“พระชายาเพคะ... ”
“คุณหนู... ”
แม่นมฮวาและลวี่หลีรีบวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองของเรือนอวิ๋นไค
ในเวลาเดียวกัน ทหารคุ้มกันและข้ารับใช้ทุกคนทั่วทั้งเรือนชิงโยวต่างพากันมองไปที่ชั้นสองของเรือนอวิ๋นไค
บริเวณที่เป็จุดสนใจของผู้คนนั้น ในเวลานี้ซูจิ่นซีกำลังนั่งอยู่บนเตียงทั่วทั้งร่างถูกพันด้วยผ้าพันแผล
“พระชายา ท่านเป็อันใดไปเพคะ? ”
แม่นมฮวากับลวี่หลีใแทบแย่
“นี่มันเกิดเื่อันใดขึ้นกับข้ากันแน่? ”
แม่นมฮวามั่นใจว่าซูจิ่นซีไม่ได้เป็อันใดมาก มีเพียงผ้าพันแผลบนร่างกายของนางที่พันกันอุตลุดไปหมดแม่นมฮวาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“พระชายา ที่ท่านะโเป็เพราะเ้านี่เองหรือเพคะ! ตอนที่ท่านอ๋องพาท่านกลับมา บนร่างกายของท่านล้วนเต็มไปด้วยาแ เพราะแผลนั้นมีจำนวนมากเกินไปไม่สามารถพันทีละจุดได้ ดังนั้นจึงต้องพันจนกลายเป็เช่นนั้นเพคะ”
ซูจิ่นซีพึ่งนึกขึ้นได้ว่าหลังจากที่ตนเองถูกซิ่งหลิวหลีลักพาตัวไปก็ถูกมัดไว้บนต้นฮวาเจียว
ตอนนั้นหนามของฮวาเจียวทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อ เ็ปราวกับถูกเจาะทะลุต่อมานางก็ได้จิ่วหรงช่วยไว้ เมื่อตื่นขึ้นมาก็เป็กังวลเกี่ยวกับการถอนพิษให้ฮั่วซืออวี่ที่ชีวิตถูกแขวนไว้บนเส้นด้ายจนลืมแม้กระทั่งอาการาเ็ของตนเอง
“ฮิๆๆๆ! ”
จู่ๆ แม่นมฮวาก็ยกมือปิดปากแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย
ซูจิ่นซีเกิดความรู้สึกไม่ดีขึ้นมาในใจทันที ปกติหากแม่นมฮวายิ้มเช่นนี้มักจะไม่ใช่เื่ที่ดี
“แม่นมฮวา มีเื่อันใดเ้าก็พูดมาตรงๆรอยยิ้มเช่นนี้ของเ้าทำให้ข้ารู้สึกขนลุกขนพองไปทั้งตัวแล้ว”
ซูจิ่นซีพูดพลางลูบแขนของตนเองไปด้วย
“ฮิๆ พระชายา ท่านเดาดูสิเพคะว่าท่านกลับมาจากจวนสกุลฮั่วได้อย่างไร?”
แล้วจะกลับมาได้อย่างไรอีกเล่า?
นางจำได้เพียงว่าตนเองเหนื่อยมากจนไม่มีแรงแม้แต่จะก้าวเท้าเดิน เมื่อเดินไปถึงประตูจวนสกุลฮั่วดวงตาก็ดับมืดลงจากนั้นก็จำไม่ได้แล้วว่าเกิดอันใดขึ้น ตอนนั้นนางคงหมดสติไปแล้วอย่างแน่นอน
ในสถานการณ์เช่นนั้น คนจากจวนสกุลฮั่วคงส่งนางกลับมาเป็แน่ มิเช่นนั้นนางจะกลับมาได้อย่างไร
หรือคนของจวนสกุลฮั่วที่ส่งนางกลับมาจะมีกลอุบายอันใด?
“แม่นมฮวา ้าพูดอันใดก็พูดมาเลยดีกว่า อย่าปิดบังอีกเลย”
“ฮิฮิ! ”
แม่นมฮวาไม่ยอมพูด นางมองซูจิ่นซีแล้วยิ้มอยู่อย่างนั้น
ไม่ใช่สิ!
ทันใดนั้นในสมองของซูจิ่นซีก็ปรากฏภาพแวบขึ้นมา
นางจำได้ว่าก่อนที่นางจะหมดสติไป เหมือนว่าจะเห็นคนผู้หนึ่ง...เยี่ยโยวเหยา
หรือว่านั่นไม่ใช่เื่ที่นางคิดมากไป และไม่ใช่ภาพหลอน?
ซูจิ่นซีค่อยๆ หันศีรษะไปทางแม่นมฮวาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน
แม่นมฮวาเหมือนจะรู้ความคิดในใจของซูจิ่นซี นางพยักหน้า
“พระชายา ท่านอ๋องเป็ผู้ที่อุ้มท่านกลับมาจากจวนสกุลฮั่วด้วยตนเองเพคะ”
“อะไรนะ? ”
ซูจิ่นซีดีดตัวออกจากเตียงทันที
ปฏิกิริยารุนแรงจนกระเทือนแผลบนร่าง นางสูดหายใจลึกๆ หนึ่งครั้งแล้วกลับลงไปนั่ง
“แม่นมฮวา เ้าไม่ได้พูดผิดไปใช่หรือไม่? ”
เยี่ยโยวเหยาอุ้มตนกลับมาจากจวนสกุลฮั่ว?
จะเป็ไปได้อย่างไรกัน!
จากจวนสกุลฮั่วมายังจวนโยวอ๋อง ถนนหนทางห่างกันหลายสายนัก! ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผู้คนสัญจรไปมามากมายอีกด้วย
อีกอย่าง เยี่ยโยวเหยาเป็บุคคลประเภทที่ไม่ใกล้ชิดกับสตรี และยังเป็สัตว์ประหลาดที่เ็าไม่รู้จักทะนุถนอมอ่อนโยนเป็ไปได้อย่างไรที่จะกระทำเื่เช่นนี้!
ฆ่านางให้ตาย นางก็ไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน
“พระชายา เป็เื่จริงเพคะ! ตอนที่ท่านอ๋องอุ้มท่านเข้ามาผู้คนภายนอกมากมายต่างรายล้อมกันอยู่ที่ประตูจวนข้ารับใช้ที่คอยดูแลและทหารคุ้มกันทั้งหมดก็เห็นเพคะ! ”
“ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเช้าที่ข้าน้อยไปซื้อยามาให้ท่านก็ได้ยินหลายคนคุยกันถึงเื่นี้พวกเขาเอ่ยกันว่าวิเศษมาก ต่างลือกันว่าพิสดารเป็ที่สุด พวกเขาล้วนเห็นด้วยตาตนเองว่าท่านอ๋องอุ้มพระชายาเดินบนถนนอย่างเร่งรีบข้าน้อยอิจฉามากเพคะ!”
โอ้ ์!
นั่นมันโดดเด่นมากเลยนะ?
ซูจิ่นซียากที่จะจินตนาการได้กับฉากที่เยี่ยโยวเหยาอุ้มนางโดยที่รอบข้างมีผู้คนรายล้อมพวกเขาต่างพากันมองภาพฉากอันสง่างามอลังการนั้น
ช่างน่าตื่นใอย่างยิ่งที่มีผู้ให้ความสนใจถึงเพียงนี้!
นางคงไม่โดนผู้คนโยนหินใส่หัวใช่หรือไม่?
ทันใดนั้นซูจิ่นซีก็รู้สึกเบาและโล่งสบาย แก้มพลันร้อนผ่าว
“ฮิฮิ พระชายา ท่านเขินอายสินะเพคะ? ”
แม่นมฮวาจ้องไปที่ซูจิ่นซีและยิ้มอย่างมีเลศนัย
ซูจิ่นซีรีบปิดบังใบหน้าที่แดงระเรื่อของตนเองอย่างรวดเร็ว
“มีเื่เช่นนั้นที่ใดกัน เป็เพราะข้าถูกผ้าพันแผลไปทั่วตัวจึงรู้สึกร้อนและอึดอัดหรอก”
แม้ปากจะไม่ยอมรับ ทว่าภายในใจกลับมีความสุขเป็อย่างยิ่ง
แม่นมฮวาเห็นซูจิ่นซีที่ยิ้มอยู่อย่างนั้น ไม่อธิบายสิ่งใด
ทันใดนั้นซูจิ่นซีก็นึกบางสิ่งขึ้นได้ ใบหน้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน
“แม่นมฮวา ผ้าพันแผลนี่ คงไม่ใช่ท่านอ๋องที่พันให้ใช่หรือไม่? ”
แม่นมฮวาตกตะลึงในทันใด ใบหน้านิ่งค้าง ปากอ้ากว้างเป็รูปตัว ‘โอ’
หลังจากนั้นไม่นาน แม่นมฮวาก็รีบอธิบายให้ซูจิ่นซี “พระชายา ผ้าพันแผลนี้ไม่ใช่ท่านอ๋องพันให้เพคะเป็ข้าน้อยกับลวี่หลีช่วยกันกับหมอสตรีพันให้ท่าน” แม่นมฮวายิ้มแล้วกล่าวอีกว่า “ทว่าพระชายาก็อย่าพึ่งถอดใจไปนะเพคะตามความสามารถของท่านอ๋องแล้วเื่การพันแผลนี้ปกติล้วนเรียนรู้ด้วยตนเองต่อไประหว่างพวกท่านยังมีโอกาสนะเพคะ”
คาดไม่ถึงว่าพระชายาจะเร่งรีบยิ่งกว่านางเสียอีก!
ซูจิ่นซีเห็นรอยยิ้มมีเลศนัยของแม่นมฮวาอีกครั้ง รู้เลยว่านางต้องคิดเกินเลยเป็แน่
“แม่นมฮวา คำพูดของเ้านี่ไปไหนต่อไหนแล้ว! ”
ซูจิ่นซีคิดว่าาแบนร่างกายของนางเป็เพียงแผลที่ถูกฮวาเจียวทิ่มแทงเท่านั้นพักผ่อนเพียงสองสามวันก็ไม่เป็อันใดแล้ว กลับคาดไม่ถึงว่าาแนี้เกือบพรากชีวิตของนางไป
แผลตามตัวอักเสบเพราะอากาศร้อน กอปรกับระยะนี้มีฝนตกและลมหนาว ซูจิ่นซีจึงมีไข้ต่ำๆทั้งวัน เมื่อร่างกายอ่อนแรง นางจึงนอนรักษาตัวบนเตียงนานถึงครึ่งเดือน
เมื่อเป็เช่นนั้น เื่การตอบรับฮ่องเต้ว่าจะสืบหาฆาตรกรตัวจริงที่วางยาฮองเฮาก็ผ่านมาได้ครึ่งเดือนแล้วนับั้แ่กำหนดระยะเวลาเส้นตายหนึ่งเดือน
วันหนึ่ง ซูจิ่นซีนั่งอยู่ข้างหน้าต่างบนชั้นสองของเรือนอวิ๋นไค นางกำลังอ่านดูรายการความชอบของฮองเฮาที่เยี่ยโยวเหยาให้คนไปสืบหามาให้
เนื้อหาด้านในมีเยอะมาก ของที่ฮองเฮาชอบก็มีไม่น้อยเลย ทว่าสิ่งที่ดึงดูดซูจิ่นซีที่สุดกลับเป็สิ่งที่ซูจิ่นซีไม่เคยคาดคิดมากที่สุดนึกไม่ถึงว่าฮองเฮาจะโปรดการลิ้มรสสุรา
นี่ทำให้ซูจิ่นซีนึกถึงเื่สุราดอกเหมยเมื่อครึ่งเดือนก่อน
ทว่าจากการตามสืบหาสุราดอกเหมย ซูจิ่นซีไม่ได้เบาะแสอันใดมาเลยแม้แต่น้อยราวกับว่าเป็ทางตัน
ซูจิ่นซีวางรายการลงบนโต๊ะเล็กด้านข้าง ก่อนจะเอนหลังอย่างเต็มที่พิงเก้าอี้แล้วหลับตาลง
นางไม่ได้เห็นเยี่ยโยวเหยามาครึ่งเดือนแล้ว
ั้แ่กลับมาจากการถอนพิษให้ฮั่วซืออวี่ นางก็ไม่เห็นหน้าเยี่ยโยวเหยาอีกเลย
ใช่ว่าหลายวันมานี้เยี่ยโยวเหยาไม่ได้กลับมา แต่เป็เพราะว่ากว่าเขาจะกลับมาก็ดึกมากซูจิ่นซีหลับไปแล้ว วันต่อมาเยี่ยโยวเหยาก็ออกไปแต่เช้าอีก ตอนที่ออกไปซูจิ่นซีก็ยังไม่ตื่น
ก่อนหน้านี้ซูจิ่นซียังดีใจกับการที่เยี่ยโยวเหยาโอบอุ้มตนเองกลับมาจากจวนสกุลฮั่วทว่าบัดนี้ภายในใจล้วนเต็มไปด้วยความหดหู่
ซูจิ่นซีถูกซิ่งหลิวหลีลักพาตัวไปบนเขาชังชุ่ย และยังได้รับาเ็ทั่วทั้งร่างกายอีกด้วยไม่ต้องพูดถึงว่าเยี่ยโยวเหยาไม่ถามไถ่ห่วงใยนางสักคำ แม้แต่เงาคนก็มองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำหลายวันมานี้การแลกเปลี่ยนเพียงอย่างเดียวระหว่างพวกเขาคือเยี่ยโยวเหยาให้คนมาส่งรายการใบนี้ให้นาง
ซูจิ่นซีสับสนเป็อย่างยิ่ง
ตอนที่นางถูกคนลักพาตัวไปนั้น เยี่ยโยวเหยาทราบหรือไม่กันแน่
เขาจะเป็ห่วงเป็ใยและตามหานางบ้างหรือไม่?
แม้จะเป็คนแปลกหน้า ทว่าก็ควรถามไถ่กันสักคำกระมัง?
ท่าทีของเยี่ยโยวเหยาทำให้ซูจิ่นซีรู้สึกว่าระหว่างพวกเขาแม้แต่คนแปลกหน้าก็ยังไม่ใช่
“พระชายา หัวหน้าขุนพลฮั่วมาเพคะ! ”
ฮั่วซืออวี่?
เขามาทำอันใดกัน?
ซูจิ่นซีลืมตาขึ้นมาทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้