เรือนร่างของหญิงสูงศักดิ์ทอดกายนิ่งอยู่ภายในโลงแก้วขนาดใหญ่กลางพิพิธภัณฑ์หนานจิง นางสวมชุดผ้าไหมปักงดงามด้วยด้ายสีทอง ซึ่งเป็สัญลักษณ์แห่งสถานะและอำนาจ บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของชนชั้นสูงในราชวงศ์ ชุดงดงามนั้นเคยเปล่งประกายราวกับแสงอาทิตย์ยามรุ่งโรจน์ ทว่ากาลเวลาที่ผันผ่านนานกว่าห้าศตวรรษ ได้ลบเลือนความงดงามและรายละเอียดไปจนยากจะจินตนาการว่า ใบหน้าและผิวพรรณของนางเคยงามวิจิตรเพียงใด ทุกสิ่งที่เคยเปี่ยมด้วยชีวิตและบารมี บัดนี้เหลือเพียงเงาของอดีตให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมและขบคิดถึงเื่ราวที่สูญหายไปกับกาลเวลา
เยว่ไป๋ลู่ เป็นักศึกษาในมหาวิทยาลัยชื่อดังของปักกิ่ง ผู้มีความสนใจและชอบศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ นอกจากพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามที่เธอมักไปเยือนแล้ว ดูเหมือนว่าพิธภัณฑ์หนานจิงเป็อีกสถานที่หนึ่ง ที่ดึงดูดความสนใจได้ไม่แพ้กัน ด้วยเพราะเธอเองมีของเก่าเก็บสะสมไว้มากมายเพื่อเรียนรู้ และหากของชิ้นใดมีราคาแพง ก็นำจำหน่ายออกไป รายได้นั้นถูกนำไปลงทุนในหุ้นและคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อเป็การต่อยอดและคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเสริมสร้างความมั่นคงในอนาคตได้
ท่ามกลางฝูงชนที่แวะเวียนเข้ามาชมร่างของหญิงโบราณที่นอนสงบนิ่งในโลงแก้ว มีเพียงเยว่ไป๋ลู่ที่ทอดสายตามองด้วยความหลงใหล แม้จะเคยเห็นวัตถุโบราณมานับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่สะกดหัวใจเธอได้เท่าครั้งนี้ สายตาของเธอจับจ้องไปยังมือของหญิงโบราณ ซึ่งถือผ้าปักลายัไว้แน่น รายละเอียดของผืนผ้านั้น ทั้งสีสันและขนาด ช่างคล้ายคลึงกับของเก่าที่เธอเพิ่งได้มาจากตลาดมืดอย่างน่าประหลาด หัวใจดวงน้อยเต้นรัวไม่เป็จังหวะ รีบหยิบมือถือขึ้นมาเปิดภาพแล้วเทียบดู ก่อนจะเบิกตากว้างแล้วอุทานขึ้นเบา ๆ
‘เหมือนกันจริง ๆ ...’ เยว่ไป๋ลู่พึมพำเบา ๆ ก่อนจะก้มมองภาพในมือถือ สลับกับมองผ้าปักลายัในมือของหญิงโบราณอย่างไม่วางตา เธอทำเช่นนั้นอยู่สองสามครั้ง พลันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ พยายามกลั้นความตื่นเต้นและรวบรวมสติ ก่อนเริ่มพิจารณาทุกอย่างอีกครั้ง
‘เหมือนกันทุกอย่างเลย... ต่างกันแค่ลายที่ปักอยู่บนผ้า’ เยว่ไป๋ลู่พึมพำในใจ ขณะมองเปรียบเทียบภาพในมือถือกับผ้าปักในมือของหญิงโบราณ
‘ในรูปเป็ลายหงส์ แต่ของที่หญิงคนนี้ถือกลับเป็ลายั ไม่แน่ว่าของสองชิ้นนี้อาจมาจากที่เดียวกัน… นี่มันของเมื่อห้าร้อยปีก่อนเชียวนะ! ถ้าฉันจัดการให้ดี ครั้งนี้ต้องได้กำไรหลายเท่าตัวแน่ ๆ!’
ความคิดนั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เมื่อตัดสินใจได้ เยว่ไป๋ลู่จึงละเมิดกฎโดยไม่ลังเล รีบยกมือถือขึ้นมาแอบถ่ายภาพ จากนั้นเธอเก็บมือถือใส่กระเป๋าสะพายด้วยความชำนาญ ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ก่อนที่เธอจะเดินจากไป เยว่ไป๋ลู่ชะงักเล็กน้อยเมื่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหมุนตัวกลับไปยังจุดเดิม ดวงตาฉายแววเ้าเล่ห์พร้อมรอยยิ้มมุมปาก บ่งบอกถึงความคิดบางอย่าง
‘ถ้าจะขายของให้ได้ราคาสูง story เป็สิ่งสำคัญปล่อยผ่านไม่ได้’ เธอคิดในใจ พลางก้าวเข้าไปอ่านรายละเอียดเื่ราวของหญิงสาวโบราณ ที่พิพิธภัณฑ์จัดแสดงไว้ด้านข้าง ก่อนจะเพ่งมองข้อมูลด้วยความตั้งใจ
‘จือซินกุ้ยเฟย พระสนมคนโปรดของจักรพรรดิจวิ้นเทียน พระนางเป็บุตรีของอัครมหาเสนาบดี ได้รับพระราชทานขึ้นเป็กุ้ยเฟยเมื่ออายุยี่สิบห้าปี และสิ้นพระชนม์ลงราวอายุยี่สิบเจ็ดปี ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสิ้นพระชนม์ด้วยสาเหตุใด ทว่าหลักฐานชิ้นสำคัญในพระหัตถ์บ่งชี้ว่าพระนางเป็ที่โปรดปรานของจักรพรรดิจวิ้นเทียนเป็อย่างมาก’ หลังจากอ่านรายละเอียดเสร็จ ดวงตาของเยว่ไป๋ลู่สัดส่ายไปมาด้วยความตกตะลึง ทอดมองไปยังผ้าปักลายัผืนนั้นด้วยความหวัง ที่พลุ่งพล่านในใจ
“หนึ่งล้านหยวน!” เสียงเยว่ไป๋ลู่เจรจาผ่านปลายสายอย่างมั่นใจ มืออีกข้างยกแก้วน้ำหวานขึ้นจิบ พลางนั่งสบาย ๆ ในห้องพักเล็ก ๆ ดวงตามองไปยังทีวีติดผนังที่กำลังฉายสารคดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ราชวงศ์ิ
“ไป๋ลู่! เธอเสียสติไปแล้วหรือไง เรียกราคาสูงขนาดนี้กับแค่ผ้าเก่า ๆ ผืนเดียว!” เสียงปลายสายโพล่งขึ้นด้วยความใ
“ใครว่าเป็ผ้าเก่า ๆ ผืนเดียว นี่มันผ้าปักสมัยราชวงศ์ิเชียวนะ มันแทบจะเป็แบบเดียวกันกับในพิพิธภัณฑ์เลยด้วยซ้ำ ฉันเป็นักสะสมของเก่า ของโบราณมากมายผ่านสายตาฉันมานับร้อย ๆ ชิ้น หากไม่เชื่อใจกัน ฉันเอาไปขายให้กับคนอื่นก็ได้” เยว่ไป๋ลู่เตรียมกดวางสาย ก่อนอีกฝ่ายจะเอ่ยขึ้น
“เดี๋ยวก่อน!”
“มีอะไรอีก?”
“ฉันขอปรึกษาคุณเฉินก่อน” อีกฝ่ายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงลังเล เยว่ไป๋ลู่ได้ยินดังนั้นจึงตอบกลับทันที
“ให้เวลาไม่นานนักนะ”
พูดจบ เธอก็กดวางสายโดยไม่รอคำตอบ ก่อนจะหันกลับไปสนใจสารคดีเกี่ยวกับราชวงศ์ิ ที่กำลังฉายบนหน้าจออีกครั้ง
‘จักรพรรดิจวิ้นเทียน พระองค์ได้รับการแต่งตั้งเป็จักรพรรดิในวัยเพียง 19 ปี ก่อนขึ้นเป็จักรพรรดิ เขาเป็แม่ทัพที่เก่งกาจ ทรงนำทัพพิชิตศัตรู และรวบรวมแผ่นให้เป็ปึกแผ่น ไม่มีศัตรูใดกล้าเข้ามารุกราน ทว่าเื่ราวโด่งดังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจือซินกุ้ยเฟย ซึ่งเป็พระสนมเอกที่อายุมากกว่าถึง 5 ปี แต่ได้รับการโปรดปรานเป็อย่างมาก ทำให้จักรพรรดิจวิ้นเทียนถูกครหา ว่าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับเื่ส่วนพระองค์มากเกินไป...’
ก่อนเสียงมือถือของเยว่ไป๋ลู่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้เธอละสายตาจากสารคดี แล้วกดรับ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้