ในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายไม่ขาดสาย สาวใช้ผู้หนึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้เก่าแก่ กอดร่างเล็กของทารกน้อยไว้แนบอก ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ไป๋จิงซู หญิงสาวจากหมู่บ้านห่างไกล ความฝันเดียวของนางคือการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตนเอง นางออกจากบ้านเกิดมาทำงานรับใช้ตระกูลเซี่ย หวังจะมีชีวิตที่ดีขึ้น
แต่แล้ว... โชคชะตากลับพานางมาพบกับ เด็กทารกผู้ถูกทอดทิ้ง
แม้นางเป็เพียงสาวใช้ที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียง แม้ฐานะของนางจะต่ำต้อยเพียงใด แต่นางกลับไม่อาจละสายตาไปจากเด็กคนนี้ได้ เด็กที่ควรจะเป็คุณหนูผู้สูงศักดิ์ แต่กลับถูกทอดทิ้งให้นอนตายกลางหิมะหากตระกูลเซี่ยมิปรารถนานาง เช่นนั้นนางจะกลายเป็บุตรของข้าเอง!
หญิงสาวก้มลงมองใบหน้าของเด็กน้อยในอ้อมแขน นางลูบศีรษะเล็กๆ นั้นด้วยััอ่อนโยน น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความรักและความตั้งใจ
"คุณหนู... ต่อไปนี้ คุณหนูมีชื่อว่า ‘ไป๋เสวี่ยหรง’ นะเ้าค่ะ เพื่อความปลอดภัยของคุณหนู" ทารกน้อยลืมตาขึ้น ดวงตาคู่นั้นเป็สีดำสนิท ส่องประกายเย็นเยียบคล้ายหิมะพันปี นางจ้องมองไป๋จิงซูที่ยิ้มให้นางอย่างอ่อนโยน
"ไป๋เสวี่ยหรง อย่างนั้นรึ?" นางกระพริบตาเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
"เป็ชื่อที่ใช้ได้… ไม่เลว" ไป๋จิงซูมองทารกน้อยที่พยักหน้า นางหัวเราะเบาๆ พลางกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ราวกับจะปกป้องเด็กน้อยผู้นี้จากโลกอันโหดร้ายั้แ่คืนนี้เป็ต้นไป นางจะเป็มารดาของเด็กคนนี้
ั้แ่คืนนี้เป็ต้นไปเด็กทารกที่ถูกทอดทิ้ง... จะถือกำเนิดขึ้นใหม่ ในนามของ ไป๋เสวี่ยหรง
หลังจากการเดินทางอันยาวนานหลายวัน ท่ามกลางลมหนาวที่ยังคงพัดผ่าน ไป๋จิงซู ก็อุ้มร่างของทารกน้อยเข้าสู่ หมู่บ้านจิ่วอัน สถานที่ที่เป็บ้านเกิดของนาง
หมู่บ้านจิ่วอัน ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขา ถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ ป่าไม้อันเขียวขจีทอดตัวล้อมรอบหมู่บ้านราวกับเป็เกราะป้องกันจากโลกภายนอก ลำธารสายเล็กๆ ไหลผ่านหมู่บ้าน ให้เสียงน้ำไหลเป็ท่วงทำนองที่ผ่อนคลาย
บ้านเรือนในหมู่บ้านเป็เพียงกระท่อมไม้หลังเล็กที่มุงหลังคาด้วยฟาง บ้างก็เป็บ้านดินที่ถูกสร้างขึ้นอย่างเรียบง่าย ผู้คนที่นี่ใช้ชีวิตเรียบง่ายและสมถะ กลิ่นหอมของฟืนที่ถูกเผาไหม้ลอยอ้อยอิ่งในอากาศ มาจากเตาไฟที่ใช้ทำอาหารในบ้านแต่ละหลัง
ลานกว้างกลางหมู่บ้านเป็พื้นที่ที่เด็กๆ วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน บ้างปีนต้นไม้ บ้างไล่จับกันท่ามกลางแสงอาทิตย์อ่อนๆ ของยามเย็น ชาวบ้านเดินสวนกันไปมา พวกเขาสวมเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าหยาบๆ แต่ดูอบอุ่น สีหน้าของพวกเขาดูสงบ มิได้เต็มไปด้วยความวุ่นวายเช่นเมืองใหญ่
รอบนอกของหมู่บ้านมีทุ่งนาและไร่เพาะปลูก ข้าวสาลีและพืชผักขึ้นเขียวขจี บรรดาชาวบ้านกำลังใช้จอบพลิกดิน ดูแลผลผลิตของตนเอง เสียงวัวและแพะร้องเบาๆ ดังแทรกมากับสายลม มีเด็กบางคนกำลังไล่ต้อนเป็ดและไก่ให้เข้าเล้า
แม้ว่าหมู่บ้านจิ่วอันจะเป็เพียงหมู่บ้านเล็กๆ ที่มิได้มั่งคั่งหรือหรูหรา แต่บรรยากาศที่นี่กลับให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่น ชีวิตที่นี่อาจไม่หรูหราเหมือนในเมืองใหญ่ แต่เต็มไปด้วยความเรียบง่ายและความอบอุ่นของผู้คนที่ต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
ไป๋จิงซูเงยหน้ามองท้องฟ้า แสงอาทิตย์ยามเย็นกำลังทอประกายระเรื่อ ก่อนจะมองลงไปยังเด็กน้อยในอ้อมแขน
"เสวี่ยหรง… ที่นี่จะเป็บ้านใหม่ของเ้า"สายลมอ่อนๆ พัดผ่านพุ่มไม้ ทำให้ใบไม้ไหวเอนราวกับกำลังพยักหน้าเห็นด้วย
เมื่อ ไป๋จิงซู อุ้มทารกน้อยกลับมายังหมู่บ้านจิ่วอัน นางหวังเพียงได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่กลับต้องเผชิญกับสายตาของผู้คนที่เต็มไปด้วย ความดูถูกและคำครหา
"กลับมาแล้วหรือ? สตรีที่เคยอยากหนีไปจากที่นี่ สุดท้ายก็เอาตัวไม่รอดกลับมาพร้อมกับลูกที่ไม่มีพ่อ!"
"ข้าล่ะสงสารเด็กคนนั้นนัก นางคงเกิดจากความอับอายของมารดา..."
"พวกขุนนางน่ะเหรอจะจริงใจกับสาวใช้? ดูเอาเถิด โดนทอดทิ้งกลับมาไม่ต่างจากคนไร้ที่พึ่ง!"
คำพูดเ่าั้ดังแทรกผ่านทุกตรอกซอกของหมู่บ้าน เสียงซุบซิบของชาวบ้านกลายเป็กระแสที่ไหลเวียนไปทั่ว ไม่มีใครมองไป๋จิงซูด้วยสายตาที่เป็มิตรอีกต่อไป แต่นาง… หาได้ใส่ใจไม่
ไป๋จิงซูยังคงยืนหยัดด้วยรอยยิ้ม แม้จะถูกกล่าวหาเยี่ยงไร นางก็เพียงแค่ยิ้มบางเบา มิได้เอ่ยถ้อยคำแก้ตัวใดๆ
ที่สำคัญที่สุด... นางมิได้ละสายตาจากเด็กในอ้อมแขนเลยแม้แต่วินาทีเดียว
"พวกเ้าจะพูดอย่างไรก็ได้ แต่สำหรับข้า เด็กคนนี้คือพรหมลิขิตที่ฟ้าประทานมา"
ในทุกเช้า ไป๋จิงซูออกไปทำงานในไร่นา แม้จะเป็หญิงเดียวดาย แต่กลับขยันขันแข็ง ไม่เคยปริปากบ่น นางตื่นเช้ากว่าผู้ใด ออกไปเก็บสมุนไพรและทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงเด็กในอ้อมแขน ทุกค่ำคืน นางจะกอดทารกน้อยไว้แน่น อุ้มกล่อมด้วยเสียงที่อ่อนโยน แม้โลกจะโหดร้าย แต่นางกลับมอบ ความอบอุ่นและความมั่นคง ให้กับเด็กในอ้อมแขน
"เสวี่ยหรง เ้าคือสิ่งเดียวที่ข้าจะปกป้องจนสุดชีวิต" ชาวบ้านที่เคยมองนางอย่างดูแคลน เริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง
พวกเขาเห็นหญิงสาวที่เคยถูกตราหน้าว่าเป็หญิงไร้ยางอาย กลับมอบชีวิตทั้งหมดให้กับเด็กคนหนึ่ง พวกเขาเห็นว่าหญิงที่ถูกดูถูกมิได้มีความคับแค้น มิได้โต้เถียงหรือแสดงความเกลียดชัง มิได้พยายามแก้ตัวหรือร้องไห้ให้กับโชคชะตา
นางเพียงแค่ ยิ้ม และมอบความรักให้แก่เด็กน้อยในอ้อมแขนความดี และความอดทนของนาง ค่อยๆ ทำลายกำแพงในใจของชาวบ้าน
จากสายตาที่เคยเต็มไปด้วยความดูถูก เริ่มเปลี่ยนเป็ ความสงสารจากความสงสาร เริ่มเปลี่ยนเป็ ความเห็นใจจากความเห็นใจ เริ่มเปลี่ยนเป็ ความเคารพ
"ไป๋จิงซูเป็คนดี... นางไม่ใช่คนไร้ยางอายเช่นที่เราคิด"
"เด็กคนนี้ก็น่ารักเหลือเกิน ดูไป๋จิงซูสิ นางรักเด็กคนนี้จากใจจริง"
"นางไม่ได้กลับมาเพราะอับอาย แต่นางกลับมาเพราะอยากให้ลูกของนางมีชีวิตที่ดี"
ผู้คนเริ่มอ่อนลงกับนาง เริ่มให้ความช่วยเหลือ นำอาหารมาให้ ช่วยแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ และเริ่มพูดคุยกับไป๋จิงซูมากขึ้น
แม้โลกจะเคยทอดทิ้งนาง แม้จะต้องเผชิญกับคำดูถูกมากมาย แต่ไป๋จิงซูยังคงยืนหยัด โอบกอดเด็กน้อยในอ้อมแขนของนางด้วยความภาคภูมิใจและด้วยความดีของนาง… นางสามารถเปลี่ยนใจของผู้คนในหมู่บ้านไปได้ทีละน้อย
ไป๋เสวี่ยหรงมองดูทุกสิ่งอย่างเงียบงันถึงแม้ว่านางจะยังอยู่ในร่างของทารกไร้เรี่ยวแรง
"น่าสนใจนัก..."
ชีวิตที่แล้วของนาง นางถูกอิจฉา ถูกหักหลัง ถูกทรยศ แม้นางจะยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ไม่เคยมีผู้ใดโอบกอดนางเช่นนี้มาก่อน
แต่ในชาตินี้ หญิงที่ต่ำต้อยที่สุดในสายตาผู้คน กลับเป็ผู้ที่มี จิตใจที่สูงส่งยิ่งกว่าใคร
ในโลกนี้… พลังอำนาจมิใช่ทุกสิ่งเสมอไป
ไป๋เสวี่ยหรงที่เคยเป็จ้าวยุทธภพ แค่นเสียงหัวเราะในใจ แม้ยังพูดไม่ได้ แต่จิติญญาของนางกลับเต็มไปด้วย ความยอมรับในหญิงสาวผู้นี้
"เ้าแพ้ต่อคำพูดของผู้คนไม่ได้ แต่พวกเขาแพ้ให้กับความดีของเ้า... น่าสนใจนัก"
นางยอมรับแล้วว่า ไป๋จิงซูผู้นี้ คือมารดาของนางในชาตินี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้