เหตุใดแม่สื่อจ้าวจะมองไม่ออก นางมองออกอยู่แล้ว แต่เมื่อได้รับผลประโยชน์จากตระกูลฉีมาแล้ว ต่อให้ซ่งอวี้แสดงออกว่าไม่ต้อนรับนางชัดเจนเพียงใด นางก็ต้องมา อย่างน้อย...อย่างน้อยขอแค่ได้เข้าไปในเรือนซ่งอวี้เป็เวลาเพียงหนึ่งก้านธูป เื่หลังจากนี้ตระกูลฉีก็จะเป็คนจัดการเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนางแล้ว
เดิมทีตอนที่ยายฉีเสนอเื่นี้ให้แม่สื่อจ้าว นางยังคิดว่าเป็เื่ง่ายจึงตอบตกลงไปทันที นึกไม่ถึงว่าซ่งอวี้จะเป็คนที่ยุ่งยากขนาดนี้ แม้แต่ประตูยังเฝ้าเป็อย่างดี
แม่สื่อจ้าวมองอาฝูก็กัดฟันกรอดอย่างแรง
ไม่ได้ วันนี้นางต้องเข้าไปให้ได้ ทุกครั้งที่ตนมา ยัยหนูซ่งไม่อยู่เรือนอยู่ร่ำไป จะมีเื่ที่บังเอิญหลายครั้งเช่นนี้ได้อย่างไร ซ่งอวี้ต้องอยู่ด้านในแน่นอน!
จู่ๆ นางก็อุ้มท้องกลมโตของตัวเองนอนลงบนพื้น แล้วร้องไห้ออกมาเสียงดัง
"ทุกคนรีบมาดูเร็วเข้า คนในเรือนซ่งอวี้กำลังจะฆ่าคน! ข้าเป็เพียงหญิงชราเจ็บป่วย อยากจะขอให้ยัยหนูซ่งอวี้ดูอาการให้หน่อย สุดท้ายนางไม่ให้ข้าเข้าไปในเรือน แล้วยังเรียกสาวใช้ชั่วร้ายมาเฝ้าอยู่หน้าประตูอีก ยืนป้องประตูราวกับข้าเป็โจร นี่จะมองดูข้าป่วยตายอยู่หน้าประตูบ้านหรือ”
นางร้องะโหนึ่งคำ แล้วตบน่องขาหนึ่งที ร้องไห้เสียงสะอื้น ทันใดนั้นก็ดึงดูดคนที่อยู่รอบๆ ให้มามุงดูมากมาย
“นี่ไม่ใช่แม่สื่อจ้าวหรอกหรือ? ยัยหนูซ่งอวี้เป็อะไรไป ปกติมีคนป่วยเล็กป่วยน้อยมาให้นางรักษา นางก็ไม่เคยปฏิเสธ วันนี้เหตุใดถึงกันผู้าุโให้อยู่นอกประตู?
“เป็เช่นนั้น หมู่บ้านพวกเราทำไร่ทำนากัน ปีหนึ่งหาเงินได้ไม่กี่ตำลึง เมื่อก่อนยามเจ็บไข้ก็ทำได้เพียงอดทน เมื่อทนจนไม่ไหวก็หาว่าตัวเองโชคร้าย ตอนนี้มีซ่งอวี้ มีคนรักษาโรคเสียที ตอนแรกข้ายังนึกว่ายัยหนูคนนี้เป็คนดี สุดท้ายวันนี้นางกลับขับไล่หญิงชราให้อยู่นอกประตู นี่นางเริ่มเกลียดคนบ้านนอกแล้วหรือ”
ความคิดของคนบ้านนอกนั้นเรียบง่ายที่สุด หากเ้าดีกับพวกเขา พวกเขาก็จะรู้สึกว่าเ้าดี แต่พวกเขาก็มีข้อบกพร่องอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือไม่มีความคิดเป็ของตัวเอง คนอื่นพูดอะไรก็ว่าตามนั้น
หึ ซ่งอวี้ไม่ได้ดีเหมือนที่พวกเ้าคิด ในอดีตนางยังหาเงินได้ไม่มาก ยัง้าอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ถึงได้ทำดีกับพวกเรา เวลานี้ปลูกบ้านสร้างเรือนแล้ว ซื้อบ่าวไพร่แล้ว ทั้งยังมีงานที่มั่นคง ถึงได้ทำตัวหยิ่งยโสโอหังอย่างไรเล่า
คนที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นรอดูแต่เื่สนุกนั้นต่างก็อิจฉาซ่งอวี้มานานแล้ว อันที่จริงคำพูดแทงใจดำเช่นนี้ พวกนางอยากพูดออกมาตั้งนานแล้ว แค่ปกติซ่งอวี้อยู่เงียบๆ แทบจะไม่ออกไปไหนมาไหน ทั้งยังไม่สนใจเื่ของคนอื่น พวกนางอยากต่อว่าซ่งอวี้ ก็ไม่ได้พบเจอนาง จึงไม่เคยจับผิดนางได้
เฮ้อ ช่างบังเอิญจริงๆ วันนี้แม่สื่อจ้าวมาโวยวายเช่นนี้ ทำให้พวกนางคว้าโอกาสเอาไว้ได้ ได้ต่อว่าซ่งอวี้อย่างสาแก่ใจสักครั้ง ฉะนั้นจึงทำท่าทางที่ดูเหมือนรู้ทุกอย่าง แววตาทอประกายความตื่นเต้นดีใจ ปากนินทาว่าร้ายไม่หยุด
นี่คือซ่งอวี้ที่พวกเ้าชมนักชมหนากระนั้นหรือ อันที่จริงก็ไม่ได้ดีเลิศอะไรเลย
อาฝูเครียดจนหน้าบูดบึ้ง แต่พอนึกถึงฐานะของตัวเองแล้ว นางไม่อยากสร้างปัญหาให้ซ่งอวี้ จึงจำต้องอดทน
เสี่ยวหมานกลับไม่มีความคิดเช่นนี้ นางได้ยินเสียงเอะอะที่หน้าประตูก็ออกมาดู เมื่อเห็นแม่สื่อจ้าวนอนกลิ้งบนพื้น ทั้งยังพูดจาว่าร้ายซ่งอวี้ แล้วนางจะทนได้อย่างไร?
เสี่ยวหมานเลิกแขนเสื้อขึ้น เดินไปด้านหน้าอย่างฉับไว ใช้มือข้างเดียวกระชากแม่สื่อจ้าวขึ้น “ถ้าเ้ายังพูดอะไรพล่อยๆ อยู่อีก ดูสิว่าข้าจะฉีกปากเ้าอย่างไร!”
คุณหนูเป็คนดีถึงเพียงนั้น เ้ามันหญิงชราปากร้ายพูดจาเหลวไหล!
ท่าทีเช่นนี้ของเสี่ยวหมานทำให้แม่สื่อจ้าวโวยวายยิ่งกว่าเดิม เสี่ยวหมานยังไม่ได้ทำอะไร แม่สื่อจ้าวก็จับแก้มแห้งกร้านของตัวเอง “อั๊ยยา! ใครก็ได้ช่วยด้วย! สาวใช้ของซ่งอวี้จะตบข้า! หญิงชราเช่นข้ากำลังจะโดนตีตายแล้ว!”
คนที่รู้ว่าเสี่ยวหมานเป็คนแรงเยอะต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป หนุ่มสาวเืร้อนบางคนรีบเดินหน้าเข้ามาขัดขวาง “เ้าทำอะไรน่ะ! ถึงอย่างไรแม่สื่อจ้าวก็าุโกว่าเ้า เหตุใดเอะอะก็จะตีคนเช่นนี้ล่ะ? นางอายุเยอะขนาดนั้น หากโดนเ้าตีแล้วเป็อะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร?”
ที่จริงหวังเสี่ยวลิ่วก็ดูอยู่ข้างๆ
เขารู้อยู่แล้วว่าซ่งอวี้ไม่อยู่บ้านและรู้ว่าแม่สื่อจ้าวกำลังโวยวายไร้เหตุผล แต่น่าเสียดายที่เขาเป็บุรุษ เหล่าสตรีมีเื่ทะเลาะวิวาทกันเขาไม่ควรเข้าไปยุ่ง แต่เขาที่ยืนมองอยู่ข้างๆ ก็ใจร้อนจนไม่อาจนิ่งเฉยได้
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่เป็ผลดีกับซ่งอวี้เอามากๆ หวังเสี่ยวลิ่วก็ร้อนรนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว กระทั่งเห็นป้าหวังปรากฏตัวอยู่ด้านหลังท่ามกลางผู้ที่มามุงดูความสนุกก็ได้สติกลับมา เขาเดินอ้อมไปด้านหลังกลุ่มคนเ่าั้ แล้วกระซิบข้างหูป้าหวัง เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้นางฟังคร่าวๆ
ป้าหวังรู้ถึงต้นสายปลายเหตุของเื่นี้ดีอยู่แล้ว และรู้ด้วยว่าแม่สื่อจ้าว้าจะทำอะไร
แค่คิดก็รู้แล้วว่า้าเดินเข้าไปในเรือนของซ่งอวี้ จะได้เปิดโอกาสให้ตระกูลฉี ป้าหวังโมโหจนกัดฟันกรอด
“แม่สื่อจ้าว เ้าร้องไห้ที่นี่ไปเพื่อการใด? คนที่ไม่รู้จะคิดว่าคนในครอบครัวเ้าล่วงลับ แล้วจงใจโยนความผิดทั้งหมดมาให้ยัยหนูซ่งอวี้”
เสียงของป้าหวังเต็มไปด้วยพลังจนสามารถกลบเสียงของทุกคนได้ กลบแม้กระทั่งเสียงร้องไห้ของแม่สื่อจ้าว
แม่สื่อจ้าวโดนคำพูดเช่นนี้ของป้าหวังก็ถึงกับเครียดขึ้นมาทันที อะไรคือการที่บอกว่าคนในเรือนล่วงลับไป? คนในเรือนของนางอยู่ดีมีสุข นี่กำลังสาปแช่งใครอยู่หรือ?
ป้าหวังเดินออกจากกลุ่มผู้คน สายตากวาดมองอาฝูและเสี่ยวหมาน แววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
ยัยหนูซ่งอวี้ช่างจิตใจงามเหลือเกิน ซื้อตัวบ่าวสองคนนี้กลับมา ทว่าช่างไร้ประโยชน์จริงๆ เวลาเช่นนี้กลับไม่พูดไม่จาแม้แต่คำเดียว ถ้าเป็นาง คงขายบ่าวพวกนี้ไปแล้ว เลี้ยงไว้ก็เสียข้าวสุก
“ป้าหวัง เ้าพูดอะไรนะ? วันนี้ข้ามาหาหมอซ่งอวี้ แต่บ่าวของนางบอกว่านางไม่อยู่ เหอะ ใครๆ ก็รู้ว่าซ่งอวี้ไม่ชอบออกไปไหนมาไหนที่สุด ต้องเป็เพราะบ่าวสองคนนี้ดูิ่ข้าที่เป็แค่หญิงชราบ้านนอก ถึงได้ไม่ยอมให้ข้าเข้าไป”
แม่สื่อจ้าวตะคอกเสียงสูงกลับไป ไม่ลืมที่จะใส่ร้ายป้ายสีซ่งอวี้
ป้าหวังกลับไม่เชื่อนางแม้แต่คำเดียว “ก็บอกไปแล้วว่าซ่งอวี้ไม่อยู่บ้าน หูของเ้าไม่ดีหรือไร? หมู่บ้านของพวกเรามีคนมากมายเช่นนี้ ซ่งอวี้ออกจากบ้านหรือไม่ แค่ลองถามคนอื่นดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไร เ้าถึงขั้นต้องมาโวยวายหน้าบ้านคนอื่นเช่นนี้เลยหรือ?”