เฟิ่งเฉี่ยนถอนใจ “ข้ากำลังคิดว่า หากพรุ่งนี้ข้าพ่ายแพ้ ไม่เพียงแต่ไม่ได้ตัวแมวเทพ ซ้ำยังต้องทำให้แคว้นเป่ยเยียนต้องเสื่อมเสียเกียรติ ข้าจะกลายเป็คนบาปของประวัติศาสตร์หรือไม่”
เซวียนหยวนเช่อเม้มปากแล้วเอ่ยชื่นชม “ไม่เลว! ในใจยังมีแว่นแคว้นอยู่ ยิ่งมายิ่งมีบุคลิกของฮองเฮาแล้ว”
เฟิ่งเฉี่ยนรีบลุกขึ้นพูดยิ้มๆ “เช่นนั้นหากข้าชนะ ท่านจะมีรางวัลให้ใช่หรือไม่ อย่างเช่นทองคำหนึ่งหมื่นสองพันตำลึง ข้าไม่รังเกียจว่ามากหรอก!”
สีหน้าของเซวียนหยวนเช่อเคร่งลงทันที เขาตวัดสายตาให้นางอย่างเ็าพร้อมกับแค่นเสียงฮึ เดินออกไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมา
เฟิ่งเฉี่ยนเท้าสะเอวพูดกับแผ่นหลังของเขาอย่างไม่พอใจ “เป็ถึงฮ่องเต้ เป็ถึงฮ่องเต้ของแคว้น เงินแค่ตำลึงเดียวก็ไม่ให้! ไม่เคยพบเคยเห็นคนขี้งกปานนี้มาก่อน!”
ไท่จื่อน้อยขยี้ตาด้วยความง่วงงุน “เสด็จแม่ ท่านขาดแคลนเงินมากหรือพ่ะย่ะค่ะ ้าทองคำมากมายเช่นนั้นไปทำอันใดกัน”
เฟิ่งเฉี่ยนคั่งแค้นใจเหลือเกินที่ไม่อาจบีบน้ำตาออกมาได้สักสองหยด “ร่ำรวยดั่งเช่นพวกเ้าที่เป็ทายาทรุ่นที่สอง รุ่นที่สามของราชวงศ์ ไหนเลยจะเข้าใจความรู้สึกของพวกเราซึ่งเป็คนยากจน”
ไท่จื่อน้อยคลานเข้าไปโอบรอบคอของนางแล้วปลอบโยนว่า “เสด็จแม่ อย่าได้ทุกข์ใจพ่ะย่ะค่ะ! รอให้เย่เอ๋อร์โตเป็ผู้ใหญ่แล้ว เย่เอ๋อร์จะหาเงินทองให้ได้มากๆ มามอบให้กับเสด็จแม่เพื่อแสดงความกตัญญูพ่ะย่ะค่ะ!”
เฟิ่งเฉี่ยนซาบซึ้งใจ นางกอดเขาเอาไว้แล้วระดมจูบเขาไม่หยุด “ยังคงเป็บุตรชายของข้าที่เอาใจใส่ข้า!”
ไท่จื่อน้อยถูกนางจุมพิตเสียจนหัวเราะเอิ๊กๆ
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เฟิ่งเฉี่ยนตื่นขึ้นแต่เช้า นางมาถึงห้องเครื่องแล้วทำหมูสามชั้นในน้ำซอสสิบจาน
พูดความจริงแล้วสำหรับการประลองเดินหมากในวันนี้นางไม่มีความมั่นใจอะไรเลย ได้แต่รอการจับรางวัลแต่ละครั้ง หากนางจับรางวัลได้ 《ทักษะการเดินหมากเวอร์ชั่น 4.0 》เช่นนั้นจะดีเพียงใดหนอ!
แต่ความจริงมักจะเล่นตลกกับมนุษย์เสมอ
ติ๊ง--เทพเ้าแห่งความโชคร้ายติดตัว (คำอธิบาย: มีผลทันที และมีผลต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง)
นางตัวแข็งเป็หินอยู่กับที่ไปสิบวินาทีเต็มๆ เฟิ่งเฉี่ยนไม่อยากจะเชื่อความจริงเื่นี้ “มีผลทันทีหรือ หมายความอย่างไร คงมิใช่อย่างที่ข้าเข้าใจกระมัง”
ข้างหูพลันได้ยินเสียงของฟ่านฟ่านร้องเตือนขึ้น [เ้านาย โชคร้ายเหลือเกิน อย่างที่เ้านายเข้าใจ! นับั้แ่ตอนนี้และต่อเนื่องไปสองชั่วยาม ท่านจะถูกเทพเ้าแห่งความโชคร้ายติดตามตัว และจะโชคร้ายไม่หยุด...ท่านรักษาตัวเถิด!]
เฟิ่งเฉี่ยนกุมศีรษะร้องด้วยความเ็ป “โน่ว--”
ทันทีที่สิ้นเสียง ได้ยินเสียงดัง แคร่ก ขาโต๊ะด้านหลังพลันหัก หมูสามชั้นในน้ำซอสทั้งสิบจานจึงร่วงหล่นลงมา
เฟิ่งเฉี่ยนเห็นเช่นนั้นจึงรีบโผเข้าไปคว้า ใครเลยจะรู้ว่าเนื้อหมูสามชั้นชิ้นหนึ่งกลิ้งมาถึงข้างเท้านาง ทำให้นางก้าวพลาด ไม่เพียงแต่ไม่อาจคว้าจานบนโต๊ะได้ นางยังล้มลงบนกองหมูสามชั้นในน้ำซอส!
เสียงดังเคร้งๆๆ ไม่หยุด ของจานที่แตกละเอียด
คนที่อยู่ด้านนอกประตูได้ยินเสียงจึงรีบวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ เห็นสภาพในห้องเครื่อง โต๊ะหัก จานแตก เนื้อกระเด็น ฮองเฮาฟุบอยู่บนพื้นด้วยสภาพอเนจอนาถ มือ ใบหน้า เสื้อผ้า ล้วนเป็คราบหมูสามชั้นในน้ำซอส
คนทั้งหมดได้แต่ตกตะลึง
“เหนียงเหนียง พระองค์ไม่เป็ไรกระมัง”
เฟิ่งเฉี่ยนรีบยื่นมือออกไป “เร็ว! รีบประคองข้าลุกขึ้น! เอวของข้า..ดูเหมือนเอวข้าเคล็ด!”
เฟิ่งเฉี่ยนคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า ระบบการจับรางวัลที่ให้โชคนางมาโดยตลอดจะกลายเป็สิ่งโชคร้าย และมิใช่ว่าการจับรางวัลทุกครั้งจะได้แต่สิ่งของดีๆ มันยังสามารถจับรางวัลที่ทำให้ตนเองตกที่นั่งลำบากได้ด้วย รู้เช่นนี้แต่แรกนางจะไม่จับรางวัล!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันที่มีความสำคัญเช่นนี้ จำต้องให้รางวัลแกล้งคนเยี่ยงนี้ นางผิดหวังแทบตาย!
เดิมทีเมื่อวานได้รับคำชี้แนะจากเซวียนหยวนเช่อ นางยังคิดว่าอาจจะมีความเป็ไปได้ที่จะชนะหลายส่วน ตอนนี้ดียิ่งนัก มีเทพเ้าแห่งความโชคร้ายติดตัว นางคิดจะชนะก็เป็ไปไม่ได้แล้ว!
สี่ชั่วโมงคือสองชั่วยามเต็มๆ เชียวนะ!
นางจะก้าวผ่านสองชั่วยามที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างไร
ขณะที่นางกำลังต่อสู้กับความคับแค้นใจ ชิงเหอกูกูเดินเข้ามา “เหนียงเหนียง น้ำร้อนเตรียมพร้อมแล้วเพคะ พระองค์ทรงสรงน้ำผลัดอาภรณ์ก่อนเถิดเพคะ!”
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้า ให้ชิงเหอกูกูเข้ามาปลดอาภรณ์ นางกลับมองไปรอบๆ ด้านราวกับกลัวว่าจะเกิดเื่ร้ายๆ ขึ้นอีก
ชิงเหอกูกูรู้สึกแปลกใจจึงอดถามขึ้นไม่ได้ว่า “เหนียงเหนียง พระองค์ไม่เป็ไรกระมัง”
“ข้าไม่เป็ไร” เฟิ่งเฉี่ยนส่ายหน้า ทว่าสายตายังคงมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง
ชิงเหอกูกูประหลาดใจกว่าเดิม “หากพระองค์ไม่เป็ไร เหตุใดในมือต้องถือกระทะกับจวักไว้ตลอดเวลาเพคะ”
เฟิ่งเฉี่ยนก้มหน้าลงมองจึงพบว่าตนเองถือกระทะหรูอี้และจวักพันชั่งไว้แน่นตลอดเวลา นางมีท่าทางพร้อมรับศึกจากศัตรูตลอดเวลา
นางกระแอมกระไอ “พวกเ้าออกไปก่อนเถิด ข้าอาบเองก็พอ!”
ชิงเหอกูกูยอบกายแล้วเดินนำเหล่านางกำนัลถอยออกไป
รอให้คนอื่นออกไปหมดแล้ว เฟิ่งเฉี่ยนถือกระทะหรูอี้และจวักพันชั่งมาถึงด้านหน้าถังอาบน้ำ นางวัดอุณหภูมิความร้อนของน้ำในถัง และสำรวจความเรียบร้อยของเพดานห้อง หลังจากเห็นว่าไม่มีปัญหาใดๆ นางจึงเก็บกระทะหรูอี้และจวักพันชั่ง เริ่มปลดอาภรณ์
“เมื่อสักครู่เพิ่งจะซวยมา ตอนนี้น่าจะไม่มีอะไรกระมัง”
ผลัดอาภรณ์ออกจนหมด ะโลงไปในถังน้ำ ทุกอย่างราบรื่น นางแช่ตัวอยู่ในน้ำอย่างสบายอกสบายใจ
“เทพเ้าแห่งความโชคร้ายก็ไม่น่ากลัวอะไร!”
พูดแล้วนางก็ลุกขึ้นในถังน้ำ ยื่นมือออกไปคว้าผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนฉากกันลม ปลายนิ้วอยู่ห่างจากผ้าขนหนูไม่ถึงสามนิ้ว นางเขย่งปลายเท้ายื่นตัวออกไปคว้า ฉากกันลมที่ตั้งอยู่ดีๆ นั้นพลันล้มลงในตอนนี้เอง!
เมื่อเห็นว่าอยู่ห่างเพียงหนึ่งนิ้ว นางจึงโน้มกายออกไปข้างหน้าอีก ครานี้ศีรษะของนางล้ำออกไปนอกถังอาบน้ำไป่หนึ่ง เสียง โครม ดังขึ้น นางล้มลงบนพื้นเต็มแรง!
ชิงเหอกูกูเฝ้าอยู่นอกประตูห้อง ได้ยินเสียงด้านในจึงรีบถามอย่างเป็ห่วง “เหนียงเหนียง เกิดอะไรขึ้นเพคะ พระองค์ไม่เป็ไรกระมัง”
เฟิ่งเฉี่ยนเงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก นางอยากร้องไห้ทว่าไร้น้ำตา “ข้าไม่เป็ไร! พวกเ้าไม่ว่าใครก็ห้ามเข้ามาทั้งสิ้น!”
ผลัดอาภรณ์สะอาดเสร็จอย่างมิง่ายดาย เฟิ่งเฉี่ยนประคองเอวที่เคล็ดยอกของตน เตรียมจะออกจากวังไปชุมนุมเดินหมาก
ขณะที่กำลังจะถึงประตูวัง ไท่จื่อน้อยพลันวิ่งออกมา “เสด็จแม่ รอข้าด้วย! ข้าจะไปชุมนุมเดินหมากด้วยพ่ะย่ะค่ะ ข้าจะไปดูท่านเดินหมาก!”
เฟิ่งเฉี่ยนหนังตากระตุก นางรีบยกมือขึ้นห้ามเขา “อย่าเข้ามา!”
ไท่จื่อน้อยหยุดย่างก้าว มองนางตาละห้อย “เสด็จแม่ ทำไมพ่ะย่ะค่ะ”
เฟิ่งเฉี่ยนโบกมือให้เขา “เชื่อฟัง เ้าถอยหลังไปอีก! ถอยออกไปอีกนิด!”
ไท่จื่อน้อยไม่เข้าใจแต่ยังคงปฏิบัติตาม “เสด็จแม่ เหตุใดให้เย่เอ๋อร์ถอยไปด้านหลังพ่ะย่ะค่ะ”
เฟิ่งเฉี่ยน “เย่เอ๋อร์ การประลองเดินหมากในวันนี้สำคัญอย่างยิ่ง เสด็จแม่ต้องชนะเท่านั้นจะแพ้ไม่ได้! ดังนั้น เพื่อไม่ให้เสด็จแม่เสียสมาธิ วันนี้เ้าดูการประลองหมากอยู่ในวัง ดีหรือไม่”
แววตาไท่จื่อน้อยสับสน แต่เขายังคงพยายามเป็ครั้งสุดท้าย “ไปไม่ได้จริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”
หากเป็ยามปกติ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแววตาอ้อนวอนเช่นนี้ของบุตรชาย เฟิ่งเฉี่ยนจะต้องไม่ปฏิเสธเป็แน่ แต่วันนี้สถานการณ์ไม่ปกติ นางจำเป็ต้องปฏิเสธ
เพราะนางไม่อาจทำให้บุตรชายมาเดือดร้อนไปด้วยได้
เฟิ่งเฉี่ยนกัดฟันตัดใจ “เช่นนั้นเ้าคาดหวังให้เสด็จแม่ชนะหรือแพ้”
ไท่จื่อน้อย “ย่อมต้องชนะ!”
เฟิ่งเฉี่ยน “เช่นนั้นเ้าต้องเป็เด็กดี เชื่อฟัง อยู่ในวังรอฟังข่าวดีของเสด็จแม่!”