เล่มที่ 9 บทที่ 251 ยันต์ไท่หยวน
ในขณะเดียวกัน กลไกัที่อยู่ในหุบเขาซึ่งห่างออกไปนับพันลี้ ก็ได้ถูกขนออกไปถึงเก้าส่วนแล้ว บัดนี้เหลือเพียงหัวัขนาดมหึมาอย่างเดียวเท่านั้น ภายใต้หัวอันใหญ่โตของมัน ก็คือจุดชีพจรหินิญญาที่ทอดยาวนับพันจ้าง สถานที่แห่งนี้มีไอิญญาเข้มข้นและเมฆหมอกปกคลุมหนาแน่น แถมยังมีหินิญญาโปร่งใสปรากฏตามพื้นมากมาย จึงดูระยิบระยับเป็พิเศษ
ทว่าเหล่าศิษย์สำนักเซียนซานที่อยู่รอบๆ ต่างไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หัวัในรัศมีสามสิบจ้างเลย...
“ศิษย์น้องทุกคน จงระวังให้มาก อย่าได้เข้าใกล้หัวัเด็ดขาด เพราะหลายวันนี้ได้ขุดเจาะหินิญญาไป จึงทำให้มีไอิญญาเข้มข้นปกคลุม บัดนี้แรงอาฆาตถือว่าแรงกล้าเลยทีเดียว แม้แต่ข้าเองก็แทบจะต้านทานไม่ไหว...” ผู้ที่กำลังกล่าวเตือนก็คือ “เหยียนจ้ง” ซึ่งเป็ศิษย์สายตรงของสำนักเซียนซาน เหยียนจ้งคนนี้มีพลังเป็รองแค่หวังจิ่งเท่านั้น ดูแล้วมีอายุประมาณยี่สิบกว่าปีเท่านั้น แต่กลับเป็อัจฉริยะ ที่มีขั้นบำเพ็ญสูงถึงมิ่งหุนเคราะห์หก
เดิมที เหยียนจ้งเองก็ไม่ควรมาดูแลเื่การขุดเจาะเช่นนี้หรอก...
ทว่าครั้งนี้กลับต่างออกไป
เพราะที่จุดชีพจรหินิญญาได้มีซากกลไกัหลงเหลืออยู่ ทำให้ทางสำนักส่งเหยียนจ้งมาดูแลความเรียบร้อย รวมทั้งรักษาความปลอดภัยของซากกลไกั...
บัดนี้กลไกั ก็ได้ถูกขนกลับไปเก้าในสิบส่วนแล้ว เหลือเพียงหัวัที่มีแรงอาฆาตเข้มข้นอย่างเดียวเท่านั้น และตอนนี้ผู้าุโทั้งสามก็ยังคงถกเถียงไม่เลิก ว่าควรจะขนย้ายหัวันี้กลับไปด้วยหรือไม่
สำหรับเหยียนจ้งแล้ว ไม่เห็นว่าจะต้องนำเื่นี้มาถกเถียงกันเลยสักนิด เพราะหัวัได้ถูกทำลายไปแล้ว ต่อให้ขนย้ายกลับไป ก็ไม่ได้มีค่าอะไร แถมยังมีแรงอาฆาตรุนแรงอีก หากพลาดพลั้งขึ้นมา จะต้องเกิดเื่วุ่นวายเป็แน่ และหลายวันที่ผ่านมาก็มีศิษย์ในสำนักเสียสติไปแล้วถึงสองคน แถมยังเสียชีวิตไปอีกสี่ ทำให้ทุกคนหวาดกลัวเป็อย่างมาก ไม่กล้าเข้าใกล้หัวัเกินกว่าสามสิบจ้างเลยทีเดียว...
ถือเป็สิ่งอัปมงคลก็ว่าได้...
ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น รอบด้านก็พลันมืดครึ้ม เมื่อเงยหน้ามองไปก็พบว่ามีปลาั์สีเขียวขนาดยาวหลายสิบจ้างปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า และบัดนี้ก็กำลังร่อนลงมาช้าๆ...
“แย่แล้ว!” เมื่อเหยียนจ้งเห็นเ้าปลาั์ ก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นทันที...
และก็เป็อย่างที่คิดไว้จริงๆ...
ขณะที่เหยียนจ้งกำลังตกตะลึงอยู่นั้น เ้าปลาั์ก็ร่อนลงมาถึงพื้น กระทั่งเกิดแรงปะทะเป็เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทันใดนั้นศิษย์สำนักเซียนซานหลายคนก็ถูกอัดกระเด็นลอยออกไป...
‘เวินโหว!’
‘เวินโหวจากหุบเขาหมื่นอสูร!’
หลังจากที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็ใคร ใบหน้าของเหยียนจ้งก็พลันซีดขาวลง
‘เขามาที่นี่ได้อย่างไร!’
หลายวันมานี้ ชื่อเสียงของเวินโหวถือว่ากระฉ่อนไปทั่วทั้งแถบซากปรักหักพังอันกว้างใหญ่เลยทีเดียว เพราะศิษย์สำนักใหญ่ส่วนมากล้วนเคยถูกเขาปล้นชิงมาก่อน ด้วยพลังจากคัมภีร์โครงกระดูกและปลาั์คู่กายที่แสนร้ายกาจ จึงไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรได้เลย ไม่ว่าจะเป็ศิษย์สามสำนักใหญ่หรือผู้บำเพ็ญพเนจร ต่างก็เคยถูกปล้นชิงกันมาหมดแล้ว ถือว่ากวาดสิ่งล้ำค่าไปมากมายมหาศาลเลยทีเดียว...
บัดนี้ยังจะกล้ากลับมาที่นี่อีก...
“เ้ามาทำอะไร!” เหยียนจ้งตื่นตระหนกทันทีที่เห็น
เวินโหวมีสีหน้าเรียบเฉย ส่วนมือทั้งสองก็ไขว้หลังระหว่างยืนอยู่บนหลังเ้าปลาั์ ก่อนที่เขาจะกวาดตามองมายังเบื้องล่างและเอ่ยออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ได้ยินว่าสำนักเซียนซานขุดพบซากกลไกั ข้าเลยอยากยืมไปศึกษาเสียหน่อย...”
‘ใช่จริงๆด้วย...’
เหยียบจ้งได้ยินดังนั้นก็ใขึ้นทันที เป้าหมายของเวินโหวคือซากกลไกัไม่มีผิด...
แม้จะเหลือเพียงหัวัที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาต และผู้าุโทั้งสามเองก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าควรทำอย่างไรต่อ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีพลังระดับผู้บำเพ็ญขั้นจิงตันเลยทีเดียว แน่นอนว่ามีหรือจะปล่อยของแบบนี้ให้ผู้อื่น่ชิงไปง่ายๆ?
เื่นี้เหยียนจ้งเองก็รู้ดีอยู่เต็มอก
ทว่าที่เอ่ยปากออกไปนั้น กลับกลายเป็...
“อย่ากำแหงให้มากนัก...”
‘ฟังดูสิ...’
หากคนที่ไม่รู้มาก่อนละก็ คงคิดว่าเวินโหวไปเปลื้องผ้าให้อีกฝ่ายดู ราวกับหญิงสาวที่กำลังถูกข่มเหงเป็แน่...
เพราะน้ำเสียงที่พูดฟังดูอ่อนแอเป็อย่างมาก เวินโหวได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่
“ข้ากำแหงแล้วจะทำไม ขอบอกตามตรงเลยนะ วันนี้ข้าต้องชิงหัวันั่นให้ได้!”
“เ้า...”
เหยียนจ้งยังไม่ทันพูดจบ เวินโหวที่อยู่บนหลังเ้าปลาั์ก็พุ่งชนเข้ามาทันที ลำตัวที่ยาวนับสิบจ้างบดบังทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ศิษย์สำนักเซียนซานเองก็ถูกอัดกระแทกจนลอยออกไปโดยไม่ทันตั้งตัว...
จากนั้นเ้าปลาั์ก็อ้าปากกว้างออกมา จากนั้นอาวุธของเหล่าศิษย์สำนักเซียนซานก็หลุดการควบคุมในที่สุด ทั้งหมดต่างก็ลอยหายเข้าไปในปากเ้าปลาั์...
ในตอนนี้ถือว่าเวินโหวออมมือให้แล้ว ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เข้าปากเ้าปลาั์ คงไม่ใช่แค่อาวุธเท่านั้น แต่เป็ศิษย์สำนักเซียนซานด้วยนั่นแหละ...
ทั้งที่กลืนกินอาวุธเข้าไปหลายชิ้น แต่เ้าปลาั์ก็ไม่รู้สึกอิ่มแม้แต่น้อย พริบตาถัดมา มันก็ฟาดหางอันใหญ่โตกระหน่ำไปยังศิษย์สำนักเซียนซานทันที เหล่าศิษย์สำนักเซียนซานที่ไร้อาวุธคู่กายจึงไม่อาจต้านทานได้ และถูกฟาดจนกระเด็นลอยออกไป!
หลังจากนั้นเพียงอึดใจเดียว เ้าปลาั์ก็บุกทะลวงฝ่าเหล่าศิษย์สำนักเซียนซานจำนวนมากออกไป จนใกล้จะถึงหัวกลไกัแล้ว...
“จะรังแกกันเกินไปแล้วนะ!” เหยียนจ้งเริ่มนั่งไม่ติด ทันใดนั้นก็บงการยันต์ออกมาหนึ่งแผ่น
หลังจากที่ยันต์ปรากฏขึ้นมา มันก็ลอยอยู่กลางอากาศชั่วครู่ จากนั้นยันต์ที่มีขนาดประมาณหนึ่งจ้างก็มีอักขระสีทองหกตัวปรากฏขึ้น เมื่อกวาดตามองไปก็เห็นเพียงแสงสีทองระยิบระยับเท่านั้น อักขระทั้งหกตัวรวมตัวกันจนเป็ระฆังสีทอง พริบตาถัดมาก็ครอบเ้าปลาั์เอาไว้ทันที
ภายในระฆังก็เกิดเป็ลำแสงสีทองหกสายพาดผ่านไป และบัดนี้กำลังพุ่งชนเ้าปลาั์อย่างต่อเนื่อง เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ก็มีาแจำนวนมากปรากฏขึ้นตามตัวเ้าปลาั์เสียแล้ว แม้แต่เวินโหวที่อยู่บนหลังมันเองก็เกือบจะพลาดพลั้งให้กับลำแสงสีทองเหล่านี้ด้วย
ยันต์ของสำนักเซียนซานนั้น ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจเป็อย่างมากในเป่ยจิ้ง
แถมยันต์ไท่หยวนใบนี้ ยังถูกผนวกเข้ากับรากฐานบำเพ็ญของเหยียนจ้งอีกด้วย จึงไม่มีสิ่งใดที่สามารถหลุดรอดการปิดล้อมของระฆังทองไปได้ ยิ่งกว่านั้นยังมีลำแสงสีทองทั้งหกสายคอยบั่นทอนพลังคู่ต่อสู้ไปด้วย ต่อให้เป็แร่เหล็กเซียนเอง ก็ยังต้องถูกบั่นทอนพลังไปด้วยเช่นกัน ยันต์ไท่หยวนจึงมีพลังกล้าแกร่งไม่ด้อยไปกว่ายันต์คู่กายของผู้บำเพ็ญยันต์เลยสักนิด เพียงยันต์ไท่หยวนปรากฏออกมา ก็สามารถปิดล้อมเ้าปลาั์ไว้ได้ทันที ไม่ว่าเวินโหวจะทำอย่างไรก็ไม่อาจหนีออกไปได้...
หากเป็เมื่อก่อนละก็ เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เวินโหวเสียเปรียบแล้ว...
แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เวินโหวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพียงดูผ่านๆก็รู้แล้ว ขนาดสัตว์อสูรคู่กายยังมีอาวุธวิเศษแขวนอยู่เต็มตัวเช่นนั้น แล้วตัวเวินโหวเองจะมีพลังร้านยกาจขนาดไหน?
เมื่อเห็นเ้าปลาั์ไม่สามารถทำอะไรระฆังทองได้ เวินโหวก็แค่นหัวเราะเ็าออกมาทันที จากนั้นก็ยกมือขึ้น ทันใดนั้นก็มีลำแสงสีแดงพุ่งออกมาจากแขนเสื้อ เพียงครู่เดียวก็มีขวานสีแดงปรากฏตามมา หากเฉิงหัวจากสำนักกระบี่หลีซานอยู่ด้วยละก็ จะต้องจำได้แน่ว่านี่คือขวานแดงที่เป็หนึ่งในสี่อาวุธที่ค้ำชูค่ายกลสี่อสูร...
เพียงขวานแดงปรากฏขึ้นมา ก็มีลำแสงสีเืะเิออกมาทันที จากนั้นขวานแดงที่มีมนต์สะกดสูงถึงสามสิบสองสายก็สะบั้นลงมา ทำให้ได้ยินเป็เสียงดังสนั่นขึ้น...
ไม่นาน ระฆังก็แตกออก!
---------------------------------------------------------------------------------------------------------