“ถ้าคุณก้าวขาออกไปจากที่นี่ก่อนที่จะได้รับอนุญาตจากผมแม้แต่ก้าวเดียวแล้วล่ะก็ รับรองเลยได้ว่าคลิปการช่วยตัวเองพร้อมกับเสียงหวาน ๆ ที่ครางเรียกชื่อผมจะถูกโชว์หราทุกหน้าแพลตฟอร์มโซเชียลอย่างแน่นอน” คนเ้าเล่ห์พูดประโยคแสนร้ายกาจออกมาอย่างไม่รู้สึกผิดอะไร อีกทั้งประโยคเ่าั้ก็ถึงกับทำให้ฉันตัวชาวาบไปทั้งร่างทันที
“มะ...หมายความว่ายังไงคะ...!!” ก้อนเนื้อที่อกด้านซ้ายพลันกระตุกวูบทันทีที่ได้ยินคำขู่ ก่อนจะพยายามข่มใจให้สงบลง ด้วยพอคิดได้ว่าเขาอาจจะแค่ขู่เฉย ๆ เพราะนับั้แ่ที่ฉันทำงานอยู่ห้องเดียวกับเขามา ฉันยังไม่เคยเห็นกล้องวงจรปิดสักตัว
“ก็หมายความตามที่พูด” คนเ้าเล่ห์ยักคิ้วขึ้นจนดูท่าทียียวน พร้อมกับยกแก้วบรั่นดีบนโต๊ะขึ้นมาอีกครั้งแล้วจิบน้ำสีอำพันด้วยท่าทางสบาย ๆ อีกครั้ง
“คุณโกหก...!!” ฉันกัดฟันกรอดอย่างไม่เชื่อ แม้ในใจจะภาวนาขอให้สิ่งที่ฉันได้ยินไม่เป็ความจริง แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ฉันต้องพลันหวั่นใจขึ้นมาอีกครั้งก็คือ...นับั้แ่ที่ฉันทำงานกับเขามา...เขายังไม่เคยโกหกเลย...!!
“ผมว่าคุณรู้จักผมดีนะคุณมนต์” คนตรงหน้าที่เหมือนจะรู้ดีว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ตอบกลับมาอย่างรู้เท่าทันในสิ่งที่ฉันคิด
“ไหนล่ะคะหลักฐาน ถ้ามนต์ไม่ได้เห็นเองกับตา มนต์ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด” ฉันพูดออกไปด้วยสีหน้ามั่นใจ แม้ในใจจะกลับรู้สึกวูบโหวงพิกลก็ตาม
กระทั่งสิ้นคำขาดของฉันได้ไม่นาน...
ติ๊ง ~~
เสียงข้อความที่ดังขึ้นจากมือถือของฉัน ถึงกับทำให้ฉันต้องรีบยกมันขึ้นมาดู
จากนั้น...ภาพคลิปตรงหน้าทั้งเสียงและภาพเคลื่อนไหวก็ทำให้ฉันถึงกับเบิกตากว้างขึ้นมาทันที...
“นะนี่มัน...” (O_O)
ร่างทั้งร่างพลันสะท้านสั่นเทิ้มพร้อมกับตัวที่ทรุดลงกับพื้นอย่างคนเข่าอ่อน เมื่อภาพตรงหน้าคือภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ของฉัน โดยมีเขาถ่ายคลิปเอาไว้ั้แ่เมื่อไรไม่รู้ และถึงแม้ว่าคลิปวิดีโอที่ถ่ายเก็บไว้จะไม่เห็นหน้าฉันชัดเท่าไร แต่ถ้าเป็คนรู้จักก็พอจะเดาออกได้ไม่ยาก
“ผมไม่เคยโกหกคุณก็รู้” คนตัวโตพูดอย่างคนมีชัย พร้อมกับยักไหล่ขึ้นเล็กน้อย
“ตะ...ั้แ่เมื่อไรค่ะ” ฉันถามตะกุกตะกักออกไปในขณะที่สมองกำลังอื้ออึ้ง
“ก็ั้แ่คุณเปิดประตูเขามา”
ชายหนุ่มยกริมฝีปากทรงเสน่ห์ขึ้นเหยียดยิ้มก่อนจะนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อเช้านี้...
--- วาคิม Talk ---
หลังจากที่โหมงานจนหนักทั้งคืนผมที่ไม่ได้กลับไปนอนยังเพนท์เฮ้าส์แต่เลือกที่จะนอนยังห้องรับรองที่ถูกสร้างขึ้นหลังโต๊ะทำงานของตัวเองแทน
กระทั่งเมื่อความไม่คุ้นชินกับที่นอน หรืออาจจะเป็เพราะยังมีงานที่คลั่งค้างอยู่ในสมองมากมายทำให้ผมที่นอนไม่หลับเกือบทั้งคืนจำต้องลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาอาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งเพื่อเตรียมที่จะไปเคลียร์งานต่อ
เพียงแต่ว่า...หลังจากที่ผมจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อย เสียงบางอย่างจากด้านนอกที่ดังขึ้นก็ทำผมอดประหลาดใจไม่ได้ว่าเช้าขนาดนี้ใครกันนะที่มาเปิดประตูห้องทำงานของผมั้แ่เช้ากัน
ไม่ทันสิ้นเสียงในความคิดของผม น้ำหนักการลงเท้าบนส้นสูงที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้น และนั่นก็เป็ใครไม่ได้เลยนอกจาก...มนตรา...เลขาของผมนั่นเอง
“มาเช้าอย่างนี้ทุกวันเลยหรือไงกัน” ผมถามตัวเองเบา ๆ ด้วยความประหลาดใจหลังจากที่มองลอดตาแมวแล้วพบว่าคนที่เข้ามาใหม่เป็ใคร
แต่ทว่า...ยังไม่ทันที่ผมจะได้ละสายตาออกไปจากรูตาแมว ความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับการกระทำของเลขาสาวก็ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะลอบมองต่อ
จากนั้น...ทุกอิริยาบถที่เธอแสดงออกมามันทำให้ความรุ่มร้อนที่อยู่ในกายหนุ่มพลันพลุ่งพล่านอย่างบอกไม่ถูก เพราะภายใต้ใบหน้าที่มักจะนิ่งเฉย อีกทั้งเรือนร่างที่มักจะแต่งแต้มไปด้วยชุดที่เฉิ่มเฉย มันทำให้ผมอดแปลกใจไม่ได้กับสิ่งที่ได้เห็นในเช้านี้
“น่าสนใจดีนี่” ผมพึมพำกับตัวเองเบา ๆ พร้อมกับมองภาพตรงหน้าจนอวัยวะบางส่วนของร่างกายเริ่มขยายตัว
กระทั่ง...เมื่อจุดไคลแมกซ์ปรากฏขึ้น ภาพที่ใครก็มองออกว่าเธอกำลังจะมอบความสุขให้ตัวเอง นั่นจึงทำให้ผมอดใจไม่ได้ที่จะพาตัวเองออกไป
คะ...ครืนนนน ~~
สองมือเปิดประตูแง้มออกอย่างเบามือที่สุดด้วยกลัวด้วยกลัวว่าเสียงที่เกิดขึ้นจะไปรบกวนความสุขของหญิงสาวที่กำลังมอบความสุขให้ตัวเองเข้า และด้วยเหตุผลกลใดหรืออะไรดลจิตดลใจก็ไม่ทราบทำให้จู่ ๆ ผมเลือกที่จะยกมือถือขึ้นมาบันทึกคลิปเอาไว้ และนั่นจึงเป็เหตุที่ทำให้ผมมีอาวุธเด็ดอยู่ในมือเพื่อใช้ต่อรองให้เธอจำต้องยอมผมอย่างไม่มีเงื่อนไขในตอนนี้...
--- มนตรา Talk ---
เมื่อฉันได้ฟังเื่ราวจากคนเ้าเล่ห์จนจบสิ้นแล้ว ร่างทั้งร่างก็ยิ่งสั่นเทิ้มมากขึ้นเพราะตอนนี้ข้างในเต็มไปด้วยความโกรธและความผิดหวังในตัวเ้านายหนุ่ม
“นี่มันละเมิดสิทธิกันนี่ค่ะ ถ้าคุณไม่ลบคลิปทิ้งมนต์จะไปแจ้งความ” ฉันที่แม้จะรู้สึกอาย แต่กลับรู้สึกโกรธมากกว่ากับสิ่งที่เขาทำเพื่อนำมาแบล็กเมล์ฉัน
“ก็แล้วแต่คุณเลยครับ...คุณมนต์...ถ้าหากคุณคิดว่าคุณทำได้แล้วละก็...เชิญ...!!” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันและมั่นใจอำนาจในมือของตัวเองยิ่งทำให้ฉันเดือดดาลในใจ
“คุณวาคิม!!”
ฟันที่กัดกรอดจนแทบจะแตกได้แต่กระแทกเสียงออกไป
“แล้วท่านประธาน้าอะไรกันแน่คะ”
“ก็จนกว่าผมจะพอใจหรือว่า...เบื่อ”
คำพูดของคนใจร้ายบอกจุดประสงค์ของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน อีกทั้งตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงนึกสนใจเลขาสาวคนนี้ขึ้นมาจนไม่อาจทำใจปล่อยเธอไปได้ หรือเป็เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นเธอไม่เคยมีทีท่าสนใจเขาเหมือนกับผู้หญิงอื่นที่มักจะทำเวลาที่อยู่ใกล้กับเขา หรืออาจจะเป็เพราะสิ่งที่เธอซ่อนเอาไว้ เช่น ความเร่าร้อนภายใต้ชุดทำงานแสนเฉิ่มเชย มันยิ่งอยากทำให้ตัวเขาเข้าไปค้นหาว่าตัวเธอนั้นยังมีอะไรที่น่าประหลาดใจซ่อนเอาไว้อยู่อีกหรือเปล่า
“แล้วถ้ามนต์ไม่ยอมล่ะคะ” ร่างบางกัดฟันต่อรอง เพราะเธอไม่อยากเป็ของเล่นของใครแม้ว่าคนคนนั้นจะเป็คนที่เธอมีใจให้ก็ตาม
“ก็แล้วแต่คุณซิ...คุณมีสิทธิ์เลือกนี่” คนเ้าเล่ห์พูดด้วยสายตามีความหมายบางอย่างที่อาจจะหมายความว่าฉันต้องรู้ตัวดีว่าควรจะต้องเลือกอะไร
จากนั้น...ฉันที่มองเขาเขม็งอย่างที่ไม่เคยกล้าทำมาก่อนนับั้แ่ทำงานร่วมกันกับเขามา พร้อมกับสมองที่กำลังขบคิดเพื่อหาทางลงให้กับตัวเองสำหรับเื่ที่เกิดนี้ นั่นก็เพราะว่าอย่างแรกเลยฉันเองก็ผิดเต็มประตูอยู่แล้วที่ทำอะไรแบบนั้นลงไปในที่ทำงาน อีกอย่างตอนนี้ถ้าถามใจตัวเองดี ๆ แล้วละก็ฉันก็ยังไม่พร้อมที่จะเสียงานนี้ไป แถมตอนนี้ยังเพิ่งได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีกตั้งสามเท่าอีกด้วย
และอย่างที่สอง...เื่ความ้าที่เขาอยากได้จากฉัน ถ้าหากเป็เขา ณ วินาทีนี้ฉันเองก็ไม่ได้ติดอะไรเนื่องจากฉันนั้นก็แอบปลื้มเขามานานแล้ว เพียงแต่ฉันไม่ค่อยพอใจกับวิธีการที่เขานำมาใช้กับฉันเท่านั้น ส่วนความกังวลใจที่เหลือก็คงมีเื่ที่ว่านับจากนี้ฉันต้องทำตัวยังไง ฉันต้องวางตัวยังไง เนื่องจากฉันไม่ได้เตรียมใจเพื่อมาเจออะไรแบบนี้ แล้วไหนจะความรู้สึกของฉันอีกล่ะ เพราะฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกับว่าการที่คนเรามีความรู้สึกดีเป็ทุนเดิมอยู่แล้วมันจะหักห้ามใจได้ไหมถ้าต้องอยู่ในฐานะ
...นางบำเรอ...ไม่ใช่...คนรัก...!!
