ รวมถึงพื้นและเพดานถ้ำก็มีเสาพลังิญญาขนาดย่อมที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าโผล่ขึ้นมากันบริเวณใจกลางถ้ำ
หนิงเทียนก้าวไปข้างหน้า เสาพลังิญญาเหล่านี้ไม่ต่างจากปราณกระบี่เลย มันทิ่มแทงทะลุเสื้อผ้าจนเขาต้องกรีดร้องด้วยความเ็ป
“แย่จริง มีถ้ำเช่นนี้ด้วยหรือ?” หนิงเทียนกลอกตาและถอยกลับไปยังทางเข้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าออกแล้วรีบไปที่ใจกลางถ้ำ
พลังิญญาจำนวนนับไม่ถ้วนเข้าโจมตีเส้นลมปราณและจุดชีพจรทั่วร่าง ถึงกระนั้นเขาก็ยังแสยะยิ้มพร้อมกรีดร้องด้วยความทรมาน
หนิงเทียนอยากหนีทว่าไม่อาจควบคุมร่างของตนได้ แผนที่จิติญญาในเส้นลมปราณแรกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และเสาแสงทั้งสองที่หมุนเวียนในเส้นลมปราณที่สองก็กำลังส่งเสริมวิชาขัดเกลากายา
หนิงเทียนไม่ใช่คนโง่ เขารับรู้ถึงพลังในร่างกายจึงอดทนต่อความเ็ปรวดร้าวแล้วเริ่มฝึกวิชาขัดเกลากายา
เยี่ยชิงเรียกหาสหายก่อนจะพุ่งเข้ามาในถ้ำ พร้อมส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว “เ้าบ้าหนิงเทียน หาเขาให้พบ ถ้ำิญญาต้องเป็ของข้า!”
ใจกลางูเามีเส้นทางที่สลับซับซ้อน อีกทั้งพืชพรรณต่างๆ ก็ไม่สามารถเจริญเติบโตในบริเวณนี้ ดังนั้น เยี่ยชิงจึงใช้ทักษะกองพลพฤกษาติดตามความเคลื่อนไหวของหนิงเทียนไม่ได้
...
ณ จุดชีพจรของถ้ำิญญา ใบหน้าของหนิงเทียนผู้เปลือยเปล่าค่อยๆ บิดเบี้ยวด้วยความเ็ป หลังจากพยายามหาคำตอบเกือบร้อยครั้ง ในที่สุดเขาก็เข้าใจความลับของจุดชีพจรในถ้ำิญญาแห่งนี้ และพบทิศทางที่ถูกต้อง
จุดชีพจรของถ้ำิญญามีรูเล็กๆ ทั้งหมดหนึ่งพันยี่สิบสี่รู ซึ่งผุดเสาพลังิญญาหนึ่งพันยี่สิบสี่ต้น ครอบคลุมเส้นลมปราณและชีพจรทุกจุดในร่างกายของหนิงเทียน ทุกชุ่นของิั กล้ามเนื้อ และกระดูก ได้รับการขัดเกลาจากภายนอกสู่ภายในควบคู่ไปกับวิชาขัดเกลากายา ซึ่งช่วยให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น รูขุมขนค่อยๆ ขับคราบสกปรกออกมาจนร่างกายของเขาดำราวก้อนถ่าน
การผสานทักษะยุทธศาสตร์ครอง์และวิชาขัดเกลากายาช่วยให้ความแข็งแกร่งของหนิงเทียนพุ่งสูงขึ้นอย่างดุเดือด เืเนื้อ กระดูก เส้นลมปราณ เยื่อหุ้ม รวมถึงอวัยวะต่างๆ ล้วนสั่นะเืด้วยความเร็วสูง กลิ่นอายเก่าแก่ฟุ้งกระจายทั่วทุกทิศทาง และความผันผวนนี้ก็ทำให้เขาตื่นตระหนกอย่างมาก
จิตของหนิงเทียนไร้ซึ่งความคิดฟุ้งซ่านและเข้าสู่สภาวะว่างเปล่า วิชาขัดเกลากายามีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา หลังผสานคลื่นพลังจากเสาพลังิญญาหนึ่งพันยี่สิบสี่ต้นในถ้ำิญญาแล้ว เขาก็พยายามบรรลุระดับที่สูงขึ้นอย่างแข็งขัน
ทว่าขั้นตอนนี้ค่อนข้างยาก เนื่องจากต้องอาศัยการประสานงานที่สมบูรณ์แบบของอวัยวะทุกส่วนในร่างกายและจังหวะของพลังิญญา
หนิงเทียนพยายามกว่าร้อยแปดครั้งแต่ก็ล้มเหลว ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ย่อท้อและยังคงพยายามต่อไป
หากร้อยครั้งไม่สำเร็จก็ต้องพยายามอีกพันครั้ง แต่ทันใดนั้นเองหนิงเทียนก็พบเคล็ดลับสำคัญ คือ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับเวลาในการลงมือ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด แต่แสงิญญาในถ้ำยังคงสั่นะเื เมื่อเวลา สถานที่ และบุคคลรวมกันเป็หนึ่ง เสาิญญาหนึ่งพันยี่สิบสี่ต้นก็มีความถี่เท่ากันและเริ่มสอดประสานเข้ากับร่างกายของเทียน
จุดชีพจรถ้ำิญญาทั้งหมดพังทลายลงทันที มวลพลังิญญาล้วนหลั่งไหลเข้าสู่ร่างของเขาจนกล้ามเนื้อและกระดูกคำรามลั่น ภายในใจเกิดความผันผวนอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน
เส้นสายต่างๆ ปรากฏขึ้นตามกล้ามเนื้อั้แ่หัวจรดเท้า ก่อนจะกระจายไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย พลังิญญาอันยิ่งใหญ่ถูกกลืนหายไปอย่างช้าๆ เพื่อชำระล้างร่างกาย เสริมสร้างความแข็งแกร่ง และปลดปล่อยพลังโบราณ
ยามนี้วิชาขัดเกลากายาระดับแรกเสร็จสมบูรณ์แล้ว เสียงที่ดังก้องอยู่ในใจของหนิงเทียนไม่ต่างจากการเปิดประตูฟ้าดินบานั์ นิมิตแห่งการทำลายล้างและการก่อกำเนิดปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงฟ้าถล่มดินทลาย ซึ่งถือเป็ความลึกลับขั้นสูงสุดแห่งวิวัฒนาการ
ยุทธศาสตร์ครอง์ของหนิงเทียนพัฒนาอย่างใหญ่หลวง และเข้าสู่่ปลายของขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นแรกทันที พลันกระดูกแตกร้าวไปทั่วร่าง ก่อนจะสูงขึ้นประมาณสามชุ่นและดูแข็งแกร่งขึ้นด้วย
จุดชีพจรของถ้ำิญญาถูกทำลาย พลังิญญาในนั้นก็ถูกหนิงเทียนกลืนกินจนหมดสิ้น แต่ความหิวของเขากลับทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
“พลังิญญา! ข้า้าพลังิญญามากกว่านี้!” หนิงเทียนลืมตาขึ้นแล้วขยับร่างปล่อยกำปั้นออกไป ทันใดนั้นก้อนหินตรงทางเข้าก็แตกเป็เสี่ยง
ทั้งร่างของหนิงเทียนดำเมี่ยม ิัปกคลุมด้วยคราบหนาเป็ชั้น เมื่อเขาเปิดกำไลหยกหยวน หินิญญาหลายร้อยก้อนก็ลอยวนรอบตัวก่อนจะกลายเป็พลังิญญาพุ่งมาชะล้างคราบสกปรก จากนั้นเขาก็หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมให้เรียบร้อย
เยี่ยชิงค้นหาเขาทั้งคืนจนเกือบจะเป็บ้า เมื่อได้ยินเสียงหินะเิจึงรีบมุ่งไปทางต้นเสียงทันที และในที่สุดเขาก็ได้พบกับหนิงเทียน
“ชีพจรถ้ำิญญาของข้า... อ๊าก! ข้าจะฆ่าเ้า!” เยี่ยชิงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว เขาพุ่งเข้าหาหนิงเทียนแล้วยกฝ่ามือเตรียมฟาดใส่อีกฝ่าย
“ไสหัวไป!” หนิงเทียนปล่อยหมัดตอบโต้ หลังผ่านการขัดเกลากายาระดับแรก พลังทางกายภาพของเขาก็น่ากลัวมาก และตอนนี้ก็ถึงเวลาลองวิชาแล้ว
“กล้าสั่งให้ข้าไสหัวไป เ้าคงเบื่อชีวิต...อ๊าก!” เยี่ยชิงรับการโจมตีด้วยกำปั้นและฝ่ามือ หากแต่พลังของหนิงเทียนนั้นแข็งแกร่งถึงขั้นทะลวงภูผาธาราได้
ผู้หยิ่งยโสกรีดร้องอย่างเ็ป ฝ่ามือขวาแตก แขนขวาหัก ทั้งร่างกระเด็นไปไกลจนแผ่นหลังและศีรษะกระแทกผนังหินอันแข็งแกร่ง
เยี่ยชิงแผดเสียงอย่างคลุ้มคลั่งพร้อมเปิดใช้กระบี่ใบพฤกษาขจีและปราณกระบี่ก็พุ่งโจมตีราวสายฟ้าในทันที
หนิงเทียนหลบเลี่ยงไม่กล้าปะทะโดยตรง แม้เขาจะผ่านการขัดเกลากายาระดับแรกแล้ว ทว่าปราณกระบี่นี้ยังคงเป็ภัยคุกคามร้ายแรงต่อเขา เนื่องจากกระบี่ใบพฤกษาขจีเป็อาวุธิญญาจื๋อซิวที่มีพลังน่าสะพรึงกลัว ซึ่งเืเนื้อในขอบเขตจิตหยั่งลึกไม่สามารถต้านทานได้
ดังนั้น หนิงเทียนจึงวิ่งหนีออกไปโดยมีเยี่ยชิงไล่ตามติด และระหว่างทางก็ได้พบกับบรรดาศิษย์สำนักเชียนเฉ่า
หนิงเทียนจัดการพวกเขาด้วยหมัดเดียวและใช้ยุทธศาสตร์ครอง์กลืนกินรากจิติญญาของคู่ต่อสู้ แต่รากจิติญญาเ่าั้ก็เปรียบเสมือนน้ำหยดลงถัง ไม่เพียงพอที่จะอุดฟันเสียด้วยซ้ำ
ทันใดนั้นศิษย์สำนักเชียนเฉ่าสองคนก็วิ่งเข้ามา คนหนึ่งถือหอก อีกคนถือกริช ซึ่งภายในถ้ำคับแคบมาก หนิงเทียนจึงหลีกเลี่ยงหอกและยอมถูกกริชแทง พลันเส้นสายก็ปรากฏขึ้นบนิัจนร่างของเขาแข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า
ศัตรูในขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นหกต่างใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อโจมตี ทว่าไม่มีผู้ใดสามารถเจาะทะลุิัของหนิงเทียนได้
“ตายเสียเถิด!” หนิงเทียนกำหมัดชกออกไป แล้วกำราบศิษย์สำนักเชียนเฉ่าคนหนึ่งด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพ
พลัง์ที่รุนแรงทำให้ศิษย์สำนักเชียนเฉ่าอีกคนกรีดร้อง และเยี่ยชิงที่อยู่ด้านหลังก็คำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อปราณกระบี่เข้าประชิด หนิงเทียนก็พลิกตัวหลบเลี่ยง
ภายในถ้ำที่ซับซ้อนกลางูเา หนิงเทียนใช้กลยุทธ์วกวน[1]ทำลายล้างสหายทั้งเจ็ดของเยี่ยชิงอย่างต่อเนื่อง ทว่าเยี่ยชิงกลับหนีรอดไปได้
หนิงเทียนปล้นหินิญญาไปจำนวนมาก เขาเดินมาเรื่อยๆ และหยุดชะงักทันทีเมื่อใกล้ถึงปากถ้ำ เยี่ยชิงกำลังแฝงตัวอยู่ด้านนอกพร้อมกระบี่ใบพฤกษาขจี เขา้าลอบสังหารหนิงเทียนเพื่อแก้แค้นและยึดสมบัติ
ท้องนภาสีเทาหม่นบ่งบอกว่ายามนี้เข้าสู่วันที่สองของแดนลับแล้ว
หนิงเทียนััได้ถึงพลังที่เพ่งเล็งมา โดยพลังเ่าั้คือพืชพรรณที่เยี่ยชิงใช้ตรวจจับตำแหน่งของเขา เพื่อให้สามารถลอบโจมตีได้อย่างสะดวกและแม่นยำ
ความเยือกเย็นปรากฏตรงมุมปากของเยี่ยชิง เขาพุ่งตัวออกมาพร้อมปราณกระบี่ที่ทักทายศัตรูอย่างน่าสะพรึงกลัว ทว่าหนิงเทียนเองก็เตรียมรับมือมาอย่างดี เขาจึงหันหลังกลับแล้ววิ่งไปทางปากถ้ำ
เยี่ยชิงยืนกวัดแกว่งกระบี่อยู่ด้านนอก หญ้าเจ็ดต้นหมุนวนรอบกายของเขาพร้อมปลดปล่อยพลังิญญาเพื่อเยียวยาส่วนที่าเ็
หนิงเทียนบุกทะลวงไปเรื่อยๆ ซึ่งภายในระยะเวลาหนึ่งเค่อเยี่ยชิงออกกระบวนท่าได้ถึงสิบเจ็ดครั้ง แต่ก็จะถูกยับยั้งไว้ตลอด
จนกระทั่งครั้งที่สิบแปดกระบี่ใบพฤกษาขจีก็ค่อยๆ เปลี่ยนสี และหลังจากเหวี่ยงกระบี่ออกไป ร่างกายของเยี่ยชิงก็เริ่มไม่มั่นคง เขาได้แต่คำรามอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะตัดสินใจถอยหนี
ทักษะของหนิงเทียนพัฒนาอย่างก้าวะโใน่เวลาสั้นๆ เพื่อรอเวลากลืนกินรากบ่มเพาะของเยี่ยชิง เขามั่นใจว่าเยี่ยชิงจะยืนหยัดได้อีกไม่นานเนื่องจากอาการาเ็สาหัส ดังนั้น เขาจึงหาโอกาสสังหารเยี่ยชิง แต่คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะระมัดระวังตัวและวิ่งหนีเอาชีวิตรอดในสถานการณ์เลวร้าย
“หนีหรือ?” หนิงเทียนเย้ยหยันแล้วไล่ตามอย่างรวดเร็ว บงกชสีมรกตแกว่งไกวไปมา ทั้งยังดูดกลืนพลังิญญาจากฟ้าดินจนเืเดือดพล่านทั้งตัว
เยี่ยชิงหนีเข้าไปในป่าบนูเาด้วยความตื่นตระหนก โดยมีหนิงเทียนตามมาติดๆ
“ทิ้งกระบี่ใบพฤกษาขจีไว้แล้วข้าจะไว้ชีวิตเ้า มิฉะนั้นข้าจะฆ่าเ้าเสีย”
หนิงเทียนจินตนาการถึงอาวุธสังหารชิ้นใหญ่ในมือของเยี่ยชิง หากแย่งชิงมาได้ เขาก็จะสามารถอาละวาดไปทั่วทั้งแดนลับ
“ฝันไปเถอะ!”
เยี่ยชิงรีบไปยังสถานที่ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่านแล้วะโว่า “เ้าหนิงเทียนมีอาวุธิญญาจื๋อซิว! เป็อาวุธระดับสูงสุดด้วย ผู้ใดแย่งได้ก็เอาไป!”
“ยามนี้เยี่ยชิงาเ็สาหัส! หาก้ากระบี่ใบพฤกษาขจีก็มาแย่งจากเขาเลย!” หนิงเทียนไม่ยอมพ่ายแพ้ พร้อมด่าทอเยี่ยชิงที่กล่าวหาตนอย่างผิดๆ
หลายคนทราบดีว่าเยี่ยชิงมีกระบี่ใบพฤกษาขจี แต่พวกเขาไม่เคยได้ยินเื่หนิงเทียนมีอาวุธิญญาจื๋อซิวมาก่อน จึงเกิดความสงสัยเล็กน้อย
“ตามไปเดี๋ยวนี้! ปล้นให้หมด อย่าให้เหลือ”
“ใช่! จับตัวพวกเขาไว้ เร็วเข้า!”
ทว่าศิษย์ของแต่ละสำนักหาได้เบาปัญญาไม่ พวกเขาตะลุมบอนแย่งชิงอาวุธจากทั้งสองคนในทันที
---------------------------------------
[1] กลยุทธ์วกวน (迂回战术) เป็ศัพท์ทางการทหารเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับศัตรู โดยถอยเมื่อศัตรูรุกเข้ามาและบุกเมื่อศัตรูถอยทัพ หากพบช่องว่างก็แยกศัตรูไปคนละทิศละทางเพื่อโจมตี
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้