แมซโซลาจ้องเขม็งไปที่ลูเซียโนพลางส่ายหน้าแล้วกล่าวเสียงเครียดว่า “ต่อให้อเล็กซานเดอร์ไม่ใช่ ‘บุตรคนโปรดของพระเ้า’ จริงๆ แต่เื่ที่เขามี ‘วงแหวนแห่งา’ สีทองสองวงก็เป็เื่จริงไม่ใช่เื่หลอกลวง นั่นหมายความว่าหากเขา้าเข้าโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ เขาจะต้องได้รับความชื่นชอบจากเหล่านายท่านอย่างมาก เมื่อเวลานั้นมาถึง เกรงว่าแม้แต่ท่านบิชอปเซิร์จเยเรมีก็คงต้องลดตัวและหาโอกาสที่จะไปมาหาสู่กับเขา สำหรับนักบวชและอัศวินที่มีระดับต่ำอย่างพวกเรา ก้อนหินเวทมนตร์และม้วนคัมภีร์ยังมีเวลามากมายที่จะสะสมใหม่อีกครั้งได้ แต่โอกาสที่จะได้คบค้าสมาคมกับนายท่านแบบนี้กลับมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
หัวหน้าอัศวินลูเซียโนก็คิดตาม ที่แท้เป็เช่นนี้เอง
“ถ้าอย่างนั้น ต่อจากนี้พวกเราควรทำอย่างไรต่อ?” เขาถาม
“จำไว้ จงเชื่อฟังคำสั่งขององค์าาอเล็กซานเดอร์...” ดวงตาของแมซโซลาเป็ประกายคล้ายดวงตาของนักพนันที่บ้าคลั่งก่อนจะเสี่ยงโชค “การเดิมพันครั้งนี้ พวกเราได้เปรียบอย่างมากเพราะพวกเราเป็คนแรกที่ได้เดิมพัน ขอเพียงเดิมพันชนะ ในอนาคตเราก็มีโอกาสที่จะก้าวะโ ต่อจากนี้ เื่ที่จะได้เข้าสูู่เาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ว่าจะเป็ไปไม่ได้...ฮิๆ ตรงกันข้าม หากเดิมพันแพ้ ก็แค่สูญเสียก้อนหินเวทมนตร์และม้วนคัมภีร์พวกนั้น ฮิๆ การสูญเสียสิ่งพวกนั้นถือว่าเป็อะไรได้”
“ถ้างั้นต้องส่งครไปรายงานเื่นี้กับท่านบิชอปเซิร์จเยเรมีหรือไม่?”
“แน่นอนว่าไม่ต้อง!”แมซโซลาได้ยินประโยคนั้นถึงกับใ “สหายเอ๋ย หรือว่าเ้าเลอะเลือนไป? รีบดับความคิดนี้ของเ้าซะ! จำไว้ ต่อจากนี้เ้าต้องกำชับพวกข้าราชบริพารอย่างเคร่งครัด เื่นี้ต้องไม่รั่วไหลออกไป เมืองแซมบอร์ดมี ‘บุตรคนโปรดของพระเ้า’ สายโซ่ของผลประโยชน์นี้มันอ่อนไหวเกินไป หากข่าวรั่วไหลว่านายท่านอยู่ที่นี่...เทียบกับนายท่านคนอื่นๆ แล้วทั้งเ้าและข้าจะไม่ได้เปรียบอะไรเลยสักนิด ทั้งไม่อาจรั้งอยู่ที่โบสถ์เมืองแซมบอร์ดต่อแน่ และถ้าคิดจะรักษาความสัมพันธ์กับอเล็กซานเดอร์ คงเป็เื่ยาก”
ลูเซียโนได้ยินก็ชะงัก ก่อนจะพยักหน้าซ้ำๆ
การรวมตัวของเขาและแมซโซลาเหมือนหนึ่งจิ้งจอกหนึ่งหมาป่าหรือหนึ่งบุ๋นหนึ่งบู้ หลายครั้งที่แมซโซลาคอยช่วยเขาตัดสินใจ และข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าสายตาของแมซโซลาโดดเด่นไม่เหมือนใคร ทั้งสองคนต่างอาศัยแผนการของแมซโซลา ทำให้เลื่อนขั้นมาตลอด ทั้งยังได้รับประโยชน์มากมาย
ในห้องลับโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ช้าหนึ่งจิ้งจอกหนึ่งหมาป่าก็ได้ปรึกษาหารือร่วมกัน สุดท้ายก็พากันโน้มน้าวตัวเองให้เชื่อในสถานะ ‘บุตรคนโปรดของพระเ้า’ ของซุนเฟย ทั้งสองคนเริ่มลงมือศึกษาความชอบของอเล็กซานเดอร์หลังกลับมาเป็ปกติ เพื่อเตรียมแผนการที่จะสร้างความประทับใจให้แก่อเล็กซานเดอร์
……
ห้องโถง
ซุนเฟยยกหีบเหล็กทั้งสองหีบนี้ขึ้นมา แล้วเรียกให้พัศดีโอเลเกร์มาข้างกาย ก่อนจะยกหีบเหล็กให้ จากนั้นก็ได้สังการบางอย่างแล้วค่อยให้พัศดีโอเลเกร์ล่าถอยไป หลังจากนั้นเขาก็เปิดประตูมิติเข้าสู่โลก Diablo
ที่ ‘ค่ายโร้ก’ ซุนเฟยมาถึง ก็ไปหาทหารรับจ้างสาวเอเลน่า
“เล่ามาสิ เขาวงกตใต้ดินนั่นเ้าพบอะไรไหม?”
ในค่ายมีเต็นท์ใหม่ที่สร้างขึ้นสำหรับซุนเฟย เป็ที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้นำสูงสุด ซุนเฟยมองสิ่งอำนวยความสะดวกภายในเต็นท์ไปพลางถามไปพลาง
“ใช่ นายท่าน เป็เื่ที่ยากจะจินตนาการจริงๆ กลางูเาหลังเมืองแซมบอร์ดจะมีเขาวงกตขนาดใหญ่แบบนี้!” เอเลน่าพูดถึงเขาวงกตขึ้นมา ทันใดนั้นดวงตาก็พลันตื่นเต้นขึ้น “นั่นเป็สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่มาก...หลังจากที่ข้าตามท่านโอเลเกร์เข้าไปในเขาวงกต ตรวจสอบทุกๆ ตารางนิ้วของทางเดินและห้องขังทุกห้อง พอจะมองออกว่า ทุกที่ของเขาวงกตแกะสลักบางอย่างที่ดูเรียบง่ายมาก ดังนั้น เบาะแสจึงน้อยเหลือเกิน...เนื่องจากสังเกตเห็นส่วนเล็กๆ ด้านหน้าของประตูเหล็ก ดังนั้นข้าจึงไม่ค้นพบอะไร...แต่ไม่รู้ทำไม เขาวงกตนั่นทำให้ข้ารู้สึกแปลกๆ และคุ้นเคยมาก”
“รู้สึกแปลกๆ?”
“ใช่แล้วนายท่าน นั่นเป็ความรู้สึกที่แปลกมาก ทั้งคุ้นเคยทั้งไม่คุ้นเคย ราวกับว่าข้าเคยเห็นเขาวงกตนี้จากที่ไหนสักแห่ง แต่เมื่อสังเกตดีๆ กลับไม่พบเบาะแสเลยแม้แต่น้อย” เอเลน่าก้มหน้าลง รู้สึกละอายใจเล็กน้อย “ขออภัยนายท่าน ครั้งนี้ข้าไม่อาจช่วยท่านได้!”
ซุนเฟยส่ายหน้า “เอเลน่า อย่าโทษตัวเองเลย ความจริงแล้วที่ให้เ้าไปเยี่ยมดูสักรอบ เป็เพราะข้าก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับเ้า ประสาทััที่หกของข้ามันบอกว่าทั้งคุ้นเคยทั้งไม่คุ้นเคย...อืม ช่างเถอะ เื่นี้ไม่ต้องพูดถึงมันสักพัก ยังมีอีกเื่ เ้ามาดูนี่สิ อะไรคือความแตกต่างระหว่างอัญมณีสองก้อนนี้?”
พูดจบก็มีอัญมณีธาตุไฟสีแดงสดสว่างจ้าสองอันปรากฏขึ้นในมือของซุนเฟย
“โอ้พระเ้า นี่...หรือว่าทั้งสองอันจะเป็ ‘เกล็ดอัญมณีธาตุไฟ’?”
เอเลน่าเผยสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะอุทานออกมาอย่างใ
นางดูเหมือนกับกำลังัักับสมบัติอันล้ำค่า ค่อยๆ รับอัญมณีทั้งสองก้อนมาตรวจดูอย่างระมัดระวัง ภายใต้อัญมณีสีแดงที่ส่องสว่างสะท้อนเข้ากับใบหน้าสาวงามทำให้ดูน่าหลงใหล ในดวงตาของนางปรากฏร่องรอยสงสัย อัญมณีธาตุเป็สมบัติล้ำค่าไร้ใดเปรียบของแผ่นดินโร้ก เพราะหากมีพวกมัน ช่างตีเหล็กฝีมือยอดเยี่ยมก็สามารถสร้างไอเทมเวทมนตร์ที่ทรงอำนาจออกมาได้...นี่เป็ครั้งแรกที่เอเลน่าได้เห็นอัญมณีในตำนาน
นางควบคุมความตื่นเต้นในใจตัวเองไม่ไหว คอยสังเกตรายละเอียดของมันอย่างระมัดระวัง
แต่นางก็ไม้ค้นพบข้อแตกต่างระหว่างอัญมณีธาตุสองก้อนนี้ เอเลน่าเป็สาวงามแสนฉลาดทนางไม่รีบร้อนที่จะด่วนสรุปทันที ในใจของนางแน่ชัดว่า ในเมื่อซุนเฟยหยิบอัญมณีออกมาแล้วขอความเห็นจากตัวนางเอง มันก็พอจะอธิบายได้ว่าจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่พิเศษ ดังนั้นทหารรับจ้างสาวจึงสังเกตรายละเอียดของมันอีกครั้งอย่างรอบคอบ
แต่สุดท้าย เอเลน่าก็ไม่ค้นพบอะไร
นางส่ายหน้าก่อนจะส่งอัญมณีคืนซุนเฟย บนใบหน้าปรากฏร่องรอยความเสียใจ พลางตอบว่า “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นายท่านซุนเฟย ข้าดูแล้วก็หาข้อแตกต่างของ ‘เกล็ดอัญมณี’ สองก้อนนี้ไม่เจอ ไม่ว่าจะเป็ขนาดหรือพลังธาตุที่บรรจุไว้ในนั้น แทบจะไม่ต่างกันเท่าไรเลย”
ซุนเฟยได้ยินก็พยักหน้า
เขาเก็บอัญมณีใส่เข็มขัดมิติของคนเถื่อน แล้วไม่พูดอะไรต่อ
แต่ลึกเข้าไปในใจ ซุนเฟยกลับอดไม่ได้ที่จะยินดี
เพราะอัญมณีสีแดงสองก้อนนี้ ก้อนหนึ่งเป็หนึ่งในบรรดาก้อนหินเวทในหีบเหล็กของแมซโซลาที่เขาเลือกออกมา และอีกก้อนเป็ ‘เกล็ดดอัญมณี’ ที่ได้มาตอนที่ตีมอนสเตอร์ในโลก Diablo ครั้งแรกที่ซุนเฟยรู้สึกว่าก้อนหินเวทมนตร์เหมือนกับอัญมณีในโลก Diablo เพียงแต่ไม่กล้าฟันธงเท่านั้น และเมื่อผ่านการชี้ขาดโดยเอเลน่า ซุนเฟยจึงแน่ใจแล้วว่า ก้อนหินเวทมนตร์ในแผ่นดินอาเซรอทและเกล็ดอัญมณีของใน Diablo เป็สิ่งเดียวกัน
นี่ทำให้ในใจของซุนเฟยได้แผนการใหม่ขึ้นมา
จำนวนอัญมณีในหีบเหล็กของแมซโซลาที่ให้มานาจะมีจำนวนสามร้อยถึงสี่ร้อยก้อน ซึ่งแสดงถึงความมั่งคั่งที่หาได้ยาก หลังจากนี้ถ้าเขาทำเควส ‘ลุกค์ โกลไลน์’ สำเร็จก็จะได้รับ ‘ลูกบาศก์ฮอล่าดิกส์’ ซึ่งสามารถใช้เกล็ดอัญมณีพวกนี้มาผสานกัน ก็จะได้ ‘อัญมณีที่สมบูรณ์แบบ’ ที่มีพลังเวทมนตร์จำนวนมาก ‘อัญมณีที่สมบูรณ์แบบ’ นำมาฝังบนไอเทม แน่นอนว่าสามารถเพิ่มคุณสมบัติเวทมนต์ให้แก่ไอเทมได้
เมื่อซักถามต่ออีกสองสามคำถาม ซุนเฟยก็เคลียร์ข้อสงสัยทั้งหมดในใจได้ ต่อมาเขาจึงเตรียมตัวไปอัพเลเวลที่ ‘ลุกค์ โกลไลน์’
“เอเลน่า เ้าไปเตรียมตัวก่อนเถอะ เตรียมอาวุธและชุดเกราะให้พร้อม ข้าจะพาเ้าออกจากแผ่นดินโร้ก ไปยังเมือง ‘ลุกค์ โกลไลน์’ ที่อยู่ทางตะวันออก ฮึๆๆ เราจะไปล้าบางมอนสเตอร์ระดับสูงกัน บางทีอาจได้ความประหลาดใจที่คาดไม่ถึงก็ได้” ซุนเฟยหัวเราะ
“‘ลุกค์ โกลไลน์’ ทะเลทรายเพิร์ลหรือ?”
เอเลน่าได้ยินก็พลันดีใจ บนใบหน้าปรากฏร่องรอยดีใจอย่างไม่ปิดบัง ที่จริงแล้วนางเป็เพียงเด็กสาววัยยี่สิบเท่านั้น ั้แ่เกิดและโตก็ถูกจำกัดให้อยู่แต่ในแผ่นดินโร้ก สำหรับเมืองใหญ่อย่าง ‘ลุกค์ โกลไลน์’ ก็คงได้ยินแต่ในเื่เล่าเท่านั้น เมื่อได้ยินซุนเฟยบอกจะพานางไป ‘ลุกค์ โกลไลน์’ สาวงามคนนี้จึงะโโลดเต้นเหมือนเด็กสาวแล้วรีบไปเตรียมตัว
ซุนเฟยเห็นฉากนี้ก็เหมือนได้รับเชื้อจากเอเลน่า อารมณ์ของเขาจึงกลายเป็เบิกบานขึ้นมา
ฉวยโอกาสที่เอเลน่าไปเตรียมชุดเตรียมอุปกรณ์ ซุนเฟยก็ไปหาตาเฒ่าเคนใน ‘ค่ายโร้ก’ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับแหวนเก็บของของนักเวทธาตุไม้สี่ดาวเอแวนส์และชุดเกราะของชายหน้ากากเงิน
แต่เมื่อเขาเห็นตาเฒ่าเคนดูเหมือนจะเข้าสู่ภาวะแห่งความบ้าคลั่ง หลงใหลในการตรวจสอบ เขาตรวจสอบแหวนเก็บของและชุดเกราะไปพลางบ่นพึมพำไปพลาง เมื่อเขาเห็นซุนเฟยมาถึงก็ไม่เงยหน้าขึ้น เพียงเหลือบตามองเท่านั้น “นี่เป็เื่เหลือเชื่อ นี่เป็เวทมนตร์ที่ไม่เคยมีมาก่อน...และสามารถใช้งานได้จริง ฮิๆๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ซุนเฟยเห็นก็รู้เลยว่าตาเฒ่าเคนพบปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่สามารถระบุอุปกรณ์ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงถูกจับมาสอบถามเื่ราวจึงรีบเดินหนี
เขาไปหา NPC ช่างตีเหล็กสาวสวยชาร์ซีที่อยู่ทิศเหนือของ ‘ค่ายโร้ก’ ความจริงแล้วซุนเฟยเองก็รู้สึกยากมากที่จะทำเหมือนทุกคนใน ‘ค่ายโร้ก’ เป็เพียง NPC เพราะพวกเขาทุกคนต่างมีนิสัยและสติปัญญาที่เหมือนจริงมาก พอนานเข้า ซุนเฟยจึงรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนสหายของตัวเองไปแล้ว
หลังจากช่างตีเหล็กสาวได้ขอให้ซุนเฟยช่วยหาค้อนเวทมนตร์กลับมาให้ก็มีท่าทีเป็กันเองกับซุนเฟยมาก ท่ามกลางสายตาไม่อยากจะเชื่อของชาร์ซี เมื่อซุนเฟยหยิบ ‘เกล็ดอัญมณี’ ออกมาส่งให้นาง เหมือนลูกเทวดาที่รู้จักการล้างผลาญเงินอย่างเดียว ก่อนจะพูดอย่างวางท่าว่า “เฮ้ ชาร์ซี ข้าคิดว่าอัญมณีสิบกว่าก้อนนี้คงช่วยให้เ้าสร้างไอเทมเวทมนตร์ได้”
“นี่คือ...พระเ้า มันคืออัญมณีธาตุในตำนาน...แต่...แต่นายท่านซุนเฟย ข้ายังไม่มีพลังควบคุมค้อนเวทมนตร์เลย และ...เทคนิคการตีเหล็กเข้ารูปของข้าก็ต่ำมาก ไม่อาจเสียอัญมณีธาตุที่ล้ำค่าแบบนี้ไปเปล่าๆ ได้...”
“ฮ่าๆๆ ไม่มีปัญหา อัญมณีเหล่านี้ แค่ไว้ให้เ้าฝึกฝีมือเฉยๆ”
“อะไรนะ? ใช้อัญมณีธาตุในตำนานมา...ฝึก...ฝึกฝีมือ? ข้า...ข้า...” ชาร์ซีตาค้าง คิดว่าตัวเองอาจจะฟังผิด
---------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้