เย่เฟิงสำรวจรอบๆ ทั่วทั้งโดมไม่มีน้ำทะเลแม้แต่หยดเดียว แต่ในช่องน้ำแข็งที่เชื่อมต่อมาถึงโดมนี้ทั้งสองช่องกลับเต็มไปด้วยน้ำทะเล นี่ย่อมเป็ผลจากพลังงานลึกลับของน้ำแข็งพันปีนั่นเอง ร่างที่ถูกผนึกไว้ในประติมากรรมน้ำแข็งของซูเฟยหยิ่งก็เกิดจากน้ำแข็งพันปีชิ้นนี้
มันมีลักษณะโปร่งใสคล้ายคริสตัลขนาดเท่าแขนของคนทั่วไป ครึ่งหนึ่งถูกฝังอยู่ในพื้นน้ำแข็ง อีกครึ่งโผล่พ้นออกมาพร้อมกับเปล่งประกายสวยงาม ขณะอยู่ในโลกเทวะ เขาเคยได้ยินเพียงชื่อของน้ำแข็งพันปีเท่านั้นและรับรู้ว่ามีสำนักหนึ่งมันอยู่ สำนักนั้นมีอิทธิพลเป็อันดับต้นๆ ของโลกเทวะ
“น่าแปลกมากที่โลกใบนี้มีสมบัติ์อยู่มากมายขนาดนี้ บางทีโลกนี้กับโลกเทวะอาจเป็โลกที่คล้ายคลึงกันสินะ?”
ชายหนุ่มเริ่มคาดเดา
ั้แ่เกิดใหม่ในโลกนี้ เขาก็ได้พบทั้งหญ้าจินเย่ หินจิติญญา หญ้าเจียหลานหลิง ลูกปัด์ าาปะการัง และตอนนี้ ก็เจอน้ำแข็งพันปีชิ้นนี้อีก
ในโลกเทวะ ด้วยความ้ามุ่งสู่พลังบ่มเพาะระดับร้อยปี ผู้ฝึกวิถีเซียนชั้นสูงทั้งหลายต่างต่อสู้แย่งชิงกันอย่างเอาเป็เอาตายเพื่อสมบัติ์เหล่านี้ แต่โลกใบนี้กลับมีสมบัติ์อยู่มากมายจนสามารถพบเห็นได้ทั่วไป
สิ่งเดียวที่อธิบายเื่นี้ได้ก็คือ แม้สมบัติ์จะมีอยู่ทั้งในโลกนี้และโลกเทวะ แต่เมื่อโลกใบนี้ไม่มีผู้ฝึกวิถีเซียน สมบัติ์ทั้งหลายที่ซ่อนอยู่จึงยากจะถูกค้นพบ ผู้ฝึกวิถีเซียนมีััที่ว่องไวต่อพลังฟ้าดิน แต่ผู้ฝึกวรยุทธ์ทั้งหมดบนโลกนี้กลับไม่รู้สึกถึงมัน การค้นหาสมบัติ์ที่มีอยู่มากมายบนโลกจึงยากสำหรับพวกเขา นั่นเป็เหตุผลว่าทำไม ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของโลกใบนี้ สมบัติ์ทั้งหลายต่างยังคงถูกซ่อนไว้อยู่ทั่วทุกมุมโลก
เย่เฟิงรีบส่ายหัวและคิดว่านี่ไม่ใช่เวลาคิดเื่เหล่านี้ ไม่ว่าอย่างไรสมบัติ์เ่าั้ก็ไม่อาจเทียบได้กับซูเฟยหยิ่ง ตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการช่วยอาจารย์ของเขาออกมาก่อน!
ชายหนุ่มพบว่าประติมากรรมน้ำแข็งที่ผนึกซูเฟยหยิ่งแอบอิงอยู่กับกลุ่มปะการัง ขณะที่พลังลึกลับของน้ำแข็งพันปีเชื่อมต่ออยู่ที่เท้าของเธอ เป็ไปได้มากว่าซูเฟยหยิ่ง้าน้ำแข็งพันปีชิ้นนี้ แต่สุดท้ายกลับถูกมันปฏิเสธและถูกแช่แข็งอย่างนี้ ครั้งหนึ่งหญิงสาวบอกเขาว่า น้ำแข็งพันปีมีจิติญญาเป็ของตัวเอง หากใคร้า ก็ต้องถูกยอมรับจากจิติญญาภายในน้ำแข็งเสียก่อน
โชคไม่ดีที่สุดท้าย ซูเฟยหยิ่งถูกจิติญญานั้นปฏิเสธ
เย่เฟิงไม่คิดเคลื่อนย้ายน้ำแข็งพันปีนี้ เขาเพียงมองกระแสอากาศอันหนาวเย็นที่มันปลดปล่อยออกมา ซึ่งมีความสามารถมากพอจะทำให้ผู้คนทั้งหลายหนาวตาย แต่จุดสำคัญคือ ชายหนุ่มกลัวว่าหากเคลื่อนย้ายมันแล้ว เขาจะถูกแช่แข็งไปด้วยอีกคน หากเป็เช่นนั้น เขาและอาจารย์คงถูกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจับตัวไปวิจัยทั้งคู่ และพบกับชะตากรรมที่น่าอนาถ
เย่เฟิงค่อยๆ เดินอ้อมน้ำแข็งพันปีชิ้นนี้ไปอย่างรอบคอบ และหยุดอยู่หน้าประติมากรรมน้ำแข็งของซูเฟยหยิ่ง
ประติมากรรมน้ำแข็งนี้เป็รูปทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก หากคนทั่วไปถูกผนึกอยู่ในนี้เป็เวลานาน พวกเขาคงเสียชีวิตไปแล้ว แต่เย่เฟิงเชื่อว่าซูเฟยหยิ่งไม่มีทางตายง่ายๆ ยามที่อยู่ในโลกเทวะ ผู้หญิงคนนี้เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้มาแล้วมากมาย แต่ก็สามารถรอดชีวิตมาได้ทุกครั้ง
ชุดกระโปรงยาวสีขาวปกปิดเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบเอาไว้ ตลอดจนเรือนผมสีดำเงางามกระจายทั่วลาดไหล่ทิ้งตัวเหมือนน้ำตก สิ่งเหล่านี้ทำให้รูปลักษณ์ของเธอสูงส่งจนคนทั่วไปไม่อาจเอื้อม
เย่เฟิงมองดวงตาที่ปิดอยู่ มันทำให้เขาอดคิดถึงตอนที่อยู่ในโลกเทวะไม่ได้ เวลานั้นทุกครั้งที่เห็นดวงตาคู่นี้ แม้จะรู้สึกถึงความหนาวเย็นในใจ แต่ก็ทำให้เกิดความหลงใหลจนแทบถอนตัวไม่ขึ้น
ซูเฟยหยิ่งเป็ผู้หญิงค่อนข้างเ็าและไม่มีทางปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาใกล้ตัวเธอ ยกเว้นครั้งนั้นที่หญิงสาวค้นพบพร์ในตัวเขา เย่เฟิงก็ไม่เคยเห็นรอยยิ้มของเธออีกเลย สำหรับผู้ฝึกวิถีเซียนคนอื่นในโลกเทวะ ซูเฟยหยิ่งมักพูดกับพวกเขาด้วยคำพูดแข็งทื่อ ไร้ซึ่งความแยแสใดๆ
ไม่นานนัก เย่เฟิงก็รีบเรียกสติของตัวเอง เขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และยื่นมือััประติมากรรมน้ำแข็ง ความหนาวเย็นจนแสบกระดูกทำให้เขาผงะไปทันที
เย็นมาก!
หากซูเฟยหยิ่งไม่มีพลังบ่มเพาะระดับร้อยปี เธอคงไม่มีทางมีชีวิตรอดอยู่ในความหนาวเย็นระดับนี้ได้แน่
แล้วเขาจะช่วยเธอออกมาได้อย่างไร? ด้วยเปลวสุริยะงั้นเหรอ?
เย่เฟิงใคร่ครวญ ไม่ว่าอย่างไรก็คงต้องลองดู แต่ประติมากรรมน้ำแข็งนี้ได้รับพลังจากน้ำแข็งพันปีตลอดเวลา เทียบกับตัวเขาที่มีเพียงวิชาเปลวสุริยะขั้นแรก นี่ช่างเป็เื่ยากจริงๆ
ชายหนุ่มสูดหายใจลึก จากนั้นเริ่มโคจรพลังชี่ไปที่มือทั้งสองข้าง ในเวลาต่อมา บอลไฟก็ปรากฏบนฝ่ามือ
ความร้อนพลันห้อมล้อมทั่วประติมากรรมน้ำแข็ง แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน มันก็ไม่เกิดการละลายแม้แต่น้อย
“ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย?”
เย่เฟิงไม่อยากเชื่อสายตาขณะพยายามหลอมละลายน้ำแข็ง หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เขาพบว่ามันเป็เื่ยากอย่างยิ่งที่จะเอาชนะความเย็นนี้ด้วยเปลวไฟที่อยู่ในขั้นแรก
น้ำแข็งพันปียังคงปลดปล่อยความหนาวเย็นออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่เวลานี้ ดูเหมือนมันจะรับรู้การคงอยู่ของเย่เฟิง และเริ่มปลดปล่อยไอเย็นมากขึ้น ราวกับเยาะเย้ยความสามารถของเขา
“แย่แล้ว”
เย่เฟิงไม่คิดมากอีก เขารีบคว้าประติมากรรมน้ำแข็งไปวางในตำแหน่งที่ห่างจากน้ำแข็งพันปีเพื่อลองใช้เปลวสุริยะหลอมละลายอีกครั้ง
ความหนาวเย็นแสบกระดูกไหลเข้าหาชายหนุ่มทันที แต่เขาไม่สนใจ และรีบนำประติมากรรมน้ำแข็งออกจากบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว
เมื่อชายหนุ่มหันกลับมา ช่างน่าใที่ดูเหมือนว่าน้ำแข็งพันปีจะเริ่มไม่พอใจ มันเริ่มควบแน่นแท่งน้ำแข็งมากมายหมายจะยิงใส่เขา แต่ไม่นานแท่งน้ำแข็งเ่าั้ก็จางหายไปราวกับหมดพลัง
“อาจเพราะเพื่อคงสภาพปราการน้ำแข็งแห่งนี้ มันคงใช้พลังที่มีไปแทบทั้งหมดแล้วสินะ?”
เย่เฟิงคาดเดาแต่ก็ยังไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม
ชั่วขณะที่จะหันกลับไปหลอมประติมากรรมน้ำแข็งอีกครั้ง ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็หรี่ลงเมื่อมองไปอีกทิศทาง
นั่นมันอะไรกัน?
หลังจากเคลื่อนย้ายประติมากรรมน้ำแข็งของซูเฟยหยิ่งออกมา ชายหนุ่มก็เห็นสิ่งที่ดูน่าประหลาดด้านหลังแนวปะการัง
จุดวาร์ป?!
เย่เฟิงมีสีหน้าใทันที
แผ่นหินที่ดูเก่าแก่ถูกฝังอย่างแ่ากับแนวปะการังในตำแหน่งนั้น บนแผ่นหินมีอักษรโบราณบันทึกไว้ นี่เป็เวทเคลื่อนย้ายที่เขาเคยเห็นในโลกเทวะไม่ผิดแน่! แต่แผ่นหินนี้แตกออกเป็สองส่วน จึงสูญเสียความสามารถไปหมดแล้ว โลกใบนี้กลับมีจุดวาร์ปอยู่เหมือนกัน แม้จะไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์แต่เขาคิดว่ามันต้องพาไปสู่โลกเทวะได้แน่!
แต่เวลานี้ เย่เฟิงกลับไม่ตื่นเต้นมากนัก สำหรับเขาแล้ว ตราบใดที่มีซูเฟยหยิ่งอยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะเป็โลกนี้หรือโลกเทวะก็ไม่ต่างกัน ยิ่งตอนนี้ เขามีผู้หญิงอีกสองคนที่ต้องรับผิดชอบอยู่ด้วย ซูเมิ่งหานและหลงหว่านเอ๋อร์… ต่อให้มีทางกลับไปได้ เย่เฟิงก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่้ากลับไปเสียแล้ว