เดิมทีหานโม่นั้น้าทำตัวเ็าต่อเด็กชายให้ได้มากที่สุด แต่เมื่อได้เห็นดวงตากลมโตราวกับกวางของหานเสี่ยวมู่ที่ค่อยๆ ถูกปกคลุมไปด้วยม่านน้ำตา ทำให้หัวใจของหานโม่อ่อนยวบลงทันที
ด้วยตัวนางเองก็ไม่ได้รู้สึกต่อต้านอะไรเด็กชายั้แ่แรก ก่อนหน้านี้ตอนที่นางยังไม่รู้แน่ชัดว่าหานเสี่ยวมู่นั้นเป็บุตรชายของหานเทียน นางจึงปฏิบัติตัวต่อเขาอย่างดีไม่มีอคติ
หานโม่เป็คนที่มีเหตุผลมากผู้หนึ่ง ตอนนี้ภายในใจของนางมีคำตอบอยู่แล้ว เพราะความเกลียดชังของคนรุ่นก่อนนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนรุ่นหลังเลย หานเสี่ยวมู่ยังไร้เดียงสามากนัก แต่สิ่งที่นางคิดนี้ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆ ในตระกูลหานจะคิดเหมือนกัน
เช่นเดียวกับจินซื่อในวันนี้ ไม่ว่าอย่างไรหากคนในตระกูลหานคนใดมาเห็นว่าหานโม่กับหานเสี่ยวมู่อยู่ด้วยกัน ทุกคนจะต้องคิดว่าหานโม่กำลังลงมือทำร้ายหานเสี่ยวมู่อยู่อย่างแน่นอน
หานโม่ไม่ได้กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับคนตระกูลหาน แต่หานโม่ไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหานัก ดังนั้นเมื่อนางกลับมาคิดดีๆ แม้ว่าหานเสี่ยวมู่จะน่ารักขนาดไหน นางก็ไม่อาจทำตัวใกล้ชิดเหมือนเมื่อตอนบ่ายได้
แต่เมื่อเห็นดวงตาที่น่าสงสารของหานเสี่ยวมู่ หานโม่ก็รู้สึกว่าหัวใจที่แข็งกระด้างของนางกำลังถูกหลอมละลายอย่างช้าๆ
เหตุใดเด็กคนนี้ถึงได้น่ารักขนาดนี้กัน?
หานโม่มีชีวิตผ่านมาสองชาติแล้ว ยังไม่อาจทนต่อสิ่งมีชีวิตที่น่ารักนุ่มนิ่มอย่างเด็กๆ ได้ เมื่อเทียบกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกภูติผีปีศาจพวกนั้นแล้ว นางชอบที่จะยุ่งเกี่ยวกับกับเด็กๆ ที่มีจิตใจบริสุทธิ์มากกว่า
ดวงตาที่เคยเ็าของหานโม่ค่อยๆ สลายไป หลังจากทีู่เาน้ำแข็งละลายลง ความอบอุ่นแห่งฤดูใบไม้ผลิที่อ่อนโยนก็ค่อยๆ หวนคืนกลับมาสู่ดวงตาของหานโม่อีกครั้ง
“เ้านี่นะ!” หานโม่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยหมดหนทางที่จะจัดการกับเด็กคนนี้แล้ว นิ้วเรียวยื่นออกมาจิ้มลงไปที่หน้าผากของหานเสี่ยวมู่เบา ๆ
การััครั้งนี้ไม่ได้มีความเจ็บเลย หานเสี่ยวมู่จับนิ้วของหานโม่ไว้พลางยิ้มระรื่น จากที่ร้องไห้ก็เปลี่ยนมาเป็ยิ้มแย้ม "ท่านป้าเล็กไม่โกรธเสี่ยวมู่แล้วหรือขอรับ?"
หานโม่ส่ายหัว "ความจริงแล้วข้าไม่ได้โกรธ"
ดวงตากลมโตของหานเสี่ยวมู่กะพริบปริบๆ เขาสงสัยว่าหากท่านป้าเล็กไม่โกรธแล้วล่ะก็ เหตุใดก่อนหน้านี้ถึงได้มีท่าทีเมินเฉยกันเล่า แต่ตอนนี้ท่านป้าเล็กของเขากลับมาอ่อนโยนเหมือนตอนบ่ายแล้ว เขาจึงไม่อยากทำให้ท่านป้าเล็กไม่มีความสุขอีก
เมื่อมองไปที่ใบหน้ายิ้มแย้มของหานเสี่ยวมู่ หานโม่ก็หยิบเอาของว่างของโตวโตวออกมาจากแหวนโค่งเจียน แน่นอนว่าในครั้งนี้หานโม่ได้เอ่ยขอความยินยอมจากโตวโตวเรียบร้อยแล้ว
เมื่อตอนบ่ายเป็เพราะหานเสี่ยวมู่กินของว่างของโตวโตวไปหลายชิ้น มันจึงโกรธมาก แต่ในเวลานี้เ้านกตัวนี้กลับใจกว้างมาก จะร้ายจะดีอย่างไรเสียมันก็เป็สัตว์เทพ ดังนั้นจะไม่แย่งขนมกับเด็กแน่นอน
ในขณะที่หานโม่หยิบของว่างออกมาก็เหลือบมองโตวโตวไปด้วย เห็นเพียงสายตาอ่อนโยนของโตวโตวที่กำลังมองหานเสี่ยวมู่อยู่เท่านั้น ท่าทางจะถูกสายตาของเด็กน้อยดึงดูดให้หลงใหลเข้าเสียแล้ว ซึ่งมันช่างน่าตลกอย่างช่วยไม่ได้
คล้ายกับว่าทั้งคนและสัตว์เทพต่างก็พ่ายแพ้ให้กับความน่ารักเหมือนกันหมด
หานเสี่ยวมู่ดูมีความสุขมากเมื่อได้เห็นขนม หลังจากรับของว่างมาจากท่านป้าเล็กของตัวเองแล้วเขาก็วิ่งขึ้นไปนั่งทานขนมบนเตียงทันที โตวโตวบินไปเกาะอยู่บนไหล่ของหานโม่ ทั้งคู่มองหานเสี่ยวมู่ที่กำลังกินของว่างจนแก้มป่องราวกับหนูแฮมสเตอร์ด้วยสายตาอ่อนโยน โตวโตวพูดด้วยความเศร้าสร้อยว่า " คุณชายน้อยท่านนี้คงจะถูกขังอยู่แต่ในจวนตระกูลหาน ไม่มีโอกาสได้กินอะไรจากข้างนอกเลย เขาถึงได้หมกมุ่นกับมันอยู่ตลอดเวลา"
หานโม่ค้นในความทรงจำของตัวเองอีกครั้ง แต่นางก็ไม่พบความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับหานเสี่ยวมู่เลยแม้แต่น้อย ฉะนั้นจึงยอมแพ้ไป
ในความเป็จริง ภายในใจของนางเห็นด้วยกับคำพูดของโตวโตวมาก
เพราะหานเสี่ยวมู่อยู่ในฐานะหลานชายคนเดียวของตระกูลหาน ไม่เพียงแค่อู๋ซื่อที่มีศักดิ์เป็ท่านย่าเท่านั้น แม้แต่หานเฉินต้งที่เป็ผู้นำตระกูลต่างล้วนรักและเอ็นดูเขามากเช่นกัน
บรรดาทายาทในตระกูลหาน ตอนนี้มีเพียงหานเทียนแค่คนเดียวเท่านั้นที่แต่งงานและมีลูกแล้ว แม้ว่าจินซื่อจะไม่เหมาะกับตระกูลหานนัก ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางถึงเลือกที่จะแต่งเข้าเป็สะใภ้ พอแต่งเข้ามาได้ไม่นานนางก็ให้กำเนิดบุตรชาย สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็ความสามารถของนางอย่างแท้จริง
หานเสี่ยวมู่อยู่ในฐานะของหลานชายคนโต ในอนาคตหากหานเทียนขึ้นเป็ผู้นำตระกูลหานแล้ว เขาก็จะกลายเป็ผู้สืบทอดอันดับหนึ่งของตระกูลและสถานะของเขาก็จะไม่ธรรมดาอีกต่อไป แน่นอนว่าตระกูลหานต้องเข้มงวดกับเขามากเป็พิเศษ
ไม่ต้องพูดถึงของกินนอกจวนตระกูลหาน คาดว่าแม้แต่จะออกไปข้างนอกก็แทบจะเป็ไปไม่ได้เลย
ดวงตาของหานโม่จับจ้องไปที่หานเสี่ยวมู่ตัวน้อย ภายในใจของนางอดที่จะสงสารเขาไม่ได้
เด็กตัวเล็กๆ เช่นนี้มีชีวิตราวกับถูกขังอยู่ในคุกมาั้แ่เด็ก แม้ว่าจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราทุกวัน แต่กลับต้องใช้ชีวิตอยู่แค่ในจวนและถูกรายล้อมไปด้วยความรักที่มาพร้อมความเ็ปมากมายนับพัน นี่เป็สิ่งที่เขา้าจริงๆ งั้นหรือ?
เด็กในวัยนี้เป็วัยที่ต้องเล่นสนุก แต่หานเสี่ยวมู่นั้นกลับรู้เดียงสาเกินเด็กวัยเดียวกัน เขาสามารถคิดได้และต้องรับรู้ว่าตัวเองต้องเสียสละไปมากน้อยเท่าไหร่เพื่อแลกสิ่งใดมา
โตวโตวััได้ถึงความไม่พอใจและความเห็นใจภายในจิตใจของหานโม่ มันได้แต่ถอนหายใจ "นายท่าน ขนมของข้าทั้งหมดยกให้เขาเลยขอรับ สัตว์เทพเช่นข้ากินจนเบื่อแล้ว เอาไว้คราวหน้านายท่านค่อยซื้อให้ข้าใหม่ก็ได้ขอรับ"
หานโม่นิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไม่สามารถกลั้นยิ้มที่มุมปากไว้ได้อีกต่อไป
ในขณะที่นางหยิบของว่างออกมาจากแหวนโค่งเจียน ก็เอ่ยกับโตวโตวไปด้วย "ไม่คิดเลยว่าเ้าจะใจดีเช่นนี้"
โตวโตวสยายปีกเล็กๆ ของมันออกอย่างเย่อหยิ่ง " โตวเย่ว์จะดีจะร้ายก็ยังเป็สัตว์เทพที่ดีของท่านไม่ใช่หรือ? เคารพผู้าุโเมตตาผู้เยาว์นั่นคือคุณธรรม!"
หานโม่ "..."
การเคารพผู้าุโเมตตาผู้เยาว์อะไรนั่นกลายเป็คุณธรรมของสัตว์เทพไปแล้วงั้นหรือ?
เพื่อให้ในอนาคตหานโม่ยังเหลือของว่างสำหรับหานเสี่ยวมู่อีก นางจึงแบ่งขนมของโตวโตวออกเป็ถุงเล็กๆ อีกหลายถุง ซึ่งถุงใบเล็กใบนั้นเมื่อดูจากภายนอกแล้วเหมือนจะมีขนาดเล็กมาก แต่ข้างในกลับมีเนื้อที่กว้างขวางมาก แต่เดิมหานโม่ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อใช้เก็บอาวุธ
แต่มาในตอนนี้นางกลับนำเอาขนมทั้งหมดมาใส่แทนเพื่อเก็บเอาไว้ให้หานเสี่ยวมู่
เมื่อเห็นว่าท้องฟ้านั้นล่วงเข้าเวลาดึกมากแล้ว หานโม่ไม่อาจให้หานเสี่ยวมู่อยู่ที่นี่ด้วยในคืนนี้ได้ แต่จะปล่อยให้เขาเดินกลับเรือนตนเองไปตามลำพังก็ไม่อาจสบายใจได้ ดังนั้นนางจึงเสนอตัวไปส่งหานเสี่ยวมู่เอง
หานเสี่ยวมู่มีความสุขมากหลังจากที่ทานของว่างไปมากมาย แม้ว่าจะไม่อยากกลับแต่เขาก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถค้างคืนที่นี่ได้ จึงเอื้อมมือเล็กๆ ไปจับกับมือของหานโม่และเดินออกไปพร้อมกัน
ในเวลานี้พวกบ่าวรับใช้ต่างก็ทยอยเข้านอนกันหมดแล้ว แม้ว่าจะยังมีอีกหลายคนที่กำลังเฝ้ายามอยู่ แต่หากหานโม่ไม่้าให้ผู้ใดพบเห็น บ่าวรับใช้เหล่านี้ก็ไม่สามารถเห็นได้เช่นกัน
เมื่อพาหานเสี่ยวมู่ออกมาจากเรือนเหอเซียง หานโม่ก็พาเด็กน้อยหลบเลี่ยงสายตาบ่าวรับใช้ผ่านไปทางเรือนของฮูหยินสามจางซื่อ เพียงไม่นานก็มาถึงเรือนของฮูหยินรองเว่ยซื่อ
"ท่านป้าเล็กขอรับ หากข้ากินของว่างพวกนี้หมดแล้ว ท่านยังจะให้เสี่ยวมู่อีกหรือไม่ขอรับ?" หานเสี่ยวมู่อารมณ์ดีมาก ตลอดทางเขาคอยส่งเสียงพูดคุยเบาๆ กับหานโม่ไม่หยุด
หานโม่สังเกตเห็นว่าแม้ตลอดทางเด็กชายจะพูดไม่หยุด แต่เสียงของเขาก็เบามากนางจึงรู้สึกโล่งใจไม่น้อย
เด็กน้อยหานเสี่ยวมู่ ช่างเป็เด็กฉลาดเฉลียวจนน่าวิตกจริงๆ
"ได้สิ ตราบใดที่ท่านป้าเล็กของเ้ายังอยู่ที่ตระกูลหาน เ้าก็จะมีขนมกินแน่นอน" หานโม่พูดด้วยเสียงอันเบา
นางก้มตัวลงเล็กน้อยพลางหันหน้าไปพูดกับหานเสี่ยวมู่ที่อยู่ด้านข้าง ในขณะที่กำลังจะยืดตัวกลับมา หางตาของนางกลับเห็นเงาดำร่างหนึ่งแวบผ่านเข้าไปในเรือนของฮูหยินรองเว่ยซื่อ
