ในใจซุนเฟยพลันตื่นตระหนก
เขาเหวี่ยงขวานในมือของเขาฟันร่างมอนสเตอร์สองสามตัวตรงหน้าแล้วรีบหันหลังกลับไปมอง ดูเหมือนว่าทหารรับจ้างสาวจะไม่ได้รับาเ็อะไร เพียงแค่ยืนตาค้างจ้องไปด้านในถ้ำมืดๆ ที่ไกลๆ ตัวนางแข็งทื่อ มือที่ถือธนูสั่นไม่หยุด น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าซีดเซียวมองไปยังวัตถุดำๆ ตรงพื้น
ในใจซุนเฟยรู้สึกแปลกใจ เขารีบวิ่งไปหา
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาก็พบว่าวัตถุดำๆ ที่กองกับพื้นนั้น ความจริงแล้วเป็ศพโร้กสาวที่อยู่ในสภาพรุ่งริ่ง ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยรอยเื
บนร่างของศพสวมชุดเกราะหยาบๆ ที่โร้กสาวมักจะสวมอยู่บ่อยๆ ผมยาวสีแดงใบหน้าน่ารัก ดูๆ แล้วน่าจะอายุน้อยกว่าเอเลน่าเล็กน้อย น่าจะอายุสิบเจ็ดสิบแปดปี เห็นได้ชัดว่าในตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่คงโดนเหล่ามอนสเตอร์ทรมานอย่างแสนสาหัส ตรงหน้าอกถูกกรงเล็บของเหล่ามอนสเตอร์กระซวกจนเละเทะ หัวใจถูกควักออกมา บริเวณต้นขาขาวนวลเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนที่น่ากลัว หว่างขาของสาวน้อยกลายเป็หลุมเืที่น่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้ เนื้อต้นขาขวาดูเหมือนจะถูกอะไรบางอย่างกัดกินจนเผยให้เห็นกระดูกขาวๆ ส่วนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟัน...
“พระเ้า...ไม่นะ...นาง...นางคือนีน่า นางหายตัวไปเมื่อเดือนที่แล้วตอนที่พวกเราไปหาอาหารที่ ‘บลัดมอร์’ ไม่คิดว่าจะ...”
เอเลน่าคุกเข่าลงกับพื้นพลางร้องไห้ “นางเพิ่งจะสิบเจ็ดปีเอง ครั้งนั้นเป็ครั้งแรกที่นางได้ออกจากค่ายและได้ร่วมทำเควส...นางอาสาที่จะไปด้วย...นีน่าตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก แม้ว่าจะยากลำบากมากแค่ไหน ใบหน้าของนางก็ยังคงมีรอยยิ้มสดใสอยู่เสมอเหมือนเทพธิดาแห่งความสุขตัวน้อยที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเรา ทำให้เราหัวเราะอย่างมีความสุข คิดไม่ถึงว่า...ฮือๆๆ...จะถูกมอนสเตอร์นรกพวกนี้ฆ่า!”
ได้ยินทหารรับจ้างสาวร้องไห้ไม่หยุด ซุนเฟยจึงเข้าใจเื่ราวบ้างเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าศพผู้หญิงตรงหน้าที่ถูกทรมานจนตาย ในตอนที่มีชีวิตนางเป็สหายคนสนิทของเอเลน่า เมื่อเดือนที่แล้วในขณะที่โร้กสาวได้ออกมาทำเควสข้างนอกได้ถูกเหล่ามอนสเตอร์จับตัวมาในถ้ำนี้และถูกทรมานจนตาย
อายุสิบเจ็ดปี มันเป็่เวลาที่ไร้เดียงสาของสาวๆ แต่นางกลับต้องมาพบกับชะตากรรมที่น่าเศร้าแบบนี้ แม้ว่าซุนเฟยจะไม่รู้จักสาวน้อยที่ชื่อว่านีน่า แต่ในใจกลับอดไม่ได้ที่จะโศกเศร้า
ตลอดมา แม้ว่าโลก Diablo จะทำให้ซุนเฟยรู้สึกว่ามันเหมือนจริง ไม่ว่าจะเป็การได้รับาเ็ สติปัญญาของ NPC หรือแม้แต่ความรู้สึกเหนื่อยหิวกระหายเ็ปก็ตาม...แต่จิตใต้สำนึกของซุนเฟยยังคงคิดว่ามันก็คือเกมเท่านั้น
จนถึงตอนนี้ เมื่อเห็นสภาพศพที่น่าสยดสยองตรงหน้า ได้ฟังเอเลน่าร่ำไห้พลางเล่าเื่ราวในยามที่ผู้หญิงคนนี้มีชีวิต และสุดท้ายมองไปที่เอเลน่าที่กำลังร้องไห้จะขาดใจ ซุนเฟยก็พบว่าบางทีตัวเองอาจจะคิดผิด โลก Diablo กับโลกที่แท้จริง ความจริงแล้วเหมือนกัน ทุกคนที่อยู่ที่นี่ไม่เพียงมีสติปัญญา ยังมีเืเนื้อและความรู้สึกด้วย
“เอเลน่า อย่าร้องไห้เลย ลุกขึ้นเถอะ! พวกเราจะล้างบางมอนสเตอร์ที่นี่ด้วยกันเพื่อล้างแค้นให้กับนีน่า”
ซุนเฟยไม่รู้ว่าควรจะปลอบโยนสาวงามที่กำลังร้องไห้อย่างไร
เขายื่นมือออกไปพยุงร่างของทหารรับจ้างสาวที่กำลังร้องไห้ให้ลุกขึ้น
เทพีแห่งาที่เมื่อกี้ยังยิงธนูไล่ฆ่าเหล่ามอนสเตอร์ ในตอนนี้ดูราวกับผู้หญิงธรรมดาที่อ่อนแอและ้าการปกป้อง ทำให้คนมองเห็นด้านที่เปราะบางภายใต้ท่าทางเข้มแข็งสงบนิ่งของนาง
บางทีนี่คงเป็นิสัยที่แท้จริงของนางที่เผลอแสดงออกมาให้เห็น
แม้ว่านางจะมีพลังที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะแสดงท่าทางสงบนิ่งในยามที่ต้องเผชิญกับเหล่ามอนสเตอร์ แต่พูดตามตรง เอเลน่าก็เป็เพียงผู้หญิงอายุแค่ยี่สิบเท่านั้นเอง ในโลกที่ซุนเฟยจากมา ผู้หญิงสวยๆ ที่อายุเท่านี้ควรที่จะเพลิดเพลินไปกับชีวิตหนุ่มสาวในรั้วมหาลัย แต่ในโลก Diablo กลับต้องมาฝึกฝนทักษะอย่างหนักเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดและต้องมาต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ที่โหดร้าย ทั้งต้องเห็นเหล่าพี่น้องที่เยาว์วัยเหมือนดอกไม้มาตายจากไปและทำได้เพียงร้องไห้เท่านั้น
ซุนเฟยใช้ขวานั์ขุดพื้นถ้ำแข็งๆ ออกมาเป็หลุมใหญ่เพื่อที่จะฝังร่างนีน่าที่น่าสงสาร
ตอนที่พลิกศพของนีน่า ซุนเฟยพบบางอย่าง มันไม่ใช่เหรียญทองหรือไอเทมแต่เป็เมล็ดพันธุ์พืชที่อยู่ในถุงผ้าขนาดเล็ก
เห็นได้ชัดว่า สาวน้อยที่แข็งแกร่งคนนี้ออกจากค่ายมาเพื่อหาอาหาร แม้จะตกอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ นางก็ยังใช้ชีวิตที่เปราะบางเหมือนดอกไม้ รักษาเมล็ดพันธุ์พืชที่ตัวเองหามาอย่างสุดกำลัง
เอเลน่าหยิบถุงผ้าเล็กๆ นั่นอย่างระมัดระวัง ราวกับเป็สมบัติอันล้ำค่าแล้วใส่ในกระเป๋าของตัวเอง
หลังจากฝังศพของนี่น่าเรียบร้อยทั้งสองคนก็พากันเดินทางต่อ
เอเลน่าได้รับแรงกระตุ้น ทั่วทั้งร่างนางจึงแผ่กลิ่นอายฆ่าฟันออกมา ลูกธนูเหยียบเย็นดุจดาวตก ทุกดอกต่างคร่าชีวิตเหล่ามอนสเตอร์ที่ดาหน้าเข้ามาทุกตัวไร้ซึ่งความปรานี ซุนเฟยไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย ลูกธนูเหยียบเย็นก็พุ่งทะยานออกไปสังหารมอนสเตอร์ทุกตัวที่เข้ามาในสายตาอย่างรวดเร็ว
และทัศนคติของเอเลน่าที่มีต่อซุนเฟยก็เปลี่ยนแปลงไปมาก
แม้ว่าทั้งสองคนจะยังไม่พูดคุยกัน ในถ้ำอันมืดมิดพวกเขาต่างบุกเข้าไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว และแม้ว่าทหารรับจ้างสาวแสนสวยที่เหมือนเทพีาคนนี้จะยังคงมีท่าทางนิ่งสงบเหมือนกล้วยไม้ แต่ซุนเฟยกลับรู้สึกว่ายามที่ดวงตาคู่นั้นจ้องมองตนเองมันช่างอ่อนโยน...
ในระหว่างทางที่บุกเข้าไปก็ได้พบศพของโร้กสาวสองสามคนที่ถูกทรมานจนตายอีกครั้ง แต่โชคดีที่เอเลน่าไม่รู้จักพวกเขา นี่ช่วยขจัดปัญหาไปได้มาก ซุนเฟยจะได้โยนความเห็นอกเห็นใจทิ้งสักที แต่เขาก็ยังคงขุดหลุมฝังศพโร้กสาวที่น่าสงสารเ่าั้
ตามความทรงจำโลกเก่า ซุนเฟยเลือกที่จะตรงไปเส้นทางด้านหน้าอย่างชาญฉลาดเขาไม่มีความคิดที่จะขึ้นไปชั้น 2 ของ ‘อันเดอร์กราวด์ แพสซิส’ ไม่นานพวกเขาก็หาปากทางถ้ำของชั้นหนึ่งที่เชื่อมต่อไปยังป่าแห่งความมืดได้ ในที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงปากทางถ้ำที่เข้าไปยัง ‘ป่าแห่งความมืด’ ได้
ทันใดนั้น ด้านหน้าก็พลันสว่างจ้า
ใน ‘ป่าแห่งความมืด’ ไม่ได้มืดมิดตามชื่อ มีต้นไม้ใบหญ้าหนาแน่นกว่า ‘บลัดมอร์’ และ ‘โคลด์เพลส’ แต่มันก็ยังอยู่ไกลจากคำว่าป่า
บนท้องฟ้ามีฝนตกลงมาปรอยๆ
มองไปด้านหน้าก็มีฝูงมอนสเตอร์และปีศาจทุกหนทุกแห่ง กล่าวได้ว่ามอนสเตอร์ปีศาจที่นี่ดูดุร้ายมากยิ่งขึ้นยามที่เห็นมนุษย์เดินออกมาจากถ้ำ พวกมันคำรามแล้ววิ่งเข้ามาทันที
หวืด หวืด หวืด!
ลูกธนูทะยานออกไป
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ขวานั์วาดวิถีแห่งความตายในอากาศ สะบั้นเหล่ามอนสเตอร์ที่ดาหน้าเข้ามาขาดเป็ท่อนๆ
ภายใต้การสังหารอันบ้าคลั่งของหนุ่มสาว มอนสเตอร์ที่พุ่งเข้ามาพากันล้มตายดุจใบไม้ร่วง
เหล่ามอนสเตอร์เหมือนข้าวสาลีที่พอข้างหน้าล้มลงก็มีข้างหลังก็กระโจนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เสียงร้องโหยหวนน่าเวทนาดังขึ้นทั่วป่า ทั้งสองคนเหยียบย่ำศพเหล่ามอนสเตอร์ที่นอนจมกองเืก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จนมาถึงต้นไม้ตายแล้วที่สูงกว่าห้าสิบเมตรด้านหน้า
นี่คือต้นไม้อิวอร์นีในตำนานสินะ
รอบๆ ต้นไม้ที่สูงตระหง่านเต็มไปด้วยซากศพที่เน่าเปื่อย แมลงวันสีดำหลายกลุ่มบินตอมซากศพ แม้กระทั่งบนต้นไม้ยังห้อยศพรุ่งริ่งที่มีน้ำหนองสีดำไหลออกมา และยังมีกะโหลกศีรษะสีขาวเน่าๆ แขวนอยู่ กลิ่นเหม็นน่ารังเกียจกระจายไปทุกหนทุกแห่ง ฉากทั้งหมดเหมือนกำลังอยู่ในนรก
ซุนเฟยบีบจมูกขณะที่เดินไปด้านหน้าอย่างช้าๆ และััไปตามลำต้น
ปัง!
ทันใดนั้น บนต้นไม้ก็มีม้วนคัมภีร์หนังแกะสีขาว ‘ยิง’ ออกมา
“เวรเอ๊ย ต้นไม้ชั่วร้ายนี่คงอยู่มานานแล้วสินะ ทีแรกนึกว่าจะได้ออกแรงสักหน่อย ที่ไหนได้ แค่บิดาััเบาๆ ก็พุ่งออกมาซะแล้ว...” ซุนเฟยคิดอย่างเซ็งๆ
เขาเอื้อมมือไปหยิบม้วนคัมภีร์หนังแกะจากพื้น เมื่อหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน ้าใช้วัสดุลึกลับบางอย่างสีดำและสีแดงวาดวงกลมใหญ่ๆ หนึ่งวง ภายในวงกลมมีดาวห้าแฉก ส่วนบริเวณอื่นๆ ก็มีสัญลักษณ์ลึกลับเต็มไปหมด ตัวอักษรเหมือนยันต์กันผีที่พวกนักบวชลัทธิเต๋าจากวิหารเหมาซานในโลกเก่าวาด ซุนเฟยไม่เข้าใจสัญลักษณ์ของมันสักนิด
“ดูเหมือนว่าคงต้องนำกลับไปให้แม่ชีอาคาร่าแปลให้ซะแล้ว”
ซุนเฟยเก็บม้วนคัมภีร์อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ไล่เก็บไอเทมและเงินที่ได้จากเหล่ามอนสเตอร์ใส่กระเป๋าแล้วใช้เปิดใช้งาน ‘ม้วนคัมภีร์กลับเมือง’ เสียงฟู่ๆ ดังขึ้นก่อนที่ประตูมิติสีฟ้าที่สูงกว่าสองเมตรจะปรากฏขึ้นมาข้างๆ
เมื่อซุนเฟยจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็เตรียมหันไปจะเรียกเอเลน่าที่อยู่ข้างๆ ให้รีบเดินตามตัวเองเข้าไปในประตูมิติ แต่ก็พบว่าหลังจากที่เอเลน่าเห็นประตูมิติปรากฏขึ้นมา ใบหน้าหน้าน่ารักก็เผยอาการตกตะลึงออกมา
“นี่คือ... ‘ม้วนคัมภีร์กลับเมือง’?”
ดูเหมือนจะเป็เื่น่าทึ่งมากสำหรับเอเลน่า นางจึงถามออกมาเสียงสั่นๆ
ตอนนี้ทหารรับจ้างสาวอดคิดในใจอย่างเงียบๆ ไม่ได้ว่า หากก่อนหน้านี้ ในยามที่เหล่าพี่น้องของนางต้องออกไปนอกค่ายหรือกำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์และมีม้วนคัมภีร์นี้ติดตัวไปด้วยล่ะก็ นั่นคงลดการเสียชีวิตของเหล่าพี่น้องของนางไปได้มาก บางที นีน่า พี่น้องของนางก็คงจะไม่ตายใช่ไหม?
“ใช่แล้ว นี่เป็ ‘ม้วนคัมภีร์กลับเมือง’”
แม้ว่าซุนเฟยจะเห็นท่าทีแปลกไปของเอเลน่า แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ‘ม้วนคัมภีร์กลับเมือง’ ราคาแค่แปดสิบเหรียญทอง มีอะไรน่าแปลกใจตรงไหน? ด้วยเวลาที่กระชั้นชิดและแผนการถัดจากนี้ก็ต้องใช้เวลาที่นานมาก เขาไม่อาจล่าช้าได้ เขาจึงตอบอย่างลวกๆ และหันหลังเดินเข้าไปในประตูมิติทันที
……
‘ค่ายโร้ก’
ซุนเฟยตรงไปหายัยป้าแม่ชีอาคาร่า ให้ช่วยแปลม้วนคัมภีร์ที่ได้จากต้นไม้อิวอร์นี
เอเลน่าที่ออกมาจากประตูมิติตามมาติดๆ ก็เฝ้าระวังคอยปกป้องอยู่ข้างๆ ประตูมิติ ั้แ่เกิดมา นี่เป็ครั้งแรกที่เอเลน่าใช้ประตูมิติกลับมาที่ค่าย ในใจก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็น ทีแรกนางคิดจะไปหาพวกพี่น้องและบอกเล่าเื่การตายของนีน่าให้พวกนางฟัง แต่เมื่อคิดถึงฐานะและเควสที่นางได้รับตอนนี้ ทำให้นางลังเลชั่วครู่ ก่อนจะยกเลิกแผนการดังกล่าว
สองสามนาทีต่อมา ซุนเฟยก็นำม้วนคัมภีร์หนังแกะกลับมาอย่างรีบร้อน
“ทำไมเ้าไม่ไปพูดคุยกับเหล่าพี่น้องของเ้าล่ะ?”
----------------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้