ท้ายที่สุดแล้วเซวียนซานหลางก็จำต้องให้มู่หลานเฟินติดตามไปด้วยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เื่การสืบคดีนับว่าเป็งานราชการลับที่ฝ่าาทรงมอบหมายให้ เพราะอย่างนี้เซวียนซานหลางจึงไม่ได้บอกกับผู้ใดแม้กระทั่งบิดาของตน อีกทั้งยังกำชับมู่หลานเฟินอีกด้วยว่าห้ามนางปากเปราะ หลายวันมานี้มู่หลานเฟินแทบจะกระดิกตัวทำสิ่งใดไม่ได้ เพราะมีคนของเขาจับตาดูนางอยู่ตลอดเวลา
หลายวันต่อมา เซวียนซานหลางบอกกับเซวียนชินอ๋องว่าเขามีเื่ด่วนต้องไปจัดการที่นอกเมืองหลวง อีกทั้งจะออกครั้งนี้เดินทางไปนานเสียหน่อยไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อใด และยัง้าให้สาวใช้ติดตามไปคอยรับใช้สักคนสองคนเพื่อดูแลเื่ความเป็อยู่ หากจะไปหาซื้อสาวใช้ที่นอกเมืองหลวงเกรงว่าจะทำงานไม่ได้เื่เท่าสาวใช้ที่ได้รับการฝึกฝนในจวนใหญ่ อวี้หลิงเมื่อได้ทราบเื่ก็รีบไปบอกกับเซวียนชินอ๋องว่าอยากให้มู่หลานเฟินติดตามไปคอยดูแลเซวียนซานหลางด้วย เซวียนชินอ๋องเองก็ตกปากรับคำ อย่างไรเขาก็อยากให้บุตรชายแต่งงานกับมู่หลานเฟินอยู่แล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงไปบอกเื่นี้กับบุตรชายทันที
เซวียนซานหลางเมื่อได้ฟังก็แสร้งทำทีเป็คัดค้านเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าไม่เป็ผลเขาจึงยอมตกปากรับคำ อวี้หลิงลอบยิ้มเยาะหยันในใจอย่างลิงโลด โดยที่ไม่ได้ล่วงรู้เลยว่าเื่ทั้งหมดนี้เป็แผนการของเขาทั้งสิ้น
ด้วยนิสัยของอวี้หลิงแล้วจะต้องทำทุกทางเพื่อยัดเยียดมู่หลานเฟินให้ตามเขาไปจนได้แน่นอน
ด้านมู่หลานเฟินนั้นเมื่อได้ทราบเื่ราวที่เกิดขึ้นก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย คนอย่างเซวียนซานหลางทำสิ่งใดไม่เคยทิ้งพิรุธ ครั้งนี้ท่านป้าของนางเองต่างหากที่ตามเขาไม่ทัน
เซวียนเจ๋อที่ได้ยินว่ามู่หลานเฟินจะต้องติดตามเซวียนซานหลางไปนอกเมืองก็รีบมากำชับนางหลายประโยคให้ทำตัวดี ๆ ทางที่ดีอย่าได้ไปยั่วโทสะพี่ใหญ่ของเขา และยังบอกอีกว่ารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ตามไปด้วย เพราะเซวียนซานหลางไม่อนุญาต
กลางดึกคืนนั้นก่อนจะออกเดินทาง อวี้หลิงมาหานาง พร้อมกับมอบยาห่อหนึ่งให้กับนาง มู่หลานเฟินมองยาห่อนั้นด้วยแววตาฉงนสงสัย ก่อนจะเอ่ยถาม
“นี่คือยาใดหรือ"
อวี้หลิงยกยิ้มมุมปากและเอ่ยตอบ
"เ้ากับซื่อจื่อเดินทางไปด้วยกันย่อมหลีกเลี่ยงที่จะใกล้ชิดกันไม่ได้ นี่คือยานอนหลับ เ้าจงหาทางเอาให้เขาดื่มจากนั้นก็ลอบสังหารเขาเสีย อย่าให้เขามีชีวิตรอดกลับมาเมืองหลวงได้อีก"
มู่หลานเฟินเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็เขวี้ยงห่อยาลงไปบนพื้น ก่อนจะเอ่ยกับอวี้หลิงด้วยน้ำเสียงเ็า
"ท่านป้า เดิมทีข้าคิดว่าท่านจะล้มเลิกความคิดเหลวไหลพวกนี้ไปแล้วเสียอีก"
"ข้าไม่มีวันล้มเลิกความคิดนี้ ตราบใดที่เซวียนซานหลางยังมีชีวิตอยู่ ข้าและลูกของข้ารวมถึงเ้าจะต้องไม่มีวันอยู่อย่างสงบสุข"
"ข้าไม่ทำ! ท่านเอามันคืนไปเถอะ"
"หรานหร่าน!"
“ออกไปเถอะเ้าค่ะ!”
อวี้หลิงส่งเสียงเหอะก่อนจะเดินออกจากห้องไป มู่หลานเฟินถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่นางคร้านจะสนใจ รีบจัดเก็บข้าวของ ไม่ได้นึกถึงเื่ของอวี้หลิงอีก เมื่อจัดของเสร็จแล้วก็สั่งให้ลั่วเหมยนำออกไปวางเอาไว้ที่นอกห้องเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ขนขึ้นรถม้าสะดวก
อวี้หลิงรอโอกาสจนถึง่กลางดึก ทุกคนหลับแล้ว นางจึงเอายานอนหลับห่อนั้นมามอบให้กับลั่วเหมยสาวใช้ของมู่หลานเฟิน อีกทั้งยังกำชับอีกว่าหากทำสำเร็จ ลั่วเหมยจะสุขสบาย แต่ถ้าหากว่าทำไม่สำเร็จ พี่สาวของลั่วเหมยที่ทำงานรับใช้อยู่ที่เรือนใหญ่จะต้องถูกโบยจนตาย!
ลั่วเหมยหวาดกลัวจนตัวสั่นเทิ้มทำได้เพียงพยักหน้ารับและเก็บห่อยานั้นมาไว้กับตัว ตัดสินใจว่าจะลงมือวางยาเซวียนซานหลางแทนมู่หลานเฟินเ้านายของตน
เช้าวันต่อมา มู่หลานเฟินก็ติดตามเซวียนซานหลางออกจากเมืองหลวง คนทั้งสองเดินทางมาั้แ่เช้ามืดพร้อมสาวใช้ติดตามมาเพียงไม่กี่คน เมืองหลวงในตอนเช้ายังเงียบสงบไม่วุ่นวายย่อมเดินทางได้สะดวก มู่หลานเฟินนั่งอยู่ในรถม้า ส่วนเซวียนซานหลางนั้นควบม้าอยู่ข้าง ๆ รถม้าของนาง
มู่หลานเฟินยื่นมือไปเลิกผ้าม่านรถม้าให้เปิดออก และมองเซวียนซานหลางที่ควบม้าอยู่ข้าง ๆ วันนี้ชายหนุ่มสวมชุดชาวบ้านธรรมดา ก่อนออกเดินทางเขายังให้คนส่งชุดหญิงสาวชนบทมาให้นางหนึ่งชุด ก่อนจะแวะที่โรงเตี๊ยมนอกเมืองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
ด้านเสิ่นเหวยอันนั้นคาดว่าคงจะออกเดินทางตามมาทีหลัง
เซวียนซานหลางรับรู้ได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมองตน จึงหันมามองก่อนจะพบว่าเป็มู่หลานเฟินที่กำลังจ้องมองเขาด้วยความสนใจ ดวงตาของนางงดงามเป็ประกาย หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ส่งสายตายั่วยวนหรือแทะโลมเขาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับมองเขาด้วยสายตาชื่นชมอย่างปิดไม่มิด จนเขาเริ่มประหม่า
"จะมองอีกนานหรือไม่"
มู่หลานเฟินเมื่อได้ยินก็ยิ้มตาหยี
"ซื่อจื่อ ยามที่ท่านแต่งตัวธรรมดาเช่นนี้ดูเข้าถึงง่ายและจับต้องได้มากกว่า หล่อเหลากว่าตอนที่ท่านแต่งชุดสีดำแสนเ็านั่นเสียอีก"
เซวียนซานหลางปรายตามองมู่หลานเฟิน ก่อนจะเอ่ย
"เป็สตรีกลับเอ่ยวาจาแทะโลมบุรุษ หน้าไม่อาย"
มู่หลานเฟินเมื่อได้ฟังก็กลอกตาไปมาคราหนึ่ง
"แทะโลมอันใดกัน ข้าแค่ชื่นชมท่าน ช่างเถอะ ท่านมันคนใจดำคับแคบอยู่แล้ว ข้าเสียอารมณ์จริง ๆ เชียว เดิมทีคิดจะแบ่งซาลาเปาไส้เนื้อที่กัดแล้วมีน้ำที่ตุ๋นด้วยเนื้อไหลเยิ้มในปากให้ท่านสักลูก แต่ได้ยินท่านพูดแบบนี้แล้วข้าไม่แบ่งให้ดีกว่า เชิญหิวตายไปเถอะ เชอะ!"
เซวียนซานหลางหมดคำจะกล่าว เขาส่งเสียงเหอะออกมา พลางคิดในใจว่าผู้ใดสนซาลาเปาน้ำเนื้อไหลเยิ้มอันใดนั่นของนางกัน
แต่ระหว่างทางเหมือนว่าเขาจะตาลาย ถึงได้มองเห็นต้นไม้ใบหญ้ากลายเป็ซาลาเปาไส้เนื้อน้ำ ไหลเยิ้ม ๆ อยู่ตลอดเวลา!
เดินทางอยู่ครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านถงหวาง หมู่บ้านถงหวางตั้งอยู่ในเมืองถงหวาง อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงเท่าใดนัก ชื่อหมู่บ้านและชื่อเมืองใช้ชื่อเดียวกัน ตอนนี้เขาและนางกำลังยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าเมือง รถม้าที่นั่งมาได้ถูกเอาไปซ่อนไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงสาวใช้ที่ติดตามมาด้วยก่อนหน้านี้ก็ถูกส่งไปที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง เซวียนซานหลางให้คนคอยจับตาดูพวกนางเอาไว้ มีเพียงลั่วเหมยและสาวใช้อีกนางหนึ่งที่ติดตามมาด้วย อีกทั้งสาวใช้นางนั้นยังเอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าเอ่ยวาจาอันใด ตอนนี้เซวียนซานหลางและมู่หลานเฟินไม่มีเวลาสนใจสาวใช้นางนี้เท่าใดนัก
ชายหนุ่มหันมามองมู่หลานเฟิน ก่อนจะเอ่ย
"ต่อไปนี้ห้ามเรียกข้าว่าซื่อจื่อ"
"เช่นนั้นให้เรียกว่าอันใด"
เซวียนซานหลางเมื่อถูกถามกลับก็มีท่าทางกระอักกระอ่วนใจ ก่อนจะดึงตัวมู่หลานเฟินเข้าหาตน ลั่วเหมยและสาวใช้อีกคนที่เห็นเช่นนั้นก็รีบก้มหน้างุดไม่กล้ามองเ้านายทั้งสองของตน
"เรียกท่านพี่"
"ฮะ ท่านว่าอันใดนะ ข้าได้ยินไม่ชัด"
เซวียนซานหลางพยายามระงับโทสะไม่ให้ชักมีดสั้นขึ้นมาฟันหูของมู่หลานเฟินทิ้ง
"พวกเรามาเพื่อสืบคดี เ้าและข้าจะต้องปลอมตัวเป็คู่รักที่หนีตามกันมาและตั้งใจมาลงหลักปักฐานแต่งงานกันที่นี่ เ้าต้องเรียกข้าว่าท่านพี่"
"ให้ตายเถอะ ขนลุกเสียจริง วิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไม่มีแล้วหรือ?"
นางเอ่ยพร้อมกับทำท่าทีขนลุกขนชันเสียเต็มประดา แต่เมื่อเงยหน้าไปเห็นสายตาอำมหิตของเซวียนซานหลางที่ส่งมาหญิงสาวก็รีบเอ่ยประจบประแจงเขาทันที
"ดีมาก วิธีนี้ดีมาก สุดยอดมากเ้าค่ะ ท่านพี่ ท่านพี่ของข้า"
เอ่ยจบนางก็รีบยื่นสองมือไปกอดแขนเขาทันที เซวียนซานหลางปรายตามองมือน้อยขาวนวลเนียนที่กอดแขนเขาแน่นเหมือนปลาหมึกก็เริ่มมีโทสะ แต่ไม่ได้สลัดนางออกแต่อย่างใด
ในขณะที่คนทั้งสองกำลังจะเดินเข้าไปในหมู่บ้าน สาวใช้น้อยที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาก็เดินชนลั่วเหมยจนนางเกือบล้มหน้าคะมำ ลั่วเหมยโมโหมากจึงหันไปด่านางทันที
“เ้านี่มันเป็อันใดกัน เดินไม่ดูทาง ตาบอดหรือไร!"
เซวียนซานหลางและมู่หลานเฟินหันขวับไปมอง ภาพตรงหน้าทำเอามู่หลานเฟินถึงกับสะดุ้งโหยง
สาวใช้น้อยที่แต่งหน้าทาปากเหมือนนางเอกงิ้วอีกทั้งยังถักผมเปียสองข้างยาวลงมาถึงเอว ท่าทางรึก็เก้ ๆ กัง ๆ ตัวรึก็สูงมาก ท่าเดินก็แปลกประหลาดนั่นมัน…
ใช่เซวียนเจ๋อหรือไม่!
เซวียนซานหลางมองเพียงปราดเดียวก็จำได้ในทันทีว่าเป็น้องชายตน เขาจ้องเซวียนเจ๋อเขม็ง เซวียนเจ๋อเมื่อถูกจับได้ก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะใช้มือใหญ่สองข้างของตนถลกชายกระโปรงขึ้นมาเหนือหัวเข่าและเดินเข้ามาหาพี่ชายอย่างประหม่า
"ฮือ ๆ พี่ใหญ่ ท่านอย่าตีข้าเลย เพราะข้าเป็ห่วงพวกท่านจึงแอบตามมา ท่านดูสภาพข้าสิ"
เซวียนซานหลางยกมือนวดหว่างคิ้ว รู้สึกว่าปวดหัวจนแทบจะะเิออกมา เขาหันมามองเซวียนเจ๋ออีกคราก่อนจะยกยิ้มเ็า
"ในเมื่อมาแล้วก็สวมชุดสาวใช้นี่ไปจนกว่าข้าจะทำเื่ที่ต้องทำสำเร็จ เ้าแต่งแบบนี้ก็งามดีเหมือนกัน ข้ารู้สึกเหมือนได้น้องสาวอีกคน จำไว้ แต่งเช่นนี้จนกว่าจะกลับเมืองหลวง อย่าได้แต่งเป็บุรุษเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นข้าจะตีเ้าให้ขาหักเลยคอยดู!"
เซวียนเจ๋อ "..."
